• หน้าแรกทักทาย
• สาระแม่ๆลูกๆมาแบ่งปัน
• เล่าเรื่องบันและแบม
• เรื่องดีๆเอามาแบ่งกัน
• ห้องสมุด
• ส่งข่าว คลิก คลิก

1 เดือน* จิตใต้สำนึกที่ปลูกได้   ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเรื่อง "สมาธิสั้น หายได้ไม่ยาก" ของคุณนภัทร พุกกะณะสุต ถึงแม้บันบันจะยังเล็กและไม่มีวี่แววของเรื่องสมาธิสั้น แต่เก่งเห็นว่าหนังสือเล่มนี้สอนหลายๆเรื่องที่เป็นประโยชน์ และเป็นการดีถ้าเรารู้ว่าอะไรคือสาเหตุ คือแรงเร้าให้เด็กเป็นสมาธิสั้น เก่งยังอ่านไม่จบเล่มแต่อ่านถึงตรงเรื่องจิตแล้วถูกใจมาก เป็นเรื่องที่เก่งทำให้บันอยู่แล้วแต่ไม่เคยรู้หรอกว่ามีทฤษฎีประกอบ รู้แต่ว่าคิดว่าดีก็ทำ เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำให้ลูกได้โดยไม่ลำบากจึงเอามาฝากกันเผื่อใครถูกใจก็นำวิธีไปประยุกต์ใช้นะคะ จิตมีอำนาจและอิทธิพลเหนือมนุษย์ ไม่มีใครรู้ตำแหน่งที่ตั้งของจิต จิตควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย การทำงานของสมอง อารมร์และความรู้สึกนึกคิด เราแบ่งจิตออกเป็น 3 ประเภท 1. จิตเหนือสำนึก หรือที่เรารู้จักกันว่า ซิกซ์เซนส์ คือการรู้ล่วงหน้า เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่อธิบายยาก   2. จิตสำนึก คือจิตที่รู้สึกผิดชอบชั่วดี เหตุผล อะไรควรหรือไม่ควรทำ น่าเสียดายที่จิตสำนึกครอบงำการทำงานเพียง 5% ของสมอง ถ้าคนเรามีจิตสำนึกที่ดีกันทุกคนโลกก็คงสงบสุข แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นจิตที่สามที่เราจะเน้นกัน 3. จิตใต้สำนึก เป็นแหล่งเก็บข้อมูล ใครทำอะไร ยังไง เราก็เก็บเป็นข้อมูลบันทึกอยู่ในจิตใต้สำนึก ติดแน่นทนนานตั้งแต่อยู่ในวัยเยาว์ เด็กยังไม่รู้จักการเลือกรับจึงบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างลงจิตใต้สำนึก  เพื่อนพูดไม่ดีเด็กก็โกรธ เดินผ่านเพื่อนคนนี้ทีไรหน้าก็จะบึ้งโดยอัตโนมัต  เด็กเกาหลีที่อเมริกาบุกเข้าไปยิงเพื่อนนักเรียนตาย 31 คน แล้วยิงตัวเองตายตาม สาเหตุเพราะเพื่อนไม่คบไม่เข้าใจเค้า เด็กคนนี้เห็นกิริยาและคำพูดของเพื่อนที่แสดงออกกับตนทุกวัน จนฝังแน่นในจิตใต้สำนึกว่า"เพื่อนเกลียด"จึงเกลียดเพื่อน จิตใต้สำนึกครอบงำจิตสำนึกที่รู้ดีชั่วซึ่งมีอยู่เพียง 5% จึงเกิดโศกนาฎกรรมเป็นข่าวครึกโครม หรืออย่างฮิตเลอร์ที่ปลูกฝังให้คนเยอรมันเกลียดคนยิว จนเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่าไร้ศีลธรรม นี่คืออิทธิพลของจิตใต้สำนึกที่มีทั้งคุณและโทษมหันต์ อิทธิพลของจิตใต้สำนึกลบเลือนยากมากๆต้องล้างด้วยการสะกดจิต ดังนั้นการปลูกฝังจิตใต้สำนึกจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งซึ่งสามารถเริ่มได้จากในบ้าน ปลูกฝังตั้งแต่รู้เดียงสาเป็นดีที่สุด ทำให้เห็น พูดให้ได้ยินทุกวันจนเป็นวิถีชีวิตในระดับคลื่นสมองปรกติตั้งแต่เช้าจรดเย็นจะใช้ได้ดียิ่งขึ้น หากทำให้เด็กสนใจตั้งใจฟังโดยใช้เสียทุ้ม นุ่ม มีจังหวะจะโคนพอเหมาะ จะดีที่สุดในเวลาที่เด็กมีคลื่นสมองที่อยู่ในภวังค์ ครึ่งหลับครึ่งตื่น นั่นคือเวลาก่อนนอนหรือลืมตาตื่นตอนเช้า  การสื่อให้ลูกรู้ว่าแม่รักโดยให้ลงลึกในจิตใต้สำนึกคือ ก่อนนอนให้เข้าไปลูบหัวลูกเบาๆให้ศีลให้พรลูก "ลูกรักของแม่ ขอให้ลูกแม่หลับและฝันดี เป็นเด็กดี ฉลาดเชื่อฟังพ่อแม่และคุณครู ให้มีความประพฤติเรียบร้อย ทำให้ผู้อื่นรักทุกคน ประสบความสำเร็จทุกด้าน และมีสุขภาพแข็งแรงหายจากโรคภัยไข้เจ็บนะลูกนะ" ตอนเช้าเมื่อเข้าไปปลุกลูกให้พูดเหมือนกันว่า "ลูกรักของแม่ ตื่นเถอะลูก ขอให้ลูกแม่......" สิ่งที่ควรปลูกฝังในจิตใต้สำนึกอย่างสม่ำเสมอคือ 1. ความรักโดยไม่มีเงื่อนไขที่สื่อให้เด็กสัมผัสได้ 2. ความเป็นคนมีศีลธรรม มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ 3. ความกตัญญูต่อบิดามารดา ปู่ย่าตายาย และบุคคลที่ช่วยเหลือเกื้อกูล 4. ความเป็นคนมีวาจาดี ทำให้ผู้ฟังสบายใจและมีกำลังใจ 5. ความเป็นคนรู้จักหน้าที่และรับผิดชอบ 6. ความเป็นคนมีมรรยาท มีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น 7. ความเป็นคนใฝ่รู้  8. ความเป็นคนมีระเบียบวินัย รุ้จักกรอบของเวลา นอกเหนือจากข้างต้น ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าควรปลูกฝังในจิตใต้สำนึก ก็ควรทำโดยยึดหลักการเดียวกัน เรื่องคำให้ศีลให้พรด้านบนเก่งยกตัวอย่างมาจากหนังสือ ดังนั้นก็ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบ้าน อย่างบันบันเก่งทำอยู่ทุกคืนอยู่แล้วก่อนมาอ่านเจอบทความนี้ เก่งจะบอกบันบันว่า "บันบันคนเก่ง บันบันคนดีของแม่ ขอให้บันบันเป็นเด็กดีมีมานะ เข้มแข็ง อดทน คิดดีทำดี  เป็นที่รักของทุกคน คิดทำอะไรในสิ่งดีขอให้ประสบผลสำเร็จ" นี่เป็นคำที่เก่งบอกบันบันทุกคืนตอนให้ดูดนม แต่หลังอ่านบทความจะเพิ่มตอนเช้าด้วย เก่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากที่จะทำสิ่งดีๆให้ลูก เป็นเรื่องที่คนอื่นทำให้ลูกเราไม่ได้ เราต้องทำเอง คำพูดจากใจแม่เป็นคำให้พรที่ประเสริฐ คิดดูสิคะเด็กได้ยินแม่อวยพรอย่างนี้ทุกวันทุกคนจะเป็นเด็กที่คิดร้านกับคนอื่นได้อย่างไร ทีนี้ไห้เวลาสองนาทีคิดคำอวยพรให้ลูกแล้วลงมือปฎิบัติเลยค่ะ   Create Date : 06 กันยายน 2551     Last Update : 6 กันยายน 2551 23:07:21 น. Counter : 1318 Pageviews.   5 comment Share Tweet

6 เดือน* เรียน Phonics ผ่าน Baby Sign   ตั้งใจจะเขียนเรื่อง Baby sign มาหลายทีก็ไม่ได้ทำ ตามตำราบอกว่าเริ่มได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือน แต่เก่งมารู้จักแล้วเริ่มสอนบันตอนบัน 1 ขวบ 1 เดือน หลายคนบอกว่าเด็กโตแล้วอีกแป๊บเดียวก็พูดไม่ค่อยเกิดประโยชน์ แต่เก่งเห็นว่าการสอนให้บันรู้จัก Sign ช่วยในเรื่องภาษาด้วย คืออย่างคำว่า "ปลา" บันจะรู้จักทั้งภาษาอังกฤษ ไทย และจีน โดยคนพูดจะทำ Sign ว่าปลาด้วยเพื่อบันจะไม่งง บันจะมี sign เป็นตัวเชื่อมภาษาน่ะค่ะ ที่สำคัญดูบันสนุกกับการส่ง sign เก่งเริ่มสอนบันจากคำที่ใกล้ตัวและศัพท์ที่บันชอบ เช่น กิน นม ปลา ร่ม รองเท้า มาสอนตอนโตก็ดีอย่างคือจำง่ายมาก ทำให้บันดูครั้งสองครั้งก็จำได้แล้วค่ะ วันนี้ได้ไปเจอคลิบวีดีโออันนี้น่ารักมาก สอน Phonics ด้วยภาษามือ น่ารักมากๆ หนูน้อย Fireese เป็นลูกสาวคุณครูสอนภาษามือ เก่งไปตามดูวีดีตั้งแต่หนูน้อย 9 เดือน ใครสนใจเพิ่มเติมเสริชหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน Youtube เยอะมากๆ  และอันนี้คือบทต่อมา Phonetics เก่งมากๆเลยหนูน้อย Fireese วัย 2.5 ขวบ เก่งคิดว่าจะเป็นแนวทางที่เก่งจะสอนบันบันหละค่ะ สำหรับคนที่สนใจเรื่องภาษามือเพิ่มเติม ลิ้งค์ข้างล่างได้รับคำแนะนำมาจากแม่ป้อมคุณแม่น้องธาร่า เก่งใช้ประจำเวลาจะอ้างอิงหาศัพท์ใหม่มาสอนบันบัน ขอบคุณป้อมค่ะ //commtechlab.msu.edu/sites/aslweb/browser.htm   Create Date : 02 กันยายน 2551     Last Update : 3 กันยายน 2551 10:38:58 น. Counter : 903 Pageviews.   10 comment Share Tweet

0 m: การทำสต๊อกนมแม่ ตั้งใจจะเขียนเรื่องการทำสต๊อกนมแม่มานาน วันนี้ค้นเจอภาพที่ถ่ายเอาไว้เลยได้โอกาสเอามาลงในบล็อกซะทีเดียว หลังจากปั๊มนมแล้ว อุปกรณ์การปั๊มไม่จำเป็นต้องล้างและนึ่งทุกครั้ง วันนึงทำสองรอบคือเช้ากับเย็นก็เพียงพอแล้ว เอาเวลาไปพักผ่อนและเล่นกับลูกเยอะๆดีกว่าค่ะ ส่วนอุปกรณ์หลังการปั๊มเก่งจะเอาใส่ Tupperware ปิดฝาให้สนิทแล้วนำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา ส่วนน้ำนมถ้ายังได้ปริมาณไม่เยอะพอจะเก็บเข้าถุงนมแม่ก็ใส่ขวดนมปิดฝาให้เรียบร้อย แล้วเอาใส่ตู้เย็นช่องล่างแต่ต้องใส่ด้านในๆนะคะเพราะจะได้ความเย็นสม่ำเสมอ สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดคือการเก็บนมไว้ที่ประตูตู้เย็นเพราะเวลาคนเปิดตู้เย็นระดับความเย็นขึ้นๆลงๆ ทำให้คุณภาพนมเสียไป นมจะเสียได้ง่าย เมื่อปั๊มนมครั้งต่อไปก็น้ำนมที่ได้มาเติมใส่ขวดที่แช่ตู้เย็นช่องล่าง รอจนได้ปริมาณนมเพียงพอในการเก็บเข้าถุงนมแม่ก็เทรวมใส่ถุง แรกเริ่มตอนลูกเล็กก็อาจเก็บถุงละ 3-4 ออนซ์ พอลูกเริ่มโตก็เก็บถุงใหญ่ขึ้น ถุงใหญ่สุดเก่งจะเก็บ 8 ออนซ์ เขียนวันเดือนปี และปริมาณนมให้เรียบร้อย แล้วเราก็เอาเข้าช่องแข็ง วิธีที่จะประหยัดพื้นที่ที่สุดก็คือ ไล่อากาศในถุงออกแล้ววางถุงนมแนวนอนให้ราบกับช่องแช่แข็ง อย่าลืมเอาปากถุงที่ซีลพับขึ้นพิงพนังตู้เย็น เพื่อความมั่นใจว่านมไม่ไหลออกมาเลอะเทอะ (เผื่อซีลปากถุงไม่สนิท) ดูภาพประกอบนะคะ เมื่อนมในถุงแข็งแล้วจึงจัดตั้งขึ้นเป็นแถว ในภาพตู้เย็นของเก่งเป็นตู้ขนาดเล็ก เก่งเลยต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่ะ เมื่อน้ำนมที่เก็บได้หลายๆถุง โดยประมาณก็ยี่สิบถุง เก่งก็จะรวมใส่ถุงพลาสติก(ก๊อบแก๊บ)โดยการจัดเรียงให้เป็นระเบียบ ดูภาพประกอบนะคะ เช่นเดิมค่ะที่ลืมไม่ได้คือเขียนวันเดือนปีของน้ำนมถุงเก่าสุดในล็อตนั้น แล้วจึงนำไปแช่ในตู้เย็นใหญ่ เก่งมีตู้แช่ไอติมขนาด 5 คิวอีกตู้สำหรับแช่สต๊อกนมให้บันบันโดยเฉพาะ จำได้ว่าเคยถ่ายรูปตู้แช่เอาไว้ ไม่รู้เอาไปไว้ไหนแฮะ ไว้หาเจอจะเอาภาพนมสต๊อกเต็มตู้ไอติม 5 คิวมาให้ชมเป็นกำลังใจว่าการทำสต๊อกนมไม่อยากอย่างที่คิด ส่วนการนำนมสต๊อกมาใช้ ให้นมนมสต๊อกเก่าสุดมาใช้ก่อน โดยนำนมลงมาจากช่องแข็งมาไว้ช่องเย็นธรรมดา รอให้นมละลายเองข้ามคืน เวลาจะอุ่นก็นำมาอุ่นในเครื่องอุ่นนมหรือขันน้ำใส่น้ำอุ่นโดยใส่ทั้งถุงลงไปเลย ใช้น้ำอุ่นนะคะอย่าใช้น้ำร้อนจัดเดี๋ยวพลาสติกละลายจะไม่ดีกับลูกน้อย กรณีถุงนมปริมาณเยอะเกินลูกกินก็ใช้เทแบ่งมาอุ่นส่วนหนึ่ง ที่เหลือเราก็แช่ช่องธรรมดาเก็บไว้ใช้ได้ 3 วัน ห้ามนำกลับขึ้นไปแช่แข็งนะคะ กรณีต้องการใช้นมแบบเร่งด่วนไม่ได้เอาลงมาพักช่องธรรมดาข้ามคืนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยการเอานมทั้งถุงแช่ให้ละลายโดยใช้น้ำอุณหภูมิห้องถึงอุ่น แต่การทำแบบนี้นมจะต้องใช้หมดในครั้งเดียว เพราะพอนมอุ่นแล้วเราจะไม่เอากลับไปแช่ตู้เย็นอีก เทคนิคการให้นมละลายเร็วเก่งจะใช้วิธีใช้มือช่วยบิหักนมที่แข็งเป็นน้ำแข็งให้เป็นชิ้นเล็กๆ แป๊บเดียวนมก็ละลายเป็นเนื้อเดียว แล้วเราก็ทำการอุ่นปรกติค่ะ ใครมีคำถามเรื่องนมแม่ แนะนำให้ติดต่อศูนย์นมแม่ หรือแวะอ่านรายละเอียดใน //www.breastfeedingthai.com ในนั้นรายละเอียดเรื่องนมแม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนใครจะสอบถามเรื่องประสบการณ์นมแม่ เก่งยินดีเสมอ สนับสนุนให้แม่ๆให้นมแม่ได้นานๆนะคะ ป.ล. ณ วันนี้บันบัน 1 ขวบ 3 เดือน ยังกินนมแม่อยู่ค่ะ สู้ สู้      Create Date : 26 สิงหาคม 2551     Last Update : 26 สิงหาคม 2551 21:05:19 น. Counter : 10011 Pageviews.   5 comment Share Tweet

1.5 ปี* สยาม โอเชี่ยน เวิล์ด ราคาพิเศษ ใครที่ชอบพาลูกไปดูปลาที่ Siam Ocean World ที่ Paragon ควรสมัครสมาชิกรายปีนะคะเพราะคุ้มกว่ากันเยอะ ไปดูต่อครั้งก็ 450 บาท(หรือประมาณนี้) แต่ถ้าสมัครรายปี 800 บาท แต่ต้องใช้คูปองจากการสมัครสมาชิก Mc Donald ราคา 150 บาทก่อนนะคะ จากนั้นก็เอาคูปองไปสมัครสมาชิกรายปี Siam Ocean World ราคาพิเศษได้ถึง 4 คน ถ้าลูกความสูงยังไม่ถึง 1.20 เมตรก็ยังไม่ต้องเสียเงินค่ะ ตอนนี้ที่บ้านสมัครรายปีกันหมดรวมถึงพี่เลี้ยงบันบันก็สมัครให้ เพราะบันบันชอบไปดูปลามากถึงมากที่สุด ประกอบกับเราป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น มีเวลาก็แว่บดูปลา เวลาต้องรอใครก็ไปรอที่อเควเรี่ยม เราเลยเข้าซะคุ้มไปเลยหละค่ะ ฮี่ ฮี่ Free TextEditor   Create Date : 17 กรกฎาคม 2551     Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 22:43:55 น. Counter : 744 Pageviews.   2 comment Share Tweet

1 เดือน การสอนลูกอ่านหนังสือ ตามความเชื่อของ Glenn Doman ว่าเด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่แรกเกิด จึงทำให้เค้าได้ศึกษาและเขียนตำราเรื่องการสอนลูกในหลายมุม ตั้งแต่ How to teach your baby to read, How to teach your baby Math, และอื่นๆ เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซด์ทางการของเค้าได้ที่ //www.gentlerevolution.com/ เก่งสนใจเลยตามอ่านและตั้งใจว่าจะเริ่มสอนบันบันอ่านหนังสือ วันนี้เอาข้อมูลมาแบ่งปันกันก่อนละกันนะคะ ถ้ามีแม่คนไหนได้ลองทำแล้วช่วยติดต่อเก่งด้วยนะคะ อยากทราบวิธีการสอนและการเตรียมอุปกรณ์น่ะค่ะ ประสบการณ์ของแม่ไทยที่เคยทำแล้วได้ผล ไม่ต้องตามหาหนังสือแปลไทยเล่มที่เห็นนะ เพราะไม่มี ประกอบกับหนังสือไทยมันนานมาก ฉบับภาษาอังกฤษจะมีการปรับปรุงหลายอย่าง บล็อกของแม่น้องลูกไม้ วิธีการสอนลูกให้อ่านหนังสือแบบคร่าวๆ อันนี้เป็นเว็บที่แม่ๆอเมริกันที่ทำแล้วแบ่งปันประสบการณ์กันไว้ในเว็บ คลิกอ่าน แม่ที่สอนลูกพูดสี่ภาษา เก่งสนใจเอาวิธีเค้ามาดัดแปลงใช้สอนไทยและอังกฤษ Spanish Mom อีกเว็บนึงที่เป็นแหล่งรวมตัวของแม่ๆที่ทำตามวิธี อันนี้เป็นเว็บสิงคโปร์ //www.sgparenting.com แม่ๆหลายคนที่อ่านถึงตรงนี้อาจมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่ากดดันลูก เก่งอยากจะบอกว่าขอให้อ่านวิธีการของเค้าก่อน ถ้าอ่านแล้วศึกษาแล้วบอกว่าไม่ดี เก่งยินดีรับฟังคำวิจารณ์ ดีซะอีกเก่งอาจจะมองข้ามอะไรไปหลายๆจุดก็ได้ แต่ถ้ายังไม่ได้อ่านก็ตั้งแง่ว่ากดดันลูกมันไม่ถูกต้อง เก่งบอกเลยว่าวิธีการของเค้าถ้าแม่ที่ไม่ทุ่มเทกันจริงๆหละก็ทำไม่ได้ แม้แต่เก่งเองที่คิดว่าตัวเองทุ่มสุดๆกับบันบัน ยังต้องทบทวนเลยว่าเราจะทำไหวหรือเปล่า แต่ในเมื่อเราเห็นว่าเป็นสิ่งดีทำได้มากหรือน้อยก็ถือว่าเราได้ทำ การทำตามวิธีของเกล็นสุดท้ายบันบันเข้าอนุบาลแล้วได้มีหนังสือชุดนึงที่เป็นเรื่องราวของเค้าเอง เป็นหนังสือชุดที่แม่เค้าตั้งใจทำให้เค้า โดยใช้ลายมือแม่เขียน มีรูปประกอบเป็นรูปบันบันและครอบครัว(แม้รูปจะถ่ายไม่สวย) แล้วบันบันชอบหนังสือเล่มนี้แค่นี้แม่เก่งก็สุขใจแล้วค่ะ ที่สุดของที่สุดของการปลูกฝังการอ่านให้บันบัน เก่งอยากให้บันบันรักการอ่าน รักการค้นคว้า ลูกไม่ต้องหัวดีจดจำทุกอย่างได้ แต่ลูกอ่านด้วยความเข้าใจแ ละรู้ว่าเมื่อถึงเวลาต้องใช้ข้อมูลใดเค้าสามารถกลับไปค้นหาข้อมูลได้จากที่ไหน ตรงไหน วิธีการของเกล็นไม่ใช่หนทางเดียว อยากบอกแม่ๆว่าอย่าเครียดกับการสอนอะไรให้ลูก ลูกจะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่สอน"ด้วยความสนุก" ถ้าเมื่อไหร่เค้าไม่สนุกเค้าก็เลิกสนใจ สุดท้ายความรู้ใดๆไม่มีค่าไปมากกว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก" ถ้าอะไรที่ลูกทำแล้วไม่มีความสุข....อย่ายัดเยียด ถ้าลูกชอบที่จะให้แม่ร้องเพลงเต้นระบำมากกว่าเล่นเกมส์กับบัตรคำ...จงร้องเพลงเต้นระบำ   Create Date : 06 กรกฎาคม 2551     Last Update : 10 กรกฎาคม 2551 22:31:03 น. Counter : 3431 Pageviews.   10 comment Share Tweet

• หมาร่าหมาหรอด
• rd_lam
• แพรวขวัญ
• รำเพย
• กบูร
• อันปังแนน
• Mr.DogGie
• กำปงพิราเทวี
• kanu_memphis
• Khun_Pitta
• รินตินติน
• Paradijs
• หมูเหมียว
• Bigmommy
• Nong Fern Daddy
• JJH
• แม่น้องเอเอ
• aston27
• กุมภีน
• ระแนงไม้
• ป้ามด
• nukoyky
• ฉิกซิงแซ
• chinging
• แม่ก้อย
• พลังชีวิต
• Webmaster - BlogGang

• My Family Photo Album @ Multiply
• มนแชง
• Dictionary ภาษามือ ASL
• Dictionary พร้อมออกเสียงอ่าน
• MadMath แม่ภุชงค์
• BlogGang.com