Group Blog
 
All blogs
 
การตั้งพรรคการเมืองเป็น mission ของกลุ่ม ผจก. ที่ต้องการให้บรรลุผลสำเร็จไม่ใช่เรื่องการพูดกันเล่นๆ

คำนูณ เขียนถึงเรื่อง "พรรคยามเฝ้าแผ่นดิน" เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2550 ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการโยนหินถามทาง (อ่าน พรรคยามเฝ้าแผ่นดิน)

คำนูณเขียนโดยอ้างคำปราศรัยของสนธิ ที่ปราณบุรี คืนวันที่ 18 สิงหาคม 2550 ที่พูดถึงพรรคการเมืองเพื่อชนชั้นกลาง...
เรื่องนี้ได้รับความสนใจพอควร (ดูจากสถิติคนอ่านบทความของคำนูณ -- ปกติจะไม่มาก , ในข่าวปนคนฯ ของเซี่ยงฯ จะมากกว่านี้) และผลโหวตแสดงความเห็นก็ออกไปในทางก้ำกึ่ง คือทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยพอๆกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก ก็เหมือนกับแนวทางที่ผู้จัดการพยายามผลักดันในหลายๆ วาระที่ผ่านมา (กรณี สมคิด จะกลับมาทำงานให้ รัฐบาลสุรยุทธ์, กรณีผู้จัดการจะเข้าจัดรายการในช่อง 9, กรณีธีรภัทร "เชิญ" ผู้จัดการเข้าไปเชื่อมต่อสถานีกับช่อง 11, การโจมตี คมช. และรัฐบาลสุรยุทธ์ในช่วงแรกๆ, ฯลฯ) คือถ้าเมื่อไหร่ผู้จัดการ หันเดินออกจากแนวทางที่มวลชนมองว่าควรจะเป็น (เสียสละ, อย่าไปยุ่งการเมือง, อย่าไปหาประโยชน์, ฯลฯ) ก็จะเกิดอาการอย่างนี้ขึ้นเสมอ

เท่าที่ผมตามสังเกตการเคลื่อนไหวมา ผมก็พอเดาได้ว่าสุดท้ายก็จะต้องลงมาในรูปการตั้งพรรคการเมืองแบบนี้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าสนธิ จะแก้ไขคำพูดที่เขาเคยไปพูดกึ่งๆ คำให้สัญญาประชาคม กลางเวทีปราศรัยสมัยไล่ทักษิณในทำนองว่า การออกมาไล่ทักษิณนี้เขาไม่ได้ทำเพื่อตนเอง (คือความขัดแย้งส่วนตัว หรือการแก้หนี้ของตัวเอง หรือเพื่อหวังผลประโยชน์ในอนาคต ฯลฯ) โดยถึงกับท้าว่าหากเขามีผลประโยชน์จริง แล้วเมื่อเจอเขาที่ไหนก็ให้ถอดรองเท้าแล้วเอามาตบหน้าเขาได้เลย, ผู้เข้าชมข้อเขียนของคำนูณหลายคนก็ยกประโยคและ "คำสัญญา" ทำนองนี้ของคำนูณขึ้นมาคัดค้านการตั้งพรรคด้วย

แต่ก็มีกลุ่ม "ผู้ติดตาม" บางคนยังคงเชื่อมั่นในแนวทางของสนธิ ว่าในท้ายที่สุดแล้วแม้จะผิดคำมั่นไปบ้างก็น่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ดี โดยเฉพาะยกตัวอย่างปัญหาว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองในปัจจุบัน (ที่ไม่เอาทักษิณ) ก็ดี, คมช. ก็ดี ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีเลย

เรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียส, ขอให้ดูการออกมาให้ความเห็นของ "สุวินัย ภรณวลัย" ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำหน้าที่เป็น 1 ใน 5 กรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินด้วย (อีก 4 คนที่เหลือมาจากกลุ่มผู้จัดการทั้งหมด) ตัวมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มีเป้าหมายในเชิงองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร

สุวินัย ไม่ได้คัดค้านไอเดียพรรคการเมืองเสียทีเดียว แต่เขาเสนอแนวทางที่ compromise คือให้แยก "พรรค" ออกจาก "มูลนิธิ" และหัวหน้าพรรคไม่ควรเป็น "สนธิ ลิ้มทองกุล" (ดูความเห็นที่ 17 และความเห็นที่ 8 ในท้ายบทความของคำนูณข้างต้น)

ผมไม่แน่ใจว่า คำนูณและสุวินัยได้มีการพูดคุยอะไรกันภายหลังจากนี้หรือไม่

แต่คำนูณก็ได้ออกมา "ผลักดัน" พรรคการเมืองซึ่งเขาเรียกว่า "เป็นขั้วที่ 3" แต่ครั้งนี้เปลี่ยนจาก "พรรคยามเฝ้าแผ่นดิน" เป็น "พรรคเทียนแห่งธรรม" ต่อ :

- รบเถิด..อรชุน ! พรรคเทียนแห่งธรรม..ในฝัน !! (ตอนที่ 1)

- รบเถิด..อรชุน! พรรคเทียนแห่งธรรม..ในฝัน!! (ตอนที่ 2)


- เทียนแห่งธรรม..ในฝัน ! บททดลองเสนอนโยบาย !!

จากไอเดีย "พรรคเทียนแห่งธรรม" จะเห็นได้ว่า ภายในกลุ่มผู้จัดการได้มีแนวคิดการตั้งพรรคการเมืองกันมานานแล้ว (จะเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองภาคประชาชนของสุวิทย์ วัดหนู หรือไม่ผมไม่แน่ใจ) คำนูณพูดในทำนองว่า "เป็นเรื่องพูดกันเล่น" แต่ก็มีการเสนอ ชื่อพรรค, สัญลักษณ์พรรค, คำขวัญพรรค, และนโยบายพรรคอย่างเป็นการเป็นงาน

ชื่อพรรค : พรรคเทียนแห่งธรรม
คำขวัญพรรค : ยโต ธรฺมสุตโต ชยะ -- ที่ใดมีธรรม ที่นั่นมีชัย
สัญลักษณ์พรรค : ภาพลายเส้น “อรชุน” น้าวศร “คาณฑีพ” ( อันเป็นตอนหลังจากที่สดับอนุสาสน์ “ภควัทคีตา” จากพระกฤษณะ สารถีประจำพระองค์)
คำขวัญและนโยบาย : “เทียนแห่งธรรม : ปัญญานำพาแผ่นดิน”
มีเทียนสามเล่ม เพื่อส่องสว่างหนทางปัญญา ที่ประกอบไปด้วย

เทียนราชาธรรม : คือ แสงแห่งปัญญาจากแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่องสว่างถึงประชาชนทุกระดับ
เทียนคุณธรรม : คือ แสงแห่งปัญญาที่ขับทำลายความมืดมิดฉ้อฉล เพื่อกอบกู้คุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล คืนสู่สังคมเทียนภารดรธรรม : คือ แสงแห่งปัญญาที่มุ่งเสริมสร้างภูมิปัญญาประชาชนให้เดินไปบนหนทางแห่งโลกาภิวัตน์อย่างมีสติ อันมีเป้าหมายสูงสุดคือประโยชน์สุขแห่งมหาประชาชน

...

สนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาจัดรายการยามเฝ้าแผ่นดินเมื่อวันศุกร์ ก็ย้ำไอเดียเรื่อง "พรรคเทียนแห่งธรรม" อีกครั้ง


สนธิ - ขั้วที่ 3 ในนัยที่ถูกต้องของผม คือขั้วที่ 3 ที่เกิดขึ้นโดยพึ่งพาประชาชนเป็นฐานทั่วประเทศไทย ถ้าพรรคพลังประชาชนซื้อรากหญ้าได้ เราไม่ต้องไปแข่งซื้อกับเขา ก็ชนชั้นกลาง พวกผมไงล่ะ เขต 1 ทั่วประเทศไทย 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร คนพวกนี้ไม่ต้องให้ 300-500 เขาจะไปลงคะแนนเสียงด้วยใจ ผมยังไม่เห็นขั้วที่ 3 ขั้วไหนเลยที่มาทำเช่นนี้ ถ้าจะมีขั้วที่ 3 มันควรเป็นพรรคเทียนแห่งธรรม ถ้าจะมีพรรคเทียนแห่งธรรมเกิดขึ้น ขอให้พ่อแม่พี่น้องรู้ พรรคนี้เกิดขึ้นไม่ใช่เพื่อการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่เพื่อเป็นทางเลือกขั้วที่ 3 จริงๆ ในปี 2552 ที่พรรคการเมืองทั้งหมดจะล่มสลายเพราะกัดกันเอง แล้ววันนั้นพรรคเทียนแห่งธรรมจะเป็นทางเลือกที่ 3 ของพ่อแม่พี่น้องจริงๆ

สนธิ - พรรคเทียนแห่งธรรมจะเป็นพรรคที่มุ่งกับชนชั้นกลางทั่วประเทศไทย ปกป้องสิทธิเขา ปกป้องเสรีภาพในการทำมาหากินของคนทุนน้อยไม่ให้คนทุนใหญ่มารังแก เน้นการศึกษาให้ลูกหลานเขาได้คุณภาพการศึกษาที่ได้ระดับมาตรฐาน ในราคาที่ถูก ปกป้องสิทธิในฐานะผู้บริโภค ซื้อรถยนต์ใหม่เอี่ยมมา 1 คัน ส่งซ่อม 5 ครั้ง ยังซ่อมไม่เสร็จ บริษัทรถยนต์ต้องเปลี่ยนรถให้เขา ทานอาหารที่ไหน ซื้อของจากตลาด ซื้อของยี่ห้ออะไร ถ้ามีสารพิษเจือปน ต้องดำเนินคดีกับผู้ผลิต ตรงไปตรงมาต่อหน้าเขา นี่คือการปกป้อง ต้องการจะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน นี่คือเรา นี่คือสิ่งซึ่งเราสู้มาตลอด ผมไม่ได้ต้องการตั้งพรรคการเมือง แต่ถึงตอนนั้นผมพร้อมเป็นผู้ประสานงานแล้วจัดตั้งให้เกิดพรรคเทียนแห่งธรรมขึ้นมา


รายการยามเฝ้าแผ่นดินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ข้อมูลที่ผมเรียบเรียงมานี้ พอจะเชื่อได้ว่าไอเดีย "พรรคเทียนแห่งธรรม" คงไม่ใช่เรื่องพูดกันเล่นๆ แต่คงเป็นแนวคิดที่ถูกขับเคลื่อนเอาจริงเอาจัง โดยมี target group ที่จะจับกลุ่มคนชั้นกลาง (สนธิใช้คำว่า "พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ ชนชั้นกลางที่อยู่เขต 1")

ผมคิดว่าวิธีคิด และแนวทางหลายทางก็น่าสนใจดี เมื่อประกอบกับมวลชนพื้นฐาน (ทั้งจากพันธมิตรฯ และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน), และขุมกำลังที่เป็นช่องทางการนำเสนอผ่านสื่อมวลชนแบบ fully integrated ของกลุ่มผู้จัดการ ก็น่าเชื่อว่า "พรรคเทียนแห่งธรรม" ที่กำลังจะก่อตั้งขึ้น -- โดยมีเป้าหมายในการลงสนามเลือกตั้งครั้งถัดไป -- สนธิคาดว่าจะเป็น 2552 คือคาดว่ารัฐบาลผสม ฝ่ายค้านเก่า และกลุ่มขั้วกลางที่แตกออกไปจากไทยรักไทย จะอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี

แต่ผมคงไม่สนับสนุน เมื่อคำนึงถึงวิธีคิดและการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา, เผลอๆ ไปอาจจะต้องมาทำสงครามทางอุดมการณ์กับกลุ่มนี้อีกก็ได้


Create Date : 16 กันยายน 2550
Last Update : 16 กันยายน 2550 12:25:59 น. 0 comments
Counter : 473 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฮันโซ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สหายสิกขา Lite version

สหายสิกขาตั้งคำถามกับการเป็นอยู่ของสรรพสิ่งตรงหน้า พร้อมกันนั้นก็เปิดรับแนวคิดของคำตอบในมุมมองที่แตกต่างอย่างเท่าเทียมกัน

สหายสิกขาจะมีความยินดียิ่ง หากคุณได้นำความรู้ที่ได้จุดประกายนี้ไปตีความต่อให้ลึกซึ้งยิ่งๆขึ้น เพราะยิ่งแลกเปลี่ยนยิ่งถกเถียงยิ่งสนทนาก็สามารถแตกประเด็นไปอีกได้มาก

สหายสิกขาต้องการกระตุ้นให้คนอ่านได้คิด และสัมผัสถึงขอบเขตที่ไม่สิ้นสุดแห่งจินตนาการ

พร้อมกันนั้นสหายสิกขา ก็พร้อมอยู่เป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนสนทนา เพื่อจับมือกันเรียนรู้ไปในโลกกว้าง ...ด้วยกัน

CC Developing Nations
Friends' blogs
[Add ฮันโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.