สิ่งที่ชาวพุทธต้องทราบ ก็คือ อริยสัจ ๔ ความจริงอันประเสริฐสี่ประการ ที่พระศาสดาสัมมาสัมพุทธะ
ทรงตรัสรู้และได้ถ่ายทอดบอกสอนเหล่าสาวก
ผ่านมาแล้ว 2600 ปี..วันนี้ลองตั้งคำถามสำหรับตัวเองดูว่า
เรารู้จัก อริยสัจ ๔ แค่ไหน....
บางคนทราบธรรมะมากมาย แต่กลับไม่รู้จัก อริยสัจสี่ ซึ่งเป็นหัวใจของพุทธศาสนา....
การรู้อริยสัจ
รีบด่วนกว่าการดับไฟที่กำลังไหม้อยู่บนศีรษะ
ภิกษุ ท. ! เมื่อไฟลุกโพลงๆอยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี บุคคลนั้น
ควรจะทำอย่างไร ?
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เมื่อไฟลุกโพลง ๆ อยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี, เพื่อจะ
ดับเสียซึ่งไฟ ที่เสื้อผ้าก็ดี ที่ศีรษะก็ดี สิ่งที่บุคคลนั้นพึงกระทำโดยยิ่งก็คือ ฉันทะ วายามะ
อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวานี สติ และสัมปชัญญะ(เพื่อจะดับไฟนั้นเสีย).
ภิกษุ ท. ! (แม้กระนั้นก็ดี) วิญญูชนจะไม่ใส่ใจ จะไม่เอาใจใส่กับ
เสื้อผ้าก็ดีศีรษะก็ดีที่ไฟกำลังลุกโพลงอยู่; แต่จะรู้สึกว่า สิ่งที่ควรกระทำโดยยิ่ง
ก็คือฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ขะมักเขม้น) อัปปฏิวานี (ไม่ถอยหลัง)
สติ และสัมปชัญญะ เพื่อรู้เฉพาะตามเป็ นจริง ซึ่งอริยสัจทั้งสี่ที่ตนยังไม่รู้
เฉพาะ. อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ อริยสัจคือทุกข์ อริยสัจคือเหตุให้
เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อริยสัจคือทางดำเนินให้
ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอัน
เป็ นเครื่องกระทำให้รู้ว่า ทุกข์เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้,
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่ง
ทุกข์ เป็นอย่างนี้ ดังนี้.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๕๐/๑๗๑๗.
การพ้นทุกข์โดยไม่รู้อริยสัจนั้นเป็นไปไม่ได้
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนผู้ใดผู้หนึ่งจะพึงกล่าวว่า ฉันไม่ต้องทำพื้นฐาน
รากในเบื้องล่างของเรือนดอก แต่ฉันจักทำตัวเรือนข้างบนได้ดังนี้ : นี่ไม่เป็นฐานะที่
จักมีได้ฉันใด ; ข้อนี้ก็ไม่เป็นฐานะที่จักมีได้ ฉันนั้น คือข้อที่ผู้ใดผู้หนึ่งจะ
พึงกล่าวว่า ฉันไม่ต้องรู้จักความจริงอันประเสริฐ คือ ความจริงเรื่องทุกข์, เรื่องเหตุให้
เกิดทุกข์ , เรื่องความดับไม่เหลือของทุกข์ และเรื่องทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของ
ทุกข์นั้นดอก แต่ฉันจักทำความสิ้นสุดแห่งทุกข์ได้ โดยถูกต้อง; ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! และเปรียบเหมือนผู้ใดผู้หนึ่งจะพึงกล่าวว่า ฉันต้องทำฐาน-
รากของเรือนตอนล่างเสียก่อน จึงจักทำตัวเรือนข้างบนได้ดังนี้ : นี่เป็นฐานะที่จักมี
ได้ ฉันใด ; ข้อนี้ก็เป็นฐานะที่จักมีได้ ฉันนั้น คือข้อที่ผู้ใดผู้หนึ่งจะพึงกล่าวว่า ฉัน
ครั้นรู้ความจริงอันประเสริฐ คือความจริงเรื่องทุกข์, เรื่องเหตุให้เกิดทุกข์, เรื่องความ
ดับไม่เหลือของทุกข์ และเรื่องทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ นั้นแล้ว จึง
จักทำความสิ้นสุดแห่งทุกข์ได้ โดยถูกต้อง ; ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึงทำความเพียร
เพื่อให้รู้ตามเป็ นจริงว่า นี้เป็นทุกข์, นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, นี้เป็นความดับ
ไม่เหลือของทุกข์ และนี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ;
ดังนี้เถิด.
- มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๔/๑๗๓๕-๖.
***ถ้าวันนี้ท่านยังไม่ทราบ อริยสัจ ๔ ด้วยบทพยัญชนะและความหมาย ที่พร้อมจะนำไปปฎิบัติ ต้องขวยขวายเพื่อให้
ทราบแล้วละครับ เพราะ....
ความยากที่เท่ากัน 3 อย่าง
ภิกษุ ท. ! ยากที่จะเป็นไปได้ ฉันเดียวกัน
ที่ใคร ๆ จะพึงได้ความเป็นมนุษย์; ยากที่จะเป็นไปได้
ฉันเดียวกัน ที่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ จะเกิดขึ้น
ในโลก; ยากที่จะเป็นไปได้ ฉันเดียวกัน ที่ธรรมวินัย
อันตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองไปทั่วโลก
ภิกษุ ท. ! แต่ว่า บัดนี้ ความเป็นมนุษย์ ก็ได้แล้ว;
ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะก็บังเกิดขึ้นในโลกแล้ว;
และธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ก็รุ่งเรืองไปทั่วโลกแล้ว
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้
พวกเธอพึงกระทำโยคกรรม เพื่อให้รู้ว่า
นี้ ทุกข์;
นี้ เหตุให้เกิดทุกข์;
นี้ ความดับแห่งทุกข์;
นี้ หนทางให้ถึงความดับแห่งทุกข์ ดังนี้ เถิด.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๘/๑๗๔๔.