จิตของคนเราแบ่งตามที่พึ่งได้ 3 ประเภท....
จิตของคนเราแบ่งตามที่พึ่งได้ 3 ประเภทดังนี้ จิตไม่ต้องการที่พึ่ง
คนประเภทนี้เป็นพวกที่ไม่เชื่อโลกนี้โลกหน้า ไม่เชื่อในบุญบาป ไม่เชื่อในกรรม และคนประเภทนี้
อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำกรรมชั่วได้ทุกเรื่อง....คนประเภทนี้เรียกว่า มิจฉาทิฐิ
ตามพระสูตรนี้..
สุขและทุกข์
ไม่ต้องทำเอง เกิดขึ้นได้ตามลำพัง;
จิตแสวงหาที่พึ่ง
คนประเภทนี้พยายามแสวงหาที่พึ่ง เมื่อเกิดความกลัวเข้ามาในจิต...
ดังพระสูตรนี้
มนุษย์เป็นอันมาก ได้ยึดถือเอาที่พึ่งผิด ๆ
มนุษย์ทั้งหลายเป็ นอันมาก ถูกความกลัวคุกคามเอาแล้ว ย่อม
ยึดถือเอาภูเขาบ้าง ป่ าไม้ที่ศักด์ิสิทธ์ิบ้าง สวนศักด์ิสิทธ์ิบ้าง รุกขเจดีย์บ้าง
ว่าเป็นที่พึ่งของตน ๆ : นั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันทำความเกษมให้ได้เลย, นั่นไม่
ใช่ที่พึ่งอันสูงสุด ; ผู้ใดถือเอาสิ่งนั้นๆ เป็ นที่พึ่งแล้ว ย่อมไม่หลุดพ้นไป
จากทุกข์ทั้งปวง ได้.
และเชื่อว่าสุขทุกข์ มีผู้อื่นบันดาลให้เป็น
สุขและทุกข์ ผู้อื่นทำให้;
คนประเภทนี้เรียกว่า สัมมาทิฐิ เบื้องต้น
จิตมีที่พึ่ง
คนประเภทนี้ มีที่พึ่งแล้วเป็นที่พึ่งอันถูกต้อง คนประเภทนี้เรียกว่า สัมมาทิฐิเบื้องปลาย
ส่วนผู้ใด ที่ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็ นที่พึ่งแล้ว
เห็นอริยสัจทั้งสี่ ด้วยปัญญาอันถูกต้อง คือ เห็นทุกข์, เห็นเหตุเป็ นเครื่อง
ให้เกิดขึ้นของทุกข์, เห็นความก้าวล่วงเสียได้ซึ่งทุกข์, และเห็นมรรค
ประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐ ซึ่งเป็นเครื่องให้ถึงความเข้าไปสงบ
รำงับแห่งทุกข์ : นั่นแหละคือ ที่พึ่งอันเกษม, นั่นคือ ที่พึ่งอันสูงสุด ;
ผู้ใดถือเอาที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมหลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง ได้แท้.
- ธ. ขุ ๒๕/๔๐/๒๔.
ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าเหตุ (แห่งสุขและ
ทุกข์) อันผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิเห็นแล้ว โดยแท้จริง และ
ธรรมทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่เกิดมาแต่เหตุด้วย
***ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ...