สงกรานต์ : ประเพณีดีงามที่หายไป
จะไม่เอ่ยถึง "สงกรานต์" ก็ดูจะหลุดเทรนด์กันนิดนึง
สำหรับฉันแล้ว สงกรานต์ นอกจากเป็นช่วงเวลาแห่งการสาดน้ำเพื่อคลายร้อนกันแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน (เนื่องจากมีวันหยุดยาววววว)
แต่ครอบครัวฉัน ไม่เคยได้ใช้เวลาช่วงนี้อยู่ด้วยกัน เพราะ ฉันไม่ชื่นชอบการแย่งกันใช้รถใช้ถนน เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงนี้ (และทุกช่วงเทศกาลวันหยุดยาว)
สมัยยังเป็นเด็ก แม้ว่าฉันจะมาจากครอบครัวอิสลาม ซึ่งไม่มีประเพณีเล่นน้ำสงกรานต์กัน แต่พอถึงวันสงกรานต์ทีไร ฉันจะเฝ้าดูคนเฒ่าคนแก่หอบปิ่นโตไปทำบุญที่วัด และรอเวลาพวกเค้าเหล่านี้เดินทางกลับ ที่จะเป็นสัญญาณว่า เด็กๆจะได้เริ่มเล่นน้ำสงกรานต์กันเสียที
ฉันจำไม่ได้ว่า ฉันเริ่มไม่นิยมการเล่นสงกรานต์ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่น่าจะเป็นช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรก ซึ่งฉันกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่พี่น้อง และได้ซ้อนท้ายรถจักรยานพี่ชายไปเที่ยวดูเค้าเล่นน้ำสงกรานต์กัน และเมื่อเราขับรถผ่านหน้าบ้านที่ตั้งฐานสาดน้ำกัน เราต้องหยุดและจะมีมือมากมายเอาแป้งมาปะหน้าโบ๊ะตาไปพร้อมๆกับสาดน้ำลงบนตัวเรา หรือถ้าขับสวนกับรถกระบะก็จะโดนสาดเข้าช่วงหน้าช่วงลำตัวอย่างจัง บางก็เป็นน้ำผสมแป้งหอม แต่ถ้าซวยหน่อย จากน้ำก็จะกลายร่างเป็นน้ำแข็ง และหากซวยหนักๆน้ำแข็งยังไม่ละลายก็จะป๊ะเข้ากับหน้าอย่างแรง (อันนี้ ไม่เคยเจอ แต่เคยเห็นค่ะ)
ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว สามี ซึ่งเป็นต่างชาติ ที่ไม่เคยได้ชื่นชมวัฒนธรรมการเล่นสงกรานต์ของไทย เนื่องเพราะภรรยาอย่างฉัน ประกาศชัดว่า จะไม่ออกจากบ้านไปไหนทั้งนั้น ถ้าไม่จำเป็นในช่วงสงกรานต์ ออกอุบายทำทีไปพักร้อนที่เกาะช้าง
อ่ะ...ไปก็ไป และก็ได้ไปเห็นภาพการเล่นน้ำที่เกาะช้าง สามีตื่นตาตื่นใจมาก (ประมาณเด็กๆหลุดเข้าไปในสวนสนุก) มีขบวนแห่นางสงกรานต์ ตกแต่งสวยงาม มีการสาดน้ำกันทุกหย่อมหญ้า ขับรถผ่านไปที่ไหน ก็โดนสาดตลอด สาดคนไม่ได้ (อยู่ในรถ) ก็สาดรถนั่นแหละ
สาดได้สาดไป ยังไงฉันก็ไม่โดน แค่หวาดระแวงว่า จะมีขันลอยตามมากระแทกรถก็เท่านั้นเอง
แต่ไอ้ที่ไม่ได้คิดถึง และเพิ่งมาสำเหนียกทีหลัง ก็ตอนเอารถไปล้าง และเจ้าของร้านเดินมาบอกว่า รถพี่ไปโดนสีอะไรมา ล้างออกยากจัง???????? ณ วินาทีนั้น คิดในใจคนเดียว อืมมมมมม สงกรานต์สร้างความประทับใจให้ฉันอีกแล้วววววววววววว
เจ้าสีขาวที่ล้างออกยากที่ว่า คงมาจากน้ำที่สาดกันที่เกาะช้าง มันคงไม่ใช่ดินสอพอ ไม่คงไม่ใช่แป้งเด็ก มันคงสีอะไรซักอย่างที่ล้างออกยากกกกกกกกกก ที่สำคัญยังมีให้เห็นเป็นจุดเล็ก จุดน้อย ประปรายบนหลังคา จวบจนถึงปัจจุบันนี้
ทั้งหมดนี้ คือ ส่วนหนึ่งของความ(ไม่)ประทับใจที่ฉันมีกับการเล่นน้ำสงกรานต์ แน่นอนว่าไม่รวมการเล่นน้ำแบบถึงลูกถึงคนในสถานที่ยอดนิยมทั้งหลายในเมืองไทย เพราะ ฉันไม่เคยย่างกรายเข้าไปแถวนั้น ที่เพื่อน(อยากเป็น)สาวสมัยมหาวิทยาลัย เหน็บกันด้วยความรักความเอ็นดูว่า ไปเถอะ ยังไงอย่างหล่อนไปเดินแถวข้าวสาร คงได้ตัวแห้งกลับบ้าน ไม่มีใครกล้าสาดหรอก (อี๊...ปากหล่อนช่างน่าหาอะไรไปช่วยกระแทกจริงๆ...แต่ก็หน่ะนะ เพื่อนกัน รักกัน)
ข้อความทั้งหมดเป็นแค่ประสบการณ์ ความคิดเห็นส่วนตัวของฉัน ที่คิดฝันอยากเห็นการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์อยู่ในร่องในรอยและไม่กลายพันธุ์ไปมากกว่านี้
สวัสดีปีใหม่ไทยค้าาาาาาา |
Create Date : 10 เมษายน 2551 |
Last Update : 10 เมษายน 2551 14:27:04 น. |
|
4 comments
|
Counter : 425 Pageviews. |
|
|
|
โดย: จ่าหมาน วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:16:16:28 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:14:56:15 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:14:58:38 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บางคนบ้านอยู่ริมสวน..ก็มักง่ายเอาน้ำในร่องสวนมาสาด..
บางคนอยู่ริมคลอง ถ้าน้ำในคลองสะอาดก็ดี แต่นี่น้ำเหม็นเน่า..ยังเอามาเล่นอีก..
แป้งก็เหมือนกัน..แป้งหอมหรือดินสอพองก็โอเค..เคยเจอแป้งเย็น..แสบตาชะมัด บางทีเจอแป้งมัน..
เคยเจอที่หนองคาย...เพื่อนผมโดนสาดอย่างแรงเพราะรถวิ่งสวนกัน..ไม่อยากจะเอ่ย..ฟันหักคาปาก..ดีไม่ลงคอ..ขำก็ขำ..สงสารก็สงสาร..
แต่แหม..ปีที่แล้ว..รู้เลยว่าเราคงพ้นวัยเล่นน้ำแล้ว..
คราวนั้นไปเล่นที่เชียงราย..สาวๆวิ่งมาจะปะแป้ง..พอมาเห็นเราปุ๊บ..ชะงัก..แล้วบอกพรรคพวกเค้าว่า..
"เฮ้ย...ผู้เฒ่าว่ะ..บ่แม้นผู้บ่าว"...