เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก
โปรยหัวได้ลิ๊เก๊ ลิเก แต่ก็เป็นเรื่องจริง เพราะปัจจุบันมีโรคภัยไข้เจ็บจ้องจะเข้ามาทำลายร่างกายผู้หญิงอยู่มากมาย
ล่าสุดจขบ.ได้ผ่านประสบการณ์เฉียดเป็นโรคยอดฮิตของผู้หญิงมาแล้ว
เริ่มจากรู้ผลตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้จขบ.เป็นกังวลอยู่ 2 เดือนเต็มๆ เพราะผลเมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ระบุว่า พบก้อนเนื้อไม่ระบุสัญชาติขนาด 1.7 ซม.ที่หน้าอกด้านซ้าย ซึ่งทางการแพทย์แล้ว ระบุว่าเป็นก้อนเนื้อที่ใหญ่ในระดับ 4a ซึ่งหมายความว่า มีโอกาสเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งถึง 5 เปอร์เซ็นต์
แต่เนื่องจากเดือนมีนาคม และเมษายนที่ผ่านมา จขบ.งานเข้ามาโดยตลอด ไม่สามารถย่องไปพบหมอรพ.อื่นเพื่อเช็คซ้ำได้ ประกอบกับการทำเมมโมแกรมต้องรอหลังมีรอบเดือนไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน เพราะช่วงก่อน-ระหว่างมีรอบเดือนหน้าอกขยาย การทำเมมโมแกรมจะทำให้หน้าอกเจ็บปวดมากถึงมากที่สุด
ช่วงระหว่างรอจขบ.ก็เข้าหาอาจารย์กู (กูเกิล) ค้นข้อมูลตลอด และในท้ายที่สุดได้ข้อสรุปว่า จะไปพบคุณหมอศัลยกรรมที่เชี่ยวชาญเรื่องมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ ในโรงพยาบาลที่มีคณะแพทย์ และมีศูนย์เกี่ยวกับการรักษามะเร็งเต้านม ซึ่งมีอยู่ 2 รพ. คือ ศิริราช และจุฬา
แต่จขบ.ตัดศิริราชออกไป เพราะอยู่ไกลเกินเอื้อม ตัวเลือกสุดท้ายจึงเป็นจุฬา ได้ความดังนั้น เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมาจขบ.โทรนัดคิวและมุ่งหน้าสู่จุฬา โดยไปพบคุณหมอศัลยกรรมที่คลีนิกนอกเวลา แต่เนื่องจากการทำเมมโมแกรมที่จุฬาต้องรอคิวนาน ประกอบกับจขบ.ใจร้อน อยากรู้ผลเร็วๆ ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้ไปทำเมมโมแกรมที่สมิติเวช โดยนัดกันเป็นวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา
ที่สมิติเวช จขบ.ต้องเข้าไปทำเมมโมแกรม 2 รอบ เพราะผลรอบแรกไม่เป็นที่พอใจของคุณหมอผู้ทำอัลตราซาวด์ (ประมาณภาพไม่ชัด ไม่ครอบคลุมสิ่งที่อัลตราซาวด์เห็น เลยต้องเจ็บหน้าอก 2 รอบ แต่เพื่อสุขภาพศรีทนได้ค่ะ) และในท้ายที่สุด คุณหมอจากจุฬาก็แจ้งผลการตรวจว่า ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เจอซีสต์หลายก้อนทั้งหน้าอกซ้าย-ขวา โดยมีความเสี่ยงว่าจะเป็นเนื้อร้ายอยู่ 2 เปอร์เซ็นต์ และให้มาตรวจซ้ำอีกครั้งใน 6 เดือนข้างหน้า จขบ.ไม่อยากจะบอกเลยว่า ทั้งตัวเองและสามีโล่งใจเป็นที่สุด โดยเฉพาะสามีที่ออกอาการโล่งใจได้พอๆกับจขบ.
จะว่าไปแล้ว มนุษย์ทุกคนได้ร่างกายมาตอนคลอดออกจากท้องแม่เหมือนๆกัน ยกเว้นบางคนที่โชคร้ายหน่อยได้โรคบางชนิดที่มากับพันธุกรรมโดยตรง แต่อีกหลายคนก็โชคร้ายยิ่งกว่า เพราะเป็นคนพาโรคร้ายเข้ามาสู่ตัวเอง จากพฤติกรรมการกิน การอยู่ในชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกไม่ควร อย่างเช่นกรณีของจขบ. ซึ่งไม่เคยมีประวัติคนในครอบครัวป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง แต่เจอซีสต์หลายก้อนที่หน้าอก โดยจขบ.คาดเอาเอง (หมอไม่ได้บอก) ว่า เกิดจากฮอร์โมนที่ได้จากยาคุม ประกอบกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเองที่ส่งเสริมให้เซลล์ในร่างกายแตกตัวออกมาเป็นเยี่ยงนี้
แต่ถึงกระนั้น ด้วยกระแสการหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของทั้งผู้หญิงผู้ชายในปัจจุบัน บวกกับเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ ทำให้หลายต่อหลายคนพบสัญญาณเตือนของโรคร้ายและสกัดได้เสียก่อนที่จะเปิดโอกาสให้มัจจุราชเงียบเหล่านี้เข้ามารุมทำร้ายตัวเองจนเกินจะเยียวยาได้
ดังนั้น ควรหมั่นสังเกตสุขภาพร่างกายของตัวเอง และถ้าเป็นไปได้ควรตรวจสุขภาพประจำปี ถ้าได้ทุกปีก็ดี หรือทุก 2 ปีก็ว่าไป เผื่อว่า ถ้าเจอสัญญาณเตือนภัยใดจะได้เข้าสกัดจุดได้ทันค่ะ |
Create Date : 06 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 21:52:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 530 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|