|
หากพรุ่งนี้ต้องตาย..เวลาที่เหลือจะทำอะไรดี(ภาค๒)(๑๔๒)
@สมมุติว่า ถึงคราตาย วายชีวาตม์
ดวงถึงฆาต ยามรุ่ง ของพรุ่งนี้
กับเวลา ที่ยังเหลือ และพอมี
ช่วยบอกที อยากทำไร ให้ทุเลา
@บางคนบอก ก่อนจะตาย ชีพวายดับ
จะขอกลับ ไปหาแม่ ที่แก่เฒ่า
กราบตักท่าน กระซิบบอก เพียงแผ่วเบา
ว่าลูกเอา กายหยาบ มากราบกราน
@มีเวลา แค่คืนนี้ ทำดีแม่
ลูกมันแย่ ทอดทิ้งแม่ น่าสงสาร
ลำบากแท้ แขนขาแย่ ไม่สำราญ
ทรมาร ทรกรรม แม่จำทน
@ลูกได้ดี มีงาน การสงเคราะห์
วันวันเสาะ คอยช่วยคน จนสับสน
ครอบครัวไหน ที่ลำบาก ยังยากจน
ระดมคน ขนของไป ให้ใช้กัน
@คนชะแร แก่เฒ่า ลูกเต้าทิ้ง
หอบเอาสิ่ง จรุงใจ ไปปลอบขวัญ
ทำอย่างนี้ อยู่อย่างนั้น นานแสนนาน
จนลืมบ้าน ถิ่นกำเนิด ก่อเกิดกาย
@หลงลืมไป ว่ามีแม่ ที่แก่เฒ่า
นั่งคอยเฝ้า คิดถึงลูก ที่ห่างหาย
ป่านฉะนี้ จะเจ็บไข้ ไม่สบาย
ทุกข์สุขใด ใจพันผูก แต่ลูกยา
@กอดแม่ไว้ น้ำตาไหล ใจสะอื้น
จนดึกดื่น หนุนตักแม่ อุ่นแท้หนา
แม่รู้ไหม พอรุ่งสาง สว่างตา
ลูกต้องลา วิญญาดับ กับตะวัน
@แม่ดีใจ มือลูบไล้ ไรผมลูก
ด้วยพันผูก รักลูกแน่ ไม่แปรผัน
แสนดีใจ ต่อนี้ไป และทุกวัน
มีลูกนั้น หนุนตักนอน เหมือนก่อนเนาว์
@ความเข้าใจ ไม่เข้าใจ ในสองใจ
แม่คิดไป ต่อนี้ใจ ไม่หงอยเหงา
ใจลูกคิด รุ่งพรุ่งนี้ มีเพียงเงา
ใจหนึ่งร้าว ใจหนึ่งสุข คลุกเคล้ากัน
สมบูรณ์ เต็มชื่น/ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓
Create Date : 20 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 20:52:35 น. |
Counter : 626 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
หากพรุ่งนี้ต้องตาย..เวลาที่เหลือจะทำอะไรดี(๑๔๑)
@สมมุติว่า ถึงคราตาย วายชีวาตม์
ดวงถึงฆาต ยามรุ่ง ของพรุ่งนี้
กับเวลา ที่ยังเหลือ และพอมี
ช่วยบอกที อยากทำไร ให้เสร็จการ
@บางคนว่า อยากไหว้พระ ห้าหกวัด
สารพัด จัดหา น่าสงสาร
ทั้งดอกไม้ เทียนธูป เครื่องพลีทาน
เผื่อพระท่าน โปรดสัตว์ จัดทางเดิน
@ให้วิญญาณ ผ่านไป ในชั้นเทพ
ทุกวันเสพ อาหารทิพย์ แล้วเหาะเหิร
ชมแมกไม้ สองข้าง ทางดำเนิน
โขดเขาเขิน เนินไสล ได้เที่ยวชม
@ไม่มีแดด แผดกล้า ให้หน้าหม่น
ไม่มีฝน ซัดกายใจ ให้ขื่นขม
ไม่เหน็บหนาว ร้าวฤดี มีเพียงลม
พัดพร่างพรม ห่มกาย สบายแล
@พระประธาน ขานรับ สดับโสต
แย้มพระโอษ โปรดว่า แหมแหมแหม
ยามสุขกาย สบายใจ ไม่เหลียวแล
ไม่เคยแม้ แต่ทำบุญ เกื้อหนุนทาน
@ขับรถผ่าน วัดวา หาแวะไม่
พอจะตาย วายชีวา น่าสงสาร
นุ่งห่มขาว เข้าวัด ผลัดคราบมาร
ก้มหมอบคลาน ลานลน ด้วยจนใจ
@ดูก่อนเจ้า ที่หวังเอา หาได้ไม่
บาตรไม่ใส่ ศีลไม่ถือ พระไม่ไหว้
บุญไม่ทำ บาปกระหน่ำ ซ้าเข้าไป
แล้วจะให้ ขึ้นสวรรค์ กระนั้นเชียว
@ถึงยามรุ่ง พรุ่งนี้ มีทางให้
ทางหนึ่งไป สวรรค์สว่าง ทางสีเขียว
อีกทางหนึ่ง ลงนรก มืดทีเดียว
เจ้าจะเลี้ยว ทางใด อดใจรอ
สมบูรณ์ เต็มชื่น/๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓
Create Date : 19 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 19 ตุลาคม 2553 20:58:43 น. |
Counter : 646 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
หลงละเมอเพ้อพก(๑๔๐)
@หนาวแสนหนาว ร้าวรวด ปวดทั้งร่าง
แสนอ้างว้าง เดียวดาย ปลายหน้าฝน
ฝนกระหน่ำ ซ้ำลมหนาว พัดเวียนวน
เหน็บหนาวจน ใจเหน็บ เจ็บขั้วใจ
@ตั้งแต่เช้า ฝนพรำ จนฉ่ำฟ้า
ท้องนภา พลัดมืดไป ไม่สดใส
น้ำตาฟ้า หลั่งรินมา ราดรดใจ
น้ำตาไหล ท่วมห้องใจ จนเจิ่งนอง
@ได้แต่นั่ง มองฟ้า ริมหน้าต่าง
ใจอ้างว้าง ทุกข์ระกำ ช้ำหม่นหมอง
ด้วยชาตินี้ ไม่มี คู่เคียงครอง
ได้แต่มอง คู่อื่นเขา เฝ้าเคล้าคลึง
@เห็นเขากอด พลอดตระกอง ประคองรัก
อิจฉานัก จำหักใจ ไม่นึกถึง
ทรุดกายนั่ง ที่มุมห้อง ร้องรำพึง
ทำไมจึง ไม่มีใคร ไหนเหลียวมอง
@ได้แต่กอด หมอนใบเก่า เฝ้าพร่ำเพ้อ
หลงละเมอ ว่ากอดเขา แสนเศร้าหมอง
ใครคนนั้น ที่ใจเรา เฝ้าหมายปอง
แล้วก็ร้อง ครวญคร่ำ ระกำทรวง
สมบูรณ์ เต็มชื่น/๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๓
Create Date : 16 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 16 ตุลาคม 2553 13:23:01 น. |
Counter : 736 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เลิกป่วนเมืองเถอะครับ(๑๓๙)
@แผ่นดินไทย หวั่นไหว ไม่เคยหยุด
ระเบิดผุด กลางกรุง ยุ่งเหลือหลาย
ใครต่อใคร ไหนไม่รู้ ต้องมาตาย
ตึกวอดวาย มันหมาย ความว่าไง
@ก็ใครเล่า เขาจะรู้ อยู่ข้างห้อง
ระเบิดกอง เต็มห้อง ไม่สงสัย
จนสุดท้าย กลายเป็น เช่นลูกไฟ
ผลาญบรรลัย ป่นไป ในกองกรรม
@คงไม่ใช่ ทำไว้ ให้ลูกเล่น
ตอนเย็นเย็น จุดเล่นกัน แบบขำขำ
ไมไม่เอา ไปจุด บ้านคนทำ
หรือบ้านคน ชักนำ ให้ทำมัน
@ทั้งคนคิด คนทำ และคนจ้าง
ร่วมกันสร้าง เรื่องโง่เง่า เศร้าโศกศัลย์
พวกสูเจ้า เกิดจากดิน หรือไรกัน
จึงได้หมั่น ทุกวันมอง จ้องทำลาย
@หากคนตาย เป็นญาติเจ้า เจ้าเจ็บไหม
หรือดีใจ ตายตายไป ไร้ความหมาย
ไม่รู้สึก ไม่รู้สา ถึงความตาย
แสนเสียดาย เม็ดข้าว ของชาวนา
@หยุดเสียเถิด หยุดทำ เรื่องต่ำช้า
เอาปัญญา มาสร้าง ไทยเถิดหนา
ทดแทนคุณ แผ่นดิน ที่เกิดมา
ดีเสียกว่า คิดปองร้าย ทำลายกัน
@พระสยาม เทวา หาเฉยไม่
เจ้าคงได้ รับกรรม อย่างแสบสันต์
ไม่ได้ผุด ไม่ได้เกิด ชั่วกัปกัลป์
ชักชวนกัน กินซากเน่า ญาติเจ้าเอง
สมบูรณ์ เต็มชื่น/๙ ตุลาคม ๒๕๕๓
Create Date : 09 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 10:46:53 น. |
Counter : 858 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
รอรักร้าวที่ราวฟ้า(๑๓๘)
@ฝนจากฟ้า หลั่งมา เหมือนฟ้ารั่ว
ราดรดตัว จนเปียกปอน ตอนรุ่งสาง
มัวมืดมิด มองไป ไม่เห็นทาง
แสนอ้างว้าง มัวหม่น หนอคนคอย
@กายสะท้าน ใจสะเทือน ฟ้าเลื่อนลั่น
เนื้อตัวสั่น หวั่นไหว ใจเหงาหงอย
แหงนมองฟ้า ไม่เมตตา คอรอคอย
ช่างเลื่อนลอย คอยไป ไร้ตัวตน
@นานกว่านาน ผ่านเวลา ฟ้าหายหม่น
แดดเบื้องบน กวัดไกว ไล่เมฆฝน
ค่อยค่อยแผด เผาไหม้ เป็นไอวน
สู่เบื้องบน กลางนภา ขอบฟ้าไกล
@มือลูบผม ข่มใจ ไล่น้ำฟ้า
สะบัดหน้า บอกตน ต้องทนไหว
เขาไม่มา ไม่เห็น ไม่เป็นไร
ต้องอยู่ได้ แม้นใจ ไร้เงาเธอ
@ฝืนยิ้มให้ กับสายรุ้ง ที่คุ้งฟ้า
เชื่อมนภา สองฟากฟ้า มั่นเสมอ
เห็นความรัก ไต่เต้า แทนเงาเธอ
หลงละเมอ เห็นเงา เราไต่ตาม
@จะยืนมอง อยู่อย่างนั้น ทุกวันวี่
ไม่จู้จี้ ไม่สนใจ ไม่ไถ่ถาม
จะรอเธอ แม้นทนทุกข์ ทุกโมงยาม
ยังรอความ รักนิรันดร์ นั้นหวนคืน
สมบูรณื เต็มชื่น/๕ ตุลาคม ๒๕๕๓
Create Date : 05 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 5 ตุลาคม 2553 19:30:33 น. |
Counter : 598 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
กระบี่ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
@ผมแค่อยาก เขียนกลอน ตอนว่างว่าง
แค่อยากสร้าง บทกวี ที่สร้างสรรค์
ไม่อยากหาย ใจทิ้ง ไปวันวัน
โลกของฉัน นั้นคงไม่ กวนใจคุณ
|
|
|
|
|
|
|