เจ๋ง ! ไทยผงาดอันดับ 3 ส่งออกอาหารสัตว์
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าปี 2564 อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงยังคงมีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมการส่งออกในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี (มกราคม-กันยายน 2564) มีปริมาณการส่งออกรวม 525,966 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 40,533 ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกมากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องสำหรับสัตว์เลี้ยง และอาหารเม็ดสำหรับสัตว์เลี้ยง คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 55 และร้อยละ 41 ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าที่นำเข้าหลัก ได้แก่สหรัฐอเมริกา (20%) มาเลเซีย (15%) อินโดนีเซีย (11%) และประเทศอื่นๆ เช่น สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น คาดการณ์ว่าในปี 2564 จะมีการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง คิดเป็นมูลค่าราว 48,000 ล้านบาท หากปัจจัยเสริมด้านตลาดและราคาต้นทุนวัตถุดิบยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากประเทศคู่ค้ามีความเชื่อมั่นในสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผลิตจากประเทศไทย
การเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลก ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยขยายตัว ทำให้ปีนี้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 3 ของโลก รองจากเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศ สวนทางเศรษฐกิจโลกในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19 นี้ นายโสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ โดยสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ มีภารกิจหน้าที่ในการกำกับดูแลกระบวนการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet food) เพื่อการส่งออก
การขึ้นทะเบียนรับรองโรงงานผลิตอาหารสัตว์เพื่อการส่งออก ควบคุมคุณภาพมาตรฐานโรงงานให้มีระบบรับรองการปฏิบัติทางการผลิตที่ดี (GMP) และมีระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (HACCP) การตรวจสอบกระบวนการผลิต
การออกหนังสือรับรองสุขอนามัยสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงสอดคล้องตามข้อกำหนดและระเบียบของประเทศคู่ค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้า โดยปัจจุบัน (ต.ค. 2564) มีจำนวนโรงงานที่ได้รับขึ้นทะเบียนเพื่อการรับรองโรงงานผลิตอาหารสัตว์เพื่อการส่งออกและมีการผลิตส่งออก รวมทั้งสิ้น 86 แห่ง