All Blog
ดันด่านพรมแดนพุน้ำร้อนศูนย์กลางนำเข้า-ส่งออกสินค้า
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของจุดผ่านแดนถาวรพุน้ำร้อน และด่านกักกันสัตว์ พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรม พุน้ำร้อน ณ สำนักงานศุลกากรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่มีการนำเข้าสินค้าเกษตรที่สำคัญจากเมียนมาร์ อาทิ ปลาหมึก และหอมแดง เป็นต้น 
 
นายประภัตร กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 เห็นชอบการเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และเป็นการสนับสนุนพัฒนาเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน




 





 
จึงประกาศเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อนราชอาณาจักรไทย ตรงข้ามบ้านทิกิ เมืองทวาย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และยังเชื่อมต่อการพัฒนาตามแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จากพื้นที่ฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทยไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของเมียนมาร์ ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางในการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค

สำหรับด่านศุลกากรพุน้ำร้อนเป็นด่านพรมแดนอยู่ในการดูแลของด่านศุลกากรสังขละบุรี รับผิดชอบดูแลด่านพรมแดนหลัก 2 แห่ง ได้แก่ ด่านพรมแดนพระเจดีย์สามองค์ และด่านพรมแดนพุน้ำร้อน โดยในปี 2563 มีสินค้าปศุสัตว์นำเข้า ได้แก่ โค 2,778 ตัว กระบือ 379 ตัว สินค้าส่งออก ได้แก่ สุกร 1,967 ตัว  ไก่ 1,308,757 ตัว และชิ้นส่วนไก่ 373,500 ตัว สำหรับแนวโน้มการส่งออกชิ้นส่วนไก่และไก่มีชีวิตลดลง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่เลี้ยงไก่เนื้อใน จ.กาญจนบุรี ที่เลี้ยงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ




 





 
สำหรับด่านพุน้ำร้อนถือเป็นด่านที่สำคัญแห่งหนึ่ง มีการขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศได้เป็นได้ดี อย่างไรก็ตามพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ 8,000 กว่าไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 2,900 ไร่

ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมทั้งด้านสาธารณูปโภค เพื่อให้ผู้ค้าเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ ส.ป.ก. สำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์เพื่อให้เกษตกรทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ สร้างรายได้ภายใต้สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย (กู้ 1 ล้าน ดอกเบี้ย 100 บาทต่อปี)




 





 
พร้อมทั้งให้กรมชลประทานสำรวจแหล่งน้ำในพื้นเพื่อรองรับการเกษตร เชื่อว่าหากสำเร็จจะเป็นศูนย์กลางการส่งออกและนำเข้า ของประเทศ เนื่องจากมีความได้เปรียบ เส้นทางสมบูรณ์ ติดกับกรุงเทพฯ ทั้งยังส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นด้วย



 



Create Date : 05 มีนาคม 2564
Last Update : 5 มีนาคม 2564 19:06:22 น.
Counter : 332 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments