|
วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร)
สถานที่: 13.705491 101.13636
ประวัติ พระพิฆเนศวร ในคราวที่พระศิวะเทพทรงไปบำเพ็ญสมาธิเป็นระยะเวลานานอยู่นั้น พระแม่ปารวตีเนื่องจากอยู่องค์เดียวเลยเกิดความเหงาและประสงค์ที่จะมีผู้มาคอยดูแลพพระองค์และป้องกันคนภายนอกที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายในพระตำหนักในจึงทรงเสกเด็กขึ้นมาเพื่อเป็นพระโอรสที่จะเป็นเพื่อนในยามที่องค์ศิวเทพเสด็จออกไปตามพระกิจต่างๆมีอยู่คราวหนึ่ง เมื่อพระนางทรงเข้าไปสรงในพระตำหนักด้านในนั้นองค์ศิวเทพได้กลับมาและเมื่อจะเข้าไปด้านในก็ถูกเด็กหนุ่มห้ามไม่ให้เข้า เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นใครและในลักษณะเดียวกันศิวเทพก็ไม่ทราบว่าเด็กหนุ่มนั้นเป็นพระโอรสที่่พระแม่ปารวตีได้เสกขึ้นมา เมื่อพระองค์ถูกขัดใจก็ทรงพิโรธและตวาดให้เด็กหนุ่มนั้นหลีกทางให้พลางถามว่ารู้ไหมว่า กำลังห้ามใครอยู่ ฝ่ายเด็กนั้นก็ตอบกลับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องว่าเป็นใครเพราะตนกำลังทำตามบัญชาของพระแม่ปารวตี และทั้งสองก็ได้ทำการต่อสุ้กันอย่างรุนแรง จนเทพทั่วทั้งสวรรค์เกิดความวิตกในความหายนะที่จะตามมา และในที่เด็กหนุ่มนั้นก็ถูกตรีศูลของมหาเทพจนสิ้นใจและศีรษะก็ถูกตัดหายไป ในขณะนั้นเองพระแม่ปารวตีเมื่อได้ยินเสียงตังกึกก้องไปทั่วจักรวาลก็เสด็จออกมาด้านนอกและถึงกับสิ้นสติเมื่อเห็นร่างพระโอรสที่ปราศจากศีรษะ และเมื่อได้สติก็ทรงมีความโศกาอาดูรและตัดพ้อพระสวามีที่มีใจโหดเหี้ยมทำร้ายเด็กได้ลงคอ โดยเฉพาะเมื่อเด็กนั้นเป็นพระโอรสของพระนางเองเมื่อได้ยินพระนางตัดพ้อต่อว่าเช่นนั้นองค์มหาเทพก็ทรงตรัสว่าจะทำให้เด็กนั้นกลับพื้นขึ้นมาใหม่แต่ก็เกิดปัญหาเนื่องจากหาศีรษะที่หายไปไม่ได้ และยิ่งใกล้เวลาเช้าแล้วต่างก็ยิ่งกระวนกระวายใจเนื่องจากหากดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วก็จะไม่สามารถชุบชีวิตให้เด็กหนุ่มฟื้นขึ้นมาได้เมื่อเห็นเช่นนั้นพระศิวะเลยบัญช่าให้เทพที่มาช่วยให้เอาศีรษะสิ่งที่มีชีวิตแรกที่พบมาและปรากฎว่าเหล่าเทพได้นำเอาศีรษะช้างมาซึ่งพระศิวะทรงนำศีรษะมาต่อให้และชุบชีวิตให้ใหม่พร้อมยกย่อง ให้เป็นเทพที่สูงที่สุดและขนานนามว่า พระพิฆเนศแปลว่า เทพผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรคและยังทรงให้พรว่าในการประกอบพิธีการต่างๆต้องทำพิธีบูชาพระพิฆเนศก่อนเพื่อความสำเร็จของพิธีนั้น
ความสำคัญแต่ละส่วนของพระวรกาย เนื่องจากพระพิฆเนศวรมีพระวรกายที่ไม่เหมือนเทพอื่นๆนั้น จึงมีอธิบายไว้ดังนี้ 1. พระเศียรของท่านหมายถึงวิญญาณซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการมีชีวิต 2.พระวรกายแสดงถึงการที่เป็นมนุษย์ที่อยู่บนพื้นปฐพี 3.ศรีษะช้างแสดงถึงความเฉลียวฉลาด 4.เสียงดังที่เปล่งออกมาจากงวงหมายถึงคำว่า โอม ซึ่งเป็นเสียงแสดงถึงความเป็นสัจจะของสุริยจักรวาล 5.พระหัตถ์บนด้านขวาทรงเชือกบ่วงบาศน์ที่ทรงใช้ในการนำพามนุษย์ไปสู่เส้นทางแห่งธรรมะและหลุดพ้นพร้อมทรงขจัดอุปสรรคในระหว่างทาง 6.พระหัตถ์บนซ้ายทรงเชือกขอสับที่ใช้ในการป้องกันและพันฝ่าความยากลำบาก 7.มือขวาล่างทรงงาที่หักครึ่งซึ่งพระองค์ทรงใช้เป็นปากกาในการเขียนมหากาพย์มหาภารตะให้มหาฤษีเวทวยาสมุนีและเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเสียสละ 8.อีกมือทรงลูกประคำที่แสดงว่าการแสวงหาความรู้จะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 9.ขนมโมณฑกะหรือขนมหวานลัดดูในงวงเป็นการชี้นำว่ามนุษย์จะต้องแสวงหาความหวานชื่นในจิตวิญญาณของตนเองเพื่อที่จะได้มีจิตเอื้อเพื้อเผื่อแผ่ให้กับคนอื่นๆ 10.หูที่กว้างใหญ่เหมือนใบพัดหมายความว่าท่านพร้อมที่รับฟังสิ่งที่เราร้องเรียนและเรียกหา 11.งูที่พันอยู่รอบท้องท่านแสดงถึงพลังที่มีอยู่โดยรอบ 12.หนูที่ทรงใช้เป็นพาหนะแสดงถึงความไม่ถือองค์และพร้อมที่จะเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่เล็กและเป็นที่รังเกียจของมนุษย์ส่วนมาก
ตำนานงาหัก ในตำนานที่กล่าวถึงว่าเหตุใดองค์พระคเณศจึงมีงาข้างเดียว ก็เนื่องมาจากความกตัญญูของท่านนั่นเองพระคเณศท่านทรงมีความกตัญญูต่อพระบิดาของท่านคือองค์พระศิวะ วันหนึ่งพระศิวะต้องการจะบรรทมจึงสั่งให้ พระคเณศเป็นทวารบาลรักษาประตู มิให้ผู้ใดมารบกวนพระองค์ขณะทรงบรรทม เวลานั้นปรสุรามซึ่งเป็นปางหนึ่งขององค์พระนารายณ์อวตารลงมา จะขอเข้าเฝ้าองค์พระศิวะ แต่พระคเณศมืให้เข้าเฝ้าทั้งสองจึงโต้เถียงกัน เกิดการพิโรธ และสู้รบกัน ฝ่ายปรสุราม จึงดึงขวานออกมา พระคเณศจำได้ว่าขวาน นี้เป็นของพระบิดาคือพระศิวะ ที่ประทานให้กับปรสุราม จึงไม่ต่อสู้ด้วย และได้แต่หลบไปเลี่ยงมาจังหวะหนึ่งหลบไม่พ้นขวานจึงฟันมาโดนงาท่านหัก เมื่องาหักแล้วพระศิวะจึงเสด็จออกมาท่านทราบอยู่แล้วว่าเหตุนี้ต้องเกิดขึ้น แต่พระองค์ท่านประสงค์ให้เป็นเช่นนี้และจึงได้ประทานพระนามใหม่ให้อีกพระนามว่า "เอกทันตะ" คือผู้มีงาเดียว นั่นเอง มีหนูเป็นพาหนะ ส่วน หนู นั้นน่าจะเกิดจากการที่สมัยก่อน คนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ หนูชอบทำลายพืชพันธุ์ธัญญาหารจึงเป็นอุปสรรคต่ออาชีพและเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง ดังนั้นการนำหนูมาเป็นพาหนะของเทพเจ้าที่ตนนับถือจึงเป็นการแสดงความมีอำนาจเหนือกว่าและมีนัยของการขจัดอุปสรรคไปในตัว
รูปภาพ พระพิฆเนศวร


นอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับแสดงพระพิฆเนศวรรูปต่างอีก






หลวงพ่อโต องค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัด เป็นพระประธานในอุโบสถปางมารวิชัย อายุกว่า 120 ปี



พระประธานหน้าวัดตั้งประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำบางประกงหน้าวัด เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพระองค์ใหญ่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำบางประกง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลสังฆปรินายก ทรงถวายพระนามว่า พระพุทธมหากรุณาคุณประสิทธิ์ (พระพุทธเจ้าโปรดประทานความสำเร็จด้วยทรงมีพระกรุณาคุณ) และทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์บรรจุบนเกตุพระ

ปู่บรมครูฤาษี

วิวริมแม่น้ำบางประกง
Create Date : 07 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 7 สิงหาคม 2554 13:33:00 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1076 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:9:31:12 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:7:43:51 น. |
|
|
|
โดย: ON THE WAY with MyEos50 (MyEos50 ) วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:1:32:29 น. |
|
|
|
โดย: som IP: 61.90.91.212 วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:15:48:17 น. |
|
|
|
| |
|
|
มองไกล ๆ ยิ่งงามค่ะ