นิยาย "Must Have คนนี้ฉันจอง" บทที่ 2
2 “ควีน ควีนครับ เรายังคุยกันไม่จบเลยนะครับ” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาลืมตัว รั้งข้อมือบอสสาวอย่างถือวิสาสะ พอลแต่งตัวภูมิฐาน อายุสามสิบต้น เป็นทายาทธุรกิจโรงแรมใหญ่ในตัวเมืองและหลายสาขาทางภาคเหนือ ฐานะครอบครัวถือว่าร่ำรวย และมีอิทธิพลมากในจังหวัดนี้ “ปล่อยค่ะ” สาวสวยสะบัดหลุดการเกาะกุมของอีกฝ่าย ไม่ชอบโดนสัมผัสตัว ถึงเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักก็ตาม พอลชะงักกึก หลังหล่อนมองด้วยสายตาเย็นเยียบ เหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า รู้สึกว่าวันนี้ตนทำพลาดหลายเรื่อง “พี่ขอโทษ...พี่ไม่ได้จะกดดันควีนเลยนะครับ” พอลหลงรักไอลดามานาน รู้จักหล่อนมาพักหนึ่ง หลังรู้ว่าหล่อนเลิกกับแฟนคนก่อน เขาตามจีบหล่อนอยู่หลายเดือน กว่าบอสสาวจะตกลงคบหาในฐานะคนรัก กว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์มาถึงจุดนี้ได้ เขายอมรับว่าหืดขึ้นคอ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้เรื่องนี้ และสนับสนุนสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่กี่วันก่อน พ่อแม่พอลไฟเขียวอยากให้พอลลงเอยกับหล่อน ชายหนุ่มใช้เวลาคิดอยู่ทั้งวัน แรงเชียร์จากครอบครัวบวกกับความปรารถนา เขาจึงนัดหล่อนทานข้าวเย็น ณ โรงแรมในเครือ เพื่อขอแต่งงาน ทว่าสาวเจ้าชะงักไปหลังได้ยินคำขอนั้น หญิงสาวสงบนิ่งขมวดคิ้วเรียวยาวครุ่นคิด ทานอาหารเงียบๆ ด้วยท่วงท่าสง่างาม โดยไม่ให้คำตอบใดๆ และขอตัวกลับหลังรับประทานอาหารไปครึ่งจาน พอลหน้าเหวอ สับสนว่าตนทำอะไรผิด เขารีบขับรถตามหล่อนมาที่พันราตรีรีสอร์ตเพื่อขอคำตอบที่ชัดเจน ไม่พ้นหนุ่มต้องง้อชัวร์ ดลพรคิดเดาในใจ น้อยครั้งที่ไอลดาจะง้อคนอื่น ผู้จัดการสาวถอยห่างไปหลายก้าว เว้นระยะให้คู่รักคุยกันตามลำพัง ดลพรวางตัวเป็น รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ไม่ไปวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของไอลดา เว้นแต่หล่อนจะเปิดใจอยากคุยด้วย นั่นก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนใหญ่เจ้าหล่อนไม่ค่อยพูดเรื่องหัวใจ เหมือนให้ความสำคัญเป็นลำดับท้ายๆ สิ่งที่ไอลดาให้คุณค่ามากเป็นอันดับต้น คือ ครอบครัว พันราตรีรีสอร์ตกับธุรกิจที่ลงทุน ต่อมาคงเป็นเพื่อนฝูง รวมไปถึงความเป็นอยู่ของลูกน้อง ส่วนความรัก สาวสวยไม่เคยขาดแคลนชายหนุ่มแวะมาเกี้ยวพาราสี ถึงมีคนรักแล้ว ก็ยังคงมีช่อดอกไม้ หรือของขวัญส่งมาไม่เคยขาด คบมาจะปีแล้วไม่เห็นแววคืบหน้า หรืออีตาพี่พอลจะใกล้หมดอายุ ผู้จัดการสาวอดคิดแบบนั้นไม่ได้ เคยได้ยินไอลดาตอนเมาร่ายยาวอย่างอัดอั้นตันใจว่า “ฉันไม่เคยตั้งเป้าว่า ชีวิตนี้ต้องมีครอบครัว มีสามี มีลูกซะหน่อย ทำไมพ่อแม่ถึงได้วุ่นวายกับชีวิตฉันนัก” “ควีนไม่อยากคุยเรื่องนี้” น้ำเสียงหล่อนเรียบเย็น วางท่าปั้นปึ่งราวกับขึ้งโกรธ ยามนี้หญิงสาวดูหยิ่งยโส สูงสง่าเกินเอื้อมถึง สมชื่อเล่น ‘ราชินี’ มาก “ทำไมล่ะครับ?” เขาอยากรู้เหตุผล ไม่เคยอยากได้ใครเป็นแม่ของลูกเท่าผู้หญิงสวยคนนี้ หล่อนเพียบพร้อมเพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง “พี่อยากดูแลควีนจริงๆ นะครับ ให้โอกาสพี่ได้ไหมครับ?” ดูแล! เห็นฉันอ่อนแอนักหรือไง “ไม่จำเป็นค่ะ ควีนดูแลตัวเองได้” ไอลดาไม่ชอบใจนักที่พอลชอบแสดงออก ประหนึ่งหล่อนเป็นอิสตรีอ่อนแอปวกเปียก ทำอะไรไม่เป็น ต้องพึ่งพาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของบุรุษ...ทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย “แต่-” ชายหนุ่มขยับปากได้แค่คำเดียว ก็โดนบอสสาวตัดบท “พี่พอลกลับไปก่อนเถอะค่ะ ควีนอยากพักผ่อน” ไอลดาเอ่ยปากไล่อย่างรำคาญที่เขาตอแยไม่ยอมเลิกรา วุ่นวายกับตนมากกว่าพ่อแม่เสียอีก นี่ไล่กันเลยเหรอ... ความกรุ่นโกรธระคนความน้อยใจตีขึ้นอก จนเขาหายใจแทบไม่ออก ลำคอแห้งผากร้อนผ่าว พอลจ้องผู้หญิงที่ตนหลงใหล “จริงๆ แล้วควีนรังเกียจพี่ ใช่ไหมครับ?” เขาถามตรงๆ สัมผัสได้ถึงความเหินห่างที่ถ่างกว้างมากขึ้นทุกวัน ไอลดาไม่สนใจจะเขียนข้อความตอบเหมือนตอนรู้จักใหม่ๆ บางทีกว่าจะอ่านข้อความก็ผ่านไปหลายชั่วโมง ในช่วงเดือนที่ผ่านมา หากเขาไม่มาหาถึงพันราตรีรีสอร์ต ก็ยากจะได้เจอหน้าสวยหวาน หลังไอลดามักจะให้เหตุผลว่างานยุ่งเสมอ ถ้าฉันพูด คุณจะรับได้หรือเปล่า? หล่อนมองเขาด้วยสายตานิ่งๆ ทั้งที่ในใจกำลังหงุดหงิดงุ่นง่าน เม้มเรียวปากสวยได้รูปเล็กน้อยเพื่อระงับความเดือดดาลที่กำลังปะทุในทรวง แต่ไม่คิดจะทำลายความสัมพันธ์ที่รู้จักกันมาหลายปี ภายนอกพอลดูเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติสุภาพสตรี แต่หลายครั้งเขาเผลอแสดงความดูแคลน กดดันวางก้าม ว่าตนเหนือกว่าผู้ใด เขาปรารถนาเป็นช้างเท้าหน้า เป็นผู้นำครอบครัว มักจะคิดเองตัดสินใจเองโดยไม่ปรึกษาสักคำ บางครั้งก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของหล่อน กระทั่งเรื่องพันราตรีรีสอร์ตก็ยังเสนอไอเดีย วางตัวประหนึ่งว่าเขาร่วมเป็นเจ้าของด้วย ทั้งที่พอลอยู่ในฐานะคนรัก...ยังไม่ใช่สามีตามกฎหมาย ตอนแรกก็พอทน แต่หลังๆ หล่อนอึดอัดและรำคาญมาก จึงเลือกที่จะเว้นระยะห่างกับเขา “พี่พอลคิดว่า ควีนจะไปไหนมาไหน กับคนที่ควีนไม่ชอบรึเปล่า?” สาวสวยย้อนถามด้วยสีหน้านิ่ง นั่นสินะ ชายหนุ่มเผยสีหน้าผ่อนคลาย ที่ไม่ได้ยินคำว่า ‘รังเกียจ’ จากปากสวยๆ ของหล่อน “ควีนแค่ยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้น” ไอลดาบอกเหตุผลที่ปฏิเสธเขาด้วยถ้อยคำคลุมเครือ “พี่เข้าใจ” พอลพยักหน้าน้อยๆ แม้อยากจะแต่งงานกับหล่อนเต็มแก่ แต่เขารู้ว่าตอนไหนควรถอย ไม่กล้าเซ้าซี้ตอแยจนเกินงาม “ขอแค่ควีนไม่โกรธพี่ก็พอ” “ไม่ได้โกรธค่ะ” บอสสาวยกมุมปากบางเบา ทว่านัยน์ตาคู่สวยไม่ได้ยิ้มแม้สักนิด “งั้นพี่กลับก่อน พักผ่อนนะครับคนสวย” เขาพูดอย่างโล่งใจ ไม่ลืมหยอดคำหวานทิ้งท้าย “ค่ะ” คนฟังตอบสั้นๆ ไม่ได้รู้สึกประทับใจกับคำชมนั้นแต่อย่างไร ด้วยหล่อนรู้แก่ใจว่าตนสวยมาก หญิงสาวยืนมองพอลหายออกไป ก่อนหันมาทางเพื่อนสนิทที่ยืนคุยกับเอิงเอยอย่างสนิทสนมหน้าประตูห้องครัว พลันขมวดคิ้วเรียว คุยอะไรกัน? ไอลดาตงิดๆ ไม่ชอบใจ หลังเชฟสาวเข้ามาทำงานที่นี่ ดูเหมือนว่าดลพรจะใส่ใจยัยตัวเล็กมากเป็นพิเศษ ได้สิทธิพิเศษมากกว่าพนักงานคนอื่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องพักคนงานที่ดีกว่าคนอื่น ตารางงานที่ไม่มากเท่ากับคนอื่น บอสสาวเข้าใจดีว่า เอิ้นฝากดูแลน้องสาว แต่ก็ไม่ชอบใจอยู่ดี หล่อนบอกไม่ถูกว่า ไม่ชอบที่ดลพรสนใจยัยน้องอย่างออกหน้าออกตา...หรือเพราะเอิงเอยไม่สนใจตนมากเท่าที่ควร? ตั้งแต่ทำงานที่นี่ ยัยน้องเว้นระยะห่างจนเหมือนคนแปลกหน้า ทั้งที่เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก มีอะไรเธอมักจะบอกหล่อนก่อนเสมอ เราสนิทสนมกันมากกว่ากับเอิ้นพี่สาวแท้ๆ เสียอีก ...แต่ตอนนี้ไม่ใกล้เคียงตอนนั้นเลยสักนิด คิดจะเมินกันใช่ไหม? ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ จ้องซะขนาดนั้น ยังจะพูดอีกว่าไม่สนใจควีน...ไม่เนียนเลยนะ ดลพรซึ่งผ่านฝนมายี่สิบกว่าปีได้เบาะแสอะไรเลาๆ หลังเห็นยัยน้องอยู่หน้าประตูห้องครัว สายตาคู่คมสวยแทบไม่ได้ละไปจากคู่รัก ไม่ต้องเป็นนักจิตวิทยาหรือนักอ่านใจก็ต้องมองออก จึงก้าวไปหาเชฟสาวคนใหม่ “สองคนนั้นก็เป็นแบบนี้แหละ” ดลพรบุ้ยใบ้สายตาไปทางไอลดาที่ยืนคุยกับพอลอยู่อีกด้าน “คะ?” เอิงเอยทำหน้าไม่เข้าใจว่า อีกฝ่ายบอกเรื่องนี้กับตนทำไม “ถึงจะคบกันเกือบปี แต่พี่ไม่แน่ใจว่าสองคนนี้จะไปตลอดรอดฝั่ง” ผู้จัดการสาวหลิ่วตาให้เหมือนรู้ความลับอะไรบางอย่าง หรือพี่บีมจะรู้อะไร? เธอคิดร้อนตัว หลังดลพรเขียนคุยกับพี่สาวตนเป็นประจำ เหมือนจะสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง จึงแอบวิตกว่าเอิ้นจะหลุดบอกความลับของตนออกไป “เหรอคะ” เชฟใหม่ยิ้มแหย ไม่กล้าเออออตามน้ำ “ดูทำหน้าเข้า เวลาคุยกับพี่ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น” ผู้จัดการสาวหัวเราะขำท่าทางเหมือนเด็กน้อยทำอะไรผิดแล้วถูกจับได้ “เอ่อ ค่ะ” เอิงเอยยกมือลูบต้นคอแบบเขินๆ “ทำงานที่นี่โอเคไหม?” “ดีมากค่ะ ทุกคนใจดีกับเอิงมาก” สาวหน้าคมตอบตามที่รู้สึก แม้จะมีคนทำไม่ดีด้วย แต่เธอเลือกที่จะละไว้ไม่กล่าวถึง “ดีแล้วล่ะ” ดลพรพยักหน้ายิ้มพอใจกับคำตอบ “ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็คุยกับพี่ได้นะ ถือว่าพี่เป็นพี่สาวอีกคนก็ได้” ในฐานะผู้จัดการรีสอร์ต จะเอาใจใส่ความสัมพันธ์ของเหล่าพนักงานให้เป็นไปด้วยดี ถ้าลูกน้องคนไหนสร้างปัญหาเกินจะเยียวยา เตือนแล้วไม่ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ก็จะเชิญออกพร้อมเงินชดเชยให้ตามสมควร ภายนอกดลพรดูอ่อนโยนนุ่มนิ่ม แต่เธอมีภาวะความเป็นผู้นำสูง ใจเด็ดขาดยิ่งกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก เหล่าลูกน้องจึงทั้งรักเคารพและยำเกรงดลพรไม่ต่างจากไอลดา “ขอบคุณค่ะพี่บีม” ผู้จัดการจ้องหน้ายัยน้องเขม็ง ก่อนพูดทีเล่นทีจริง “ว่าแต่เอิงสวยน่ารักขนาดนี้ ถามจริงๆ มีแฟนหรือยัง?” “เอ่อ...” เชฟสาวหัวเราะแหะๆ “ไม่มีค่ะ” “หืม ไม่น่าเชื่อ” คนอายุมากกว่าเผยยิ้มน้อยๆ มุมปาก “เอาเถอะ ถ้าชอบคนไหนก็บอกพี่นะ พี่จะช่วยเชียร์” เอิงเอยยิ้มอายๆ ไม่กล้าพูดว่า ตนมีใครฝังลึกอยู่กลางหัวใจมานานแล้ว จึงหาวิธีชิ่งโดยเร็วก่อนจะพลาดพลั้งไปมากกว่านี้ “เอิงขอไปช่วยงานก่อนนะคะ” “ไปเถอะ” ดลพรรู้ทันแต่ยอมปล่อยไปก่อน ทว่ายัยตัวเล็กไม่ทันขยับตัว ก็มีเสียงหนึ่งจากด้านหลังห้ามไว้ “เดี๋ยวก่อน!” ทั้งสองหันไปมองไอลดาที่ไม่รู้ว่ามาตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ “มีอะไรเหรอควีน?” ดลพรถามขึ้น “ให้เชฟของเธอ ช่วยทำกับแกล้มให้ฉันหน่อยสิ” หล่อนพูดกับเพื่อน ปรายตาคู่สวยมองไปทางเอิงเอยแวบหนึ่ง เชฟของฉัน? คิ้วเรียวของคนฟังโค้งขึ้นเล็กน้อย ฟังออกว่าหล่อนประชด แต่นึกไม่ออกว่าตนไปทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ดลพรถอนใจเฮือกกับความพาลเกเรของเพื่อนรัก หันหน้าไปทางเชฟสาว “รบกวนด้วยนะเอิง” “ได้ค่ะ” ยัยน้องพยักหน้า ก่อนเสนอขึ้น “รับมะม่วงหิมพานต์ทอด หรือว่าจะเป็นข้าวเกรียบทอดดีคะ?” “อะไรก็ได้” ไอลดาบอกแบบไม่ใส่ใจ “ใส่กล่องนะ ฉันจะเอาไปทานที่บ้าน” นี่ก็พูดง่ายเกิ๊น “อะไรก็ได้ ไม่มีในเมนูค่ะ” เอิงเอยพูดตอบกวนๆ หาเรื่องใช่ไหม? ได้ สาวสวยกลอกตาไปมา ก่อนเอาคืนบ้าง “ทำมาสองอย่างเลย” ร้ายมากคุณบอสขา แม้อยากจะแยกเขี้ยวใส่ แต่เอิงเอยก็ข่มใจไว้ “สักครู่ค่ะ” เธอเดินเข้าไปในครัว ไม่คิดจะให้อีกฝ่ายรอนานเกินไป พอยัยตัวเล็กคล้อยหลัง สองหุ้นส่วนก็คุยกันเบาๆ “แกนี่ชอบแกล้งเอิงจริงนะ” ดลพรบ่นแบบไม่จริงจัง หลังสังเกตว่าเพื่อนแสดงออกกับเอิงเอยต่างจากลูกน้องคนอื่น “เปล่าแกล้งสักหน่อย” หล่อนยักไหล่ไม่คิดยอมรับ “คืนนี้แกจะนั่งดื่มเหรอ?” “อืม” “ไม่สบายใจเรื่องพี่พอล?” ผู้จัดการสาวเดาแบบนั้น “พูดให้ถูกก็คง...รำคาญมากกว่า” สาวสวยกล่าวจากหัวใจ ใบหน้าสวยนิ่งดูเนือยๆ บอกบุญไม่รับ เร็วๆ นี้คงมีผู้ชายอกหักเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง ดลพรเดาแบบนั้น เหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เคยเห็นมาแล้วหลายหน หลังจากนั้นไม่นาน...ไอลดาจะเป็นโสด ผู้จัดการสาวไม่คิดก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนรัก หลังรู้นิสัยใจคอหล่อนดีว่าเป็นคนรักอิสระ และเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง หากชายใดคิดจะเข้าครอบงำ หว่านล้อมให้หล่อนโอนอ่อนผ่อนตามเชื่อฟังทุกเรื่อง แบบไร้ปากเสียง เป็นช้างเท้าหลัง ดลพรพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า...ยาก ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาเสียอีก และจะนำไปสู่การแตกหักได้ง่ายๆ “ดื่มได้ แต่อย่าหนักนักล่ะ พรุ่งนี้มีทัวร์มากลุ่มใหญ่นะ” เพื่อนสนิทรู้ว่ายามเซ็งสุดขีดไอลดามักจะนั่งดื่ม พร้อมกับดูหนังไม่ก็ฟังเพลงโปรด บางทีก็ดื่มเมามายหลับอยู่ที่ห้องรับแขกภายในบ้าน หลับสนิทยาวไปจนสาย ครั้งหนึ่งเธอนึกว่าเพื่อนไม่สบายหรือเปล่า เดินไปเคาะเรียกหน้าบ้านอยู่เกือบสิบนาที โชคดีที่หล่อนลุกมาเปิดประตูเสียก่อน ไม่งั้นคงให้คนพังประตูเข้าไปแล้ว “ทราบแล้วเจ้าค่ะคุณผู้จัดการ” ไอลดายิ้มน้อยๆ อย่างน้อยก็มีคนสนิทเป็นห่วงตนเสมออยู่ตั้งหนึ่งหน่อ “ทอดถั่วให้ลูกค้าเหรอ?” ม่านอดสงสัยไม่ได้ หลังเห็นเอิงเอยกำลังทำกับแกล้มสองอย่างที่ไม่เห็นใบออเดอร์ “ทอดให้คุณบอสขาค่ะ” เอิงเอยตอบยิ้ม พร้อมขยับตะหลิวพลิกถั่วในกระทะอย่างคล่องแคล่ว “หืม?” คนฟังส่งเสียงต่ำในลำคอ เผยสีหน้าไม่สู้ดีนัก “สงสัยคุณบอสจะดื่มอีกแหง...แววไม่ดีซะแล้ว” “แววอะไรคะ?” เธอสะกิดใจสงสัย จึงพลั้งปากถามออกไป “ไม่ ไม่มีอะไร” ม่านรีบพูด หลังเห็นสายตาเตือนของป้าอุไรส่งมาว่าไม่ให้พูดมาก ภายในห้องครัวนอกจากเราสามคน ยังมีเชฟและผู้ช่วยคนอื่นอยู่ด้วย ถ้อยคำนินทาย่อมไม่พ้นจะรับรู้ทั่วทั้งรีสอร์ตได้ภายในเวลาอันสั้น ...สำนวนไทยที่ว่า ‘หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง’ ยังคงใช้ได้ดี หากผู้ที่ถูกพาดพิงถึงคือ บอสสาวหรือผู้จัดการ ยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะอาจโดนใครไม่รู้ใส่สีตีไข่ แปลงสาสน์จากขาวเป็นเทาเป็นดำ สร้างความร้าวฉานจนเข้าหน้ากันไม่ติดได้ง่ายๆ พี่ม่านตั้งใจจะพูดอะไร? เอิงเอยมองภาษากายออก แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่พูด ก็ไม่คิดซักไซ้ตอแย ตั้งใจทำกับแกล้มตรงหน้าให้เสร็จโดยเร็ว ไม่อยากให้คนสวยต้องรอนาน “น่าแปลกเหมือนกันนะ” ม่านพูดเบาๆ แค่ให้ได้ยินกันสองคน “อะไรคะ?” “ปกติบอสไม่ค่อยเจาะจงว่าจะให้ใครปรุงอาหารให้” ผู้ช่วยสาวพูดเกริ่นขึ้น “แต่หลังเอิงเข้ามา เหมือนบอสจะเจาะจงให้เอิงทำมากเป็นพิเศษ” เพราะพี่ควีนหลงเสน่ห์ปลายจวักของฉันมั้งคะ ยัยน้องกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ซ่อนยิ้มเต็มที่ ขยับปากตอบไปว่า “ไม่หรอกมั้ง” “งั้นเหรอ พี่คงคิดมากไปเอง” ม่านมองนาฬิกา “เกือบสามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย พี่ไปล้างจานก่อนนะ จะได้เสร็จไวๆ” พูดจบ ผู้ช่วยสาวหมุนตัวเดินไปแถวอ่างล้างจานหลังห้องครัว เพื่อจัดการกับอุปกรณ์และภาชนะที่ใช้แล้ว หลังทอดถั่วลิสงกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์เสร็จ เอิงเอยโรยพริกซอย ต้นหอมซอยและเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่สองกล่องเพื่อนำไปมอบให้บอสสาว “เรียบร้อยแล้วค่ะ” เธอยื่นสองกล่องกับแกล้มให้หล่อน “ขอบใจ” ไอลดาพูดเสียงเรียบนิ่ง รับภาชนะบรรจุอาหารมาถือไว้ ก่อนหันไปทางดลพร “ฉันกลับก่อนนะบีม พรุ่งนี้เจอกัน” “อืม” เพื่อนรักพยักหน้า “ถ้าอยากได้เพื่อนดื่ม ก็โทรมาตามได้นะ” “ได้” หล่อนรับคำ ปรายตามองเอิงเอยแวบหนึ่ง ก่อนหมุนตัวเดินออกประตูข้าง เพื่อทะลุไปยังบ้านพักส่วนตัวที่อยู่ด้านหลัง “คุณควีนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เอิงเอยถามผู้จัดการสาว “ควีนคงเหนื่อยๆ น่ะ พรุ่งนี้ก็คงดีขึ้น” อีกฝ่ายกวาดมองไปรอบห้องอาหารที่บัดนี้มีลูกค้าเหลือไม่กี่คน ประกอบกับเลยเวลาปิดครัวแล้ว “คงไม่มีแขกมาแล้วมั้ง เอิงก็เตรียมกลับไปพักผ่อนนะ พรุ่งนี้ทัวร์กลุ่มใหญ่ลงอาจจะยุ่งมากหน่อย” ดลพรไม่ชอบใช้งานลูกน้องหนักเกินไป ถ้างานเยอะจะมีเงินพิเศษเพิ่มให้ จึงไม่แปลกที่ผู้จัดการคนนี้จะได้รับความรักเคารพจากลูกน้องมาก “ค่ะพี่บีม” ยัยน้องรู้สึกประทับใจดลพรมากขึ้นไปอีก และอดที่จะคิดเปรียบเทียบกับใครอีกคนไม่ได้ พี่บีมใจดีจัง ไม่เหมือนคุณบอสขาคนสวย เชฟสาวสะบัดหน้าทิ้งความคิดที่ลอยไปหาหล่อน ก่อนส่งยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานขณะเดินกลับบ้านพัก อร่อย ไม่เค็มเกิน กรอบกำลังดี ไอลดานั่งจิบเบียร์กระป๋องหนึ่งอึก แล้วหยิบถั่วทอดอร่อยสองอย่างเข้าปาก บนโต๊ะเตี้ยนอกจากถั่วสองกล่องยังมีเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิดวางตั้งอยู่สองกระป๋อง ขณะเจ้าตัวนั่งเอกเขนกบนโซฟาภายในบ้านหลังใหญ่ โดยไม่กังวลกับภาพลักษณ์สง่างามประดุจนางพญาแม้แต่น้อย สายตาคู่หวานอยู่กับโทรทัศน์จอยักษ์ดูซีรีย์จีนโบราณที่ดูค้างไว้สัปดาห์ก่อน ทว่าหัวใจกลับลอยละล่องไปหาใครบางคนที่อยู่เรือนพักไม่ไกลนัก เจ้าหล่อนแทบไม่ระลึกถึง ‘แฟนหนุ่ม’ สักเท่าใด หลังมีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าหลายอย่าง เช่น การวางแผนขยายพันราตรีรีสอร์ต หรือนำเงินไปลงทุนเพิ่มที่ไหนจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากธนาคารไว้ หรืออีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้ คือ...เอิงเอย เด็กน้อยนี่ชอบมากวนใจฉันเหลือเกิน สาวสวยถอนใจเบาๆ พยายามตัดเรื่องยัยน้องออกจากสมอง ไม่ให้มารบกวนการดูหนังให้เสียอรรถรส ในหัวพลันปรากฏภาพแฟนหนุ่มขึ้นแทน วันนี้พอลเกือบทำให้ไอลดาฟิวส์ขาด จนเกือบจะบอกเลิกกับเขา หลังเขาทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนโดนกดขี่ข่มเหง ประหนึ่งเป็นสมบัติเป็นข้าวของที่ชี้นิ้วเลือกซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อ ...โชคดีที่ยั้งปากไว้ทัน สาวสวยไม่อยากเลิกกับพอล ด้วยเหตุผลงี่เง่าแบบเด็กน้อยเอาแต่ใจ หญิงสาวบอกไม่ถูกว่าชอบผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่ความรัก คงเป็นแค่ความประทับใจ ความชอบพอ หรือไม่ก็ความเคยชินที่มีเขาอยู่เคียงข้างเสมอ ก่อนหน้านี้ หล่อนเคยคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนหนึ่ง และพอลเข้ามาในจังหวะพอเหมาะพอเจาะ จึงปล่อยให้เขาไปมาหาสู่ แล้วพัฒนาเป็นการคบหาแบบคนรัก ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนรอบข้างว่า เราสองคนเป็นคู่สร้างคู่สม คู่สวรรค์ประทาน เป็นกิ่งทองใบหยก และอื่นๆ มีแต่คนลุ้นให้แต่งงานได้แล้ว เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้ ...แต่ลึกๆ ไอลดาไม่ปักใจเชื่อสักเท่าใด แม้จะรู้แก่ใจว่าพอลรักหลงหล่อนหัวปักหัวปำ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะตอบรับความรู้สึกของเขา หญิงสาวเคยถามตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่า ถ้าต้องใช้ชีวิตกับใครสักคน หล่อนจะเลือกใคร? อยู่กับใครแล้วมีความสุขที่สุด? และคนนั้นจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตได้ไหม? ...เรื่องอื่นหล่อนอาจจะเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด แต่ไม่ใช่เรื่องหัวใจ หรือเนื้อคู่ฉันจะยังไม่เกิด? เฮ้อ! ไอลดาถอนใจยาวเหยียด มั่นใจว่าพอลคงไม่ละความพยายามที่จะแต่งงานกับตน เขาเป็นคนดื้อรั้น ดื้อรั้นไม่ต่างจากตนสักเท่าใด หากเทียบนิสัยแล้ว พอลมีอุปนิสัยหลายอย่างที่คล้ายกับไอลดา เพียงแต่หญิงสาวเก็บสีหน้าเก็บอาการ และใจเย็นกว่าเขามาก ...หากพูดว่าพอลเป็นหล่อนในเวอร์ชั่นผู้ชายก็คงไม่ผิดนัก สำหรับบางคน นี่อาจคือแรงดึงดูดที่ชวนหลงใหล แต่สำหรับสาวสวย นี่คือความน่าเบื่อหน่ายเข้าขั้นน่ารำคาญ ไร้ซึ่งความตื่นเต้น ไร้ชีวิตชีวา หญิงสาวจิบเบียร์จนหมดกระป๋อง วงหน้าสวยซังกะตาย เหมือนเผชิญหน้ากับปัญหาโลกแตก ชีวิตเจอทางแยกที่ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เอาไงต่อไอลดา? หล่อนไม่ได้สนใจซีรีย์ตรงหน้าสักเท่าใด คว้าไอแพดรุ่นล่าสุดมากดเปิด พลันคลี่ยิ้มกว้าง หลังเห็นการแจ้งเตือนในช่องวีดิโอที่ติดตาม แล้วกดดูอย่างไม่รอช้า เป็นคลิปทำอาหารความยาวสิบกว่านาที แม้นจะไม่เห็นหน้าเจ้าของช่องเลยสักนิด แต่สาวสวยรู้ว่าเป็นใคร ไอลดาไม่ได้เพิ่งติดตาม แต่ตามติดมาตั้งแต่ยัยน้องเริ่มลงใหม่ๆ เมื่อหลายปีก่อน และสนับสนุนด้วยการโดเนทให้เรื่อยมา อาหารหลายรายการของพันราตรีรีสอร์ตหล่อนนำสูตรอาหารของเอิงเอยมาประยุกต์ใช้นั่นแหละ ผัดหมี่น่าทานเชียว ไว้ต้องขอชิมหน่อยแล้ว ความสุขเล็กๆ ของหล่อน คือ การเป็น FC ลับของเธอ *เรื่องนี้มี E-book ขายที่ Meb แล้วนะคะ
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDkyOTk2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMzk2Mzk2Ijt9
Create Date : 20 ตุลาคม 2568 |
|
0 comments |
Last Update : 20 ตุลาคม 2568 17:55:12 น. |
Counter : 20 Pageviews. |
|
 |
|