• Bakery
• Food
• Travel
• BB
• Me
• Tag

Kyushu : Day5-6 Fukuoka - BKK เมื่อคืน นั่งประทับใจคู่รักเมื่อคืนอยู่นาน โด๊บเหล้าบ๊วยไปด้วย เมื่อคืนหลังจากที่ชิมโรล B speak ไปคนละนิดหน่อย ถึงขั้นต้องหาปากกาเมจิกเขียนหน้ากล่อง  Eat me, please!!!  แล้ววางไว้จุดเด่นที่สุดของตู้เย็นเลย ไม่ไหวจะเคลีย์ จุดเริ่มต้นของวัน ไป tenjin ออกเวลาเดิม ไปรอคิว  ได้คิวที่ 6 ของคงไม่เหลืออะไรเท่าไหร่ เพื่อนขอให้ได้ไป ก็ไป ไปเก็บตกผ้าเช็ดหน้า กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง เสื้อ ข้างนอกฝนตกจนเซ็งจนชิน ก็เลยวันนี้เป็นเด็กโตในห้างหาไรกินง่ายๆ  เค้าจัดอาหารเป็นเซ็ตไว้ ไม่แพงเลย เยอะ อิ่ม ไก่อันนี้อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พอเบื่อ Iwataya ก็ไป Canel city เข้าร้านรองเท้า  พูดเลย ซื้อเพราะผู้ชาย!!!!! ABCクッキング JR博多シティ กลางวันนี้ไปสั่งลาอิชิรัน จะซื้อแบบกลับบ้าน ก็หมด เสียใจ วันนี้เก็บตกจริงๆ ที่อื่นไม่ไปละ เหนื่อย เดินใน canel แทบจะทุกชั้น รองเท้าสองคู่นี้ กลับมาจนวันนี้ก็ยังอาลัยอาวรณ์อยู่ ยืนเล็งอยู่เป็นสิบนาที ซื้อไม่ซื้อ  แล้วก็ใขแข็งไม่ซื้อ ตอนนี้เสียใจมาก ส่วนที่หนีบผม เพื่อนไปได้ที่หนีบผมสีชมพูจากร้านโทโทโร่ ประมาณนี้แหละ เกือบ 2,000 เยน เมื่อเที่ยง ที่นี่มีร้านโทโทโร่ มีเราเลยไปซื้อเหมือนกัน เดินออกจากร้านไม่ทันไร เจออันนี้ คือแบบ สวยกว่ามากกกกกกกกกกกกก ทำไงดี  คิดเป็นเงินไทยเกือบห้าร้อย ใจแข็งไม่ซื้อ ตอนนี้ยังคิดถึงอยู่ อยากได้ วันนี้หมดเงินไปเยอะมาก มากจนไม่จดไม่คิดแล้ว ปล่อยไปตามกรรม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แล้วก้ไปกินซูชิสั่งร้านประจำ ราคาร้านซูชิเจ้าประจำ ระหว่างนั่งรถเมล์กลับ เจอร้านโมเดล ฟัคคคคค  เจอหลายสิ่งที่อยู่ใกล้ที่พัก แวะให้หมด และเงินก็หมด อยากจะบ้าตาย เดินเข้าเดินออกร้านสะดวกซื้อ สนุกดี ตอนเก็บของ อยากจะมีปืนคนละกระบอกยิงพลัดกัน  เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก น้ำหนักเต็มพอกัด พอเช้ามาก็เอาของมารอหน้าประตูเดินออกไปเรียแท๊กซี่ไปสนามบิน ก็ไม่ได้แพงอ่ะ  ร่ม เอาถุง baobao ห่อกลับมาอย่างดี ถึงประเทศไทย ไม่เจอจ้า  คือโอซาก้าร่มต้องโหลดที่ฟุกุโอกะคนถือขึ้นเครื่องให้รึ่ม คือระ ไม่งั้นถือมาก็ไม่หายละ ไปแต่เช้า เข้าเช็คอินเร็ว เพราะเป้าหมายสุดท้าย  คือของในดิวตี้ฟรี มีเวลาสอง ชม เอง เดินแป๊บๆก็หมดแล้ว ก่อนเดินไปขึ้นเครื่อง ทางออกมีตู้กดน้ำ จะได้ไม่ต้องไปซื้อบนเครื่อง แพง ขึ้นเครื่องหลับสบายกว่าเดิม เพราะหมอนรองคอมูจิ นี่ไม่พูดเล่นนะ ของเค้าดีจริง จำเรื่องน้ำแข็งโง่ๆได้ไหม น้องมาอธิบายว่ามันเป็นแก้วสำหรับกดกาแฟ ตอนนั้นยังไม่เก็ตนะ มาเก็ตวันสุดท้าย สรุปก็คือ แก้วที่ใส่น้ำแข็ง มันเป็นราคาของกาแฟเย็น จ่ายเสร็จก็ไปแกะที่เค้าเตอร์ กดกาแฟสด(ไหม?)ลงไป มีไซรัป คาราเมล ครีม ฝาปิด หลอดเตรียมไว้ หน้าเด็กร้านแรกที่เห็นเราเทโค้กใส่ลอยมาเลย เข้าใจละว่าขำไรกัน  นอกจากนี้ยังมีแก้วกาแฟปั่น แกะแล้วบีบแก้ว และกดกาแฟใส่ เติมคาราเมล โอ้ย หร่อย แล้วที่เห็นจะมีแก้วราคาร้อยเยน เพื่อนเรามั่นใจมาก ว่านี่ละแกราคาน้ำแข็งเปล่าจริงๆเว้ย นางก็ซื้อส้มมาใส่ กินสบายอุรา จริงหรือไม่วานบอก กลับมาถึง ซัดส้มตำชุดใหญ่เลยจ้า ปรกติเราเป็นคนกินเผ็ด ไปญี่ปุ่นไม่ได้กินพริกเลย อยู่ได้นะเพราะอาหารเค้าอร่อย แต่ตอนไปฮ่องกงต้องพกพริกขี้หนูไปนะ เดี๋ยวจะกลับไปอีก เก็บเงินก่อน   Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557     Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 21:16:56 น. Counter : 1789 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Kyushu : Day4 Beppu - Yufuin วันนี้ต้องออกแต่เช้า เป็นเวลาออกจากที่พักที่ควรจะเป็น เพราะจะไม่ไปดูกระเป๋า ไม่เข้าห้าง ออกเที่ยวแต่หัววัน เพราะสองที่ๆจะไป นั่งรถไฟไปไกลโพดดดดดด  ตารางรถไฟวันนี้ 07.45hakata-11.00beppu มีเวลาสองชั่วโมงเที่ยว Beppu 13.12beppu-14.16yufuin มีเวลาสามชั่วโมงเที่ยว Yufuin 17.07yufuin-19.17hakata (Yufuin no Mori) ตื่นตีห้าครึ่งแหนะ เมื่อคืนเพื่อนซื้อซูชิซาบะดองมาหนึ่งแถว ส่วนเราซื้อาหารลดราคาที่ห้าง Hankyu ไว้เพื่อเอามากินเช้านี้ แต่ก็แวะซื้อขนมปัง นม และน้ำมาเผื่อด้วย กลัวอดอยาก ชิวมาก เดินเอื่อยเชื่อย เพราะเผื่อเวลาไว้เยอะ  พอขึ้นไปบนสถานี เห็นร้านของของ ขอไปเหล่ เผื่อมีไรน่าสนใจ เจอพี่เค้ากำลังเติมเครื่องดื่มพอดี  บนสถานี JR เค้าจะมีที่นั่งติดแอร์ให้ด้วยแหละ ก็เข้าไปนั่งรอ สบายใจ  จนเกือบใกล้เวลา 7.45 ทำไมยังไม่มีวี่แวว ไปถามนายสถานี เค้าบอก ขบวนนี้นี้เลยจ๊ะ จะออกแล้ว  ให้ไว ป๊าดโถ่ววว คันนี้จอดรออยู่นานละนะ เวลาที่บอก คือเวลารถออกนั้นเอง ก็วิ่งอีกจนได้ ขึ้นรถนั่งเรียบร้อยก็ซัดเลย อะไรที่ซื้อมาแกะให้เรียบ อิ่มแล้วก็นอนเลยจ้า มีเวลาพักผ่อนกว่าจะถึงที่หมายตั้ง สามชั่วโมงสิบห้านาที  ตื่นมาอีกทีถึง Yufuin แล้ว เห้ย หันมองหน้าเพื่อน ทำไมเราหลับกันยาวนานงี้ ...เพราะหมอนรองคอค่ะ มีใครติดหมอนรองคอเวลาเดินทางบ้าง? เซิสหาเค้าว่ากันว่าของมูจิเนี่ยเด็ด ไปถึงร้านอย่างแรกมุ่งไปเลยหมอนรองคอ ลองใช้ที่ร้าน แม่ง สบายตรงไหนว่ะ แล้วยังไง แน่นขนาดนี้จะนอนยังไง แต่ก็ซื้อมา กลับมาห้องลองอีก เฟี้ยไหนว่าสบายฟ่ะ วันนี้เอาติดไปด้วย หลังจากซัดมื้อเช้าเรียบร้อย เอาหมอนมาใช้ ก็ยังบ่นอยู่ แต่...ตื่นอีก มองหน้ากะเพื่อน!! สบายโคดดดดดดดด รีบลูบขอโทษหมอนเลย ก็หลับๆตื่นไป จนถึงที่หมาย เราก็ไปที่จุดบริการข้อมูล บอกเค้าว่าเรามีเวลาสองชั่วโมง จะสามารถไปเที่ยวไหนได้บ้าง เค้าก็ให้ตารางรถบัสมา บอกจุดที่จะลง จุดบ่อน้ำพุร้อนที่จะต้องไป บอกทางกลับ ต้องให้ทันรถเมล์รอบนี้นะ คุณถึงจะทันรถไฟที่คุณจองไว้ ใช้เวลานั่งรถบัส ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ตามรีวิวเลยคือเห็นป้ายใหญ่ๆฟ้าๆ กดกริ่งเลยรถบัสจะจอดหน้าทางเข้าน้ำพุร้อนบ่อฟ้า เดินตรงเข้าไป มีบ่อเล็กบ่อน้อย บ่อฟ้า Blue Hell 佐伯中央病院. ต้องเสียค่าเข้าชม 400 เยน ระหว่างทางสัมผัสได้กับไอน้ำอุ่นๆ เหมือนอยู่ห้องอบไอน้ำตลอดเวลา เหงื่อซึมเล็กน้อย พอเจอบ่อฟ้า โอ้วววววโห งามอ่ะ เพื่อนขาช้อปปิ้งบอก โอ้ย เห็นแค่นี้ กุคุ้มล่ะ เราเอาไม้เซลฟี่ไปด้วย พึ่งได้เอาออกมาเล่น ฝรั่งที่มาเป็นคู่มองแล้วยกมือให้หลายคู่เลย อิจฉาใช่ม๊า เราก็ทำเวลา ไม่อยากรีบออกไปรอรถเมล์ชิวๆ พอออกไปริมถนน หาป้ายรถเมล์ไม่เจอ คือพิกัดในแผนที่ ออกมามันต้องเลี้ยวซ้าย เดินไปหา ก็หาไม่เจอ เจอฝรั่งประสบปัญหาแบบเดียวกัน นางเลยเดินไปทางซ้าย แล้วหยุด สรุปป้ายรถเมล์ ขากลับไปทางซ้ายหลังเสาไฟฟ้าจ้า.... ถึงสถานีก็ซื้อของกิน ซื้อน้ำ ไส้กรอก ขนมห่อ เวลาอีกประมาณชั่วโมงก็จะถึง Yufuin เพื่อนสติแตกอยู่กับตุ๊กตาตัวนี้  ซื้อได้ที่ร้าน Yufuin Floral Village【湯布院フローラルヴィレッジ】หลากหลายรูปแบบมาก  เราซื้อตัวเล็ก เพราะตัวใหญ่แพงโพด ไหนจะโทโทโร่อีก ドングリの森. เดินไปเรื่อยๆ ฝนตกจ้า เอ๊ะเดี๋ยวนะ เมื่อเช้าเราเอาร่มมาคนละคัน ร่มไปไหน ร่มหายใช่ไหม แกไม่มี ชั้นก็ไม่มี เยี่ยมมมมมม ลืมไว้ในห้องรอรถไฟเมื่อเช้าอ่ะ  เลยต้องสอยร่มใหม่อีกคนละคัน เดินจนเจอร้านทาโกะยากิยักษ์สั่งเซ็ทกิมจิ อร่อยยยยยยย และ ร้อนมาก คือถ้านอนค้างเมืองนี้ จะสุขกว่านี้อ่ะ ที่เดินเยอะแยะ นี่ไม่ได้เดินไปแม่น้ำ ภูเขากับเค้าหรอก ฝนตก เซ็ง ฝนกำลังมา... เส้นทางที่เมืองนี้ เหมือนถนนคนเดินเลย ร้านขายของจุกจิกเต็มสองข้างทาง ก็เดินเข้าไปเรื่อยๆ มีเวลาตั้งสามชั่วโมง เจอร้านไหนน่ารักก็เข้าไปดู เจอไอติมก็แวะกิน  สำหรับ B Speak มีคนรีวิวไว้ว่า ไป Yufuin มีร้านขายแยมโรลอร่อยมากถึงขั้นกินหมดแล้วอยากจิกลับไปซื้ออีกก้อน ไปถึงร้านขนาดเล็กหมด จัดขนาดใหญ่มาให้สาแก่ใจ พิโถ่... แยมโรลบ้านเราทั่วไปเด็ดกว่าเยอะ ชีสเค้กเมื่อวานอร่อยฝ่าแยะ เดินจนเหนื่อย ก็เดินย้อนกลับมาที่สถานี จ่ายตังจะได้ผ้าขนหนูผืนเล็กมาหนึ่งผืน  ไปแช่เท้ารอรถไฟ ปล. น้ำร้อนโฮก รถไฟผ่านไปมา เงินไทยเกือยห้าร้อยนะ เป็นบ้า สติไม่ดีตอนซื้อ ซื้คนละคู่ด้วย รถมาแล้ว เป็นหนอนเขียวน่ารักน่าชัง ข้างในก็ไม่มีไรหรอก ฮา  เดินไปเสบียงอาหารตามเคย กินทุกที่จริงๆ เพื่อนสั่งบะหมี่กรอบราดหน้า  เป็นแบบ frozen แกะเห็นๆ อุ่นเห็นๆ  เค้าแจก และมีขาย อร่อยดี เราก็กินไอติมอีกตามเคย กินอิ่ม นอนหลับยิงยาวกลับเมือง  ถึงฮากะตะ จับแท็กซี่ไปอิวาตายะ เพื่อนจะไปดูกระเป๋า  จากนั้นก้นั่งแท็กอีกตามเคย คือเมื่อยแล้วอ่ะ จากเทนจินเดินไปขึ้นใต้ดินคือเดินไกลมาก  นั่งแท็กเลยแล้วกัน แท็กซี่ที่นี่ ถ้าเรียกแล้ว ไม่รู้ทางเราก็ขึ้นได้นะ เพราะเค้าก็ติดต่อส่วนกลาง ว่าสามารถไปทางไหนได้บ้าง ถึงที่หมายสบายๆ ไป Canel City เรื่องของเรื่องคือ กลับห้องไวไม่ได้ ช้อปปิ้งต่อเลย  ก่อนช้อป ต้องกินก่อน ชั้นบนจะรวบรวมราเม็งแชมป์เปี้ยนเอาไว้หลายๆร้าน คือไม่รู้จะเข้าร้านไหนดี เพราะคนก็เยอะเหมือนๆกัน พิจารณาจากหน้าตาคนทำแล้วกัน ラーメンスタジアム. เราสั่งแบบเผ็ด เพิ่มไข่  ส่วนตัวว่ามัน Oily ไป ถ้าเทียบสามร้านที่กินนะ ราเม็งข้อสอบอันดับหนึ่งเลย  เดินวนไปวนมา ดูของเล่นเด็ก ของเล่นผู้ใหญ่ เสื้อผ้า เรื่อยเปื่อย เจอชาไข่มุก Moomin Bakery&Cafe@キャナルシティ. จนร้านปิดก็เดินไปป้ายรถเมล์ กลับฮากะตะ วันนี้มั่นใจกับการเดินออกมาหาป้านรถเมล์มาก ไม่ต้องเดินไปวนมา ตะ ตะ แต่ปรากฏแว่...รถเมล์หมด ยื่นหันซ้ายหันขวาเจอคู่รักเลยขอความช่วยเหลือ คือทุกคืน ถ้าไม่เดินหลงไปมาหาป้ายรถเมล์ก็เรียกแทกซี่หลายคันมากกว่าจะได้ เพราะไม่เอาแผนที่ไป หาในเน็ตไม่มีชัดเจน คู่รักก็พยายามช่วยเหลือ เลยบอกไปว่าช่วยบอกคนขับได้ไหมว่าให้พาไปสถานี hakata แล้วจะบอกทางไปต่อเอง เราต้องไปเริ่มจากที่นั้น เค้าก็เจรจาอยู่นานจนเค้าบอกว่า เดี๋ยวเค้าจะไปสถานีใกล้ๆ ไปด้วยกัน ก็นึกว่าให้เราไปลงแถวสถานีรถไฟที่เค้าจะไป แล้วไปหารถเมล์แถวนั้น  นั่งไปซักพัก เค้าก็คุยกับคนขับกัน ติดต่อวิทยุไปส่วนกลาง คือเราสองคนไม่รู้หรอก เข้าใจว่าเราจะไปลงระหว่างทางเค้าซักพัก เข้....เข้าปากซอยแล้ว เค้าก็หันมาถาม ใช่ไหมๆ เราก็ เห้ย ใช่ๆๆๆ เค้าก็ใช่ใช่มะๆ แล้วสี่คนก็ช่วยกันตรบมือ ‪‎คือฟังญี่ปุ่นไม่ออกว่าจะมาส่ง‬ เพื่อนบอกว่าเค้าพูดกันว่าเราสองคนจะกังวลไหมว่าเค้าจะพาไปไหนคน ผญ บอกให้ ผช พูดอิ้งให้เราสบายใจว่าจะพาไปส่งถึงที่ ‪ผช ก็แซะ ผญ พูดเองไม่เป็นอะดี้ เพราะ ผช พูดอิ้งได้เก่งกว่า เราสองคนอึ้งจนได้แต่ขอบคุณ‬ ‪ขอบคุณนะ‬ ลงจากรถก็จับมือกัน ตอนนั้นตกใจ อึ้ง ไม่คิดว่าเค้าจะมาส่ง เจอเดินไปส่งก็ประทับใจแล้ว นี่นั่งแท็กซี่มาส่ง  รักนะ คนญี่ปุ่น  ตอนนั้นคือแบบ ทำไมเราไม่ให้นามบัตรเค้า เผื่อเค้ามาเที่ยวไทย  หรืออะไรยังไง คือประทับใจเค้ามากสุดๆ   Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557     Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 20:34:26 น. Counter : 1796 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Kyushu : Day3 Nagasaki วันนี้ตั้งใจไป Nagasaki เมืองโรแมนติกของคิวชู อยู่ไกลจากฟุกุโอกะประมาณ สามชั่วโมง แต่ก็ต้องออกสายหน่อย เช้านี้เพื่อนออกไปต่อคิวซื้อกระเป๋าตั้งแต่หกโมงเช้า ส่วนเราขอออกไปเวลาเดิม เดี๋ยวตามไปนะจ๊ะ อย่างที่เคยบอกว่าจะไป tenjin มีรถเมล์ไปได้สองสาย ที่ทางโฮสเตลได้ให้ข้อมูลไว้ วันนี้สาย 44 มาก่อนเลยขึ้นเพราะคิดว่ามันก็ผ่านไปแถวเดียวกัน  ปรากฏว่า ลงคนละป้าย มองไม่เห็นจุดคุ้นเคย หลงอีกล่ะ เซ็ง เดินๆหาตึก หาห้างไว้ก่อน เพราะมันกระจุกอยู่ด้วยกันนั้นแหละ ผ่านไปสิบนาที ยัง ยังไม่คลับคล้ายคลับคลาอะไรเลย เจอคนกวาดขยะพอดี คีย์เวิดคือ อิวาตายะ ดีพาร์ทเมนท์โตะ เค้าก็ชี้ในแผนที่ให้ไปทางนี้ๆ โอ้ยยยยย ไกลง่ะ คุณหลอกดาวทำไมสาย 44 พอถึงอิวาตายะ กะว่าเพื่อนต้องติด 1 ใน 10 ของคิว ปรากฏว่า นางได้คิวที่ 18 ส่วนเรา 20  ไหนแกว่ามาแต่เช้า ห่างชั้นสองคิว นางบอกว่า คิวแรกมาตีห้าย่ะ  แล้วพวกเกาหลีข้างหน้า ลงเครื่องดิ่งมาที่นี่เลยลูกเต้ากระเป๋ามาพร้อมกางกระดาษหนังสือพิมพ์นั่งรอ โอ้ย...อยากจะบ้า คิวก่อนหน้าเพื่อนสามคิว เค้าคือคิวแรกของเมื่อวานเป็นคนจีน สงสัยเมื่อวานได้ปิรามิตไปแล้ว วันนี้ชิวๆไม่ต้องมาเช้ามาก วันนี้คนเกาหลีเยอะมาก ก่อนหน้าเราสองคิวก้เกาหลี สองคิวหลังจากเราก็เกาหลี ได้คุยกะคิวหลัง นางบอกว่า เคยมาแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อเพราะตอนนั้นไม่มีคนนิยม ตอนนั้นนางไปโอซาก้า เราก็บอก ใช่ๆ โอซ้าก้าไม่มีคิว เราก็ซื้อได้ปรกติ นางก็เสียใจที่ไม่ได้ซื้อมา พอมาเที่ยวที่นี่ เห็นคิวแล้วจะเป็นลม นางบอกอยากได้สีขาว แต่ก็ไม่รู้จะถึงคิวแล้วได้ไหม เราก็บอก สีๆก็สวยนะ ของจริงเห็นแล้วสวยมาก ถ้ายังเหลือ ลองดูๆ ก็คุยกันเรื่อยเปื่อย นางนั่งเรือมาจากปูซาน เราก็บอกเรากะจะไปปุซานนะ แต่ค่าตั๋วเรือแพง เราเลยเที่ยวเฉพาะญี่ปุ่นแทน ส่วนพนักงานที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่วันแรก นางเป็นคนสิงค์โปร มาทำงานที่นี่ ชวนให้เราไปเที่ยวสิงค์โปร เราก็บอกเราไปมาเมื่อนานมากแล้ว นางก็ถามไปเที่ยวไหนมาบ้าง นั้นนี่ นางแอบบอกว่า เมื่อเช้านางถามคิวแรกว่า วันนี้มาตีห้า พรุ่งนี้จะมากี่โมง คิวแรกเค้าบอกไม่บอกแล้ว บอกไปเดี๋ยวมีคนมาก่อน พอห้างเปิด กว่าจะถึงคิวเพื่อน คนจีนคิวก่อนหน้านางซื้อเสร็จ ตอนออกมาส่งสายตาให้เพื่อนประมาณว่า ไอ้ที่เธออยากได้ ชั้นสอยมาหมดแล้วจ๊ะ นางซื้อได้หกใบอ่ะ คือฮา หน้านางชนะมาก เพื่อนเราเข้าไปก็ได้แต่ของที่ยังไม่ได้อยากได้เท่าไหร่ แล้วก็ไปซื้อเสื้อ Comme des GARCONS. ฝากซื้อ ซื้อฝาก เพราะเราว่า เนื้อผ้ามันแบบ หยาบอ่ะ แพงไรอ่ะ  ซื้อขนมชั้นล่าง คือเค้าให้ชิมเยอะหลายสิ่ง ไปตกหลุมรักชีสเค้ก ชิมปุ๊บ ควักตังจ่ายเลย อร่อยมาก เค้าก็แพคน้ำแข็งให้ เราก็ยังไม่รู้จะเอาไปกินกันตอนไหน พอออกมาข้างนอก ฝนตกหนักมากกกกกกกกกก เราก็เลยกลับเข้าไปเดินในห้าง ยกเลิกการไปนางาซากิ เพราะไปตอนนี้ สามชั่วโมง บ่ายแก่ กว่าจะเที่ยวกว่าจะกลับ เปลี่แผนไปปราสาทคุมาโมโต้ ฝนก็ยังตกไม่หยุด เลยไม่ไปล่ะ งอน ก็เลยช้อปปิ้ง ใช้เวลาในไดโซะนานมว๊ากกกกกก สามสี่ตระกร้าคือเต็ม สุขมา อยู่ในนี้ ได้เวลาหิว นึกขึ้นได้ราเม็งข้อสอบหรือ Ichiran มีสาขาอยู่แถวนี้ ซึ่งก็ไม่ไกลจากไดโซะที่เราอยู่เท่าไหร่ หอบข้าวของไปกินราเม็งกัน หยอดซื้อก่อนเข้าเราเพื่อนเพิ่มหมู ด้วย พอขึ้นชั้นบนนั่งเข้าคอกก็ทำการเลือกต่างๆนาๆ เส้นแข็งแค่ไหน ใหญ่ไหม น้ำซุปมันมากน้อย เราเลือกเผ็ดระดับแปด เสี่ยงก่อน กว่าสิบจะเผิดเกิน ส่วนเพื่อนที่เพิ่มหมู เหมือนหมูไม่ได้เพิ่มเลยต้องสั่งเพิ่มที่คอก คือ อร่อยมาก อร่อยสุดๆ ยกซดเลย เผ็ดอร่อย น้ำซุปกลมกล่อม อร่อยมากกกกกกก 970 เยน ท้องอิ่ม ก็ไปช้อปปิ้งต่อเมื่อวานที่เจอกลุ่มคนไทย เค้าแนะนำให้ไปร้านค้าแถวที่พักเค้าคือถัดจากฮากะตะไปไม่กี่สถานี เราก็ถ่ายรูปจากหน้าจอไอแพดเค้ามา การหอบของมากมายไปด้วย ไม่ใช่เรื่องง่าย เหนื่อยมากกกกก พอไปถึงจุดหมาย หาล็อกเกอร์ก่อนเลย แล้วก้เดินตัวปลิวไปตามแผนที่ เดินไกลมากกกกก ยังไม่โผล่ดินเลย เดินใต้ดินนี่แหละ พอโผล่ขึ้นไป หาไม่เจอ ยืนงงกันอยู่เกือบสิบนาที เลยเดินวนไปวนมา ปรากฏว่าที่จะมาไม่ได้ไป ได้ไปที่ไม่ได้จะมา  ดองกี้ ドン・キホーテ(Don Quijote)中洲店. นั้นเอง ลุยค่ะ ทางเข้าหารถเข็นไม่เจอ เจอแต่ตระกร้า สามตะกร้าอีกแล้ว ไอ้นั้น ไอ้นี่ น่าสนใจ มีตั้งแต่ขนมยันยาฆ่าแมลง เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ปากกา ของแบรนด์เนม มีทุกอย่าง โซนเครื่องสำอางค์ วิตามินนี่ เรียกได้ว่าสิงสู่ เราเจอรถเข็นละ สามตระกร้า คำนวณเงินก่อน ดูคร่าวๆ กระเป๋าพังแน่ กดเลขไปมา สามหมื่นฝ่า!!!! จะบ้าเหรอ นี่ยังไม่ได้หยิบฝักบัวเลยนะ คืออยากได้ฝัดบัวเค้า รูเล็กละเอียด ฝอย อาบแล้วมีความสุขมากเลย สองพันกว่าเย็น เจอสามหมื่นกว่าเข้าไป หยิบคืนแทบไม่ทัน ถามตัวเองซ้ำไปมา อันนี้จำเป็นมะ อยากได้มากมะ ราคารวมเลยเหลือ 18,000 เยน จะบ้าตาย ไม่อยากจะคิดตอนกลับ ของเดิมไดโซะที่เยอะมากมายอยู่แล้ว นั่งรถไฟกลับไปฮากะตะแล้วต่อแท็กซี่กลับที่พักก่อนเลย ไม่ไหวจะเคลีย  ไหนจะกระเป๋า ผ้าเช็ดหน้า ของเล่นเด็ก ไดโซะอีก ดองกี้อีก อยากตายมาก กลับถึงห้อง ไม่อยากจะรื้อของเลย แกะขนมมานั่งกิน คือขนมก็ซื้อมาเยอะนะ เพราะกะซื้อไปกินในรถไฟไปนางาซากิ ฟินสุดร่อยสุด ชีสเค้ก ซื้อเมื่อตอนสายๆ เรากลับมาบ่ายมากแล้ว มันยังเย็นอยู่เลย แต่ก็กินไม่หมดก้อนใหญ่มาก พักซักแป๊บก็ออกเดินทางต่อไป ใช้ชีวิตในห้าง Hankyu และ Parco เพราะช่วงเช้าจัด Iwataya จนเบื่อแล้ว เดินเข้าเดินออกละลายเงินเยน รุปเริบไม่ถ่ายละ ลืมไปเลย ช้อปปิ้งอย่างเดียว เพื่อนก็ไปคลุกอยู่ชั้นของเล่นเด็ก เราก็ไปชั้นเครื่องครัว จนเหนื่อยมากห้างใกล้ปิดก็ลงมาหาไรกิน ข้างนอกฝนตก เค้าก็จะแพคใส่ถุงพลาสติดกันเปียก สิ่งที่กินทุกวัน ตอนเย็นก็คือ น้ำส้มคั้นสด แก้วละประมาณ สองสามร้อยเยน กินเอาวิตามินซีเข้าร่าง เพราฝนตก ร่างกายอ่อนเพลีย  ส่วนมื้อเย็น ไปกินซูชิร้านเดิม เดินขึ้นมา เจอแถวร้านครัวซองที่เค้าว่าเทพมากกกกก สั้นก็เลยต่อคิวซื้อลองชิมดู เค้าขายเป็นขีด กี่อันก็แล้วแต่จับชั่งหมด ร้านนี้เราได้กลิ่นตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่แล้ว และได้กลิ่นทุกวันเพราะต้องผ่าน มันอบอวนและสร้างความคาดหวังให้เรามาก มันหอม ชื่นใจ  เราว่ามันเฉยๆอ่ะ ไม่ได้อร่อยมากมายขนาดนั้น  ชีสเค้กก้อนนั้นยังสร้างความประหลาดใจให้เรามากกว่า   Create Date : 16 พฤศจิกายน 2557     Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 20:34:39 น. Counter : 2446 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Kyushu : Day2 Kumamota-Aso เมื่อหลับสบายไหม สบายค่ะ เพราะกินยาคลายเส้น ห้องที่พักก็เป็นห้องแคบแค่พลิกตัว เตียงสองชั้น เมื่อคืนกลับมาก็แยกย้ายกันอาบน้ำ ที่นี่มีห้องอาบน้ำชั้นล่างและชั้นสาม ส่วนห้องน้ำมีทุกชั้น อาบเสร็จก็มานั่งซัดข้าว ซักขนมก่อนนอน หลับยาว  ตื่นมาอีกทีราวๆ 7 โมงเช้า เราไม่สามารถออกเที่ยวได้แต่เช้าเพราะต้องไปต่อคิวซื้อ baobao เวลาห้างคือ 10 โมง ออกจากห้องราวๆ 8 โมงนั่งรถเมล์ สาย 114 ไปแถว Tenjin ตอนขึ้นรถเมล์ประตูกลาง ทางขึ้นจะมีกล่องยื่นตั๋วอัตโนมัติมาแบบนี้ บนหน้าจอจะแสดงให้เห็นว่าเวลาลง เลขที่เราได้มา จะต้องจ่ายเท่าไหร่ เริ่มที่ 100 เยน เดินซอกแซกนิดเดียวก็เจอห้าง Iwataya สิ่งที่เห็นคือ มีคนมาต่อคิวรออยู่แล้ว  เราได้คิวที่ 22-23 คิวรกมา 7 โมงค่ะ ก็นั่งรอไปตั้งแต่ แปดครึ่งถึงสิบโมง ระหว่างนี้มีพนักงานห้างมาดูแลพูดคุยด้วยตลอด แจกผ้าเย็นคลายร้อน ตอนนี้หิวมากกกกกกกกกกก เมื่อใกล้เวลาห้างเปิด ไม่ต้องรีบวิ่งเลย (ตอนไปโอซาก้า ไม่มีแถวนะ ห้างเปิดก็เดินชิวๆไปซื้อได้เลย) เพราะไปถึงหน้าร้านก็ต้องรอตามคิว ปล่อยให้เข้าไปที่ละสองคน ตอนนี้แหละ ปวดใจ ร้าวรานมาก เพราะต้องยืนดูคนเข้าไปก่อนหยิบใบดีๆสวยๆไปต่อหน้าต่อตา ค่อยๆหายไปๆ หนึ่งคนได้โควตาซื้อคนละสองใบ ของก็เริ่มหมดลงเรื่อยๆ เกลียดกระเป๋ายี่ห้อนี้เพราะการตลาดเค้ามาก ของแต่ละวันลงตามโค้วต้าของก็น้อย  กว่าจะถึงคิวเกือบสิบโมงครึ่ง ถึงคิวก็ชี้ๆ จ่ายๆ รีบง่ะ ตัดสินใจเดี๋ยวค่อยกลับมาขอภาษีคืน ไปเที่ยวก่อนเพราะต้องการนั่งรถไฟต่อเดียวยิงยาวไป Kumamoto เลยเราพักที่ Hakata เมื่อกี้ไป Tenjin ตอนนี้ต้องกลับมาที่ Hakata เพื่อจับรถไฟไป Kumamoto ถ้าใช้เวลากับการเลือกที่พักมากกว่านี้หน่อย คงไม่ต้องวิ่งไปมา ฮ่าๆ ขึ้นรถไฟ ถ้าไม่ทัน 11:15 ก็จะรอ 11:28 เพราะไม่อยากเป็นขบวนที่ต้องต่อรถ พอซื้อกระเป๋าที่ Iwataya เสร็จ ต้องรีบไปซื้อที่ Hankyu พอไปถึงของหมด  ก็รีบลงไปชั้นล่างเพื่อซื้ออาหารเช้าเอาไว้กินบน รถไฟ shinkansen ก็ได้ซูชิ ข้าวปั้นง่ายๆ แล้วก็กระหืดกระหอบไปหาตู้ฝากของ เพราะจะแบกระเป๋าที่ซื้อมาไปด้วยก็ไม่ไหว ส่วนชานชาลาซึ่งไกลพอสมควร กว่าจะถึงกดน้ำไปคนละสองขวดอ่ะ เหนื่อยมาก คือภายในรึ่งชั่วโมง สิ่งที่ต้องทำเยอะมาก และๆ รีบมากจนไม่ได้จองที่นั่ง เลยต้องไปขึ้นขวนที่1-3 สำหรับคนที่ไม่ได้จองที่นั่ง เดินทุกโบกี้ ที่นั่งไม่ค่อยมี แต่โบกี้อื่นโล่งนะ จะไปเนียนไปนั่งก็ไม่ได้ พอรถไฟเคลื่อนตัวเท่านั้นแหละ ทุกคนพร้อมใจกันยกกล่องข้าวมากินอย่างพร้อมเพรียง เราสองคนเป็นชอบซื้อ ซื้อมาเพียบเลย กินไม่หมดเป็นภาระหอบหิ้วอีก ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เที่ยงก็มาถึงที่หมาย กำลังจะเดินไปปราสาท  คิดขึ้นได้ว่า ลองไปดูว่าที่นั่งรถไฟไป Aso ขวบ Aso-boy ว่างไหม อยากนั่งขบวนนี้ปรากฏว่าว่าง เดินออกมา ระหว่างที่รอรถไฟก็มีร้านค้า ร้านของฝากให้เดินเล่น แล้วก็ไปรอรถไฟเวลา 13:54 ก็เป็นขบวนน่ารักมุ้งมิ้ง จะถึงที่หมายกันตอน 15:14 พอขึ้นรถไฟก็ออกเดินเล่น ถ่ายรูป ซื้อไอติมกิน ชิวๆ และ...ฝนเริ่มตก นึกขึ้นได้ว่าต้องเช็คขบวนและเวลากลับ ปรากฏว่า รถที่จะขึ้นภูเขา Aso คันสุดท้ายคือ 15:20 ถึงภูเขา ใช้เวลาแบบคิดน้อยสุดหนึ่งชั่วโมงให้ทันรถขากลับอบสุดท้ายตอน 17:00 และจะถึงสถานีรถไฟเพื่อนกลับตอน 17:35 เปิด hyperdia คู่ไปด้วยว่าจะกลับถึง Hakata ไป Tenjin เพื่อไปทำ Tax refund ให้ทันก่อนหนึ่งทุ่มยังไง  แผนที่หนึ่งคือ เดี๋ยวสถานีหน้าลงแล้วหารถไฟกลับเลย ไม่มีแผนสอง รถไฟจอดปุ๊บ ลงเลย ถามพนักงานว่าเราไม่ไป จะกลับฮากะตะ รถไฟจะมาตอนไหน เท่านั้นล่ะ นางเดินขึ้นขบวนไปเอาหนังสือเท่าสมุดโทศัพท์หน้าเหลืองมากาง ตารางรถไฟยั๊วเยี๊ยะมาก และสถานีที่เราอยู่ตรงนั้นคือ สถานีที่มีแต่จุดลง ไม่มีคน ไม่มีออฟฟิต เราเลยบอกนาง ไปต่อกันเถอะ คือรถไฟทั้งขบวนไม่ไปต่อเพราะนางจะหาขบวนรถไฟให้เรากลับให้ได้ ก็นั่งต่อไปจนถึง ฝนตกหนักมากกกกกกกกกกกก  และขบวนที่จะกลับไวที่สุดคือ ขบวน Aso-boy นี่แหละ เวลา 15:44 แต่เราไม่สามารถขึ้นได้เพราะมันเต็ม ขบวนถัดไปคือ 16:13 แต่มันหลายต่อ เราเลยจะรอไป 16:47 เพราะกลัวขึ้นผิดขบวน ระหว่างที่เราออกตั๋วอยู่ก็เจอกลุ่มคนไทยที่ต้องการกลับเหมือนกัน แต่เค้าเปิดเน็ตไม่ได้ ก็เลยแชร์กันเค้าบอก ไปรอบ 16:13 กันเลยเถอะ เพราะที่นี่ฝนตกขึ้นภูเขาไม่ได้ รีบกลับดีกว่า ไปด้วยกันไม่หลงหรอก เราก็เลยตามติดกลุ่มนี้ รถไฟที่เรานั่งกลับเป็นรถไฟ Local เส้นทางทุ่งนา ป่าเขา ธรรมชาติสุดๆ แล้วก็มาต่อ shinkansen sakura รถไฟใหม๊ไหม สะอาดเชียว ซื้อไส้กรอกมากิน ซองใส่ซอสเก๋เชียว ถึงที่หมายตอนหกโมงครึ่ง กลุ่มนั้นเค้าจะไปดูดอกไม้ไฟต่อ เราก็บอกเราก็จะไป แต่ต้องไปทำรีฟันก่อน อาจจะเจอกันที่นั้น จากนั้นก็รีบไป Iwataya  จัดการรีฟันเรียบร้อยก็ไปดูดอกไม้ไฟที่ Ōhori Park. ครือออออ คนเพียงตั้งกะขาไป มีแต่เด็กหนุ่มสาวยูกาตะ พอเดินโผล่ใต้ดิน คือขยับไปต่อไม่ได้ คนเยอะมากกก สุดๆๆๆ ตรงนั้นมันก็มองเห็นพลุเลยยืนดูอยู่ซักพัก แต่ แต่ มีสิ่งที่น่าสนใจกว่าพลุคือ ผู้ชายข่า.... หล่อลากมาก แอบยืนมองเค้าอยู่นาน จนเพื่อนถามมองไรว่ะ พอเห็นเท่านั้นแหละ ไม่เรียกเลยนะเมิงงงงงง แอบถ่ายรูปเค้ามาอีก ฮ่า ฮ่า ซักพักก็กลับ ไม่ได้เข้าไปในงาน  รู้สึกหิวขึ้นมาทันที กลับไปหาไรกินแถวสถานที่พัก เพื่อนรู้สึกท้องอืด พะอืดพะอม จะซื้อยาก็ซื้อไม่เป็นเลยไลน์ถามเท็ดดี้ ผู้ชำชองเท็ดดี้ก็ถามเพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่น ส่งรูปมาให้พร้อม ก็แวะไปร้านขายยา เป็นเหมือนยาเขียว กลิ่นและรสเพื่อนบอกสุดทน แต่อานุภาพรวดเร็วมาก กินไปแป๊บเดียว รู้สึกดีขึ้น จากที่เมื่อกี้จะอ้วก เดินไม่ไหว กลับเรียกร้องหาอะไรกินได้ เลยไปจบที่ร้านซูชิใต้ดินฮากะตะ เพื่อนคลั่งเกโซะหรือปลาหมึกมากถึงมากที่สุด カルビープラス博多阪急 ร้านอยู่ใต้ดิน hakata แล้วก็กลับที่พัก ไปเชยชมกระเป๋าที่ซื้อมา ขนมโดรานากิ กับกะดิ่งของโดราเอมอน ไม่อร่อยเลย สรุป วันนี้ไม่ได้ไปปราสาทคุมาโมโต้เพราะฝนตก รถเมล์ Hotel-Iwataya 280 Hakata-Hotel 200 รถไฟใต้ดิน (กะๆเอา) Tenjin-Hakata 200 Hakata-Tenjin 200 Tenjin-Ohotikoen 200 Ohotikoen-Hakata 200 เบนโตะเช้า 521 พวงกุญแจ 378 แมคเน็ท 540 Milk 152 drink 120+120+110+108 Sandwich 285 Ice-cream Aso-boy 300 ซูชิมื้อเย็น  1306   Create Date : 16 พฤศจิกายน 2557     Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 20:34:52 น. Counter : 1847 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Kyushu : Day1 BKK-Fukuoka สถานที่ท่องเที่ยว : Fukuoka, Japan พิกัด GPS : 33° 35' 23.73" N 130° 25' 13.82" E ดูแผนที่เพิ่มเติม ฟุกุโอกะ เป็นทริปญี่ปุ่นครั้งที่สอง จำเป็นต้องไปเนื่องจากหน้ามืดจองตั๋วได้ในราคาโปร จองโดยไม่ดูดินฟ้าอากาศ หรือฤดูกาล (จริงๆก็คำนึงถึง แต่น้อยกว่าราคาตรงหน้า) ข้อแม้เดียวในตอนนั้นคือ เมื่อไหร่ก็ได้ช่วงต้นเดือน เพราะเพื่อนจะไปสอย baobao จากนั้นก็ดูว่าใช้บัตร โดยสารแบบไหนตอบสนองวันและเวลา จบที่ JR Kyushu Rail pass (North Kyushu 3 วัน) สถานที่หลักๆที่ JR พาไปได้ก็คือ Fukuoka, Kumamoto, Aso, Yufuin, Beppu, Nagasaki แผนคร่าวๆก็จะเป็น 1. Fukuoka, DAZAIFU 2. Kumamoto, Aso 3. Yufuin, Beppu 4. Nagasaki 5. Fukuoka 6. BKK ตั๋วเครื่องบิน โดยสายการบิน Jetstar  14,860 บาท (กระเป๋าขาไป 15 โล ขากลับ 60 โล) ประกันการเดินทางซื้อกับ AIG คนละ 249 บาท ที่พัก ไปสองคน ไม่เรื่องมาก แค่ซุกหัวนอน ตอนแรกเลือกแบบ ดอร์ม สี่เตียง แต่เพื่อนขอให้เป็นห้องส่วนตัวได้ไหม จะได้วางของที่ซื้อแต่ละวันได้อย่างสบายใจ การเลือกที่พักดูจาก Shop baobao มีอยู่สองแห่งคือที่ Tenjin กับ Hakata หลังจากมโนเอาเองว่าเทนจินดูวุ่นวาย และที่พักยังไม่เจอที่ถูกใจ(ถูกๆ) เลยเลือกว่าจะปักหลักที่ ฮากะตะ ติดใจแบรนด์โฮสเตลข้าวสารตั้งแต่โอซาก้า(แต่ก็ไม่ได้เลือกพักนะ)  12 มิ.ย. เลยจองกับทาง hostel.com ที่ KHAOSAN FUKUOKA ANNEX :Twin Private￥36,000  ระหว่างนั้นก็ดูที่อื่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง เทดดี้ช่วงดูให้ คือเคยเล็งไว้แล้ว แต่ตอนนั้นห้องไม่ว่าง คาดว่าคงหลุดจอง 1 ก.ค. จองใหม่กับ INTERNATIONAL HOSTEL KHAOSAN FUKUOKA : Twin Private ¥27,500 สองแห่งนี้เป็นจุดกลาง annex ขึ้นไปทางเหนือ inter ลงมาทางใต้ google map แล้วระยะทางพอกัน เลยเลือกที่ถูกกว่า .Pocket Wifi เราเช่า EMobile LTE 75Mbps ￥3,500 (5วัน) ส่วนตั๋ว JR Kyushu Rail pass ￥7,200 สามารถไปซื้อที่ฟุกุได้เลย ตอนแรกก็สับสน เพราะอ่านเจอว่า JR จะต้องซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติเท่านั้น อันนี้มันสำหรับJR ที่ใช้ข้ามเมืองข้ามภาครู้แค่นี้แหละ ยังไม่ใช้ก็ยังไม่ศึกษา ฮา... กระเป๋าก็ไม่ต้องจัดอะไรมาก เพราะตั้งแต่กลับมาจากโอซาก้า อยู่ยังไงก็อย่างนั้น พวกปลั๊กสามตา ยาคลายเส้น แว่น หมอน อุปกรณ์อาบน้ำ แค่เปลี่ยนจากเครื่องนุ่งหนาวเป็นเครื่องนุ่งร้อน เครื่องออกตีสอง นัดเจอกับเพื่อนตอนห้าทุ่ม เช็คอินโหลดกระเป๋า ขอที่นั่ง A และ C ช่วงท้ายเครื่องก็ได้ตามขอ ปรกติจะขึ้นแอร์เอเชียตอนตรวจวัตถุอันตรายก็ใช้กระเป๋าใบเดิม แต่ที่นี่ไม่ผ่าน สแกนเจออุปกรณ์คู่ชีพ คือเป็นไม้บรรทัด ที่วัด ไขควง มีด ขนาดเท่านามบัตร คือมันอยู่ในกระเป๋าจนลืมไปแล้วโดนยึดแล้วเหวี่ยงลงถังขยะอย่างไม่ใยดี ตอนแรกแทบจะทิ้งตั๋วแล้วกลับบ้านพร้อมมันเลยนะ ดีว่าสติยังดีอยู่ เลยจำยอมทิ้งไป เรื่องการขึ้นเครื่อง ไม่วิ่ง ไม่ใช่เรา รอบนี้กะเวลาต้องไปถึงเกตก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงระหว่างนี้ก็เดินชมนกชมไม้ ซื้อน้ำหอม หาอะไรยัดปากไม่ให้ว่าง เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า ซื้อน้ำสิงห์ขวดละ 30 บาทขึ้นเครื่องสบายใจ ก่อนนั้นแวะเข้าห้องน้ำจัดการภาระที่พึ่งยัดตะกี้ เพียงแค่นั่ง เสียงประกาศ Final call ทันที คืออารายยยยยย หยิบตั๋วมาดู เวลาไวขึ้นครึ่งชั่วโมง วิ่งสินะ คอนเส็ปเดิม สายการบิน Jetstar เหมือน Airasia ทุกอย่าง ยกเว้นแอร์โฮสเตส แอร์ของแอร์เอจะเชิ่ดเริ่ดเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว แต่แอร์ของเจ็ท เชิ่ดเริ่ดและเหวี่ยง(ไม่ใช่คนไทยงะ) ส่วนที่นั่งก็ไม่แคบ ไม่กว้าง ไม่อึดอัดแต่ไม่สะดวก หลับยาวจ้า ตื่นอีกทีราวๆหกโมงเลยรีบไปส่งแฟกซ์ระหว่างคนอื่นยังนอนอยู่ แล้วก็กลับมานอนต่อ  ถึงเวลาท้องถิ่นเก้าโมงครึ่ง ตม.ญี่ปุ่น ยิ้มง่ายกว่า ตม.ไทยอีก หลังจากจ้องตา สแกนนิ้ว แล้วเปิดกระเป๋าค้นอย่างสุภาพ แล้วผ่านออกมาด้วยดี เป้าหมายแรกคือ Tourist Information อยากรู้แค่ที่ไหนในเมืองที่มีงานดอกไม้ไฟ ส่วนเรื่องอื่นๆทำการบ้านมาดี ไม่ต้องถามแล้ว (หร๋า) เสร็จสิ้นก็หยิบเอกสารต่างๆที่คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์มาด้วย ขึ้นรถบัสต่อรถไฟไปที่ตัวเมือง Hakata สถานี Hakata วุ่นวายมาก รีบไปซื้อตั๋ว JR ก่อนเลย ใช้พาสปอร์ต เงิน และแผนการจองที่นั่งรถไฟแต่ละขบวนที่เราต้องการ (Aso-Boy, Yufuin no Mori, Sonic) ถึงเราจะเปิดตั๋วใช้พรุ่งนี้ แต่ก็สามารถออกตั๋วทุกอย่างไว้ได้เลย ไม่ใช้ก็เอามาเปลี่ยนได้ วันนี้เราจอง Aso-boy ไม่ได้ ส่วน Sonic เวลาไม่เอื้อกับแผน เลยจองเท่าที่ได้ไปก่อน มีสติมากกว่านี้ค่อยคิด(ขาไปเต็ม ขากลับอาจจะมี ไรงี้) ใช้เวลาที่จุดนี้พอสมควรเกินครึ่งชั่วโมงอ่ะ หิวข้าว แต่อยากเอากระเป๋าภาระชิ้นใหญ่เก็บให้เรียบร้อยก่อน ต้องอดทน จากนั้นก็ไปซื้อตั๋ว FUKUOKA CITY และ DAZAIFU  บัตรเที่ยวเมืองฟุกุโอกะ มี 2 แบบคือเป็นที่เที่ยวเฉพาะตัวเมืองฟุกุโอกะและแบบที่เที่ยวตัวเมืองฟุกุโอกะและดาไซฟุด้วย บัตรนี้มีอายุการใช้งาน 1 วัน สามารถขึ้นรถได้ทั้งหมด 5 ประเภทคือ Nishitetsu Bus, Showa Bus, JR Kyushu Train, Nishitetsu Train and the Subway นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนลดในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้อีกด้วย FUKUOKA CITY ผู้ใหญ่ ￥820เด็ก ￥410 FUKUOKA CITY & DAZAIFU ผู้ใหญ่ ￥1,340 เด็ก ￥670 เราเลือก FUKUOKA CITY & DAZAIFU￥1,340 เพราะว่า วันแรกคงเปรี้ยวอะไรมากไม่ได้ เหมาจ่ายดีที่สุด ทำความคุ้นเคยก่อน นั่งได้ครอบคลุม จะขึ้นลง เข้าออกจุดไหนก็ได้ เตรียมตัวหลงเต็มที่ เค้าก็จะขอพาสปอร์ต เพราะตั๋วนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่มีสิทธิ์ ทำการขูดวัน ขูดเดือน เบ่งได้เต็มที่ เรื่องตั๋วต่างๆเรียบร้อยแล้ว เอากระเป๋าไปเก็บเถิด หิวไส้ขาด ที่สถานีนี้ เราใช้ประตูหลักคือ Chikushi การถ่ายป้ายสำคัญมาก ตอนไปฮ่องกง หลงรถไฟจ้าด้วยความคิดที่ว่า นั่งเลยสถานีก็แค่ออกมาขึ้นฝั่งตรงข้าม คือผิดงะ (ออกไปนอกชานเมือง) ค้นรูปที่ถ่ายแล้วให้แทกซี่พามา ถึงจะไปต่อได้ และป้ายรถเมล์ไปโฮสเตลเข้าออกทางนี้ ออกมาจากสถานี ยืนงงอยู่ 10 นาทีกว่าจะเจอทางสว่างที่คนเค้าเดินกันเพียงมองไปทางขวา 45องศาเท่านั้นเบื้องต้นเราทำการบ้านรถเมล์มาแล้วว่าขึ้นคันไหนได้บ้าง นั่งกี่ป้ายถึงที่หมาย พอลงเสร็จก็ดูที่ป้ายลงอีกที ว่าสายไหนผ่านบ้าง จดให้เรียบ  ถึงที่พักยังไม่ได้เวลาเช็คอินก็ล้างหน้า ฝากกระเป๋า สำรวจบอร์ดต่างๆ เค้าก็จะแนะนำว่า ไปไหน ขึ้นรถเมล์อะไร คือขึ้นรถเมล์เดินใกล้กว่าพุ่งไปที่รถไฟใต้ดินอย่างเดียว ชาข้าวตู้ ￥130 ชาองุ่น ￥130 ที่แรกที่จะไปคือ 1. Shop baobao ต้องไปสำรวจเส้นทางก่อน ไปสอบถามราคา ของวันพรุ่งนี้ ดูจุด tax refund ขอคูปองลดราคาสำหรับนักท่องเที่ยว 2. Play : Comme Des Garçons ที่ไหนมี shop ชาย หญิง  3. Onisuka Tiger ￥8,000 4. Muji ￥4,459 กว่าจะได้กินข้าวมื้อแรกเมื่อบ่ายแก่มากที่ ราเม็ง Ippudo อร่อยมากกกกกกกกก  (แบบเผ็ดเพิ่มต้นหอมและไข่ ￥960) อิ่มแล้วก็รีบเลย ไปวัด DAZAIFU วิธีเดินทางที่สั้นที่สุดก็ยังต้องใช้การเดินทางหลายต่อมาก ด้วยความชำนาญของเรา ก็เลยหลงทุกต่อ ฮ่า ฮ่า เก๋ๆ คือต่อแรก ต้องเดินไปเปลี่ยนขบวน ต่อที่สองออกไปนอกเมืองล่ะ พอต่อสอง เราคิดว่าพอออกรถไฟปุ๊บเดินมาขึ้นคันที่รออยู่ได้เลย ก็หลงสิจ๊ะ นั่งกลับมาไปบอกคนขับแล้วนะ ว่าจะไปไหน พี่จอดสถานีไหน หนูลงไว้ก่อน เค้าก็จะกวักมือเรียก ขึ้นๆมาๆ พอไปจุดเดิมได้แล้ว คุณลุงแถวนั้นทนไม่ไหว รู้ว่าหลง พาจูงมือไปส่งเลยจ้า (ที่ถูกต้องคือมาถึงนอกเมือง ที่เราเปรี้ยวขึ้นคันที่เปิดรอ เราแค่ต้องข้ามไปอีกชานชาลาหนึ่งเท่านั้นเอง) ไปถึงคือสามสี่โมง ก็เดินเล่นเรื่อยเปื่อย คนน้อยมาก ไหว้พระ ชมสวน หาขนมกิน แล้วก็กลับเข้าเมืองไปไม่ถูกถามเลยจ้า ลองชิมขนมถั่วแดง ชิ้นละ ￥120 เข้าเมืองไปไหน ไปช้อปปิ้งที่ Iwataya ที่นี่ก็มี baobao ใหญ่กว่าที่แรก ขายเฉพาะกระเป๋า แล้วก็ไปกินซูชิตามรีวิว ต่อแถวนิดหน่อย อร่อยนะ  ￥2,240 แล้วก็ไปสำรวจ Canel City อยากจิบ้า ใหญ่โตเดินไม่ทั่ว สอยอะไรได้สอยกลับมาก่อนอยู่จนเกือบสามทุ่ม ร้านค้าเริ่มปิด หาทางกลับที่พัก คิดว่าเดินเป็นกิโลอ่ะ หาป้ายรถเมล์ มันก็ง่ายนะ สายไหนก็ได้ที่ไปสถานี Hakata ซึ่งส่วนมากจะผ่าน ไม่ก็สุดสาย แต่ปัญหาคือ ป้ายรถเมล์อยู่หนายยยยยยยยยยยย ระหว่างทางเดิน กระหายน้ำมาก เพื่อนเป็นคนติดกินเครื่องดื่มใส่น้ำแข็ง จัดเลย โค้กขวด น้ำแข็งแก้ว นาทีนั้นเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ขอความสดชื่นไว้ก่อน เรียกสติกลับมาก่อนจ่ายเงินเสร็จ มันจะมีจุดบริการพวกถังขยะ หลอด ฝาแก้ว ก็เปิดแก้วน้ำแข็ง คือเจ๋งนะ มีน้ำแข็งขายเป็นแก้ว สะดวกสุดๆ ก็แกะๆ เทโค้กใส่แก้ว ระหว่างนั้น พนักงานมองเราสองคนแล้วก็หัวเราะคิกคัก มองเราด้วยความประหลาดใจ เราก็มโนเองว่า สงสัยบ้านเค้าไม่กินโค้กใส่น้ำแข็ง แต่เราร้อนไง หลิ่วตาตามไม่ได้แล้ว สนชื่นเว่ออออออออออ  เดินไปเรื่อยๆก็เจอป้ายรถเมล์ ปากซอยเข้าที่พักมีร้านอาหารสำเร็จรูป Hotta Motta ￥590 ที่มีผัดกะเพราขาย ซื้อกลับไปกินด้วย รสชาติจะเป็นลม สาบานซิ ว่าแกคือผัดกะเพรา ส่วนเพื่อนซื้อนักเก็ตจากแมคมากิน นางบอกเหมือนโจ้กทอด ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วกลับห้องอย่างปลอดภัย นอนหลับเป็นตาย ปล.กลับถึงห้องเห็นบิล #โค้ก151 #น้ำแข็งโง่ๆ180   Create Date : 15 พฤศจิกายน 2557     Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 20:35:06 น. Counter : 3794 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• ladystrawberry
• angielicious
• หลั่มหมั่นเหม่ง
• วลีวิไล
• นภชล
• พิมลพัทธ์
• bookmark
• คีตภา
• คุณ โตน
• แม่สลิ่ม
• Triny
• tiara
• The Start of something new
• ผ้าไหมไทย
• grapekmitl
• แม่ลูกแฝด
• neozero
• natnatna
• ว่าน
• pintakai
• =p o o k p u i=
• ผมหล่อแล้วผิดตรงไหน
• hydrophobia
• Kofschip
• cybrarian
• jumjee
• vad
• sochana9
• happy story
• puppadoowab
• Calamity
• +~%Chocolate Republic%~+
• cookery-girl
• เว็บเฮียแมวผู้น่ารัก
• pepsakoy
• gw
• Cozmen
• คนทับแก้ว
• Gzz
• หลานยายจุล
• AugusT[CrusheR]VeronicA
• ปีศาจตัวอ้วนหมายเลข 17~
•     Ziazs_X   
• umasa_ib
• เจ้าชายในนิยาย
• CooKiiE
• cutie bunny
• SweetYorkie
• yorky
• Cookie Nim
• คริสตอลสีชมพู
• Pattylala
• ลานตะเกียง
• poncho
• Hydryne~*
• ge-or-ge
• ppong
• khritkid
• ปูขาเก เซมารู
• sweetie bakery
• anadiar
• Tiny Bakery
• Webmaster - BlogGang

• เวบโปรดของดาลิ้ง
• บ้านแม่เจเจ
• ก้นครัว พันทิพ
• BlogGang.com