ซอมบี้กินหญ้า

และแล้วสิ่งที่ทุกคนหวาดกลัวก็กลายเป็นความจริง

2012 โลกแตก !

แต่ไม่ได้แตกเพราะปัญหาโลกร้อนอย่างที่เคยคาดการณ์กันไว้ โลกแตกเพราะ
สาเหตุอื่นที่คาดไม่ถึง

เชื้อโรคระบาด !!!

ฤดูหนาวปี 2012 ในระหว่างที่ผู้คนจดจ่อกับมหัตภัยโลกร้อนที่กำลังรุนแรง ส่งผล
ให้เกิดวิกฤตกับสภาพอากาศ พายุหิมะ ลูกเห็บ โหมกระหน่ำในหลายพื้นที่ จนทำ
ให้ผู้คนหลงลืมการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ มหันตภัยที่ครั้งหนึ่งเคยคร่า
ชีวิตผู้คนไปไม่น้อยเสียสนิท หากแต่ครั้งนี้ มันพัฒนาสายพันธุ์ให้ลึกล้ำซับซ้อน
ยิ่งกว่าเดิมโดยมีนกอพยพเป็นพาหะแพร่เชื้อ

นักปักษีวิทยาคนหนึ่งเริ่มสังเกตเห็นฝูงนกที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรียมีอาการ
แปลก ๆ ฝูงบินของพวกมันเริ่มสะเปละปะ นกค่อย ๆ ร่วงตายทีละตัว และบริเวณ
ที่นกร่วงตาย สัตว์ป่าและลัตว์เลี้ยงก็เริ่มล้มตายตาม ในไม่ช้าก็ลามไปถึงคน

ผู้คนต่างล้มตายลง การระเบิดเกิดอย่างรวดเร็วและรุนแรง นักระบาดวิทยาต่าง
ต้องตะลึงกับเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่พันธุ์ได้ทางอากาศและความรุนแรงสูง
ที่สุดเท่าที่เคยพบเคยเห็น รัฐบาลทุกประเทศพยามยามกักกันและระงับวงเขต
ของการระบาดแต่อนิจจา พวกเขาทั้งหมดต่างล่าช้าเกินไป เชื้อโรคได้กลายเป็น
ส่วนหนึ่งของอากาศที่หายใจก่อนที่พวกเขาทั้งหลายจะได้ทันรับมือ

มนุษย์คนสุดท้ายตายในวันที่ 21 ธันวา 2012

แต่ถัดมาอีกวัน สิ่งที่กล่าวได้ว่าน่าขยะแขยงและน่าสะพรึงกลัวก็เกิดขึ้น ซากนก
อพยพ ตัวการของการแพร่ระเบิดที่ล้มตายไปก่อนหน้าก็กระดิกตัว หยัดตัวเอง
ลุกขึ้นมา พวกมันคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง !

แต่ไม่สมบูรณ์แบบ

พวกมันไม่บิน มันเอาแต่เดิน ลูกตาไม่กระพริบ อุณหภูมิร่างกายของมันเท่ากับ
อุณหภูมิอากาศในฤดูหนาว หรือจะกล่าวง่าย ๆ ได้ว่า พวกมันไม่มีความอุ่นในตัว

เป็นเพราะหัวใจไม่เต้น

ใช่แล้วพวกมันกลายเป็นแฟนตาซีที่เคยโลดแล่นอยู่ในนิยาย หนัง ละคร การ์ตูน
และสื่อต่าง ๆ สร้างความสนุกสนาน ตื่นตะลึง และหวาดกลัว

ซอมบี้

หากแต่มันไม่เหมือนซอมบี้ที่เหล่านักประพันธ์เคยวาดภาพลักษณ์เอาไว้ มันไม่
ได้กระหายเลือด ไม่ได้เข่นฆ่าสิ่งชีวิตอื่น ๆ คงเป็นเพราะไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือ
อยู่อีกแล้ว พวกมันจึงไม่มีอะไรให้เข่นฆ่า

แต่พวกมันกลับจิกทึ้งกินหญ้า

เหล่าซากนกเดินได้ทั้งหลาย ต่างจิกหญ้ากิน มันจิกกินหญ้าไปเรื่อย ๆ จนกว่า
ท้องมันจะเต็มไปด้วยหญ้าถึงหยุด แล้วก็รอจนหญ้าผ่านลำไส้ ขับถ่ายออกเป็น
ของเสีย แล้วจึงกินหญ้าต่อไปเรื่อยไม่หยุดพักนอน หยุดเมื่อท้องแน่นแล้วแค่นั้น

และสัตว์ที่ล้มตายไปก่อนหน้านี้ก็คืนชีพ มีชีวิตกลับมาในซากของมันอีกครั้ง เฉก
เช่นเดียว พวกมันกินแต่หญ้า แม้กระทั่ง เสือ สิงห์โต ราชันย์นักล่า ต่างก็กินหญ้า
กันถ้วนหน้า

และมนุษย์ก็คืนชีพมากินหญ้าเช่นกัน

มนุษย์หกพันล้านกว่าคน ไม่ใช่สิ พวกเขาไม่ใช่คนแล้ว เขาเหล่านั้นไม่สามารถ
ดำเนินกิจกรรมเหมือนเดิมที่เคยทำมาก่อนได้ ต้องเรียกว่า ซากมนุษย์หกพันกว่า
ล้านซากต่างหาก ซากทั้งหมดนั้นต่างก้มลงคลานเลียดพื้น กัดกินหญ้าไปเรื่อย ๆ
โดยไม่สนว่าอากาศจะหนาว แดดจะร้อน ฝนจะตกหนักแค่ไหน พวกเขาก็เอาแต่
กินหญ้าอย่างเดียว

ซากมนุษย์ที่อยู่ในเมืองหลวง ต่างขวนขวายออกจากเมือง เพราะที่นั่นมีแต่พื้น
คอนกรีต ไม่มีสนามหญ้า พวกเขาละทิ้งเมือง มุ่งแสวงหาแต่สถานที่ที่มีหญ้าขึ้น
เท่านั้น

สรุปได้ว่า ซากสัตว์ทุกชนิดบนโลกลุกขึ้นมาหญ้า

เคราะห์ดีที่ืัทั้งหมดนั้นต่างพากันกินหญ้า เพราะหญ้านั้นถึงแม้จะโดนกินจนเหี้ยน
เตียน แต่ตราบเท่าที่รากยังไม่โดนถอน เหง้ายังไม่โดนขุด หญ้าก็สามารถเกิดขึ้น
มาใหม่ได้เสมอ ดังนั้นเหล่าซากสัตว์ที่แปรเปลี่ยนมากินหญ้า ต่างก็ยังคงมีหญ้า
ให้กินไม่ขาด



โลกยังคงหมุนอยู่ หมุนเพื่อพาซากของสรรพสัตว์และมนุษย์ไปรับแสงและราตรี

เพียงแต่ว่าทั้งหมดนั้นยังคงดำรงอยู่แต่ไม่มีชีวิตแล้ว


Create Date : 25 สิงหาคม 2553
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 22:38:32 น. 0 comments
Counter : 768 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

garnet19th
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add garnet19th's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.