ขอยืนหยัดเชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่
ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังละสังขาร ได้เวลาทำอาหารเย็นแล้ว
ผมออกเดินไปที่ตลาด มันก็ห่างจากหอของผมพอสมควร แต่ผมขี้เกียจพาหนูมินท์ ไปด้วย ปล่อยให้เธอนอนเล่นสบาย ๆ ของเธอที่ลานจอดต่อไป
เดินออกมาพ้นหน้าหอ ผมก็เห็นบุคคลากรช่วยลดโลกร้อน (คนเก็บขยะ) เจ้าประจำ ที่เห็นบ่อย ๆ กำลังยืนอยู่ข้างถังขยะ ตอนแรกผมมองผ่านแกไปเฉย ๆ แต่ตอนแก กำลังจะพ้นจากลานสายตา จู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้น
หน้าแกสะบัดอย่างแรง ตัวเซถลาจนเกือบล้ม
ผมหันขวับกลับไปมองแกอีกครั้ง แกตั้งลำตัวกลับมาให้ตรงพร้อมกับกำหมัดสอง ข้างเเน่น แล้วก็ชกสวนออกไป แต่ดูท่าจะวืด เพราะผมไม่ได้ยินเสียงของหมัด กระทบกับเป้า ถึงหมัดจะพลาดเป้าแต่ก็แกไม่รอช้า ยิงหมัดสองสามใส่ต่อทันที
วูบ วูบ
" อุ่ก ! "
หมัดของแกสอยได้แต่ลมไม่โดนเป้าหมาย พริบตาที่หมัดสุดท้ายพลาดเป้า ร่างของ แกก็สะดุ้ง ตัวงอเป็นกุ้ง แกโดนกระทุ้งลำตัวจนร้องอุทานออกมาไม่เป็นเสียง แกงอตัว เซถอยหลังไปสองก้าวก่อนจะหยุดพักหอบหายใจสักครู่หนึ่ง ก่อนจะสูด หายใจเข้าปอด กำหมัด ยืดตัวขึ้นอีกครั้ง
สู้ ๆ เขานะ น้า
ผมละความสนใจพร้อมกับเดินผ่านแก มุ่งหน้าไปที่ตลาดต่อ พอไปได้สักหน่อย ก็เห็นนักเรียนคนหนึ่งหอบหนังสือกองโตกำลังเดินเข้าไปในบ้านของเขา
โครม !
" บัดซบเอ๊ย ! "
มีเสียงของหล่นพร้อมกับเสียงสบถ ผมหันหน้าไปมองตามต้นเสียง ก็เห็นนักเรียน คนเมื่อกี๊นั่งก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น หนังสือที่เขาหอบมาตกกระจัดกระจายตามพื้น เขา หยัดตัวลุกขึ้น คว้าหนังสือเล่มนึง จับมันอย่างมั่งคง ก่อนจะใช้สันของหนังสือฟาด ไปข้างหน้าอย่างเต็มแรง
วู่บ ! วู่บ ! วู่บ !วู่บ ! วู่บ !
เสียงแหวกลม พอเขาหวดไม่โดนเป้าหมาย เขาก็เริ่มเหวี่ยงมือหวดไปมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่โดนอะไรเลย ก็เพราะเขาไม่ได้ดูเป็นมวย เหวี่ยงหนังสือมั่วซั่วไปมา จนดู เหมือนว่ากำลังวัดวาว่ายน้ำมากกว่า จะใช้หนังสือเป็นอาวุธต่อสู้
" แอ่ก ! "
แล้วเขาก็ส่งเสียงร้องแปลก ๆ พร้อมกับเซถลาล้มไปด้านข้างอย่างแรง คงจะโดน พลักไม่ก็โดนถีบ เขากระแทกพร้อมกับไถลไปบนพื้นถนนหน้าหอ หนังสือที่ใช้ ต่างอาวุธกระเด็นหลุดออกจากมือ
" ทำไมได้น้อยนักวะ ! "
เขาหยัดตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง หอบหายใจเพราะออกแรงมากเกินไป เขาก้มลงหยิบ หนังสือที่หลุดมือไปมาถืออีกครั้ง จับมันแน่นมาก คงจะใช้หนังสือเป็นอาวุธอีก พอผมเห็นอย่างนั้น ผมละสายตาจากเขา ออกก้าวเดินต่อ
สู้เข้าไป ไอ้น้อง
เดินไปจนถึงตลาด ซื้อกับข้าวกับปลา พอได้ของครบก็เดินกลับหอ ออกเดินห่าง ตลาดมาได้สักหน่อยก็เห็นตำรวจนายหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์สายตรวจผ่านหน้าไป
โครม ! แคร่ดดด !
จู่ ๆ รถสายตรวจก็ล้มพร้อมกับไถลไปบนพื้นอย่างแรง สายตรวจนายนั้นกลิ้งหลุน ๆ ไปกับพื้นถนน เขานอนนิ่งสักครู่หนึ่งหลังหยุดกลิ้งแล้วก็รีบพลุนพลันลุกขึ้นมา มือขวาตะบบไปที่ซองปืนพกของเขา
ปัง ! ปัง ! ปัง !
เสียงปืนดังสนั่น ตำรวจนายนั้นชักปืนออกมาประทับสองมือ เล็ง แล้วก็เหนี่ยวไก ปืนยิงกระหน่ำ เสียงปืนดังกึกก้องไปทั้งสอง
ฟุ่บ !
" อุ๊บ ! "
ทันใดนั้น ไหล่ขวาของเขาก็สะบัดราวกับมีอะไรสักอย่างพุ่งกระแทกด้วยความเร็ว สูงจนมองไม่เห็นสิ่งที่กระแทกจนทำให้ปืนหลุดออกจากมือ เขาล้มจ้ำเบ้า ก้น กระแทกพื้นอย่างแรง
" ระยำเอ๊ย ! "
เขาสบถออกมาอย่างแรงก่อยจะรวบรวมเรี่ยวแรง คลานไปหาปืนที่หลุดมือไป หยิบ มันมาประทับอีกครั้ง เขาเล็งไปข้างหน้าด้วยมือไม้ที่สั่นเทา
" ทำไมต้องบังคับกูนักว่ะ ! "
สู้มัน ลูกพี่
ผมได้ยินเสียงเขาข่มคำรามรอดไรฟัน แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาทำสีหน้ายังไง ก็เพราะ ผมหันหลังเดินออกมาห่างจากมาแล้ว ปากก็พึมพำเชียร์ให้กำลังใจตำรวจนายนั้น โดยไม่ได้ไปช่วยอะไรเขา
ผมช่วยเขาไม่ได้หรอก ก็เพราะผมไม่เห็นศัตรูของเขา
ผมไม่รู้หรอกว่าเขากำลังสู้กับอะไร ก็ผมไม่เห็นตัวตนของคู่ต่อสู้เขานี่นา เขาอาจจะ กำลังต่อสู้กับบางสิ่งที่ทั้งล่องหน ยิ่งใหญ่ มีอำนาจและน่าหวาดหวั่น
อย่างเช่น การโดนบังคับให้หาส่วย
เด็กนักศึกษาคนนั้นก็เหมือนกัน เขาก็ต่อสู้กับอะไรที่ผมมองไม่เห็นอยู่เหมือนกัน และคงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก เขาจึงได้ดูเคร่งเครียด
เขาอาจสู้กับการสอบเข้าเรียนต่อเข้าคณะที่ดี ๆ
ส่วนน้าคนเก็บขยะ ผมคิดว่าตอนนี้ แกก็คงกำลังต่อสู้กับคู่ต่อสู้ล่องหนของแก ศัตรู ที่แกต้องต่อสู้กับมันมาตั้งแต่แกจำความได้
ความยากจน
ผมเห็นการต่อสู้ของพวกเขาทั้งหมด แต่ผมก็ยื่นมือเข้าไปช่วยต่อสู้อะไรร่วมกับ พวกเขาไม่ได้ ก็เพราะลำพังตัวผมเองก็ต้องต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจของผม ศัตรูที่ผม มองไม่เห็นอยู่เช่นกัน ผมจึงทำได้พูดพึมพำให้กับพวกเขา
สู้เขานะ
Create Date : 06 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2553 11:38:47 น. |
|
2 comments
|
Counter : 689 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: garnet19th วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:12:38:05 น. |
|
|
|
โดย: pragoong วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:14:35:37 น. |
|
|
|
| |
|
|