bloggang.com mainmenu search
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมดาราบางคน แต่งหน้าก็ดูไม่หนา ไม่เยอะ แต่ทำไมถ่ายรูปออกมาสวยจัง หรือเพื่อนเราบางคน ที่ไปจ้างช่างแต่งหน้ามืออาชีพ มาแต่งให้ ทำไมมันถึงแตกต่างจากที่เราแต่งเองมากมายขนาดนี้ ทำไมหน้าดูเปลี่ยนไปขนาดนี้  การที่คุณจะสวยขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ นี่ยังไม่นับถึงคิ้วงามๆและขนตาเด้งๆนะคะ


สิ่งที่ทำให้การแต่งหน้ามีความแตกต่าง นั่นก็คือ Highlight และ Shading ก็คือการเพิ่มมิติให้ใบหน้า (Contouring) หรือก็คือการทำให้หน้ามีแสงเงา ชัดเจนขึ้น ถ่ายรูปออกมาก็สวย ไม่กลืนไปกับฉากหลัง แถมยังช่วยแก้ไขรูปหน้าและจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ด้วยนะคะ จะขออธิบายคร่าวๆตามนี้ค่ะ

Highight บริเวณรับแสง ได้แก่ หน้าผาก สันจมูก โหนกคิ้ว โหนกแก้ม คาง ส่วนมากก็จะเป็นบริเวณกลางใบหน้า

Shading บริเวณเงา ได้แก่ กรอบหน้า บริเวณไรผม หรือทำให้เกิดเงาเพื่อให้บริเวณรับแสงชัดขึ้น เช่นข้างสันจมูกเชื่อมต่อหัวคิ้ว(หรือที่เรียกว่า ไล้ดั้ง ล่ะคะ) ทั้งนี้จะ shadding แบบไหนให้ใบหน้าออกมาใกล้เคียงใบหน้ารูปไข่มากที่สุดก็ขึ้นอยู่กับรูปหน้าของแต่ละคนด้วยนะคะ




Hot Tips
+ กระบวนการทั้ง 2 อย่างนี้ อาจทำในขั้นตนรองพื้น ก่อนลงแป้งฝุ่นแบบโปร่งแสงก็ได้ ถ้าคุณมีความชำนาญ โดยจะเป็นการเกลี่ยให้เนียนกับรองพื้น แบบน้ำ หรือครีม
+ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมดาราบางคน แต่งหน้าก็ดูไม่หนา ไม่เยอะ แต่ทำไมถ่ายรูปออกมาสวยจัง หรือเพื่อนเราบางคน ที่ไปจ้างช่างแต่งหน้ามืออาชีพ มาแต่งให้ ทำไม+ มันถึงแตกต่างจากที่เราแต่งเองมากมายขนาดนี้ ทำไมหน้าดูเปลี่ยนไปขนาดนี้ ทั้งที่เราก็ทำตามขั้นตอนทุกประการ

She Said การแก้ไขรูปหน้า ให้มีมิติ ดูเรียวขึ้น ดูชัดขึ้น(หน้าเด้ง) ก็ล้วนมาจากขั้นตอนนี้ล่ะค่ะ สวยมากน้อยนั้นก็คงขึ้นกับฝีมือช่างแต่ละคน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วย ถ้าพื้นฐานผิวหน้ารองพื้นดูดี มีมิติ ดูสดใสแล้ว การที่คุณจะสวยขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ นี่ยังไม่นับถึงคิ้วงามๆและขนตาเด้งๆนะคะ


Special Thanks พลอย Makeup Artist ติดตามเธอได้ที่ IG : Khemmisara.p

ที่มา : girlsfriendclub.

Create Date :05 ธันวาคม 2557 Last Update :5 ธันวาคม 2557 8:52:13 น. Counter : 1042 Pageviews. Comments :0