จากที่เคยพาชมรีสอร์ทริมทะเล รีสอร์ทวิวภูเขา ครั้งนี้ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นรีสอร์ทริมแม่น้ำซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ได้ชื่อว่าเป็นสายน้ำแห่งมิตรภาพ แม่น้ำโขงครับ ในการมาอุบลครั้งนี้ผมเลือกเดินทางโดยรถไฟจากสถานีนครราชสีมา มายังปลายทางอุบลราชธานีซึ่งสะดวกสบายครับ ดูวิวทุ่งนา วิถีชาวบ้านสองข้างทางของชาวอีสาน โดยจุดหมายของผมคือรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอโขงเจียมที่ชื่อ ทอแสง โขงเจียมรีสอร์ท ซึ่งผมเคยมาที่นี่แล้ว 2-3ครั้งเมื่อ 4-5 ปีก่อน ถึงแม้การเดินทางมายังอำเภอโขงเจียมของผมครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็เป็นการเดินทางที่รอคอยของผมอีกทริปหนึ่ง ภาพของสายน้ำแห่งลำน้ำโขงมาบรรจบกับลำน้ำมูลเกิดเป็นแม่น้ำสองสี ภาพวิถีชีวิตชาวบ้านสองฟากฝั่งของสายน้ำแห่งมิตรภาพ ยังติดตาผมมาตลอด จากที่ผมได้มาเยี่ยมที่นี่3-4ครั้ง ผมพบว่าถ้าผมจะมาที่นี่อีกครั้ง ผมคงจะมาช่วงฤดูหนาวเท่านั้น เพราะช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนมากครับ ส่วนหน้าฝน น้ำในลำน้ำโขงมีระดับสูง ดูน่ากลัวไปหน่อยและไม่ค่อยเห็นเป็นแม่น้ำสองสี ลองมาดูภาพแห่งความประทับใจในบรรยากาศฤดูหนาวที่ทอแสง โขงเจียมรีสอร์ทครับ

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6117544/E6117544.html

ผมขออนุญาตวางแผงนิตยสาร ชานไม้ชายเขา ฉบับที่ 17 ประจำเดือนธันวาคม 2550


ผมเริ่มต้นด้วยภาพนี้ครับ ยามเย็นบริเวณที่ทานอาหาร บรรยากาศโรแมนติก


บรรยากาศที่ทานอาหารอีกมุมหนึ่ง


มุมสบายๆที่ทานอาหารครับ


บรรยากาศวันฟ้าใสในส่วนของร้านอาหารริมแม่น้ำโขงของรีสอร์ท


บรรยากาศที่สระว่ายน้ำใกล้ๆกับที่ทานอาหาร


มุมนั่งเล่นสบายๆชมแม่น้ำโขงในรีสอร์ท


ของประดับตกแต่งในรีสอร์ท


แม่น้ำสองสีจากบริเวณรีสอร์ทครับ ผมโชคดีครับวันที่ไปแดดดี ฟ้าใส ระดับน้ำไม่สูงมาก เห็นแม่น้ำเป็นสองสีชัดเจน


มาดูห้องพักบ้าง บรรยากาศในห้องนอน ห้องที่ผมพักเป็นห้อง Deluxe ครับ จะอยู่ห้องริมของแต่ละตึก ระเบียงกว้างกว่าห้อง Superior


ภายในห้องได้รับการตกแต่งใหม่ครับ มีทีวี LCD


จากหน้าต่างห้องพักเห็นวิวแม่น้ำโขงชัดเจน


มาดูห้องน้ำครับ มีทั้งอ่างอาบน้ำและส่วนของ Shower แยกจากกัน


อ่างล้างหน้าก็ใหญ่และออกแบบดี


อีกภาพครับ ในห้องน้ำมีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบ


บรรยากาศในห้องนอน


ห้องนอนอีกภาพครับ เขาออกแบบเตียงได้สวย น่านอนทีเดียว


บรรยากาศที่ระเบียงห้องยามเช้า มีที่นอนเล่นชมแม่น้ำโขง อากาศก็หนาวดีครับ อยู่บ้านไม่เคยตื่นเช้าอย่างนี้


บรรยากาศยามเช้าในห้อง มีเครื่องดื่มร้อนๆซักแก้ว


ที่ระเบียงอีกมุมหนึ่ง เห็นวิวของลำน้ำโขง


ห้องพัก Deluxe ของตึกข้างๆ ที่นี่จะมีตัวตึกอยู่สองตึก และยังมีห้องพักประเภท วิลลาด้วยครับ


มาดูระเบียงห้องตอนกลางวันบ้าง


ตอนกลางวันอีกภาพ


บรรยากาศที่ทานอาหารในคืนเดือนเพ็ญ ท้องฟ้าโปร่ง เห็นวิวสายน้ำของลำน้ำโขง โรแมนติกดีครับ


บาร์เล็กๆในรีสอร์ท อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ


บรรยากาศที่บาร์ตอนกลางคืน


ที่ทานอาหารตอนค่ำอีกภาพ เห็นแม่น้ำโขงและวิวภูเขาของฝั่งลาว บรรยากาศดีมากครับ


ลำน้ำโขงยามเช้าหน้ารีสอร์ท


มุมนั่งเล่นสบายๆ ริมแม่น้ำโขง


เรือลำนี้ สัญชาติไทยครับ


สระว่ายน้ำวันฟ้าใสอีกภาพ ไปก่อนที่อุบลก็ลุ้นเหมือนกันครับ ช่วงนั้นได้ข่าวว่าพายุจะเข้าที่ฝั่งเวียดนาม แต่โชคดีที่พายุเปลี่ยนทิศครับ เลยได้เห็นฟ้าสวยๆอย่างนี้


สระว่ายน้ำอีกมุมหนึ่งครับ สระก็น่าว่าย


บรรยากาศในรีสอร์ทใกล้ๆ Lobby ถึงแม้ Lobby ของที่นี่จะดูเล็กๆไม่อลังการเท่าไหร่ แต่บรรยากาศข้างในรีสอร์ท สวย ร่มรื่นทีเดียว


ภาพโต๊ะทานข้าวในรีสอร์ทชมแม่น้ำสองสี


บรรยากาศที่บาร์ตอนกลางวันครับ


ศาลาริมฝั่งโขง เป็นศาลาสำหรับไว้นวดในส่วนของสปา พอดี Voucher ที่ผมซื้อมามีนวดเท้าด้วยครับ ผมเปลี่ยนเป็นนวดไทย เขานวดที่ศาลาริมฝั่งโขง บรรยากาศดีมากครับ


ภาพบริเวณที่ทานอาหารอีกภาพ จะเห็นแม่น้ำสองสีอยู่ลิบๆครับ


ถึงเวลากลับผมก็ใช้บริการของรถไฟไทยเหมือนเดิม การมาอุบลครั้งนี้เป็นการพักผ่อนที่ประทับใจมากครับทั้งห้องพัก บรรยากาศในรีสอร์ท อากาศหนาวๆริมฝั่งโขง


ผมปิดท้ายด้วยภาพจากปกเช่นเคย บรรยากาศโรแมนติกจากห้องพัก เห็นแสงจันทร์สะท้อนระยิบระยับจากลำน้ำโขง ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ทำให้ผมอยากย้ายไปอยู่โขงเจียม ชื่ออำเภอที่ดูถ่อมตัวดีครับ


การมาเยือนเมืองอุบลที่อำเภอโขงเจียมในครั้งนี้ ผมประทับมากครับและก็ผมโชคดีที่มาช่วงอากาศกำลังหนาว อยู่ในห้องไม่ต้องเปิดแอร์เลยครับ เปิดหน้าต่างรับลมหนาวและอากาศบริสุทธ์ ชมวิวของสายน้ำโขงและแม่น้ำสองสีจากห้องพัก ชมแสงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำ บรรยากาศโรแมนติก การบริการก็ทำได้ดีเยี่ยมครับโดยเฉพาะพนักงานในส่วนห้องอาหาร ที่แนะนำ ให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นกันเอง ลองมาดูจุดเด่นจุดด้อยในมุมมองของผม

จุดเด่น
-บรรยากาศในรีสอร์ทที่ติดแม่น้ำโขงครับ ธรรมชาติ บรรยากาศดี วิวสวย
ห้องพักที่ผมพักออกแบบได้ดี น่าพักครับ สามารถชมวิวสายน้ำโขงจากระเบียงห้อง
-การบริการทำได้ดีเยี่ยมครับ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส
-อาหารรสชาติดีครับ อาหารเช้ามีอาหารพื้นเมืองเช่น ก๋วยจั๊บญวณ ขนมปากหม้อ ไข่กระทะ
-บรรยากาศศาลานวดไทยดีมากครับ อยู่ริมแม่น้ำโขง

จุดด้อย
-รีสอร์ทอยู่ไกลจากสนามบินและสถานีรถไฟมากครับ นั่งรถเป็นชั่วโมง ทำให้ราคารถรับส่งของทางรีสอร์ทสูงทีเดียว 3600 บาท ไป-กลับ (ราคาสูงกว่าค่าห้องพักเสียอีก)
-ต้นมะพร้าวที่ระเบียงห้องพัก ดูมันไม่ค่อยสวยและบังวิวแม่น้ำครับ แต่อาจจะมีประโยชน์ไว้ยึดหน้าดิน
-จากที่เคยไปเยี่ยมที่นี่ทุกฤดู ช่วงหน้าฝนหน้าร้อน ไม่ค่อยน่าไปเที่ยวเท่าหน้าหนาวครับ

ผมแนะนำว่าถ้าเข้าพักที่นี่ 1-2คืน เช่ารถขับไปเองจะคุ้มกว่า ค่าเช่ารถวันละพันกว่าบาท แถมยังขับไปเที่ยวหรือไปทานอาหารข้างนอกได้อีก ถ้าผมจะไปที่นี่อีกครั้ง คงต้องเป็นช่วงหน้าหนาวฤดูเดียวครับเพราะช่วงฤดูอื่นๆบรรยากาศไม่สวยเหมือนช่วงหน้าหนาว