bloggang.com mainmenu search
นิตยสารฉบับพิเศษฉบับนี้ ผมจะพาไปเที่ยวที่ที่เปรียบเสมือนเป็นบ้านอีกแห่งหนึ่งของผม เป็นสถานที่ทำงานที่ผมใช้ชีวิตและผูกพันกับที่นี่มากว่า 10ปี หลายๆคนอาจจะเคยเข้ามาเที่ยว เข้ามาชมงานนิทรรศการที่จัดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาตั้งแต่เมื่อครั้งมหาวิทยาลัยเริ่มก่อตั้งไม่นานเมื่อหลายปีก่อน วันนี้มหาวิทยาลัยที่ราบสูงแห่งนี้มีอายุครบ 20 ปี หลายๆสิ่งในมหาวิทยาลัยถูกพัฒนาต่างไปจากเดิม ทั้งตัวอาคาร การจัดภูมิทัศน์ และจำนวนนักศึกษา นิตยสารฉบับนี้จะพาไปชมบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ ผ่านทางภาพถ่ายในมุมมองของผม

ชื่อย่อมหาวิทยาลัยที่เรียกติดปากของชาวโคราชคือ มทส ถึงแม้ผมจะไม่ใช่คนอีสานโดยกำเนิด แต่ก็ได้มาเป็นหลานย่าโมและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มทส มาสิบกว่าปี ทั้งรักและผูกพันกับทุกๆสิ่งที่ได้เจอที่นี่ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงาน บรรยากาศในมหาวิทยาลัย หลายๆคนอาจจะรู้จัก มทส จากที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของงานเอ็กซ์โป World Tech 95 ที่จัดในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเมื่อสิบกว่าปีก่อน ลองมาชมบรรยากาศปัจจุบันของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการผลิตบัณฑิตเพื่อเป็นทรัพยากรบุคคลในการพัฒนาประเทศ

ผมขอวางแผงนิตยสารนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ซึ่งเป็นฉบับพิเศษ ประจำเดือนกรกฎาคม กับมหาวิทยาลัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ในจังหวัดนครราชสีมาที่ชื่อว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เพลงประกอบการชม blog สำหรับบุคคลทั่วไปและศิษย์ปัจจุบัน ปีบทอง

เพลงประกอบการชม blog สำหรับศิษย์เก่า ลาร่มปีบทอง



มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งแรกของประเทศ มีการเรียนการสอนในระบบสามภาคการศึกษา


ภายในมหาวิทยาลัยกว้างมากครับ ผมมาอยู่ช่วงแรกๆยังหลง อธิการบดีคนแรกและเป็นผู้วางรากฐานและวางระบบไว้อย่างดีเยี่ยมคือ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสะอ้าน



การเรียนการสอนประกอบด้วยทั้งหมด 6 สำนักวิชา(ที่นี่จะใช้คำว่า สำนักวิชาแทนคำว่า คณะครับ) คือ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีสังคม และพยาบาลศาสตร์


ต้นปีบทอง ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย เป็นไม้ยืนต้นที่ให้ดอกสีแสดสวยงามและยังทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญเชิงสัญลักษณ์ที่เหมาะสำหรับเป็นต้นไม้ประจำสถาบัน


เมื่อเข้ามาในใกล้เขตมหาวิทยาลัย จะมองเห็นหอสุรนภา ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น landmark ของมหาวิทยาลัย


ในช่วงงานนิทรรศการใหญ่ๆ จะมีการเปิดหอสุรนภาให้คนทั่วไปขึ้นไปชมทัศนียภาพของมหาวิทยาลัยจากมุมสูงได้ครับ


การขึ้นไปชมทิวทัศน์ด้านบนสะดวกครับเพราะภายในมีลิฟต์


วิวจากจุดชมวิวบนหอสุรนภา สามารถชมบรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัย


ต่อไปผมจะพาไปชมอาคารห้องสมุดและสื่อการศึกษาที่เรียกว่า อาคารบรรณสาร


อาคารแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมของนักศึกษาแห่งหนึ่งโดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้สอบ


ภาพนี้ตั้งใจมาถ่ายตัวอาคาร โชคดีที่ลูกศิษย์อยู่แถวๆนั้นพอดี เลยวานให้มาเข้ากล้อง


อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเรียนรวม 2 นักศึกษาทุกสำนักวิชาจะมาเรียนที่นี่


อาคารต่างๆภายในมหาวิทยาลัยสามารถใช้ร่วมกันทุกสำนักวิชาตามนโยบายรวมบริการ ประสานภาระกิจ


สิ่งที่คู่กับทุกๆมหาวิทยาลัยก็คือป้ายกิจกรรม


ช่วงปีแรกๆของมหาวิทยาลัยค่อนข้างแห้งแล้งเพราะพื้นที่เดิมเป็นป่าเสื่อมโทรม แต่ก็ได้รับการปรับภูมิทัศน์มาโดยตลอด


ดอกเฟื่องฟ้าสีสดใสตัดกับสีท้องฟ้า กับหอสุรนภาเป็นฉากหลัง


ดอกไม้สวยๆกับฉากหลังของหอสุรนภา


ต่อไปผมจะพาไปชมกิจกรรมนักศึกษาบ้างครับ เป็นกิจกรรมที่สำคัญมากกิจกรรมหนึ่งคือพิธีไหว้ครู


นักศึกษาจะทำพานเพื่อที่จะนำมาไหว้ครู ปกติผมจะนั่งอยู่บนเวทีนี้ แต่ปีนี้ขอเป็นตากล้องซักปี


ถ้าเปรียบมหาวิทยาลัยเหมือนครอบครัวใหญ่ ท่านผู้นี้ก็เหมือนเป็นพ่อบ้านที่ดูแลทุกข์สุขของลูกบ้านทั้ง นักศึกษาและบุคลากรเป็นอย่างดี และเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญทำให้บ้านหลังนี้ น่าอยู่ อบอุ่นและเต็มไปด้วยบรรยากาศวิชาการ


ช่วงพิธีการ


บรรยากาศในอาคารสุรพัฒน์ 2 ในพิธีไหว้ครู


ดอกไม้สวยๆในมหาวิทยาลัย


ภายในมหาวิทยาลัยยังมีโรงแรมและห้องสัมมนาที่ชื่อว่า สุรสัมมนาคาร สามารถใช้เป็นสถานที่ประชุม สัมมนาทั้งหน่วยงานภายในและภายนอก


อาคารสุรพัฒน์ 1 ซึ่งมีทั้งไปรษณีย์ ธนาคาร ศูนย์หนังสือจุฬาฯ 7-11 และหน่วยงานที่ชื่อว่า เทคโนธานี


เวทีกลางแจ้งที่ชื่อว่า สุรนิทัศน์ ผมชอบเวทีแห่งนี้เป็นพิเศษครับ ใช้จัดกิจกรรมนักศึกษาเช่น งานเฟรชชี่ไนท์ งานราตรีชาวหอ ตอนที่มีผนดาวตกเมื่อหลายปีก่อน ก็มานอนชมที่นี่ นักศึกษาจะเรียกเวทีนี้สั้นๆว่า แอมฟิ (มาจากแอมฟิเธียเตอร์)


อาคารของสำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ นอกจากนี้ภายในมหาวิทยาลัยยังมีศูนย์ปฏิบัติการทางการแพทย์ ซึ่งมีหมอและพยาบาลประจำ 24 ชั่วโมงเพื่อบริการแก่นักศึกษา บุคลากร และชุมชนใกล้เคียง


ผมจะพาไปชมกิจกรรมนักศึกษาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการพานักศึกษาชั้นปีที่ 1 ไปสักการะอนุสาวรีย์ท่านท้าวสุรนารีในตัวเมืองโคราช


งานนี้เป็นงานระดับจังหวัดครับ มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานหลายๆท่าน ส่วนพ่อหนุ่มชุดแดงเป็นวงจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย


ท่านอธิการบดีกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและกล่าวแก่นักศึกษา


เป็นประเพณีปฏิบัติที่ทางมหาวิทยาลัยจะพานักศึกษามาไหว้ย่าโมสองครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่นักศึกษาเพิ่งเข้ามาเรียน อีกครั้งคือหลังจากนักศึกษาเรียนจบ ช่วงรับปริญญา


บรรยากาศงานในวันนั้น นอกจากนี้รุ่นพี่ๆยังพารุ่นน้องลอดประตูชุมพลที่อยู่ด้านหลังย่าโม


นึกถึงอีกสี่ปีข้างหน้าที่นักศึกษาต้องกลับมาร่วมกิจกรรมลักษณะนี้อีกครั้ง แต่ครั้งนั้นจะเปลี่ยนจากชุดนักศึกษา เป็นชุดครุยรับปริญญา


นักศึกษาที่มาเรียนที่นี่มาจากทุกสารทิศทั่วประเทศ แต่ไม่ว่าจะมาจากภาคใด จังหวัดใด เมื่อเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในโคราชก็ถือเป็นหลานย่าโมคนหนึ่ง


กลับมาชมบรรยากาศในมหาวิทยาลัยต่อครับ ดอกไม้สวยๆอีกภาพ


การจัดสวนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยที่ประตู 1 ซึ่งเป็นประตูหลัก


ดอกไม้สวยๆยามเช้าที่วงเวียนหน้ามหาวิทยาลัย


รถบัสมหาวิทยาลัยที่รับส่งนักศึกษาและบุคลากรช่วงที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆ


มาชมบรรยากาศในห้องเรียนบ้างครับ ผมขออนุญาตนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนเข้าไปถ่ายภาพ


เห็นภาพแล้วก็นึกถึงช่วงที่เป็นนักศึกษา ตอนที่ต้องผูกเนคไทด์อย่างนี้


มาดูห้องเรียนห้องใหญ่ที่ใช้ห้องประชุมบ้างครับ


ถ้ายังจำกันได้ อาจารย์ผู้หญิงในภาพกับอาจารย์ผู้ชายภาพบน คือสมาชิกร่วมทริปเกาะมันนอกเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา


หน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างของคณาจารย์ที่นี่คือการไปนิเทศน์งานนักศึกษาที่ออกสหกิจศึกษา การออกสหกิจของนักศึกษาคือการออกไปปฏิบัติงานเหมือนเป็นพนักงานคนหนึ่งของสถานประกอบการณ์ตลอดทั้งภาคการศึกษา เพื่อเรียนรู้การทำงานจริงและประยุกต์นำวิชาความรู้ไปใช้ ผมเก็บภาพนี้ช่วงที่ไปนิเทศงานนักศึกษาที่โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ เขื่อนสิรินธร อุบลราชธานี


บรรยากาศในห้อง lab แห่งหนึ่งของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา นอกจากการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี ที่นี่ยังเน้นการทำวิจัย สำหรับนักศึกษาทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอก จนเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยของประเทศ


กิจกรรมกีฬาแข่งขันเรือพายในมหาวิทยาลัย กีฬาที่ฝึกความอดทนและการทำงานร่วมกันเป็นทีม


กองเชียร์ที่เชียร์กันอย่างสนุกสนานข้างๆสระ


ภายในสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย


หอสุรนภาวันฟ้าใส


เนื่องจากมหาวิทยาลัยกว้างมากครับ มีรถเมล์ฟรีบริการให้แก่นักศึกษาและบุคลากร


ดอกไม้ที่ช่วยแต้มสีสันในมหาวิทยาลัยช่วงหน้าร้อน


หน่วยงานหนึ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัยคือ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


ตัวอาคารที่ออกแบบได้สวยงาม เครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนในสถาบันวิจัยให้แสงซินโครตรอนที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับงานวิจัยในหลายๆด้าน


บริเวณนี้เป็นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่อยู่ข้างห้องสมุด


อาคารบริหาร ซึ่งเป็นอาคารหลักที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง เป็นที่ตั้งของสำนักงานอธิการบดี ส่วนการเจ้าหน้าที่ และส่วนอื่นๆ


ลานกว้างในมหาวิทยาลัยที่สามารถใช้จัดงาน หรือกิจกรรมกลางแจ้ง


ดอกไม้สีสันสดใส


อาคารกาญจนาภิเษก


นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนที่จะจบการศึกษา


ภาพนักศึกษาในห้องสมุด ช่วงสัปดาห์ที่มีกิจกรรมวันวาเลนไทด์


ต้องขอขอบคุณนักศึกษาทุกๆคนที่อนุญาตให้ถ่ายภาพนะครับ


บรรยากาศในห้องสมุดอีกภาพครับ


พี่ๆและน้องๆเลขานุการ พนักงานสายปฏิบัติการที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของมหาวิทยาลัย


หอสุรนภาจากมุมกว้าง


ภายในมหาวิทยาลัยยังมีอุทยานผีเสื้อ เปิดบริการให้บุคคลทั่วไป เด็กๆเข้าเยี่ยมชมผีเสื้อสวยๆและศึกษาวงจรชีวิตของผีเสื้อ


หนึ่งในผีเสื้อสวยงามภายในอุทยาน


การเข้าเยี่ยมชมควรโทรสอบถามข้อมูล ว่าช่วงใดมีผีเสื้อมากน้อยเพียงใด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //technopolis.sut.ac.th/butterflypark


ภาพนี้เป็นภาพจาก สวนสัตว์นครราชสีมา สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ผู้ปกครองนักศึกษาจากต่างจังหวัด เวลามาเยี่ยมนักศึกษามักจะพาลูกพาหลานมาเที่ยวสวนสัตว์ด้วยเลย ภายในสวนสัตว์มีห้องพัก ห้องอาหาร และที่เปิดใหม่คือ สวนน้ำให้เด็กๆได้เล่นน้ำ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.zookoratzoo.com


พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน สถานที่ที่น่าสนใจใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //khoratfossil.com และสามารถชมแผนที่การเดินทางมายัง มทส พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน และสวนสัตว์ได้ที่ //khoratfossil.com/images/map.jpg นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลมากนักยังมี ไร่จิมทอมสัน เขื่อนลำพระเพลิง วังน้ำเขียว


และที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนโคราชคือ การเข้าไปไหว้ย่าโมที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีในกลางเมืองโคราชครับ เพื่อเป็นสิริมงคล


บรรยากาศในมหาวิทยาลัยกับหอสุรนภาวันฟ้าใส


ผมชอบบรรยากาศที่สงบในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะบรรยากาศช่วงหน้าหนาว ในขณะเดียวกันก็อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก


บรรยากาศยามเย็นบริเวณฟาร์มมหาวิทยาลัย


ลานสัญลักษณ์ จุดศูนย์กลางแห่งหนึ่งใน มทส


บริเวณเวทีกลางแจ้ง อาคารสุรนิทัศน์ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน


ยามเย็นบรรยากาศดีๆภายในมหาวิทยาลัย


ภาพแสงสวยๆยามเย็นอีกภาพครับ


ภาพพระอาทิตย์กำลังจะตก ชอบบรรยากาศตอนเย็นๆ วันที่ฟ้าเปิดมากครับ


ช่วงเย็นๆเป็นเวลาที่เหมาะกับการเดินเล่น ออกกำลังกาย หลังจากเรียนหรือทำงานมาทั้งวัน


ถนนยามเย็นภายในมหาวิทยาลัย เนื่องจากพื้นที่ที่กว้าง ถนนบางสายไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการเดินเล่น ปั่นจักรยาน


ผมปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ ภาพนี้ถ่ายจากกล้องตัวเก่า หอสุรนภา ที่มองเห็นได้แต่ไกลเมื่อเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี


ทุกๆครั้งที่ผมมีโอกาสได้ตื่นเช้าๆ เพื่อมาปั่นจักรยาน ว่ายน้ำในมหาวิทยาลัย เป็นความรู้สึกที่สดชื่นมากๆครับ จากที่ผมได้ใช้ชีวิตทั้งทำงานและอาศัยอยู่ในเขตมหาวิทยาลัย ทำให้รู้สึกผูกพันกับที่นี่ ได้เจอทักทาย นักศึกษา เพื่อนๆบุคลากร จนมีความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน และถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่ในช่วงก่อตั้งมหาวิทยาลัย แต่เส้นทางที่ผ่านมาตลอด 20 ปี จากพื้นที่แห้งแล้งมุมเล็กๆของจังหวัดนครราชสีมา กลายเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่ผลิตบัณฑิตทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ คงต้องใช้ความร่วมมือร่วมใจเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมากมายของหลายๆฝ่าย และทุกๆครั้งที่ได้เห็นนักศึกษาแต่ละรุ่น จบออกไปเป็นบัณฑิต ผมเชื่อว่าเป็นความภูมิใจที่ไม่ใช่เฉพาะของ คณาจารย์ แต่รวมถึงบุคลากรทุกๆฝ่ายที่มีส่วนช่วยให้ การเรียน การสอน การทำวิจัย ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดีและทำให้ มทส เป็น มทส อย่างทุกวันนี้

ถ้ามีโอกาสแวะมาโคราชช่วงวันที่ 23-31 กรกฎาคมนี้ สามารถเข้ามาชมงานนิทรรศการ การแสดงศักยภาพทางวิชาการครั้งสำคัญ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจในโอกาสสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ครบ 20 ปี โดยงานนี้ใช้ชื่อว่า สุรนารีนิทรรศน์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ //web.sut.ac.th/sutnew/SUT20yrs
ขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาทักทายกันเช่นเคย ขอบคุณนักศึกษา บุคลากรทุกๆคน ที่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ขอบคุณ คุณพล (Into the groove) ที่จุดประกายการรีวิวมหาวิทยาลัย ไว้เจอกันใหม่ในนิตยสารฉบับหน้าครับ


Create Date :19 กรกฎาคม 2553 Last Update :21 กรกฎาคม 2553 14:55:24 น. Counter : Pageviews. Comments :298