bloggang.com mainmenu search
หลังจากที่ผมพาเที่ยวรีสอร์ทริมทะเลมาหลายแห่ง ครั้งนี้ลองมาชมรีสอร์ทแนวภูเขากันบ้างครับ ฉบับนี้ผมจะพาไปที่อุทัยธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทออกแบบดิบๆ เน้นปูนเปลือย ที่ชื่อว่า Avatar Spa Mountain Suites ผมได้เห็นภาพของรีสอร์ทแห่งนี้มานานแล้วครับ แรกเห็นก็นึกชอบตัวตึก ห้องพัก และวิวทิวทัศน์รอบๆรีสอร์ทขึ้นมาทันที ยิ่งได้เห็นรีวิวจากคุณกาแฟขมมาสองรอบ ยิ่งทำให้อยากไปชมบรรยากาศจริงของรีสอร์ทแห่งนี้ เมื่อผมมีโอกาสได้ไปเยือนที่นี่ช่วงปลายฤดูฝน ความรู้สึกแรกคือ ความประทับใจของทำเลรีสอร์ทที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้เขียวๆ ภูเขาสูงๆ และความสงบ ที่เหมาะกับการพักผ่อน หลบหนีความวุ่นวายคืนสู่ธรรมชาติ ส่วนตัวรีสอร์ทและห้องพักของที่นี่ไม่ได้เน้นความหรูหรา แต่จะเป็นแบบดิบๆ ใช้ปูนเปลือย และปูนสีเทาเข้มเป็นส่วนมาก ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับผมแล้ว ผมชอบแนวนี้มากครับ ผมเข้าพักที่นี่ในห้องพักสองแบบ แบบแรกเป็นห้อง Deluxe Suite ส่วนคืนสุดท้ายทางเซลที่กรุงเทพ upgrade ห้องพักเป็นแบบ Honeymoon Suite ถึงห้องพักจะถูกออกแบบในแนวเหมือนในอยู่ในถ้ำ แต่ภายในห้องพักจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ความประทับอีกอย่างของการมาพักที่นี่คือการบริการจากพนักงานทุกๆคน ที่ยิ้มแย้มทักทาย เป็นกันเอง ให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ ลองมาชมภาพของความประทับที่ผมมีต่อรีสอร์ทแห่งนี้ในมุมมองของผม

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7167901/E7167901.html

ผมขอวางแผงนิตยสารชานไม้ชายเขา ประจำเดือน พฤศจิกายน 2551 ซึ่งเป็นฉบับที่ 35 กับรีสอร์ทแนวดิบๆ กลางหุบเขาของอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ที่ชื่อว่า Avatar Spa Mountain Suites (อวตาร)


ผมขอเริ่มด้วยภาพนี้ครับ บรรยากาศเขียวๆช่วงปลายฝน ภายในรีสอร์ท


ตัวตึกห้องพัก ชั้นล่างเป็นแบบ Executive Suite ส่วนชั้นบนเป็นแบบ Deluxe Suite


ห้องพักที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ครับ เป็นแบบ cottage แยกออกจากตัวตึก


ตัวรีสอร์ทอยู่ภายในหุบเขา วิวสวยมากครับ


ภาพนี้ภายใน lobby ซึ่งมีเพดานสูงโปร่ง เน้นปูนเปลือย


จากชั้นสองของ lobby ไม่ว่าอยู่ส่วนไหนของรีสอร์ทก็เห็นภูเขาไปทุกที่


ที่นั่งเล่นบริเวณบาร์ ใน lobby ผนังสีสันสดใส


จากชั้นสองของ lobby อีกภาพ ที่ผมชอบของที่นี่คือเขามีจักรยานให้ใช้ฟรี จักรยานแต่ละคันก็สวย คลาสสิคดี


ที่นั่งเล่นใกล้ lobby ดูปลาสวยๆ


มาดูภายในห้องพักบ้างครับ ห้องพักแบบแรกเป็นแบบ Deluxe suite จะมีภาพเขียนจำลองภาพเขียนโบราณซึ่งมีอยู่ทั่วไปในรีสอร์ท


ภาพสะท้อนจากกระจก ในห้องพักมีทีวี และเครื่องเล่น DVD ทีวีที่นี่มีcable ด้วย มีช่องหลักๆ


เตียงนอนใหญ่กว่าปกติ กว้างนอนสบาย น่านอน นอนดูวิวภูเขาจากบนเตียงได้เลย


บรรยากาศที่ระเบียง เห็นวิวภูเขาเต็มๆ ระเบียงที่นี่ไม่มีกันตก ถ้ามีเด็กเล็กๆ ซนๆมาด้วยต้องระวังเป็นพิเศษ


วิวภูเขาจากระเบียงห้องพัก ผมชอบโครงสร้างเหล็กด้านบน สวยดีครับ ยิ่งเวลาโดนแดดทำให้เกิดเงา เป็นตาข่ายดูแปลกตาดี


มาดูห้องน้ำที่ผมชอบมากครับ กว้าง แบ่งเป็นโซน กลางแจ้ง และในร่ม


ในห้องน้ำมีที่อาบน้ำที่เดียวคือที่อ่างกลางแจ้งในภาพ ในห้องไม่มีฝักบัว น้ำออกมาจากท่อตรงๆ ดิบดี


จากในอ่าง สามารถชมวิวภูเขาด้านนอกได้เลย บรรยากาศดี


ผมชอบทางเดินในอ่างที่มีก้อนหิน ดูเป็นธรรมชาติดี


นอกจากจะมีน้ำไหลจากท่อแล้ว ที่อ่างยังมีช่องน้ำออกอีกแห่งหนึ่ง น้ำไหลแรงดีครับ ถึงอ่างจะใหญ่แต่เปิดน้ำไม่นานก็เต็มอ่าง มีทั้งน้ำร้อนน้ำเย็น


บรรยากาศที่ระเบียงห้องพัก


ที่ระเบียงห้อง กลางคืนนอนนับดาว ตอนเช้านั่งดูหมอก


ช่วงที่ผมไปบางวันฝนตกเกือบทั้งวัน เลยมีหมอกให้เห็นตลอด ภาพนี้ถ่ายผ่านกระจกไปยังระเบียงห้อง


บรรยากาศที่เตียงนอน นอนดูหมอกจากเตียงนอนได้เลยครับ


หมอกตอนเช้าที่ระเบียงห้องพัก บรรยากาศดีจริงๆ


มาดูภาพบริเวณรีสอร์ทต่อครับ ตัวตึกของห้องพักจะเป็นสามแฉก โดยแต่ละแฉกเป็นห้องพักแต่ละโซน ซึ่งมีชื่อเรียก มีโซน พระจันทร์ พระอาทิตย์ และ ดาว ที่ปลายของแต่ละโซนจะเป็นห้องพักแบบ Honeymoon suite (ชั้นบน) และ ห้อง Presidential suite (ชั้นล่าง)


ภาพนี้เป็นอาคารของส่วน สปา และฟิตเนส ซึ่งอยู่ใกล้สระว่ายน้ำ ท่อที่เห็นไว้ล้างตัว ก่อนและหลังเล่นน้ำในสระ


สระว่ายน้ำบรรยากาศดี รายรอบด้วยภูเขา ว่ายน้ำไปก็ชมภูเขาไป


ที่อาคารห้องพักวันฟ้าใสอีกภาพครับ


ภาพนี้ถ่ายจากห้องอาหารของรีสอร์ท


ต้นไม้สวยๆกับบรรยากาศดีๆในรีสอร์ท


โต๊ะนั่งเล่นบน lobby ชั้นสอง


ที่นั่งเล่นใกล้ๆ lobby อีกภาพ


บรรยากาศที่ชั้นสองของ lobby มีหนังสือให้อ่านเล่น บรรยากาศดีครับ


มุมเดิมของภาพก่อนหน้านี้ เป็นช่วงเวลาใกล้ค่ำ แสงไฟที่เห็นใกล้ๆกับอาคารห้องพักคือส่วนของห้องอาหาร


ภาพนี้เป็นส่วนของ ดิสโกเธค อยู่ใกล้ๆกับอาคารสปา เป็นห้องที่อยู่ใต้ดิน ถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ คงมาใช้บริการที่นี่ได้


สระว่ายน้ำตอนเช้าๆ บรรยากาศอย่างนี้ที่ทำให้ผมมาว่ายน้ำที่นี่ทุกเช้า ว่ายน้ำไปก็ดูภูเขาและสายหมอกไป


สระว่ายน้ำที่นี่ก็เป็นแบบดิบๆครับ ใช้ปูนผสมสี อาจจะไม่หรูหราแต่บรรยากาศดีมากๆครับ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ


มาดูห้องพักอีกแบบ ห้อง Honeymoon suite ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก มีห้องนั่งเล่น และห้องนอน


ห้องชนิดนี้จะอยู่ห้องสุดท้ายชั้นสองของแต่ละโซน ภาพนี้เป็นส่วนของห้องนอน


จุดเด่นของห้องนี้อย่างหนึ่งที่อ่างอาบน้ำกลางแจ้งครับ มีฝักบัวอยู่ข้างบน บรรยากาศดี ที่จริงน่าจะมีฝักบัวธรรมดาอีกซักอัน เพราะฝักบัวด้านบนที่มีไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่


ห้องนอนอีกภาพครับ มีภาพเขียนจำลองภาพเขียนโบราณที่ผนังหัวนอนทุกห้อง ของประดับในห้องบางชิ้นผมคิดว่าเป็นของเก่าที่หาดูยากและดูคลาสสิกมากครับ คนที่ชื่นชอบของเก่าน่าจะถูกใจ


ระเบียงห้อง ที่ต่อกับห้องนอน บรรยากาศดี เห็นภูเขาเต็มๆ


มาดูส่วนห้องรับแขกบ้างครับ ห้องนี้ก็กว้าง เห็นวิวภูเขาเช่นกัน


ช่วงที่ผมอยู่ที่นี่ ฝนตกเป็นส่วนมาก ทำให้บรรยากาศดีจริงๆ ดูภูเขากลางสายฝน


บรรยากาศดีๆที่ระเบียงห้องอีกภาพ


บรรยากาศโรแมนติกที่อ่างอาบน้ำ ที่ตอนฝนตก ยิ่งได้บรรยากาศ


ภาพห้องน้ำอีกภาพ


วิวจากระเบียงห้องพักครับ เห็นภูเขาหญ้าเขียวๆ ข้อดีของการมาเที่ยวภูเขาหน้าฝน


วิวมุมกว้างจากหน้าต่างห้องพัก


บรรยากาศภายในห้องพัก เห็นภาพแล้วก็อยากกลับไปนอนเล่นดูฝนริมหน้าต่างบานนั้นอีก


ภาพสุดท้ายจากปกเช่นเคย ตัวอาคารห้องพักวันฟ้าใส กับภาพสะท้อนจากสระน้ำ ผมชอบสีของม่านเป็นพิเศษครับ ตัดกับสีของตัวตึกได้อย่างลงตัว


ช่วงเวลาที่ผมได้พักอยู่ที่นี่ รู้สึกสงบ สบาย ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ ผมว่าบรรยากาศดิบๆของห้องพักทำให้มีความรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งคงเป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบตั้งใจ ผมได้เข้าไปขอชมห้องพักด้านล่างซึ่งเป็นห้อง Executive suite ซึ่งต่างจากห้อง Deluxe ที่ผมเข้าพักจุดเด่นของห้อง Deluxe ในมุมมองของผมคือ ห้องน้ำที่มีส่วน outdoor ทำให้ดูโปร่ง สบาย ได้แช่น้ำดูดาว หรืออาบน้ำกลางฝน ส่วนห้องชั้นล่างซึ่งกว้างกว่า แต่จะดูทึบกว่าครับ จุดเด่นของห้องนี้คือที่ระเบียงห้องซึ่งอยู่ติดกับสระน้ำ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่ใกล้ๆน้ำ และเห็นวิวภูเขาสะท้อนกับน้ำในสระ บรรยากาศดีมากครับ ไม่ว่าอยู่ห้องพักแบบไหนก็เห็นวิวภูเขาทุกห้อง

ลองมาดูจุดเด่น จุดด้อยของรีสอร์ทแห่งนี้จากมุมมองของผม

จุดเด่น
- การออกแบบห้องพักที่เน้นความดิบของวัสดุที่ใช้เช่น ปูน หิน ทำให้รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ (คงแล้วแต่คนชอบด้วยครับ)
- ห้อง Deluxe ที่ผมเข้าพักมีห้องน้ำกว้างมากครับ เป็นแบบกลางแจ้ง อ่างอาบน้ำใหญ่แช่น้ำสบาย ระเบียงเห็นวิวภูเขา
- ห้อง Honeymoon กว้างมากครับ มีหน้าต่างโดยรอบทำให้เห็นวิวภูเขาสวยๆ ระเบียงเห็นวิวภูเขา
- พนักงานบริการดีมากครับ ยิ้มแย้มทักทาย เป็นกันเอง ทำให้รู้สึกอบอุ่น
- ที่รีสอร์ทมีจักรยานคลาสสิกบริการฟรีครับ ว่างๆก็ปั่นจักรยานเล่นรอบรีสอร์ท
- สระว่ายน้ำที่นี่บรรยากาศดีอยู่ท่ามกลางภูเขา ทางรีสอร์ทมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าในรีสอร์ท

จุดด้อย
- อย่างแรกคือผมรู้สึกว่าไกลครับ ถ้ามาจากกรุงเทพก็ประมาณสามชั่วโมง (แต่พอไปถึงแล้วเห็นห้องพักกับวิวสวยๆ ก็หายเหนื่อย)
- อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกไม่มากครับ อาจจะเป็นเพราะห้องพักไม่เยอะ
- แสงไฟในห้องพักค่อนข้างจะสลัว อาจจะเพื่อให้ได้บรรยากาศของถ้ำ แต่เวลาค้นหาของในกระเป๋า จะมองไม่ค่อยเห็น
- ช่วงที่ผมไปไม่มีผลไม้ต้อนรับเหมือนที่ผมเคยเห็นในรีวิวของคนอื่นๆ

โดยรวมแล้วผมประทับใจกับที่นี่มากครับ คนที่ไม่ชอบปูนเปลือย หรือการออกแบบดิบๆ อาจจะไม่ถูกใจกับที่นี่ ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบแนวคิดการออกแบบของที่นี่มากทีเดียว ช่วงที่ผมไปพักมีปัญหาเกี่ยวกับ spa ที่อยู่ใน package จนผมต้องโทรไปปรึกษา office ที่กรุงเทพ แต่สุดท้ายทางรีสอร์ทก็แก้ปัญหาไปได้ด้วยดี และคงต้องขอบคุณพนักงาน อวตาร ทุกๆคนที่ให้การต้อนรับ ช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขอบคุณ คุณนูที่พาชมห้องพักแบบอื่นๆในรีสอร์ทและแก้ปัญหา สปาใน package ให้ได้ด้วยดี มีโอกาสคงได้กลับไปพักผ่อนที่นี่อีก และสุดท้ายขอบคุณเพื่อนทุกๆคนที่แวะมาทักทาย จ่ายค่านิตยสาร ขอบคุณคุณกาแฟขม คุณviolet_ladybird คุณ miojung สำหรับรีวิว ภาพสวยๆและข้อมูลของรีสอร์ทแห่งนี้ครับ

เวปของรีสอร์ทและราคาห้องพัก
Resort Website: //www.avataarange.com/
ตรวจสอบราคาห้องพัก ณ ปัจจุบันได้ที่
//www.avataarange.com/rates.php
ผู้ออกแบบ: คุณ เขมิกา อวตาร
Create Date :03 พฤศจิกายน 2551 Last Update :3 ธันวาคม 2551 23:28:31 น. Counter : Pageviews. Comments :147