bloggang.com mainmenu search
เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นน ลิงมิวมิวหนีไปแอ๊บเป็นผู้ประสบภัยที่วังน้ำเขียวกับลุงๆ ป้าๆ ด้วยความหวังว่าจะหนาว(ซ้อมไว้ก่อนจะปลายปี ฮิฮิ) เกิดมาไม่เคยไปเลย วังน้ำเขียว...คงอารมณ์เดียวกับที่ไม่เคยไป ปาย และไม่เคยไปเสม็ด เอิ๊กกกกกกก....

กว่าจะตื่น กว่าจะออก จากบ้านต้องไปอ้อมมอเตอร์เวย์ ออกฉะเชิงเทรา วิ่งทางเลี่ยงหนีรถเยอะแยะ แต่ไม่ไกลมาก ใช้เวลาวิ่งแบบอ้อมๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า แต่รู้สึกระยะทางใกล้กว่าเขาใหญ่แฮะ
ท้องฟ้าหน้าหนาวได้มาเยือนแล้ว...^_^


คืนแรกพักที่บ้านทะเลหมอก ลดราคาสำหรับผู้ประสบภัยเหลือ 900 บาท/คืน(จากสองพันมั้ง) พร้อมอาหารเช้า(หมดโปรไปละ)


ไปถึงบ่ายแก่ๆ พอดี แดดไม่ร้อนมาก เจ้าลิงเลยลั๊ลลา โดดลงสระทันที...น้ำเย็นม๊ากกกกกกกกกก


กล้องลุงเบล


ห้องพักที่เป็นห้องแถว ตกแต่งธรรมดา(มากกก) แต่ถูกงิ เลยไม่กระไร ถ้าไม่ลดราคา ก็ต้องคิดซะว่า จ่ายเงินเพื่อซื้อ facilities ของรีสอร์ท วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ รอบนอกมีบ้านเป็นหลังๆ 3-4 ห้องนอน อันนั้นน่าสนใจ ปลีกวิเวกไป ทำเลดูชีลๆ บนเนิน สวยกว่าตรงห้องแถว

มีซุ้ม มีโต๊ะ ไว้สำหรับตั้งวงยามดึกได้เหมาะเหม็ง ไม่ว่าจะอยู่โซนไหนของรีสอร์ท วิวดีใช้ได้ อากาศดี อาหารที่ร้านข้างใน รสชาติกินได้ ราคาไม่แพงเวอร์ ทำให้ไม่ต้องออกไปหากินที่อื่น
มีมุมให้เดินเล่น ชีล ชีล ไปเรื่อย
ลิงไม่ว่าจะแต่งตัวสวยเกาหลียังไง..มันก็ยังเป็นลิงวันยังค่ำ T_T



ผู้ร่วมประสบภัย


เลิฟๆ แต่น่าเตะมาก


สั่งโพสสวยๆ ก็ทำได้อยู่นะ(แต่ไม่ค่อยทำ)






หนาวแค่นี้แหละ....พอกลับเข้าห้องพัก ก็แปลงร่าง อากาศสายๆ เที่ยงๆ เริ่มร้อน ออกเดินทางไปต่อตามเส้นทางอุทยานแห่งชาติทับลาน(ดูจากแผนที่ประมาณ 20 โลแต่ขับจริงๆ ไม่ไกลเลย ใกล้มากกกก ผ่านรีสอร์ทมากมายมหาศาล ป้ายริมทางเพียบบบบ) ผ่านสวนลุงไกร (ที่ไปถึงแล้วก็เอ๋อไป 3 วิ สงสัยเค้าเก็บผักไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรให้ดู นอกจากผักสด และน้ำพริกที่ขายอยู่ในเพิงนิดหน่อย ลุงไกรเจ้าของสวนเดินไปทำธุระใกล้ๆ วนเวียนอยู่บริเวณรอบนอกจึงไม่ได้เสวนาไรกัน)
แวะกินข้าวร้านสเต๊กข้างทาง....ให้เจ้ามิวมิวลงไปยืดเส้นยืดสาย(อีกละหรอ) มีนางสนมป้าหน่อยคอยติดตาม แกว่งชิงช้าให้อย่างใกล้ชิด 55555


ผาเก็บตะวัน ในอุทยานแห่งชาติทับลาน เส้นทางสะดวกสบาย ไม่สมบุกสมบัน เวลาเหมาะคือ 4-5 โมงเย็น มาปักหลักดูพระอาทิตย์ตก จะชีลมาก...แต่เรากันมาตอนบ่ายๆเก๊าะ ร้อนได้ใจ ถึงกระนั้นก็ยังมีลมเย็นๆ โชยมาให้พอสดชื่นนน




กิจกรรมปลูกป่า โดยยิงหนังสติ๊ก ดีดลูกมะค่าลงไปด้านล่าง...พอหน้าฝน ก็จะเจริญเติบโต (กระป๋องละ 10 บาท)
ลิงมุ่งมั่น (ตล๊อดดด)






ออกจากผาเก็บตะวัน...ไม่รู้จะไปไหนดี ยืนจดๆจ้องๆ แผนที่ ไม่รู้จะไปไหนไม่มีข้อมูล เลยจิ้มๆ เอาในแผนที่หน้าผาเก็บตะวันนั่นแหละ มีเบอร์โทรบอกเสร็จสรรพ ลุงเบลเลือกแวะไปดูไร่องุ่น Village Farm&Winery จากจุดที่เราอยู่ แผนที่บอกให้ไปทางคลองย่าโม แต่จิงๆ ขับออกไปถนนใหญ่ กลับรถแล้วมาเข้าทางเส้น 304 ชีวีจะมีสุขกว่า เพราะทางฝุ่นตลบมากกกกก....

ด้านหน้าเป็นร้านอาหาร และร้านขายไวน์ มีแปลงองุ่นอยู่ด้านหน้าพอให้เห็นว่าเป็นไร่องุ่น (แต่จริงๆ ด้านในมีอีกเยอะ เค้าห้ามคนนอกเข้า ยกเว้นแขกที่มาพัก)

ลุงเบลไปสืบมาว่า ที่พักอยู่ในช่วงโปรโมชั่นช่วยเหลือผู้ประสบภัย อูวว อ่าว์...แวะไปแอบเมียงมองแล้วจองเลย....เหลือ 1200 บาท จาก 6000

หันหน้าเข้าร้านอาหาร ฝั่งขวาจะเป็นที่พัก ชื่อโซนอะไรจำไม่ได้ มีที่ให้กางเต้นท์ด้วย บ้านฝั่งนี้จะมีบ้านหลังเดี่ยว (งามแงะ) และแยกเป็นห้องๆ ณ วันนั้น ราคา 1000 /คืน...ถูกโคด แต่เต็ม


ฝั่งที่เราพักชื่อ sunset อยู่ในป่าในดง ต้องเดินจากร้านอาหารไปประมาณ 200 เมตร มีที่จอดรถอยู่ห่างออกไปอีก
โซนนั่งเล่นกลาง มองออกไปวิวสวยยย

รูปบนซ้าย เป็นห้องด้านล่าง อยู่ติดสระว่ายน้ำ ราคาจะถูกกว่า วิวสวยกว่าห้องด้านบนที่อยู่ระดับเสมอกับถนน(ข้างบนเห็นแต่ยอดไม้อะ) และเปิดประตูมาเจอสระว่ายน้ำเลย ถูกกว่าเพราะมีชั้นเดียว มีมุมนั่งเล่นเล็กๆ ไม่แยกสัดส่วนสองชั้นเหมือนห้องด้านบน

สำรวจรอบๆ นอก และระเบียงห้อง...มองเห็นสระว่ายน้ำลิบๆ พร้อมกับวิวป่าเขา เห็นถนน 304 อยู่รำไร


ด้านนอก และชั้นล่าง...(มีสองชั้น) เป็นห้องนั่งเล่นกระจกรอบด้าน กลางวันสวยๆ กลางคืนเปลี่ยวๆ ก็วังเวงวิเวกใช่ย่อย


โคมไฟ ใต้โต๊ะมีอุปกรณ์ยังชีพไว้บริการได้แก่ ยากันยุง ไฟฉาย(สมควรมีอย่างยิ่ง) อาร์ทแมต...พร้อมสรรพ บริเวณบันไดขึ้นชั้น 2 หลังคาเป็นกระจก เริศฮร่ะ


ห้องน้ำกระจกรอบด้าน มีมูลี่ให้เปิดปิดได้


ห้องนอนชั้น 2 แม่เจ้า!! มี 2 เตียง รู้งี้พกเสื่อแล้วตามญาติโยมมาด้วยก็ดี T_T


สระน้ำ (ที่ไม่ค่อยสะอาด)เย็นเฉียบบบบ แต่วิวนี่ ยกให้เลยค๊าบบ.....







ห้องพักตอนกลางคืน...ดูอบอุ่นไปอีกแบบ


เค้าห้ามเอาอาหารเครื่องดื่มเข้ามากินเพราะมีอาหารและเครื่องดื่มบริการ(ที่ร้าน) แต่ 6.30 น. วันนั้น ลุงเบลกะเชี่ยวเดินส่องไฟฉายออกไปที่ร้านอาหาร (200 เมตร ไปกลับก็จะครึ่งโลละ) จะไปสั่งอาหารและเอาที่เปิดไวน์ เจอสภาพไซเรนฮิลล์เข้าไป.....ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณรอบๆ ตัวร้านอาหารเปิดไฟไว้ แต่ไม่มีคน....
ดีนะ ที่ไหวตัวทัน....ลุงเบลกะป้าหน่อยออกไปซื้อของกินมาไว้เผื่อที่ตลาดใกล้ๆ มิฉะนั้นแล้วคงได้จกแหนมเห็ด OTOP วังน้ำเขียวกินกะน้ำพริกสวนลุงไกรแน่ๆ ไหนบอกครัวปิดสองทุ่มไงฟระ หลอกกั๊นนนนน
(เออ โทรศัพท์ในห้องไม่มีให้นะ)
เมนูก้อย ส้มตำ ไก่ย่าง เข้ากะบรรยากาศดีมะ...


อิ่มหมีพีมัน หลับสนิทฝันดี ตื่นมาแฮปปี้ตอนเช้า ด้วยเสียงลม ที่เสียดสีกับต้นไม้และเล็ดลอดเข้ามาตามช่องประตูหน้าต่างในห้อง....
^_^ อากาศดีมากกกก นึกว่าอยู่ยุโรป


ลิงเริงร่าในไร่องุ่น








ท่าฝึกวิชา (จิงๆ นะ คือมันไม่ได้แอ๊บน่ารัก หรือโพสเกาหลี..แต่ฝึกวิชายืนขาเดียวไว้ต่อสู้กะหมาป่าตัวเขื่อง -_-'')


สำรวจวัชพืช นั่งจิ้มมัยลาภ


ถ่ายกะนางสนม...ฮิฮิ




อาหารเช้า เป็นข้าวต้มเห็ดหอมสด และ ABF (ข้าวต้มหร่อยอะ)


เช็คเอ้า ออกเดินทางต่อ ไปทางเส้นอุทยาแห่งชาติเขาใหญ่ จะแวะเขาแผงม้า พาเด็กไปส่องกระทิง ขึ้นไปได้ 1 กิโล ถอดใจ สงสารรถ เพราะแรกๆทางดี ขับไปๆ เป็นดินแดง จิงๆก็ขึ้นไหวนะ ไม่ได้ชันมาก แต่เกรงว่า หนทางข้างหน้ามันอาจจะยิ่งกว่านี้ เลยไม่เอาดีกว่า หน้าฝนรถเก๋งลืมไปได้เลย เละ ไถลติดหล่มแง๋มๆ

ขับไปเซอร์เวย์ เวลาเวียน...ลังเลว่าจะไปเขาใหญ่ต่อดีไม๊ แต่ไม่ดีกว่า อากาศไม่หนาวอย่างที่คิด จอดแวะ A cup of love ให้เด็กชื่นใจนิดนุง (เค้กไม่อร่อย เครื่องดื่มก็งั้นๆ เสียค่าไปดูแกะ 50 อาหารแกะ อีกกำละ 20 เฮือกกกกกก) แต่รีสอร์ทด้านบนๆ (ที่ไม่ใช่ที่เห็นในรูป) ทำเลดีแฮะ น่าจะวิวสวย ไว้ค่อยแวะมาสำรวจใหม่คราวหน้าละกัน


จบทริปนี้ไปแบบห้วนๆ ร่ำลากันด้วยเด็กจมูกบาน....บุย บุย...


Create Date :02 ธันวาคม 2554 Last Update :2 ธันวาคม 2554 19:51:50 น. Counter : Pageviews. Comments :10