bloggang.com mainmenu search
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พามิวมิวแบกเป้ รวมกับป้าๆ เดอะแก๊งสาวโฉด...เอ้ยยย โสดดดดดโว้ยยย โสดดดดดด ไปกัน 4 สาวเหลือน้อย และ 1 สาวน้อย ขึ้นรถทัวร์ ต่อสองแถว โหนโฟว์วิล เดินเท้าไปกลับอีก 8 โล นั่งรถไฟ สะบักสะบอม แต่จบทริปกันไปแบบชื่นมื่น เต็มอิ่ม

ทีแรก ก็กล้าๆ กลัวๆ ว่าจะรอดไม๊ เพราะลำพังผู้ใหญ่ไป ก็ว่าไม่ได้ไปสบายๆ นี่มีเด็ก 4 ขวบร่วมทริปไปด้วยอีก 1 คน อากาศที่เย็นยะเยือก เพราะก่อนหน้าเดินทางไม่กี่วันจังหวัดทางภาคเหนือหลายจังหวัดถูกประกาศเขตภัยพิบัติจากภัยหนาว จะไหวไม๊น๊ออ..แต่เอาวะ ถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้ลองของ ทดสอบความสามารถแม่ลูกว่า โครงการท่องโลกของเราแม่ลูกในอนาคตจะไปรอดไหม เริ่มต้นจากทริปในประเทศนี่แหละ ยังไงๆ ก็ยังอยู่บนพื้นแผ่นดินไทย คนพูดภาษาเดียวกัน น่ากลัวน้อยกว่าไปเยือนถิ่นแปลกหน้าเป็นไหนๆ


แรงบันดาลใจอันแรงกล้าของ The coffee journey
เริ่มต้นขึ้นจากคำบอกเล่าของคนรู้จักรอบๆตัว ทั้งป้ากุ้ง ป้าเก่ง และกลิ่นกาแฟอันหอมหวนในหม้อต้มที่ออฟฟิส กับคำบอกเล่าเรื่องถึงน้องชายคนนึงที่ฟังแล้วอะเมซซิ่ง เราได้รู้จักประวัติก่อนจะได้พบเจอตัวเป็นๆเสียอีก

เวลาผ่านไปแบบลืมๆ อยู่มาวันนึงบุพเพอาละวาด(หรอวะ) ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ร้านกาแฟเล็กๆ แถวเพลินจิต ป้าๆ นั่งเม้าเรื่องงานกันอย่างเมามันส์ มีผู้ชายคนนึงเปิดประตูเข้ามาในร้าน อะแน่นอน เป็นคนเดียวกับคนที่เรารู้เรื่องราววีรกรรมต่างๆ ก่อนจะได้เจอตัว เปิดประตูร้านเข้ามาป๊ะกันพอดี ยิ้มแย้มทักทายกัน พร้อมเหตุผลที่มา "ผมมาชิมกาแฟครับ" (อะ ได้ข่าวว่าอยู่ดอยไม่ใช่รึ ทำไมมาชิมซะไกลเลย)
หลังจากนั่งคุยพอกรุบกริบ คุณน้องงัดสมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยลายมือขีดๆ เขียนๆ ออกมา..มีสเก็ตช์ แพคเกจจิ้งกาแฟใหม่ จดโน่นนี่ไว้ต่างๆ นาๆ บอกเล่าโปรเจคในอนาคต ดวงตาเป็นประกายสดใสเต็มไปด้วยความหวัง (ณ จุดนี้ เจ้าตัวอาจจะลืมเหตุการณ์วันนั้นไปแล้ว) แต่เค้าจำได้ เพราะมันคลิ๊กมาก จากประวัติที่ได้ยิน พอมาเจอตัวจริง ท่าทาง คำพูด อะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่า.....อยากรู้จักมากขึ้นกว่านี้อีก(เวอร์ไม๊...เวอร์ แต่จิง!)

พี่อ้อย หนึ่งในป้าที่ร่วมวงสนทนา ได้โอกาสเหมาะเหม็งจับน้องมาสัมภาษณ์ ลง Postcard Magazine จัดเต็มๆ ไป 4 หน้าประชันกับมาริโอ้เมาเร่อ
แล้วเจ้าแมกกาซีนเล่มนี้ วันนึงก็ลอยมาอยู่บนโต๊ะที่ออฟฟิสให้เราได้อ่าน หลังจากอ่านอยู่หลายรอบแบบอึ้งๆ ซึ้งๆ ก็ยิ่งทำให้เราอยากรู้จักตัวตน ความเป็นอยู่ รวมไปถึง "แม่" ที่เลี้ยงดูมา อะไร ทำให้เด็กผู้ชายคนนึง สังคม สภาพแวดล้อมอีกแบบนึง คิดสิ่งเหล่านี้ได้นะ
ในฐานะคนเป็นแม่เหมือนกัน สังคมและการเลี้ยงดูแบบไหน ที่ทำให้คนคนนึง หลุดออกจาก กรอบ และขีดจำกัดหลายๆอย่างมาได้ถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่วัตถุ เงินทอง ความรู้ ความสามารถ ความเก่ง มาก่อนความดี การเสียสละ ทำเพื่อสังคม เพื่อคนอื่นและความพอเพียง

เราเลยตั้งใจว่า ถ้ามีโอกาส อยากจะไปทำความรู้จักสักหน่อย จวบจนโอกาสนี้มาถึงนั่นแล หมายหัวผู้ร่วมทริปไว้นานแล้วตั้งแต่ก่อนหน้า พอมีประกาศกำหนดวันเดินทาง Coffee Journey
เราเก๊าะนับวันรอจองตั๋ว จัดการจองตั๋วให้ (อะเลิ๊ดเว่อๆ จิงๆชั้นไม่ได้จะใจดีจองให้นะ แต่กัวคนอื่นชิ่ง ไม่มีนางหนมช่วยเลี้ยงลูก 55555) เสร็จสมอารรมณ์หมาย ไม่รู้ใครหลงกลใคร เอิ๊กกกกก

พิมพ์มาอย่างยาว...ลืมบอก ว่าเค้าคนนั้นคือใคร
ลี อายุ จือปา กับแบรนด์ Akha Ama Coffee



มาดูบทสัมภาษณ์บางส่วนกัน จะได้ไม่ต้องเล่าเองให้ยาว (บางรูปอาจจะเล็กไปหน่อย แต่เพ่งอ่านให้ครบนะ 5555)










ถึงตอนนี้ อาจจะพูดไม่ได้ว่า ณ จุดนี้ เป็นจุดที่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ แต่จากแววตาและความมุ่งมั่น....เราเชื่อว่า ไปได้อีกไกลแน่นอน ไม่ว่าอุปสรรค์จะมากมายแค่ไหน
สู้ๆ นะจ๊ะ

แล้วพรุ่งนี้ ว่างๆ จะมาเล่าต่อ เรื่อง The Coffee Journey ของมิวมิวนะค๊า....จุ๊บๆ

ปล. อยากจะบอกความลับว่า อันที่จิง....เราไม่กินกาแฟง่ะ เพราะเหตุนี้จึงไม่ได้ไปเพราะ อยากรู้ว่ากาแฟนั้นมีที่มายังไง...ไม่ได้อยากรู้ว่า กาแฟปลูกยังไงสักเท่าไหร่ (แต่อยากไปเก็บนะ ชอบเดินป่า เดินเขา)
จิงๆแล้ว อยากกิน เพราะกลิ่นกาแฟช่างหอมยั่วยวน ชวนหลงไหล แต่กินแล้วไม่ต้องถึงกับหมดแก้ว ใจก็เต้นตูมตาม หัวใจจะวายตาย ...ไอ่ครั้น จะให้ปรับตัวเข้าหากาแฟ กินบ่อยๆ เพื่อร่างกายจะได้ชิน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาตัวไปผูกกับคาเฟอีน เพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า...อยู่เฉยๆ พึ่งตัวเองได้ ก็ดีแล้วงิ ชิมิ ชิมิ....รึเค้าควรจะกินกาแฟ decaf เพื่อจะได้แอ๊บจิบกาแฟเท่ๆ กะเค้าบ้าง....

และความลับอีกอย่าง....ดิชั้น anti Starbucks !!!!!!!!
Create Date :03 มกราคม 2555 Last Update :4 มกราคม 2555 8:33:51 น. Counter : Pageviews. Comments :7