bloggang.com mainmenu search
ตั้งชื่อหัวข้อเวอร์ซะ...เช้าแรกที่เชียงคาน

เราตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้า 6 โมงกว่าๆ แอบย่องออกมาดู...เห็นพระอาทิตย์เริ่มขึ้น

เดินออกไปเมียงมองด้านนอก หนาวใช้ได้เลย แต่เสื้อนอนตัว เสื้อหนาวตัวเอาอยู่ หมอกจางๆ
บ้านเรือนติดริมถนน ยังเงียบบบ...



ถนนมุมเดิมๆ แต่ความรู้สึกเปลียนไป๋



คนใน รร. พอเห็นมิว ก็ได้แต่ทักกันระงม ว่า..อ่อ..คนน้อยนี่เอง เจ้าของเสียงเมื่อคืนใช่ป่าวเนี่ย...คนดังโดนทักแต่เช้าซะงั้น
เค้าใส่บาตรกันกี่โมงหว่า..ได้ข่าวว่าชาวบ้านแถวนี้ ใส่บาตรข้าวเหนียวกันเปล่าๆ แล้วเอากับข้าวไปถวายพระที่วัด ตั้งใจว่าจะตื่นมาใส่บาตร ดูบ้าง แต่ไม่ได้เตรียมไรไว้เลย ไม่รู้จะหาที่ไหนด้วย ข้ามไป ด้านหน้า รร. ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตมากๆ เลยกลับไปนอนต่อ อีกจิ๊ด

รร.สุขสมบุรณ์ มองจาก ถนนศรีเชียงคาน ซ.9



สัก 7 โมง...เดินลงมา ถามทางไปตลาด ได้ความว่า จาก รร.สุขสมบูรณ์ เดินไปตามถนนศรีเชียงคาน ซ. 9 ตรงข้ามไฟแดงถนนใหญ่ไป และตรงไปอีก ไม่เกิน 200 เมตร ซ้ายมือจะเป็นตลาด

โอเคเลย...เดินเท้าไปละกัน เจ้ามิวมิวดูท่าหลับสบาย ส่วนพ่อมันก็คงขับรถเหนื่อย ปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน..แอบบบไปสอดแนมตลาดดีก่า

ระหว่างทาง ซ. 9 ผ่าน รร.พูลสวัสดิ์ (ดูชื่อ...) สภาพโนคอมเม้นท์....เอาเป็นว่า ดูภายนอก สมชื่ออะ ด้านในไม่รู้

ผ่านร้าน ลุกโภชนา ขายโจ๊ก ต้มเลือดหมู ติ่มซำ และอาหารตามสั่งอื่นๆ แต่คนรึ่มเลย....

เดินข้ามไฟแดงถนนใหญ่ไป..รถเบาบาง หมอกจางๆ ไปตามทางเดิน สองข้างทางเป็นบ้านไม้สองขั้นเก่าๆ เงียบสงบ สูดโอโซนเข้าพรืดใหญ่ๆ น่าอยู่ไม่ใช่น้อย


จากไฟแดง มาอีกนิด ซ้ายมือ เป็นร้านขายไอศกรีม อาหารเช้า เครื่องดื่ม ชื่อ สุวรรณรามา ตกแต่งไว้รอ คนกรุงเทพ และพวกที่กระหายถ่ายรูป (พูดถึงพวกนี้ ละเด๋วได้เหลากันยาว) มีคนกรุงเทพ นั่งกินอาหารเช้ากันอยู่หลายคนทีเดียว

เดินต่อไป...เจอตลาดอยู่ทางซ้ายมือ ขายผักสด และอื่นๆ แต่ไม่ได้เดินเข้าไป เพราะ ถือกล้องอันหยั่งควาย...มันเหมือนตัวประหลาดพิกล ดูเป็นนักท่องเที๊ยวว ท่องเที่ยววว และเราไม่ได้กระหายจะถ่ายรูปทุกช็อต ขนาดนั้น มันก็คือตลาดอะนะ...งัวเงียเกินกว่าจะมานั่งเพ่งพินิจหาความงาม และถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ

ท่องเที่ยวกับถ่ายรูป เป็นของคู่กันเนาะ..แต่บางที บางคน....มัวแต่ห่วงจะถ่ายรูป ไว้อวด ไว้ลงบล็อค ทุกช็อตทุกเม็ด จะกิน จะขี้ จะเดิน จะหมุนตัว ขอถ่ายก่อน จนคนไปด้วยเสียรมณ์ หมดสนุกกันไป ละมีแบบ..โปรกล้องหอบอุปกรณ์อย่างเยอะอะ..เดินไปเดินมาในเชียงคาน ตัวเราเองมองว่า..ประหลาดว่ะ

ถ้าเราเป็นคนท้องถิ่น คงมองว่า..เออไอ่พวกนี้..เห็นกรูเปนตัวประหลาดหรือไง ที่บ้านไม่มีตลาดเรอะ
พอจบวัน..มานั่งคุยกัน ไหนๆ ได้อะไรมาบ้าง คุณถ่่ายมาได้กี่รูป โห..ได้ตั้ง 700 กว่ารูปเลยหรอ เราได้แค่นี้เอง.....(แอบฟังเค้าคุยกันในร้านข้าว)

เอ่อ...จะเน้นปริมาณหาพระแสงไรไม่ทราบ...ถ่ายๆๆ เยอะๆๆๆ มานั่งเลือกรูปที่ดี รูปที่ใช้ได้ นั่งครอป นั่งรีทัช เมื่อยไม๊ล่ะนั่น...

แต่ช่างเถอะ...ขยันก็เอา...

แต่เรานี่ ถ่ายแล้วแต่รมณ์ ไม่มีรมณ์ก็ไม่ถ่าย ไม่รู้จะถ่ายไร ก็ไม่ถ่าย หิวๆๆ อาหารมาเสริฟ ก็ไม่มานั่งพิรี้พิไรถ่ายรูปเก็บมาอวดอะนะ...จ้วงเลย (ละมานึกได้ทีหลังลืมถ่ายรูปไว้อวด..แต่มันหมดซะแล้วนี่..ทำไงได้ ฮ่าๆๆ)

พูดเหมือนถ่ายสวยงั้นแหละ..แต่จริงๆถ่ายห่วย 5555
ส่วนใหญ่ ป๊ามิวจะเป็นคนสะพายกล้อง รูปไหนห่วยๆ ก็เดาได้เลยว่าเราถ่าย เอิ๊กกก


อะเข้าเรื่อง..ขากลับจากสำรวจตลาด เราเลยได้โกโก้ร้อน และแซนวิข 2 คู่ จากร้านสุวรรณรามากลับมาหม่ำๆที่ห้อง ก่อนจะนอนต่ออีกนิด แล้วค่อยคิดกันว่าวันนี้จะทำไรดี

สรุป ตื่นมา เดินไปหม่ำๆ โจ๊กร้านลุกโภชนา หย่อยๆๆๆๆ
จากนั้นเช่าจักรยานไปปั่นเล่น สำรวจภูมิทัศน์ โดยรอบ
ปั่นไปจนสุด ถนนชายโขง ไปดูท่าเรือข้ามฟากไปลาว...มีคนหอบสินค้าข้ามไปมา แต่ฝั่งโน้นดูเงียบๆ ไม่น่าข้ามไปเท่าไหร่ เห็นว่าพาสปอร์ตใช้ไม่ได้(เพราะไม่ใช่ด่านแบบเป็นทางการ แต่ต้องทำเป็นหนังสือผ่านแดน
ปั่นไปร้านอัดรูป อัดรูปเจ้ามิวมิวกับบรรดาย่าทวดทั้งหลาย ไว้แจกขากลับ
ปั่นไปโน่นมานี่...จนหนำใจ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอะ..ไม่รู้จะถ่ายอะไร วิถีชีวิต ผู้คน..คงต้องอยู่หลายๆวันกว่านี้ ให้คุ้นเคยสักพัก เราไปแบบฉาบฉวยๆ ไม่อยากทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวมากก เดินเห็นไรก็ถ่ายๆๆ ไปซะหมด โดยที่ไม่รู้ว่า คืออะไร ใครเป็นใคร ที่ไหน ยังไง ส่วนตัวเองคิดว่า รูปภาพที่ดี นำเสนอให้ครบ มันน่าจะมาพร้อมกับเรื่องราว และความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาจริงๆ

ลัดเลาะมาทั่วเมือง..มีแต่คน ยิ้มแย้ม ชวนคุย บางบ้านถึงกับเดินออกมา ชวนคุย เป็นมิตรมากสมคำล่ำลือ
ว่าไง คนน้อยย....
คนน้อยนี่ ผู้หญิง รึผู้ชาย
คนน้อยนี่ หยั่งกะตุ๊กตาญี่ปุ่น บางคนนึกว่าเชี่ยวสะพายตุ๊กตาอะนะ...(เจ้าตัวบอก..ถ้าเชี่ยวเล่นตุ๊กตา คงเป็นผู้ชายที่หน้าเฮี้ยที่สุด ที่เดินสะพายตุ๊กตาไปไหนมาไหนด้วยเลยว่ะ เอิ๊กกกกกก)

กลางวันๆ แบบนี้ แดดร้อน ไม่รู้จะกินอะไรดี
เลยเดินเลียบแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ...ลองดู..บ้านป้าอ้นศรีพรรณดูแล้วกัน (จริงๆ ป้าแกคงไม่ได้ชื่ออ้นอะนะ...)

สั่งข้าวผัดกะเพราไข่ดาว สุกี้แห้ง ลาบหมูทอด

อาหารตามสั่ง..อร่อยยยยยยยยย
แต่ที่อร่อยมากกกก คือ ลาบหมูทอด เอาหมูสับ ปรุงรสป่าวไม่รู้ (อันที่จริงไม่รู้ว่าสับหรือเป็นชิ้นๆ) รู้แต่หร่อยอะ..แล้วเอามาทำลาบ คลุกกับข้าวคั่วหอมๆ เครื่องสะใจ เลิศมากกกกกกกก


ที่สำคัญ ไม่แพงอะ...ป้าเค้าใจดี ยิ้มแย้ม อัธยาศัยดีมากกก จนไม่แปลกใจเลย ที่คนต่างถิ่นใครไปใครมา ต้องแวะมาที่นี่ (ทั้งๆที่ ถ้าเป็นสภาพบ้าน จะรู้สึกว่า เอ่อ..นะ...ธรรมดามาก ถึงมากที่สุดอะ)

ยังคิดเสียดายว่า..เมื่อคืน ไม่น่าไปเสียค่าโง่ กินร้านอาหารแพงๆ หมดไป 200 แบบไม่อิ่ม และไปเสียต่อที่สองที่ รร. อีก 400 กว่าบาท กับกับข้าวสองอย่าง เบียร์สองขวด ข้าวหม้อนึง (แต่ป้าที่สุขสมบูรณ์ใจดีนะ...เอาข้าวใส่หม้อมาวางไว้ให้ บอกกินตามอัฺธยาศัย คงไม่คิดว่าสองคนจะฟาดข้าวหมดหม้อไ้ด้อะ แล้วมีแถมข้าวเหนียวสังขยา คนละห่อ และน้ำเปล่าให้อีกขวด)

คืนนี้ เจอกันแน่นอน ป้าอ้น..เตรียมตัวไว้ได้เลย...จะมาฝากท้องไว้แน่ๆ อิอิอิ

กลับที่พัก ไปเอารถออก..จากการสอบถามแบบไร้จุดหมาย มีคนแนะนำให้ไปไหว้พระใหญ่ ที่ บ้านท่าดีหมี ห่างจากเชียงตานไปทางตะวันตก 22 กิโล...ระยะทางโอเค ไม่ไกลมาก เลยตัดสินใจไป
(จริงๆเค้าแนะนำให้ใช้อีกเส้นทางที่อ้อมกว่า แต่ดันจำที่เค้าอธิบายไม่ได้ เลยไปทางตรงๆ ทื่อๆ ตามแผนที่แทน)
ใช้เส้นทางเลาะเลียบแม่น้ำโขงไปทางตะวันตก ที่ขับๆไปแล้ววัดใจ..ว่าจะกลับดี หรือไปต่อดี

ไม่มีผู้คน...ทางเป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นระยะๆ ยาวๆ สลับกับทางที่พอจะดีบ้าง ไม่มีป้าย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ระหว่างหมู่บ้านไปอีกหมู่บ้าน กว่าจะถึงบ้านท่าดีหมี นี่แบบ มีรถสวนมาคันนึงนี่ดีใจแทบตาย..
(อารมณ์ประมาณว่า มีคนหลงมาเหมือนเราด้วยว่ะ ทางแบบนี้ยังมีคนมาอีกหรือนี่)

จนถึงบ้านท่าดีหมี...จะมีป้ายบอกทางไปพระใหญ่..ขับขึ้นเขา ชันๆๆๆ ไปอีก 1-2 กม. ก็ถึง
พระใหญ่หันหน้าออกแม่น้ำโขง ไปทางฝั่งลาว..ลมเย็นๆ มองเห็นทิวทัศน์ข่วงโค้งหักเลี้ยวของแม่น้ำโขงตรงหน้าได้เป็นอย่างดี...วิวธรรมชาติมากกกก

ใครหนอช่างคิด หาโลเกชั่นตรงนี้...ฝั่งลาวคงได้เห็นพระสีทองอร่าม จากทางฝั่งไทยแล้วอิจฉา เป็นแน่แท้
แวะไหว้พระ เดินกินลม ชมบรรยากาศให้หายเหนื่อย ก่อนจะเจอทางนรกขากลับ 22 โล แบบขามา


ขากลับทำเวลาได้เร็วขึ้นเพราะพอจะรู้เส้นทางแล้ว ไม่ใช่ขับรถแบบหมดอาลัยตายอยากแบบขามา..
แวะกลับไปนอนกลิ้งเล่นที่ รร. แป๊บนึง ก่อนจะเตรียมตัว ขับรถไปแก่งคุดคู้ อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวชื่อดังของแถบนี้ (ขับรถไปทางตะวันออกของเชียงคานอีก 5-6 โล)
ตอนที่ไป น้ำค่อนข้างเยอะเลยมองไม่เห็นเกาะแก่งหิน กลางแม่น้ำโขง ที่ขวางทางเดินน้ำ ทำให้แม่น้ำต้องหักเลี้ยวโค้ง ไหลเชี่ยวกราก...เค้าว่าถ้ามาหน้าแล้งจะสวยกว่า ของฝากจากแก่งคุดคู้ ก็มีกุ้งฝอยชุบแป้งทอด (ที่ไม่ได้ชิม เพราะขี้เกียดเคี้ยวให้มันตำเหงือกเล่น) และมะพร้าวแก้ว ที่กวนกันสดๆ แถวนั้นเลย..
เราซื้อกลับมา หลายห่อ..แต่กินคนเดียวไปเกือบหมด..แฮ่


ระหว่างทางกลับ....จะผ่านที่ท่องเที่ยวอีกที...คือ ภูทอก ชื่อคุ้นๆ เนอะ
ลุงที่ รร. แนะนำมา บอกว่าให้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
ป้ายเล็กมากก...ทางเป็นหลุมเป็นบ่อ จนไม่ั่นใจว่าใช่หรือเปล่า
ขับๆ เข้าไป แวะถามชาวบ้าน จนแน่ใจ..พอจะถึงทางขึ้นตีนภู ดันมีแผงเหล้กกั้นซะงั้น..แต่สำรวจดูแล้วมีรอบรถวิ่งอ้อมแผงเล็กลงไปข้างทางและกลับเข้าถนน...
อ่า..ไหนๆ ก็มาแล้ว...แหกรั้วตามเค้าไปละกัน..แสดงว่า โซป๊อปปูล่ามากอะ ภูทอก...เค้ากั้นไว้ไม่ให้ขึ้นก็ยังดึงดันแหกเข้าไป รถโหลดและรถแบกสัมภาระจนแอ๊บไม่แนะนำ....รับรองมีเกยตื้นแน่

พอขึ้นไปแล้วก็ถึงบางอ้อ...ทางค่อนข้างชัน แคบ คดเค้ียว รถไม่สามารถวิ่งสวนกันได้...(ถ้าสวนก็ อตร. อะนะ) แต่พอดี..เราแหกคอกมา เลยค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะม่ีรถ หรือคนสติดีๆ ตามมาแน่

ไปยืนรอพระอาทิตย์ตกดิน...ขึ้นมาละไม่เหงา...ยังมีสิ่งมีชีวิตบนยอดภู...คือ จนท เฝ้าเสาโทรศัพท์ แต่พอฟ้าเริ่มมืด เค้าก็กลับลงไปแล้น...ขนาดเรามาตอนยังไม่มืด..ยังเสียวๆ ไม่แน่ใจว่าใครจะบ้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นบนนี้ก็ไม่รู้แฮะ.....



ความสวยให้ 3 ดาว..แต่ความเสี่ยง ให้ 4.5 ดาว เพราะเปลี่ยวเหลือเกิน...ตกเขาตายแถวนี้อาจจะเหลือแต่โครงกระดูกกว่าจะมีคนมาเจออะนะ..


พอพระอาทิตย์ตก ฟ้าเริ่มมืด ก็อพยบกันลงเขามา....ใช้ทักษะการขับรถซิ่งของป๊ามิวมิวลงมาได้อย่างปลอดภัย แบบอุ่นใจ จากนั้น กลับที่พัก แวะกินข้าว ร้านป้าอ้น..เเมนูเดิม ลาบหมูทอด ต้มข่าไก่ ไข่เจียว กินกัน 3 คน พ่อแม่ลูก...ไม่หมดอะ..เยอะมากกกก....
ต้มข่าไก่ อร่อย
ลาบ รอบ 2 แล้ว ยังอร่อยอยู่
ไข่เจียวฟูๆ กะข้าวร้อนๆ ไม่ต้องพูดถึง
ถ้าจะหวังมากินอะไรแปลกๆ อลังการงานสร้างแถวเชียงคาน น่าจะหายากนิดนึง..ยกเว้น พวกปลาแม่น้ำโขง (เราไม่ชอบกินอะ..ปลาบึก ปลาคัง ปลาแม่น้ำหนังจะหนาๆ หยึยๆ)
ถ้าอาหารบ้านๆ แบบนี้ ป้าอ้นทำอร่อย แบบที่เรากะเชี่ยวลงความเห็นเหมือนกันว่า...อร่อยเหมือนกินข้าวบ้าน บอกไม่ถูกอะนะ..แต่ด้วยบรรยากาศรอบๆ มันพาไป..ให้ความรู้สึกประมาณนั้นเลย
มื้อนี้มีเบียร์ขวดนึง หมดไป สองร้อยมั้ง...กลับที่พัก หลับปุ๋ยๆ อิ่มโคดดดด...เหลือห่อมากินรอบดึกได้อีกอะ




note :แผนที่ไม่ได้สเกล เพียงแต่บอกพิกัดโคดจะคร่าวๆ
จริงๆมีซอยศรีเชียงคานอื่นๆ ไล่เลขจากมากไปน้อย ทุกเส้นสามารถทะลุออกถนนใหญ่ได้ เชื่อมระหว่างถนนชายโขงและถนนใหญ่ แต่บางเส้นอาจจะแคบรถยนต์ผ่านลำบาก
มีเกสท์เฮ้า และร้านอาหารอื่นๆที่ไม่ได้ลงไว้ในแผนที่...ลงไว้เฉพาะที่ไปมาและจำได้
ร้านอาหาร เช่น บ้านต้นโขงและร้านลำเอียง ร้านกาแฟ ร้านขายซาลาเปาปุยฝ้าย(ที่เราว่าเฉยๆ) ร้านไอเดียดีดี ขายเครื่องดื่มของฝากของที่ระลึกฮิปๆ ก็อยู่บนถนนนี้ ถัดๆไล่กันไป
ร้านค้า ขายขนม เหล้าเบียร์บุหรี่ เปิดถึง 3 ทุ่ม
สุวรรณรามา เปิด 7.30 น. ปิดไม่รู้
เกสท์เฮ้าส์อื่นๆ ไปทางตะวันออก เช่น เชียงคานริเวอร์วิว แซมเกสท์เฮ้าส์ และอื่นๆสารพัด ห่างกันไม่มาก ระยะปั่นจักรยานถึงพอเมื่อยตูด

ไม่รู้ทำไม..เชียงคานมีไอติมขายเยอะแยะ เต็มไปหมด


Create Date :16 ธันวาคม 2551 Last Update :3 มกราคม 2552 22:04:39 น. Counter : Pageviews. Comments :3