ตื่นมาวันที่ 2 แบบโอดโอย...เมื่อยแขนขา อ่อนล้า ตามอายุขัย
จากที่วางแผนว่าจะตื่นแต่เช้าไปมาเก๊าจะได้มีเวลาเยอะๆ ชีลๆ แต่สองป้าก็ตื่นปาเข้าไป 8 โมงกว่า อาบน้ำ อืดอาดยืดยาด แต่งหน้าแต่งตา ทาคิ้วปัดแก้ม (หารู้ไม่ว่าจะต้องไปเผชิญชะตากรรมอะไรบ้าง) สวยออกมาจากโรงแรม 9 โมงกว่าจะสิบโมง ไปหาของกิน คราวนี้เปิดโพย หนังสือเล่ม 1. เขาว่าอร่อยฯ หาร้านใกล้ๆ โรงแรม และเปิดเช้า(ตามแผนว่าจะตื่นเช้า) เลขที่ออก......ร้าน Mu Dan Ting
พิกัดอาคาร Hongkong pacific center ที่ พอเจอป้ายร้าน (มองจากริมถนนแขวนไว้ชั้น 2 ของตึก) จะหาทางเข้าไม่เจอ ทางเข้าตึกตรงที่มีป้ายแขวน กลับกลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น..ถัดมาเป็นร้านอาหารจีน ที่ยังไม่เปิดสักกะร้าน..แล้วไหน ร้านติ่มซำที่บอกว่า ยอดฮิต ไร้วี่แววนะ....ยืนงง เกาหัวแกร่กๆ วนไปวนมาหาทางเข้า จนสุดท้าย ถามทางพนักงานร้านอาหารตรงนั้นแหละ ได้ความว่า เดินเลยไปอีกหน่อย ถึงจะเป็นทางเข้าอาคาร HK pacific center กดลิฟท์ ขึ้นไปชั้น 2 โลด


หนังสือบอกว่า



เดินออกจากลิฟท์มาทีแรก ถึงกะผงะ..เอ้ย ผิดร้านป่าววะ ไหนว่า บรรยากาศบ้านๆ....นี่มันเอิ่มมม....ห่างไกลคำว่าบ้านนะ...จะแพงป่าววะเนี่ย แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ลองดูก็ได้ T-T (หลอกตรูอีกแล้วนะ....เล่มนี้ ไหนหน้าปกบอกว่าอัพเดท ปรับปรุงข้อมูลแล้วไง!!!!)

ราคาติ่มซำ จะขึ้นอยู่กับวันและเวลา วันธรรมดาก็จะถูก เสาร์อาทิตย์ วันหยุดก็จะแพง ติ่มซำราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20++ HK$
บังเอิ๊ญญญญ เพิ่งมารู้ว่า วันที่ไปกิน เป็นวันหยุดของฮ่องกง...ตอนคิดเงินเลยรู้สึกว่าแพงๆ 20$++ ทั้งนั้นเลย
เมนู น่ากินๆ

เริ่มจากโจ๊กไข่เยี่ยวม้า...โจ๊กหอม อร่อย มีรสชาติกว่าโจ๊กนาธานที่กินตอนกลางคืน แต่ใส่เป็นไก่ฉีกๆ มาเลยไม่ค่อยมีเนื้อมีหนังให้เคี้ยวเหมือนหมูสับนาธาน
ก๋วยเตี๋ยวหลอดแป้งหนาๆ นุ่ม ไหลลงคอปรืดๆ อร่อยใช้ได้
อะไรไม่รู้ ไส้ผัก อร่อยยย ชอบกิน ผักกรุบๆ ข้างใน แป้งใสๆ กินแก้เลี่ยนดี


ขนมจีบปู เนื้อแน่นๆ หอมๆ เต็มปาก
ปิดท้ายด้วยเกี๊ยวน้ำ ครึ่งฝ่ามือในน้ำซุบรสลึกล้ำ อร่อยใช้ได้


มื้อนี้ รวมทั้งหมด 140 กว่าเหรียญ รสชาติผ่านแต่หาร้านยากไปนิด แถมไม่"บ้านๆ" อย่างที่บอกไว้แม้แต่นิดเดียว

จากร้านอาหาร ที่อยู่ระหว่าง Nathan+Canton ก็ออกเดิน กลับมาที่ถนน Canton ผ่านหน้า รร.ที่พัก เดินขึ้นเหนือเลยฮาร์เบอร์ซิตี้ขึ้นไปอีกนิด จะเป็นที่ตั้งของ China Ferry Terminal ท่าเรือข้ามฟากไปมาเก๊า
เตรียมเอกสาร พาสปอร์ตไรให้พร้อม นี่ไม่ใช่ ท่าข้ามฟากวังหลัง หรือ เรือด่วนเจ้าพระยา แบบที่คิดไว้!


ดูจากแผนที่ ดูไม่น่าอยู่ริมถนน แต่จริงๆ เดินขึ้นเหนือจาก Canton ไปเรื่อยๆ ฮาร์เบอร์อยู่ซ้ายมือ มองไปข้างหน้า เจอตึกนี้ เจอสะพานพาดหัว ก็เดินข้ามถนน(เล็กๆ) ตรงขึ้นไปอีก


ผ่าน เอ้าเล็ท Esprit และอื่นๆ ขึ้นไป 2-3 ตึก จะถึง China Ferry Terminal ตึกอยู่ข้างหน้าริมถนน ข้างนอกดูเป็นตึกออฟฟิสเงียบๆ ไม่น่าจะเป็นทางไปท่าเรือ แต่จริงๆกดลิฟท์ขึ้นมา Departure Hall จอกแจกจอแจ อาม่าอาซิ่มเพียบ


ช่องขายตั๋วเฟอรี่ ยี่ห้อต่างๆ อย่าง Turbo Jet เป็นที่ฮ็อทฮิต ก็ต้องดูว่า เราจะไปลงเรือ ฝั่ง Macau(เที่ยวเมืองเก่า) หรือ Taipa (เที่ยวคาสิโน) เลือกเอาว่าจะไปลงไหน


ค่าเรือประมาณ 140 HK$ ไปกลับก็ เกือบ 300 HK$ วันที่เราไป บังเอิญเป็นวันหยุดค่าเรือเลยแพงหน่อย โดนอาเจ๊กที่ไหนไม่รู้ ต้อนให้เดินอ้อมไปเค้าเตอร์ด้านหลัง(เมืองจีนเป็นแบบนี้เยอะนะ ระวัง!! รมณ์เหมือนแทกซี่เมืองไทยไล่ต้อนฝรั่ง ละฟันหัวแบะอะ ถึงแม้จะหน้าตาฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง ฮีก็จะยั่งพ่นๆๆๆใส่) รมณ์หยั่งกะขายตั๋วผี แต่จริงๆ เป็นเอเจ้นท์ขายตั๋วเรือเหมือนกัน เป็นของ First Ferry ลดราคาให้ จาก 300 กว่า เหลือ 290 HK$ ได้เรือรอบเที่ยง ดูเป็นราคามาตรฐานไม่โขกสับก็เลยซื้อ เดินตามมาถึงขั้นนี้ ไม่สามารถสลัดอาเจ็กนี่หลุดแล้วล่ะนะ(ขณะนั้นเป็นเวลา 11.20 น. แต่ ไปเรือรอบ 11.30 ไม่ทันแล้ว เพราะต้องผ่าน ตม.ด้วยไรด้วย)

ส่วนขากลับ หลังจาก 6 โมงเย็นไปแล้วค่าเรือจะแพงขึ้น เป็นอีกราคานึง รอบดึกสุด คือ 10.30 น. แต่เต็มอีก เลยต้องจองรอบถัดมา คือ 10.00 น. แทน จองรอบดึกๆไว้ก่อนจะสามารถกลับก่อนรอบที่ตัวเองจองไว้ได้ แต่ถ้าเลยแล้ว ไม่สามารถกลับได้




หลังจากได้ตั๋วมา ก็ผ่านประตูเข้าไป ให้เลือกดูป้ายให้ถูก ว่าช่องไหน เรือยี่ห้ออะไรไปไหน(เพราะที่ท่านี้ จะมีเรือไปทั้งมาเก๊าและ mainland China ด้วย) ตรงหน้าประตูจะมีป้ายไฟวิ่งบอกเลขท่าเรือของเราไว้ด้วย ให้จำไว้ จนท.จะแปะสติ๊กเกอร์เลขที่นั่งลงไปบนตั๋ว กระเป๋าเดินทาง ถ้าไม่ใหญ่มาก ก็เนียนๆ ลากไป (ถ้า load รู้สึกจะคิดค่าโหลด เป็นราคา/กิโล แพงมาก) แต่เราไปเช้าเย็นกลับ เลยเดินกันตัวเบาๆ ไม่มีสัมภาระไรมาก

ตรงด่านแรกนี้ จะมีอาแปะ อาซิ่ม ทำเนียนเรียกญาติเรียกโยม มาแซงคิวเราหน้าตาเฉย ทีแรกไม่ได้คิดไร คนไทยใจดี มาด้วยก็อะๆ เมิงไปซะให้หมด นึกขึ้นมาได้ว่าในหนังสือคู่มือเที่ยวมาเก๊าบอกไว้ เฮ่ย จิงด้วย....อิเจ๊นี่...ยอมไม่ได้ละ ญาติเยอะไปแล้วนะ!!

จากนั้นก็ผ่านตม. ให้ดูหน้าดูตาว่าตรงกับพาสปอร์ตไม๊ จบพิธีการ ก็เดินไปนั่งรอเรือ ตาม gate ที่ระบุไว้ ถ้าไม่รู้ก็ถามเจ้าหน้าที่ อย่าเดินเนียนมั่วไปนั่งรอตามชาวบ้านเค้า เพราะเค้าอาจจะไม่ได้ไปที่เดียวกะเรานะ ฮ่าๆ

เวลาผ่าน ตม. ขาเข้า ขาออก ให้แนบตั๋วโดยสารเฟอร์รี่ไว้กับพาสปอร์ตด้วย เพื่อที่ว่าเจ้าหน้าที่จะดูว่า เราเดินทางมาจากไหน และจะไปไหน ฮ่องกง หรือมาเก๊า หรือ mainland

อารมณ์เหมือนสนามบินมากกว่าท่าเรือ


ได้เวลา ก็เดินๆ ไปขึ้นเรือ บางคนก็ลากๆ กระเป๋าขนสัมภาระกันไป เค้าไม่อนุญาตให้เอากระเป๋าเดินทางใหญ่มากขึ้น โดยเอาเหล็กมากั้นไว้เป็นระยะๆ แต่ด้านหน่อยก็ลากผ่านกันไปได้ทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นต้องเสียเงิน เห็นเขาว่า ถ้าใหญ่มากเกินจริงๆ เค้าค่อยเรียกให้โหลดกระเป๋า เก็บใบละ 20$ ก็ยังถูกกว่าต้องจ่ายเป็นกิโลในตอนแรกล่ะนะ

หน้าตาเริ่มเหมือนเรือด่วนเจ้าพระยาละ -_-'' (แต่เก้าอี้นั่งสบายกว่านะ หลับมันส์มาก 75 นาที ถึงที่หมาย)


มีที่วางกระเป๋าเดินทาง ด้านหน้า และตรงกลางเรือ
มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นวิวฝั่งฮ่องกง


ระหว่างนั่งเรือ ตัดชั๊บๆ มา ถึงสาระสำคัญสำหรับการเที่ยวครั้งนี้

อุปกรณ์ท่องเที่ยววันนี้ หนังสือคู่มือ ที่คุณภาพพอใช้ อ่านไม่รู้เรื่อง ใช้งานจริงไม่ได้ เขียนวกไปวนมา เรียบเรียงใช้ยาก คนเขียนพล่ามเรื่องโน้นนี้ไปเรื่อย อ่านแล้วนึกภาพไม่ออกว่าเดินทางไปไหนยังไง แต่ก็พอให้เบสิกแบคกราวน์ ของสถานที่ที่ไปได้ (ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว) บางอารมณ์ อยากปาทิ้ง บางอารมณ์ อยากเขียนเองตะหงิดๆ ถ้าชั้นเขียนนะ...หึหึหึ ไม่มีหลง!!!

แผนที่ จากการท่องเที่ยวมาเก๊า ที่ห่วยๆ อีก เพราะ ไม่เขียนสถานที่ลงไปในแผนที่ ใช้เป็นสัญลักษณ์ตัวเลข แบ่งสีว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยว คาสิโน ช็อปปิ้ง ต้องย้อนกลับไปดูดัชนี ซึ่ง ณ จุดนี้ เลขปะปนกันมั่วซั่ว บอกสายรถเมล์ที่ผ่าน แต่ไม่บอกป้ายรถเมล์ หรือจุดที่ต้องขึ้น ฝั่งไหน ยังไง
สุดท้ายแล้วการออกแบบแผนที่ การพับทบ ไม่ได้ช่วยเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน กางพลิกกลับหน้ากลับหลัง....ใช้แล้วเพลียระดับสิบ!!!

เงินฮ่องกง (ใช้ด้วยกันได้ แต่เงินมาเก๊าเอามาใช้ HK ไม่ได้ เพราะฉะนั้น อย่ารับเงินมาเก๊ามาเยอะมากนัก) ต้องกรอกใบ ตม. ขาเข้า-ออก มาเก๊าด้วย เตรียมปากกาไปให้พร้อม


ทีนี้ มาดู Destination เรากันบ้าง...หาแผนที่มาจากกูเกิ้ล
(ทำการบ้านหลังจากกลับมาแล้ว อุบาทว์ป่ะ..ขาไป หลงกันอิ๊บอ๋าย.. เอาน่ะ เพื่อคนที่ยังไม่เคยไป จะได้ไม่ต้องทัวร์รอบมาเก๊าแบบเรา)

ก่อนอื่น รับทราบไว้ว่า คนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยพูดอังกฤษ และไม่ได้ nice สักเท่าไหร่ตามสไตล์จีนๆ ป้ายบอกถนนหนทาง ไม่ค่อยเด่นชัด ส่วนใหญ่ เป็นตัวหนังสือจีน กับโปรตุกีส....แจ่มไม๊

หน้าตาเป็นเกาะแบบนี้ เราจะไปลงเรือที่เกาะด้านบน ระหว่างเกาะสองเกาะ มีสะพานยาวๆ เชื่อม ระยะทางดูเหมือนไกล แต่จริง ไม่ไกล มีรถเมล์ รถรับส่งคาสิโน วิ่งข้ามไปข้ามมาอยู่ตลอด สะพานขวาสุดยาวที่สุด ใช้เวลาประมาณ 10++ นาที ใช้เดินทางจาก ฝั่ง Taipa ตรงมาแถวๆ Ferry Terminal เลย
สะพานตรงกลาง ใช้เวลาเดินทางสั้นลงไปอีก ไม่นานอย่างที่คิด (ทีแรกไม่รู้ คิดว่าต้องนั่งเรือข้ามฟากระหว่างเกาะอีก ข้อมูลปึกไม๊ล่ะ 5555)


ตามแผนที่วางไว้ (แต่เหมือนไม่ได้วาง) คือ
เที่ยวมาเก๊า ฝั่งเมืองเก่า จุดที่สำคัญๆ อยากเที่ยว เช่น โบสถ์ ตึกเก่าๆ ตามประวัติศาสตร์ต่างๆ เซนาโด้ สแควร์ และอื่นๆ ในย่านเดียวกัน (จะไปวิธีไหนยังไม่ได้คิด ก็คงรถเมล์ละมั้ง แต่เค้าว่า ค่าแทกซี่ไม่แพงมาก พอๆ กะเมืองไทย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ระยะทางในแผนที่ ที่ดูเหมือนไกล มันไกลหรือเปล่า)

รีเควสคือ อยากอยู่ตรง ซุ้มประตู เซนต์ปอล + เซนาโด้ สแควร์ ตอนโพล้เพล้ รอให้เค้าเปิดไฟ เห็นคนอื่นถ่ายรูปมาสวยดี เพราะฉะนั้น มีเวลา ตั้งแต่ บ่ายโมง ไปถึงประมาณ 6 โมงเย็น ที่จะเที่ยวแถวๆ นี้

จากนั้น ค่อยข้ามไปเที่ยวคาสิโนเวเนเชี่ยน แล้วนั่งรถรับส่งฟรีจากคาสิโน ไปที่ ferry terminal ถ้าไม่มีรถค่อยขึ้นรถเมล์ ไม่ทันก็ขึ้นแทกซี่ (ตามยถากรรมมาก เห็นไม๊) สอบถามได้ความมาว่า ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที จากเวเนเชี่ยนถึงท่าเรือ ก็ พอจะกะเวลา เผื่อคร่าวๆ ขากลับไว้ได้ว่า จะต้องเผื่อสัก 1-1.30 ชม. ที่จะมาท่าเรือ ผ่านด่าน ตม. และ รอเรือ เพื่อที่จะได้ไม่ตกเรือ รอบสุดท้ายที่ซื้อตั๋วไว้ 10.00 น.

โปรแกรมภาคเช้าของเรา แบบสำเร็จรูปสำหรับการท่องเที่ยวมาเก๊าใน 1 วัน หลังจากไปหลงมาแล้วทั่วเกาะ
ขอใช้แผนที่ประกอบหลายอัน เพราะของฟรีที่มีอยู่ มันทำให้เรางงๆ คือแมร่งไม่มีอันไหนเพอร์เฟคดูง่ายเลยสักอัน พับผ่าสิ!!!! (แผนที่พวกนี้ กลับมาหาหลังจากไปมาแล้วนะ หึหึหึหึ)

ขอนำเสนอแผนนี้ ที่คิดว่าเวริคดีอยู่นะ เพระาเรากะเวลากันได้เป๊ะๆ ถ้าได้เรือรอบเช้ากว่าเรา ก็คงมีเวลาเดินชีลกันมากขึ้นไปอีก หรือ จะแบ่งเวลาไปเที่ยวคาสิโนมากขึ้น ตามอัธยาศัย

จุดสังเกตหลักๆ


อันนี้ หามาจากกูเกิ้ล เป็นแผนที่มาเก๊าฉบับแจกฟรีให้นักท่องเที่ยวนี่แหละ มีบอกสายรถเมล์ต่างๆด้วย ถ้าใครที่ไปมาเก๊า คงมีไว้ครอบครองกันล่ะนะ แต่รูปน่าจะเป็นเวอร์ชั่นเก่า ซูม ลงมาที่ทางด้านใต้ของเกาะ ป๊าดดด


เส้นสีแดง คือ เส้นทางรถเมล์สาย 10 แบบคร่าวๆ (บางจุดไม่แน่ใจว่าวิ่งผ่านถนนเส้นไหน) ที่เราจะใช้เดินทางจาก Ferry Terminal ไปเป้าหมายแรก คือ วัดอาม่า (เนื่องจากมีเวลาเหลือเยอะกว่าจะเย็น และเราอยากให้ไปโพล้เพล้แถว senado sq. จึง เลือกไปวัดอาม่า วัดเก่าแก่ของมาเก๊าก่อน แล้วย้อนกลับมาที่ตัวเมืองเก่า โดยการเดิน ตามเส้นสีน้ำเงิน  แวะเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆ ไล่ขึ้นเหนือมาเรื่อยๆ เช่น Lilau Sq./St.Lawrence's Church/St.Joseph's seminary and Church/ Holy house of mercy/ St.Augustine's Sq. / Cathedral etc. จนถึง senado sq.

ขาไปจากท่าเรือ--> วัดอาม่า แนะนำสาย 10 เท่านั้น...เพราะ มันสุดสายที่วัดอาม่า และไม่อ้อม เพราะฉะนั้น คุณจะไม่ต้องเป็นกังวล ว่า จะถึงยังวะ จะถึงยังวะ..แล้วมันจะป้ายไหน....จะลงตรงไหน จะเลยไม๊ บอกคนขับไว้ก่อนเลย ว่า จะไปวัดอาม่า พอถึง เดี๋ยวเค้าตะโกนเรียก

ท่องไว้ สาย 10 เท่านั้น ที่คุณต้องการ! ถ้านอกใจ เดี๋ยวได้ไปเที่ยวรอบเกาะมาเก๊าแบบเรา แล้วจะหาว่าไม่เตือน T-T จะลงใต้เกาะ แต่ไปโผล่อยู่เหนือสุดของเกาะ...เจ๊งไม๊ล่ะ

จาก senado sq. เดินไปตามทางผ่ากลาง เดินตามฝูงชนไปเรื่อยๆ จะเจอ ซากประตู St.Paul จากนั้น เดินกลับมาถนนหลัก เพื่อไปตรงจุด ดาวแดง หน้า Lisbua ซึ่งเป็นท่ารถใหญ่ เราจะนั่งรถเมล์ข้ามเกาะไปเวเนเชี่ยนกันจากตรงนี้

ณ เวลาที่เราเดินไปถึงหน้า Lisbua ก็จะเกือบมืดพอดี....สวยสุดๆ...

พร้อมจะลงจากเรือ เหยียบมาเก๊าอ๊ะยัง....

แฮ่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนพิมพ์เหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ออกตัว

ปล. ถ้าพาเด็กไป ก็ระวังนิดนึงก็ดีนะคะ...บางที คลื่นลมแรง อาจจะเมาเรือได้ ผู้ใหญ่อย่างเรา ยังต้องบังคับตัวเองให้หลับๆๆๆ ไม่งั้น เสียดายติ๋มซำที่กินไปเมื่อเช้า