Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
6 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น

ก่อนจะเข้าเรื่อง ก็ต้องขอโทษที่หายไปซะนานเลยนะครับผม เพราะชีวิตช่วงที่ผ่านมายุ่งสุดๆ แทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย นอกจากเรียนแล้ว ผมก็ไปทำงานพิเศษด้วยครับผม เลยไม่สามารถเจียดเวลามาอัพบล๊อคได้ แถมคิดไม่ออกอีกต่างหากว่าจะหาเรื่องอะไรมาเล่าดี

เอาเรื่องใกล้ตัวผมเลยดีกว่า ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น คุณผู้อ่านทั้งหลายคงอยากรู้ว่า มันแตกต่างจากในไทยอย่างไร อย่างแรกที่ต่าง และผมก็เกริ่นๆ ไปบ้างแล้วก็คือ ในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นจะมีระบบห้องเรียน และระบบแล็ป (ไอ้ที่ผมอาศับสิงสถิตย์อยู่นั่นแหล่ะครับ)

ระบบห้องเรียนก็เหมือนๆ กับที่ไทยแหล่ะครับ พวกเราต้องเลือกลงทะเบียนวิชาเรียน เพื่อให้ครบตามหลักสูตรที่กำหนด ก็จะเป็นระบบเดินเรียน คือพวกเราต้องเดินไปหาห้องเรียนตามตึกต่างๆ ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้เราได้พบปะกับนักศึกษารุ่นเดียวกัน แต่อยู่แล็ปอื่นๆ รวมถึงนักศึกษาคณะอื่นๆ บ้างในบางวิชา (อย่างผมเนี่ยช่วงปีแรกก็กระแดะไปลงวิชาประเภท วัฒนธรรมญี่ปุ่น ประมาณนี้ครับ ปรากฏว่า ทั้งคลาสมีแต่นักศึกษาต่างชาติ ตลกดีครับผม)

ส่วนระบบแล็ป (ที่เมืองไทยไม่มี) ก็อย่างที่บอกไป ในตอนต้นๆ ว่า เราจะอยู่กันปนๆ กัน ครับ ป ตรี โท เอก เพื่อเกื้อหนุนกันในทางความรู้ โดยแต่ละแล็ปก็จะมีศาสตราจารย์ดูแล ซึ่งระบบแล็ปก็จะแบ่งตามหัวข้อวิจัย ที่แต่ละคนสนใจครับผม

ที่ญี่ปุ่นก็มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องที่แข็งแกร่งครับ อย่างในแล็ปเนี่ย ถ้าเป็นพวก ป เอก ก็จะนั่งๆ นอนๆ เลยครับ เวลามีกิจกรรมใดๆ พวก ป ตรี ก็จะต้องไปจัดเก้าอี้ พวกใช้แรงงานน่ะครับ รุ่นน้องรับเละ รึว่าอย่างเวลาไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน ก็ พวกน้องๆ ก็ต้องคอยเสริฟเหล้า เบียร์ ประมาณนี้แหล่ะครับ

วัฒนธรรมการอยู่แล็ปที่นี่ ก็ต้องไปลามาไหว้ครับผม ที่หน้าห้องแล็ปแต่ละห้องก็จะมีบอร์ดแม่เหล็ก ติดชื่อของทุกคนในแล็ปตีเป็นตารางเลยครับ แล้วก็มีสถานที่สำคัญๆ ในมหาวิทยาลัย ที่พวกเรามักไปสิงสถิตย์ อย่างเช่น ห้องสมุด โรงอาหาร โรงยิม เป็นต้น ถ้าเราจะออกจากห้องไปไหนก็ต้องไปเลื่อนแม๊กเน็ตของเราไปไว้ที่ช่องนั้น ตามธรรมเนียมปฏิบัติด้วยครับผม เวลามีใครมาหาจะได้ดูตามบอร์ดได้เลย โดยที่ไม่ต้องโผล่หน้าเข้ามาถามคนที่อยู่ในห้อง จะเป็นการรบกวนสมาธิครับผม

เวลาตอนเช้าเข้ามาในห้องแล็ป ก็ต้องกล่าวสวัสดีตอนเช้าทุกคนในห้อง ด้วยเสียงดังฟังชัดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “O-haiyo gozaimasu” ตอนเย็นกลับบ้านก็ต้องกล่าวลาเสียงดังเหมือนกันว่า ขอเสียมารยาท กลับบ้านก่อนนะครับ เป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “O saki ni shitsureshimasu” ไอ้ผมตอนมาใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจครับว่า มันจะเสียมารยาทตรงไหน ที่จะกลับบ้านก่อนเนี่ย คนญี่ปุ่นเค้า อธิบายว่า ในกรณีที่เรากลับบ้านก่อน โดยที่ยังทิ้งคนอื่นให้ต้องทำงานอยู่เนี่ย มันดูไม่ดี (ในวงเล็บ ตามความเห็นของผม มันจะไม่ดีตรงไหน ก็มันนั่งทำงานของมันอยู่ ไม่ได้ทำให้ตูนี่หว่า)

ไอ้การกลับบ้านเร็วเนี่ย มันทำให้ผมกระอักกระอ่วนมากเลยครับ เพราะผมมาใหม่ๆ ผมก็อยากเที่ยว หลังเลิกเรียนบ้าง แถมผมมาปีแรก งานวิจัยก็ยังไม่มี (แล้วจะนั่งในแล็ปไปหาวิมานอะไร) ผมก็กระเด้งตัวออกจากแล็ปเป็นคนแรก พอผม say bye เนี่ย ทุกคนก็จะเงยหน้ามองที่นาฬิกาก่อนที่จะตอบรับกลับมาตามธรรมเนียมญี่ปุ่นว่า “O tsukare sama desu” แปลว่า ที่เหนื่อยยากมาเนี่ย ต้องขอบคุณนะ (ในวงเล็บ อีกแล้ว ว่า ตูไม่เห็นจะเหนื่อยตรงไหนเลย)

พออยู่ๆ ไป ผมก็เริ่มสังเกตคนอื่นๆ ในแล็ปครับว่า บางทีที่พวกมันนั่งในคอกกันเนี่ย มันอ่านการ์ตูน (อ้าว ไม่กลับไปอ่านที่บ้านวะ) ก็เลยถามพวก ป โท เหมือนกันกับผมว่า จะอยู่ไปทำบ้าอะไร พวกมันตอบว่า ขืนกลับบ้านก่อนก็เกรงใจศาสตราจารย์แย่ ก็อยู่ๆ ไปฆ่าเวลาเล่นงั้นแหล่ะ (ในวงเล็บ อีกแล้วว่า แล้วไอ้ที่ตูทำมาเป็นเดือนๆ เนี่ย สงสัยว่าจะเสียมารยาท look bad มากๆ แน่ๆ)

พักหลังๆ เนี่ย ผมเลย เปลี่ยนแผนครับ ก็เค้าว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามใช่มั๊ยหล่ะครับ ผมก็เปลี่ยนเป็นไปแด๊ดแด๋ข้างนอกตอนกลางวันแทน โดยแปะเจ้าแม๊กเน็ตของผมไว้ที่ห้องสมุด ส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอครับ โน่น อยู่คาราโอเกะบ๊อกซ์ ข้างมหาวิทยาลัยครับผม



Create Date : 06 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2549 16:04:44 น. 6 comments
Counter : 3983 Pageviews.

 
เขียนสนุกดีนะคะ แล้วจะมาอ่านอีก
เคยไปทำแลปที่เซนไดมาเหมือนกันค่ะ
และก็ด้วยเหตุผลอย่างที่คุณเล่ามาแล้ว
เราก็เลยออกไปช๊อปปิ้งตอนกลางวัน บ่ายโมงถึงสี-ห้าโมงเย็น
แล้วค่อยกลับมานักเสนอหน้าที่แลปจนสี่ทุ่ม 555+


โดย: ดอกซากุระบานแค่เจ็ดวัน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:11:06 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ เขียนได้สนุกดี น่าสนใจมากๆ ค่ะ อยากไปเรียนต่อบริหารธุรกิจที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน ขอแอบเข้ามาเก็บข้อมูลก่อนนะคะ


โดย: * เทมมี่จัง * วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:15:29 น.  

 
อ่านแล้ว สนุกดีค่ะ คิดถึงพี่นักเขียนคนหนึ่ง

ที่ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเลย อืม ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องดีจัง

แต่ชอบตรงที่ว่า เวลาเราไปไหนก็ให้เลื่อนเจ้าแม๊กเน็ต

ของเราไปไว้ที่นั้น น่ารักดีอ่ะค่ะ


โดย: oreocream วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:08:44 น.  

 
คนญี่ปุ่นนี่สุภาพดีนะคะ


โดย: Aisha วันที่: 7 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:53:17 น.  

 
ขำๆ แบบว่าในวงเล็บนั้นแหละ แต่ระวังให้ดีนะเวลาเขาไปหาที่ห้องสมุดแล้วมิได้สถิตอยู่ในนั้นจริงๆ อ่ะ 555


โดย: ked (LUANGWILAI ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:26:02 น.  

 
ฮาๆๆๆๆ เจ๋งมากค่ะ โดยแปะเจ้าแม๊กเน็ตของผมไว้ที่ห้องสมุด ส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอครับ โน่น อยู่คาราโอเกะบ๊อกซ์ ข้างมหาวิทยาลัยครับผม



โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:20:59:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Ryou-kung
Location :
Yokohama Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขาวๆ ตี๋ๆ [แต่ตาโตนะฮะ!]
ใส่แว่นกลมๆ กรอบสีฟ้าลูไซด์
ผมสั้นรองทรง
สูงประมาณ 175 ซม ไม่ผอมไม่อ้วน
กำลังหล่อทีเดียวเซียว




Friends' blogs
[Add Ryou-kung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.