Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
ใยแมงมุมยักษ์ในโตเกียว

อ่า……..ผมไม่ได้จะเขียนถึง spider man นะครับ แต่ใยแมงมุมยักษ์ที่ผมว่านี้ก็คือ ระบบขนส่งมวลชนหลักของที่นี่นั่นเอง


เมื่อตอนที่แล้วมีพูดถึงการเดินทางอยู่นิดนึง ก็เลยคิดว่าอยากให้ผู้อ่านทั้งหลายมารับรู้ความลำบากของนักเรียนไทยตอนมาใหม่ๆ กันบ้างดีกว่า ว่ากว่าจะทำความเข้าใจกับระบบการเดินทาง และปีกกล้าขาแข็งจนสามารถโกงระบบได้นั้น มันต้องอาศัยความพยายามมากมายแค่ไหน

เค้าว่ากันว่าระบบรถไฟฟ้าที่โตเกียวนั้นซับซ้อนและเข้าใจยากที่สุดในโลก [สำหรับนักท่องเที่ยว] ผมว่าคนที่มาที่นี่ใหม่ๆ ทุกคนจะงงสุดๆ ครับ ถ้าขึ้นสายเดียว คงไม่มีปัญหาอะไรถึงอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็มีภาษาอังกฤษให้บ้างบางสถานี หรือไม่ก็อาศัยนับสถานีเอาก็ไม่น่าจะยาก แต่เมื่อต้องมีการเปลี่ยนสายนี่สิครับ ไอ้ที่มันยากก็อยู่ตรงการหาทางไปขึ้นอีกสายนึงเนี่ยแหละ ยิ่งถ้าสถานีใหญ่ๆ แบบที่มีจุดตัดของแต่ละสายมากๆ นั้น คงไม่ต้องพูดว่าจะยากซะขนาดไหน

ผมเอาแผนที่ของเครือข่ายรถไฟในโตเกียวและละแวกใกล้เคียงกันมาให้ชมเล่นๆ ครับ จะได้รู้ว่าที่ผมว่ามันคือใยแมงมุมยักษ์นั้น มันไม่ใช่เพราะผมโม้




บริษัทรถไฟยักษ์ใหญ่ของที่นี่ก็คือ JR ครับ นอกจากนั้นก็มีสายเล็กๆ ที่เป็นสีๆ ต่างๆ มาเชื่อมต่อเพื่อให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น การเดินทางจากสถานีนึงไปถึงสถานีใหญ่ๆ เราอาจจะสามารถเลือกเส้นทางได้มากกว่าสองเส้นทางเลยทีเดียว อย่างการเดินทางจากมหาวิทยาลัยที่ผมอยู่เพื่อไปที่สถานีชิบุย่านั้นผมสามารถเลือกการเดินทางได้ถึงสามทาง ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากจะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไหน และแน่นอนครับมันจะมีผลกับค่าเดินทางของผมด้วย

พวกผมต้องพกแผนที่และตารางเวลาของการเดินรถไฟไว้กับตัวเสมอ เพราะรถไฟที่นี่มาตรงเวลาที่สุด ถ้าวางแผนการเดินทางเอาไว้จะไม่มีพลาดเลยครับ บางทีแค่เรามาสายนาทีเดียว เราก็อาจพลาดเที่ยวรถไฟที่หมายมาดเอาไว้ว่าจะขึ้นได้เลย เพราะฉะนั้นเวลาของนาฬิกาของคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็คือ เวลาตามนาฬิกาที่สถานีนั่นเองครับ ไม่ต้องไปเทียบกับศูนย์กลางเวลาใดๆ

มาถึงตรงนี้อยากให้ท่านผู้อ่านนึกถึงละครญี่ปุ่นที่ท่านเคยดู หรือไม่ก็หนังสือการ์ตูนที่ท่านเคยอ่าน [ประเภทที่พวกผู้หญิงเค้าชอบอ่านแล้วก็เพ้อฝันกันน่ะครับ] พวกนี้จะต้องมีฉากที่นางเอกจะต้องมารอรถไฟที่ตรงประตูที่สามเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อที่จะเจอชายหนุ่มที่เธอแอบฝันถึงที่อยู่โรงเรียนชายล้วน อืมประมาณนี้แหละครับ ดูเหลือเชื่อ แต่ที่นี่ทำได้จริงๆ ครับ ทำไมมันถึงเป็นไปได้!

เอางี๊ก่อนครับ ขอบอกก่อนว่าถ้าเป็นช่วงเร่งด่วนเนี่ย รถไฟจะโคตรแน่นเลยฮะ แน่นแบบปลากระป๋องยังอาย [อ่า……พวกผู้ชายจะชอบมากครับเวลารถแน่นๆเนี่ย ต้องบอกมั๊ยครับว่าชอบอะไร] เวลาที่รถไฟจอดเทียบกับสถานีที่เป็นสถานีเปลี่ยนรถ คนก็จะกรูกันออกจากประตูเพื่อเดินไปรอรถไฟอีกขบวนนึง ตอนนี้อาจจะต้องมีการเดินขึ้นลงบันไดกันบ้าง ถ้าไปช้าก็ต้องรอคนเป็นคอขวดตรงบันได กว่าจะไปรอที่จุดรอได้ก็คนเป็นแสนแล้วครับ

ที่นี้พอรถไฟมาถ้าคุณอยู่ท้ายๆ คุณก็ต้องตื่นเต้นว่าจะโดนประตูหนีบรึเปล่า เพราะรถไฟที่นี่เค้าตรงต่อเวลา ประตูเปิด-ปิด ตามเวลาที่กำหนด และนี่ก็คือเหตุผลว่าคนที่วางแผนการเดินทางที่นี่ส่วนมากจะขึ้นรถไฟตรงประตูที่ควรจะต้องอยู่ตอนลงรถ ไม่ใช่ขึ้นตามสะดวก

อย่างผมเนี่ยเวลาวิ่งมาถึงสถานีผมอาจจะขึ้นที่ประตูที่ใกล้ที่สุด แต่ก็ต้องเดินจากประตูนั้นมาตรงประตูที่เราจะลงเสมอครับ

ทีนี้เข้าใจรึยังครับว่าถ้าเราแอบปิ๊งใครบนรถไฟในชั่วโมงเร่งด่วนสิ่งที่ต้องทำก็คือจำประตูที่เขายืนอยู่แล้วก็เวลารถไฟไว้ให้ดี ถ้าคุณมานั่งสายนี้อีกภายในวันสองวันก็อาจจะเจอเขาคนนั้นได้ครับ

กลับมาพูดถึงค่ารถไฟกันดีกว่า ตอนที่แล้วผมได้พูดไปบ้างแล้วว่าพวกเรานักเรียนจะมีเข้ง หรือตั๋วรายเดือนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะคิดเป็นสถานีที่ขึ้น ถึงสถานีที่จะลง และพวกเราสามารถขึ้นลงรถไฟที่สถานีระหว่างทางได้ไม่จำกัด เวลาเดินเข้าเดินออกก็เปิดเข้งโชว์เจ้าหน้าที่ ถ้าบ้านใครที่มีสถานีระหว่างทางเป็นสถานีใหญ่ๆ พวกแหล่งช๊อปปิ้งก็ดีไปครับ แต่หอที่พวกผมอยู่เนี่ยค่อนข้างไกลปืนเที่ยงนิดนึง เวลาจะมาเที่ยวในเมืองก็ต้องออกนอกเส้นทางของเข้งครับ ดังนั้นนั่นคือสาเหตุว่า ทำไมพวกเราถึงต้องมีการวางแผน

ผมไม่ค่อยอยากเปิดเผยเท่าไหร่หรอกครับ พวกเทคนิคการโกงเนี่ยมันมีเยอะ แต่เอาแบบที่ใครๆ เค้าทำกันดีกว่า โดยเฉพาะเด็กไทย [พอตอนหลังผมก็ได้รู้มาว่า ไอ้พวกฝรั่งตาน้ำข้าว และก็เพื่อนๆ ชาติอื่นที่หอก็ทำกันหมดแหล่ะครับ]

ปกติถ้าออกนอกเส้นทางขาไปเนี่ยจะโกงไม่ค่อยได้ถ้าไม่ชั่วจริงๆ เพราะการออกนอกเส้นทางเนี่ยเราต้องเอาตั๋วที่เรามีอยู่ในมือไป adjust ค่าเดินทาง แล้วก็จ่ายตามจริง ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ครับ อย่างผมเนี่ยถ้าจะต้องออกนอกเส้นทางเพื่อไปที่สถานีชิบุย่าเนี่ยจะต้องออกนอกเส้นทางไปถึง 6 สถานี ก็ประมาณ 280 เยน

ส่วนขากลับเนี่ย พวกเราจะต้องซื้อตั๋วเพื่อผ่านเข้าสถานี แล้วสามารถออกที่สถานีปลายทางโดยใช้เข้งของเราเอง ดังนั้นถ้าใครจ่ายตามจริงก็ดูจะฉลาดน้อยไปนิดนึงนะครับ โดยส่วนมากก็ซื้อตั๋วถูกสุด ทั้งนั้น แล้วก็เก็บตั๋วที่ซื้อเอาไว้มาดูเล่น มาถึงตอนนี้ตั๋วก็เต็มกล่องผมเลยฮะ

จริงๆ แล้วเราสามารถประหยัดเงินได้ด้วยวิธีอื่นๆ อีก แต่ไม่เอาละครับเดี๋ยวรายการหลุมดำจะมารบกวนผมเฉลยกลโกงรถไฟญี่ปุ่นซะเปล่าๆ

มาใหม่ตอนแรกๆ ก็ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียวหรอกครับถ้านอกเส้นทาง เพราะเราพูดญี่ปุ่นก็ไม่ได้ อ่านภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ออก จนกระทั่งไม่มีใครยอมไปไหนมาไหนด้วย เพราะเค้าก็มีธุระปะปังทั้งนั้น เราก็ต้องกล้าหล่ะครับ

มีอยู่ช่วงนึงที่เสาร์-อาทิตย์ผมนั่งรถไฟเล่น เปลี่ยนสถานีไปมาครับ เพราะถ้าเราไม่ออกจากสถานีซะอย่างเราก็ไม่ต้องเสียตังค์ และไม่หลงครับ ผมแกะรอยเส้นทางรถไฟอยู่สองวันเต็มๆ ก็สามารถเข้าใจเครือข่ายได้หมดหล่ะครับ นั่งรถไฟก็ได้เห็นอะไรแปลกๆ มากมายครับ เรื่องราวของชีวิตบนรถไฟเนี่ยน่าติดตามจริงๆ ไว้มาต่อวันหลังนะครับ







Create Date : 09 พฤษภาคม 2549
Last Update : 9 พฤษภาคม 2549 10:03:00 น. 10 comments
Counter : 719 Pageviews.

 
อ้าวคิดว่าตัวแมงมุมซะอีก


จงเชื่อในเหตุผลที่คุณได้พิจารณาแล้ว อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน


โดย: เนเวอร์แลนด์ (เนเวอร์แลนด์ ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:57:15 น.  

 
จริงๆอย่างที่คุณRyou-kungบอกนะแหละค่ะ และก็เป็นคนนึงที่เคยวิ่งแบบแทบขาดใจมาแล้วเพราะกลัวไม่ทันรถไฟ ลมแทบจับ สุดยอดในการตรงเวลาจริงๆค่ะรถไฟที่ญี่ปุ่นเนี้ย


โดย: TdTk IP: 219.176.4.8 วันที่: 9 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:29:27 น.  

 
อิอิ...ตามมาอ่านต่อค่ะ คุณเรียลคุง
แบบว่า งง มากเลย กับการเดินรถไฟของญี่ปุ่นเนี่ย ว่าเค้าไปหรือเปลี่ยนยังไง? ตกใจกับเส้นทางการเดินรถมากๆเลยอ่ะค่ะ... โหว ยุบยับยุบยิบ อิอิ

เด่วตามมาอ่านตอนต่อๆไปจ้า


โดย: MeTaBoLism IP: 58.9.184.184 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:05:59 น.  

 
มีโกงด้วยเหรอ ไม่เคยเห็นอ่ะ แต่ทำไมต้องโกงเค้าด้วยล่ะ เราไม่เคยเลยนะ เราว่าอย่าพูดเรื่องโกงดีกว่า ถ้าจนก็จนตามประสาเราเถอะ ไม่มีตังค์ก็เดินสิ


โดย: 3stokyo IP: 222.146.140.32 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:5:08:18 น.  

 
ตอบคุณ3stokyo ครับ
ขอคารวะ
ถ้าคุณไม่เคยทำจริงอย่างที่พูด ก็นางฟ้า เทวดา มาเกิดแล้วหล่ะครับ
ไอ้ผมมันปุถุชนคนธรรมดา เห็นช่องทางที่จะทำให้เราสามารถทำธุรกรรมแบบไม่ผิดกฏหมายได้ก็เอาหล่ะครับ แฮ่ะๆ
ก๊อบท่าทักษิณมาเลยนะเนี่ย ถ้าผมมีหุ้นบริษัทที่สามารถเอามา trade ในตลาดหุ้นได้ 100% เลยผมก็จะทำครับ
อันนี้ เจตนารมณ์แน่วแน่


โดย: Ryou-kung IP: 204.149.80.6 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:13:40 น.  

 
น่ามึนจริงๆ แค่รถไฟฟ้า BTS ยังเซ็งๆเลยเวลาคนแน่น

ถ้าเมืองไทยเป็นแบบที่ญี่ปุ่นคงแย่แน่ๆ


โดย: S.turtle IP: 202.57.174.202 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:28:10 น.  

 
เห็นแผนที่แล้วมึนเลยค่ะ


โดย: Oreo's Mama วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:31:49 น.  

 
เคยหลงเหมือนกัน ไปแบบโง่ๆๆมาก 5555 แต่ไม่ออกนอกสถานีเลยขึ้นวนเวียนลงสถานีนั้นออกสถานีนี้ไปนั่นแหละ 555 จนไปถึงสถานีที่เราต้องการ 555 เหนื่อยเลย


โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:19:05:29 น.  

 
ojkd]y;


โดย: dddddd IP: 61.7.150.82 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:14:38:57 น.  

 
ก่อนจะไปญี่ปุ่นคงต้องไปเรียนเปลี่ยนสถานีก่อน ห้าๆๆ
ตาลายจริงๆ


โดย: amp (amp_joe ) วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:13:06:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ryou-kung
Location :
Yokohama Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขาวๆ ตี๋ๆ [แต่ตาโตนะฮะ!]
ใส่แว่นกลมๆ กรอบสีฟ้าลูไซด์
ผมสั้นรองทรง
สูงประมาณ 175 ซม ไม่ผอมไม่อ้วน
กำลังหล่อทีเดียวเซียว




Friends' blogs
[Add Ryou-kung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.