Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 เมษายน 2549
 
All Blogs
 

ว่าด้วยการกินปลาดิบ

การทานปลาดิบมื้อแรกของผม ผมมาทานกับเพื่อน ๆ ที่แล็ปครับ เป็นงานเลี้ยงต้อนรับผมที่ร้านอิซากายะ (Isaka-ya) เป็นร้านเหล้าหน้ามหาวิทยาลัย คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งสงสัยว่าผมเชยหรืออย่างไรที่ ไม่เคยทานปลาดิบที่เมืองไทย แหมตอนนั้น ฟูจิ เซนยังไม่เฟื่องเลยครับ แถมคนไทยหลายๆ คนก็ไม่นิยมทานของดิบ ผมก็เป็นประเภทนั้น

ที่แล็ปผมมีคนอยู่สิบคนพอดี 2 คน เป็นศาสตราจารย์ของผม เรียกภาษาญี่ปุ่นว่า sensei (อ่านว่า เซน-เช) และ ผู้ช่วยคุมแล๊ป เรียกภาษาญี่ปุ่นว่า joshu (อ่านว่า โจ-ชู) นอกนั้นก็เป็นนักเรียนครับ มีคนไทย 3 คน! ว่ากันว่านิอิยาม่าเซนเช ชอบคนไทยมากแล๊ปนี้เลยเป็นแล๊ปที่มีคนไทยเยอะที่สุดในมหาวิทยาลัย ก็มี พี่โอ๋ เรียนเอกแล้วครับ แกอยู่นี่มาเกือบห้าปีแล้ว เป็นคนไทยอีกคนที่ ไม่สุงสิงกับคนไทยคนอื่น เพราะเธอเป็นนักเรียน
ทุนกพ. [แอบคิดถึงตอนแกใช้ทุนครับ แก่ตายคาระบบราชการไทย] พี่ยุทธ แล้วก็ผม

อีก 5 คนที่เหลือเป็นญี่ปุ่น มีสาวหนึ่งคน ชื่อโยโกะ เด็กป.ตรี [ไม่สวยเลยครับ] เด็กป.ตรีอีกคนเป็นผู้ชาย ชื่ออิเคดะ ที่เหลือสามคน ป.โท หมดเลยครับ ชายล้วน ชื่อ ทาโนะคุระ, นากาตะ และก็ วากายาม่า

อาหารต้อนรับผมก็มี ถั่วลันเตา มาทั้งเปลือกจิ้มเกลือ เอาไว้ทานกับเบียร์ครับ คนญี่ปุ่นเนี่ยดื่มเบียร์กันเก่งมาก และคนที่ดื่มเก่งที่สุดในแล๊ป ก็คือ “โยโกะ” อืมไม่น่าเชื่อครับ แต่ผู้หญิงที่นี่ยังมีอะไร ที่ไม่น่าเชื่ออีกมากมาย [เอาไว้เล่าคราวหน้านะครับ]

ผมดื่มเบียร์ไม่เก่งครับ แต่เหล้าเนี่ยผมไม่แพ้ใครแน่ คนที่นี่ก็เหมือนคนไทยแหล่ะครับ เวลาดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ต้องชนแก้วก่อน คนไทยพูด “ไชโย” แต่ญี่ปุ่นพูด “คัมไป” คนไทยชอบ “หมดแก้ว” ญี่ปุ่นก็ชอบพูดเหมือนกันครับ หมดแก้ว ภาษาญี่ปุ่นก็คือ “อิกกิ” จำเอาไว้เวลาไปชนแก้วกับเค้านะครับ

ไอ้ อิกกิ เนี่ยทำผมเกือบตายล่ะครับ เมาซะ ผมมามหาวิทยาลัยวันแรก ก็ได้พี่โอ๋ กับ พี่ยุทธเป็นล่ามให้ครับ ที่แล๊ปไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษ นอกจากเซนเซและโจชู แต่พอแอลกอฮอลเข้าปากแล้ว ล่ามก็ไม่จำเป็นแล้วครับ

เอ้า ผมจะเขียนถึงปลาดิบมื้อแรกนี่นา ไปเขียนถึงถั่วลันเตา กับเบียร์ทำไมเนี่ย เวลาญี่ปุ่นมีงานหรืออะไรดีๆ เค้าจะต้องทานซาซิมิ หรือปลาดิบครับ จัดเป็นอาหารไฮโซทีเดียว ที่ปกติแล้วจะไม่ทำทานบ่อยๆ เวลามีงานเลี้ยงเค้าจะเอาซูซิมาตบท้าย หลังจาดื่มยอดข้าวซะเกือบอิ่ม ต่อด้วยโทริยากิ (ไก่ย่าง) แล้วก็อาหารแกล้มหล้าอีกไม่กี่อย่าง นั่นไง ซูซิมาแล้วครับ มาเต็มลำเรือเลย โปะมาบนน้ำแข็ง แถมตกแต่งด้วย กิ่งไม้ตะโกดัดแบบญี่ปุ่นด้วย ทั้งอาหารตา อาหารปากเลยครับ

ผมเริ่มด้วยปลาสีส้ม ก็แซลมอนไงครับ จิ้มชีอิ๊วแล้วก็รีบๆ กิน หยึยๆ ครับ แต่พออยู่ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่น มันก็บิวท์อารมณ์และความอร่อยได้เหมือนกัน จากนั้นปลาหมึกสด ปลาหมึกยักษ์ ปลาโทโร ก็ตามมาติดๆ

พอแย่งกันคีบปลาดิบจนหมดเรือ ที่นี้ก็เล่นสนุกกันแล้วครับ พวกเจ้าบ้านเริ่มเล่นเป่ายิ้งฉุบ ภาษาญี่ปุ่นเนี่ย เค้าเรียกว่า จังเกนพอย ใครแพ้ต้องกินวาซาบิสดๆ คำเบ้อเริ่ม อูยหายเมาเป็นปลิดทิ้งเลยครับ ผมเจอเข้าไปคำนึง น้ำหูน้ำตาไหล ตอนแรกว่าจะเดินกลับหอไม่ไหว ปรากฏว่าผมเดินได้ตรงเด๊ะเลยครับ

พอมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อๆ ไปครับ หลักการกินปลาดิบของญี่ปุ่นเนี่ยก็คือ ต้องกินสดๆ ครับ จะได้รสสัมผัสที่แท้จริงของอาหาร ปลาดิบแช่เย็นเนี่ยเค้าไม่ค่อยนิยมกันหรอกครับ เพราะความสดมันหดหายไปเยอะทีเดียว การทานปลาดิบที่อลังการที่สุดของผมก็ต้องเป็นมื้อที่ผมไปทานกับคุณครูสอนภาษาญี่ปุ่นของผมกับปุ้มครับ พวกแม่บ้านญี่ปุ่นเนี่ยเค้าจะไม่มีอะไรทำ เพราะเป็นแม่บ้านจริงๆ เลี้ยงลูก กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำกับข้าว ซักผ้า ไอ้พวกนี้ มันไม่ได้ทำทั้งวันนี่ครับ เพราะงั้นเวลาว่างของพวกเธอก็มีเหลือเฟือ สิ้นเดือนก็รอรับเงินที่สามีออกไปทำงานงกๆ ไปช๊อปปิ้ง สบายใจเฉิบ ดูอย่างคุณครูโซดะ ของผมคนนี้ เธอเป็นภรรยาเศรษฐีครับ แถมลูกๆ โตหมดแล้วครับ ตารางประจำวันของเธอก็เลยไม่มีอะไร วันจันทร์ไปเรียนจัดดอกไม้ วันอังคารเรียนแจ๊สแด๊นซ์ วันพุธเรียนเปียโน แล้วก็วันพฤหัสกับวันศุกร์ เธอมาเป็นอาสาสมัครสอนภาษาญี่ปุ่นให้ชาวต่างชาติที่ หอพวกผมครับ เธอสนิทกับปุ้มมาก ผมก็เลยพลอยได้อานิสงค์ ตามพวกเธอมาทานปลาดิบมื้อไฮโซนี้ด้วย

ร้านงามมากครับ มีบ่อปลาอยู่กลางร้าน ตรงกลางบ่อปลาอีกทีมีหลุมของพ่อครัวปลาดิบอยู่ ปลาว่ายไปมาดูดีมากเลยครับ แต่พอตอนจะสั่งทานนี่สิ คุณครูโซดะชี้ไปที่ปลา ก็จะมีพนักงานมาช้อนปลาให้แล้วส่งไปที่พ่อครัว พ่อครัวก็หยิบมีดคมกริมมาเฉือนที่เดียวเลยครับ ปลาหางกระดกมาทีเดียวเท่านั้น แล้วแน่นิ่งไปเลย โหดครับ โหดมากกกกก หญิงปุ้มเราเหวอไปเลย เพราะเธอเป็นพวกนางเอกครับ รักสัตว์ขึ้นสมอง

จากนั้นพ่อครัวก็โชว์ความไวในการแล่ การแล่ปลาดิบเป็นศาสตร์อย่างนึงที่นี่ กว่าจะได้เป็นพ่อครัวปลาดิบต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีครับ เพราะการแล่ปลาแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกัน ความคมของมีดกับความไวในการเฉือนลงบนตัวปลาคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำปลาดิบ เห็นเค้าว่ารสชาดของเนื้อปลาสดจะอร่อยหรือไม่ก็อยู่ที่การลงมีดครั้งแรกนั่นแหละครับ มีดที่พ่อครัวปลาดิบพกจะเป็นมีดประจำตัว ถือเป็นสมบัติล้ำค่าเลยทีเดียว อาจารย์บอกว่ามันแพงครับ การได้ดูพ่อครัวปลาดิบทำปลาก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินปลาดิบเหมือนกัน พวกพ่อครัวปลาดิบเก่งๆ จะเงินเดือนแพงครับ

แป๊ปเดียวปลาตัวนั้นก็อยู่บนจานเซรามิกที่ดูมีคลาสที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แล้วก็มาอยู่บนโต๊ะเราครับ คุณครูโซดะบอกให้เรารีบทาน ไอ้จะไม่ทานก็เสียมารยาทล่ะครับ เราสองคนมองหน้ากัน แล้วก็คีบปลามาทานอย่างลังเล แต่เมื่อวางเนื้อปลาลงบนลิ้น อืม มันหอมหวาน นุ่มนวล ครับ สุดยอดของปลาดิบจริงๆ! ผมรีบหันไปมองหน้าหญิงปุ้มอีกที เธอคีบชิ้นที่สองเข้าปากเรียบร้อยไปแล้วครับ โอ๊ว หญิงรักสัตว์ของผม [ปุ้มแอบมาบอกว่า เธอแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ปลาทั้งบ่อไปเรียบร้อยแล้วครับ]

ทายสิครับว่า ปลาดิบมื้อนี้ สำหรับ คนสามคนราคาเท่าไหร่
คุณครูโซดะควักกระเป๋าหยิบแบงค์หมื่นเยนมาวางไว้ถึง 6 ใบด้วยกันครับ โอ! พระเจ้า 6 ใบเนี่ย ใบละสามพันบาทนะครับ พวกผมทานปลาดิบมื้อละหมื่นแปดเชียวหรือ!
ไม่น่าเชื่อว่าแกงเขียวหวานมื้อเดียวที่หญิงปุ้มลงทุนทำเลี้ยงอาจารย์และเพื่อนๆ ที่หอ จะมีค่าถึงหมื่นกว่าบาท
“อาจารย์มาร้านนี้บ่อยหรือเปล่าคะ” หญิงปุ้มถาม [เป็นภาษาญี่ปุ่นแน่นอนครับ เธอคงไม่ได้สิ้นสติไปถึงขนาดถามแกเป็นภาษาไทย แต่ผมขี้เกียจพิมพ์เองแหล่ะ]
“มาเดือนละสองสามครั้งค่ะหนู สามีครูชอบทานปลาดิบ แต่ถ้าไม่ได้ทานสดๆ แกก็จะไม่ทานเลย” คุณครูโซดะตอบแบบธรรมดาที่สุด [อันนี้ก็ตอบเป็นญี่ปุ่นนะครับ ผมลง sub-thai เลย อีกแล้ว] ผมไม่อยากนึกเลยว่า บ้านแกคงเป็นพระราชวังเลยมั๊งเนี่ย ใช้ชีวิตไฮโซขนาดนี้

หลังเสร็จสิ้นอาหารมื้อนั้น ทั้งผมและหญิงปุ้มโค้งคำนับขอบคุณคุณครูโซดะ ซะจนหัวเกือบถึงพื้นเลยครับ บุญปากจริงๆ





 

Create Date : 29 เมษายน 2549
6 comments
Last Update : 30 เมษายน 2549 19:26:32 น.
Counter : 2079 Pageviews.

 

อ่านเจอคำว่า "โจซู" ก็ไม่ได้คิดถึงภาษายี่ปุ่นหรอกค่ะ ดันไปคิดถึงเหล้าโจซูของเกาหลี อยากกิน.. haha พูดเหมือนคนติดเหล้าเลยเนอะ

 

โดย: MOMO 1 พฤษภาคม 2549 14:55:10 น.  

 

รู้สึกว่าเหล้าเกาหลีจะเรียกว่า โซจู นะครับ ไม่ใช่ โจซู

เอ...ก่อนชนแก้วดื่มเหล้า,เบียร์ รู้สึกว่าคนไทยจะไม่พูดอะไรเลยนี่ครับ
ไชโย นี่รู้สึกจะใช้พูดตอนอวยพรคู่บ่าวส่าว

ตามมาอ่านจากpantip สนุดดีครับ

 

โดย: witty wack IP: 203.146.145.186 14 พฤษภาคม 2549 18:54:40 น.  

 

ตอบคุณ witty wack ครับ
คนญี่ปุ่นก็พูดคำว่า คัมไป ไม่ทุกครั้งที่ชนแก้วหรอกครับ ก็จะเป็นงานเลี้ยงงานสังสรรค์ซะเป็นส่วนมากคร๊าบ

ถ้าดื่มหลังเลิกงานหรือเวลาอยากจะดื่มเนี่ย ส่วนมากเอาเมาเลยครับ เอ้า อิกกิ หมดแก้วเลยเพื่อน

 

โดย: Ryou-kung IP: 204.149.80.6 16 พฤษภาคม 2549 19:27:18 น.  

 

ฮาก๊ากกกกกก สนุกดีนะ ชอบจังงงงง แล้วจะทยอยอ่านให้หมดเลยค่ะ

 

โดย: โนบิ IP: 217.162.149.82 3 มิถุนายน 2549 5:24:14 น.  

 

ว้าวบุญปากจริงๆๆเลยค่ะ ไม่รู้จะอิจฉาดีมั้ยเพราะว่าเรากินไม่ได้อ่ะ หยึยๆๆพิกลค่ะ คาดว่าสามีอ่านออกนี่คงอิจฉาคุณมากๆๆ ฮาๆๆๆๆ
มุขฮามากๆๆๆค่ะ อ่านไปขำไป ชอบจังคริๆๆ
มีสาวหนึ่งคน ชื่อโยโกะ เด็กป.ตรี [ไม่สวยเลยครับ]

 

โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว 9 มกราคม 2550 18:25:47 น.  

 

55555 ท้องคัดท้องแข็ง
ขำขันก่อนจะเจอเรื่องเครียด
ห้าๆๆ ชอบตรงโค้งจนหัวทิ่มพื้นนี่แหละ

 

โดย: amp (amp_joe ) 10 มิถุนายน 2551 12:49:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Ryou-kung
Location :
Yokohama Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขาวๆ ตี๋ๆ [แต่ตาโตนะฮะ!]
ใส่แว่นกลมๆ กรอบสีฟ้าลูไซด์
ผมสั้นรองทรง
สูงประมาณ 175 ซม ไม่ผอมไม่อ้วน
กำลังหล่อทีเดียวเซียว




Friends' blogs
[Add Ryou-kung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.