ขับรถมาได้สักพักเราจะเจอทางแยกแบบนี้นะ ให้ขับไปทางขวา ตรงไปเลยค่ะ

หมายังวิ่งออกมาดูว่ามันจอดรถทำอะไรกัน )




ถึงที่พักแล้วเดินลงไปเลยค่ะ  เรารอพี่นิคม เจ้าของที่พักอยู่สักครู่ บริเวณนี้จะเรียกยังงัยดีหล่ะ Lobby หล่ะกัน เพราะเป็นที่นั่งเล่น นั่งชมวิว นั่งทานข้าว


วิวตรงหน้านี่ไม่ต้องพูดถึง สวยมากๆ ดอยหลวงเชียงดาวอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว








พี่นิคมออกมาต้อนรับให้น้องพาไปดูห้องให้เลือกจะพักห้องไหนดี เพราะมีห้องที่วิวดี A3 และA4  ซึ่งอยู่ทางฝั่งขวา ได้วิวพาโนรามาเลยทีเดียวแต่ต้องแยกกันนอน คนละหลัง เลยไม่เอาดีกว่า




เราเลือกพักที่บ้านหลังนี้ค่ะ A5 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

นอนได้5 คน เราเลยเลือกหลังนี้ถึงวิวจะไม่พาโนรามา แต่ก้อสวยไม่แพ้กัน อ่อ ลืมบอกมีห้องน้ำในตัวแต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เพราะงั้นรีบอาบน้ำกันหน่อยนะเพราะมันหนาวมากกกกก



ห้องน้ำแยกอยู่ข้างๆ บ้าน


ที่นอนถูกจัดให้ไว้พร้อมแล้ว

ขนม ของกินยามว่าง ที่จัดมาเสร็จสรรพ เพราะยัยโอ๋ บอกว่าที่นั่นไม่มีของขายนะ  เลยตุนกันใหญ่

ต่างคนต่างเก็บภาพ จัดข้าวของ ก่อนออกไปนั่งชมวิวที่ระเบียงกัน



ขนขนมมานั่งกินกันที่ Lobby ^^  กินไปชมวิวไป โรงแรมหรูๆ ยังเทียบไม่ได้

รวม และน้ำพริก ซึ่งพี่นิคมได้จัดมาให้เราในมื้อเย็นนี้กลับเป็นอาหารที่อร่อยมากๆ



น้ำพริกอะไรไม่รู้ แต่อร่อยมากอ่ะ กินกับไข่เจียว เข้ากันสุดๆ

คงเป็นเพราะบรรยากาศและเพื่อนร่วมนั่งล้อมวงขันโตกด้วยกันละมั๊ง กินไปคุยกันไป เม้าท์ถึงคนในแก๊งค์ ไม่รู้ป่านนี้จะสำลักกันไปถึงไหนแระหากเดอะแก๊งค์ได้มาอ่านตรงนี้ เอาเป็นว่าอย่าเรียกว่าเม้าท์เลยเรียกว่าระลึกถึงจะดีกว่า ^^

ณ ตอนนี้ ใกล้จะสี่ทุ่มแล้วหากอยู่ที่กรุงเทพ ป่านนี้หลายคนยังลัลลาอยู่เลย แต่ที่นี่ ทุกคนนอนกันหมดแล้วรวมทั้งพวกเราด้วยเหมือนกันปกติไปทริปไหนไม่เช้าไม่นอน แต่นาทีนี้ดูเหมือนจะเริ่มง่วงกันแล้ว ก้อแหมใครจะไปทนได้เนอะ สายฝนที่ตกพรำๆอากาศเย็นๆชวนให้ซุกตัวใต้ผ้าห่มอุ่นๆ ไม่ไหวแระ ง่วงเกิน ราตรีสวัสดิ์ ณ บ้านระเบียงดาวดอยหลวงเชียงดาว