Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

สมัยหนึ่งเมื่อพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นโจร



เมื่อพระพุทธเจ้าเป็นโจร


รูปภาพ


ภิกษุรูปหนึ่งกระสันใคร่สึก
เพราะการเล้าโลมของบุราณทุติยิกา(หญิงภรรยาสมัยเมื่อเป็นฆราวาส)

พระศาสดาทรงงทราบเรื่องนั้น จึงทรงโอวาทว่า
เธอยังไม่เข็ดหลาบอีกหรือ?ในชาติก่อนเธอถูกตัดศีรษะเพราะหญิงนี้มาแล้ว
จึงทรงนำเรื่องในอดีตของภิกษุนั้นมาตรัสเล่า ดังนี้


ในอดีตกาล บุรุษผู้หนึ่งเกิดในตระกูลคหบดี
เมื่อเจริญวัยแล้วเป็นโจร เที่ยวทำโจรกรรมจนมีื่ชื่อเสียงมาก
ยากที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะจับได้
วันหนึ่งโจรนั้นเข้าลักทรัพย์ในเรือนเศรษฐีคนหนึ่งได้ทรัพย์จำนวนมาก
ชาวนครเดือดร้อนเพราะโจรมากจึงพากันร้องต่อพระราชาพรหมทัตให้ปราบโจร
และในคืนหนึ่งเจ้าหน้าที่ก็จับโจรนั้นได้พร้อมทั้งของกลาง
พระราชาทรงรับสั่งให้ตัดหัวเสีย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ใครอีกต่อไป

ข่าวที่โจรนั้นถูกราชบุรุษจับได้ลืกระฉ่อนไปทั่วนคร
คราวนั้นมีหญิงคนหนึ่งชื่อ สามา รูปสวย รวยทรัพย์เป็นที่โปรดปรานแม้แห่งพระราชา
แต่มีอาชีพเป็นนครโสเภณี ใครจะร่วมอภิรมย์ต้องเสียทรัพย์ครั้งละ ๑๐๐๐ กหาปณะ

วันที่เขานำโจรไปสู่ตะแลงแกง นางยืนดูอยู่บนปราสาท
เห็นณูปร่างโจรบึกบึน งามหาบุรุษใดเปรียบได้ยาก เกิดความเสน่หาอย่างยิ่ง
จึงคิดอุบายให้ได้โจรนี้มาเป็นภัสดา (สามี)

นางคิดอุบายให้หญิงคนใช้ไปหาเจ้าหน้าที่บอกว่า โจรนี้เป็นสามีของนางสามา
ขอให้เจ้าหน้าที่รับทรัพย์หนึ่งพันไว้แล้วปล่อยโจร
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าได้คนอื่นมาแทนจึงจะปล่อยได้

ครั้งนั้นมีบุตรเศรษฐีคนหนึ่งติดพันนางสามาอยู่ เขามาหานางทุกวัน
และนำทรัพย์หนึ่งพันมาให้ด้วย วันนั้นเขาก็มาอย่างเคย

นางสามารับทรัพย์แล้ววางไว้ที่ขาอ่อนแสร้งร้องไห้
คร่ำครวญว่า โจรที่ถูกจับนั้นเป็นพี่ชายของนาง
และเจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องมีทรัพย์หนึ่งพันไปให้แล้วเขาจะปล่อยตัวพี่ชายมา
แต่นางไม่มีโอกาสไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อนำทรัพย์ไปให้

บุตรเศรษฐีหลงรักนางสามา จึงอาสาไปหาเจ้าหน้าที่แทน
นางสามาจึงขอว่า
ให้ท่านบุตรเศรษฐีนำทรัพย์ที่จะมอบให้นางหนึ่งพันนี้ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ที่คุมตัวโจรแทน
แล้วแสร้างออเซาะให้บุตรเศรษฐีชื่นใจนิดหน่อยแล้วนางก็เร่งให้เขารีบไป

ฝ่ายเจ้าหน้าที่เห็นบุตรเศรษฐีนำทรัพย์มาหนึ่งพันก็สำคัญผิดว่า
เขา คือ บุรุษที่นางสามาส่งมาแทนโจร จึงเอาบุตรเศรษฐีไปไว้ที่มิดชิด
แล้วส่งโจรไปให้นางสามา
คืนนั้นเอง...บุตรเศรษฐีก็ถูกตัดหัวประหารชีวิตแทนโจร

กาลต่อมา นางสามาได้โจรเป็นภัสดา ก็อภิรมย์แต่กับโจรไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
แต่โจรคิดว่า ต่อไปหากนางนี้มีใจปฏิพัทธ์ต่อบุรุษอื่นก้อาจสั่งให้ฆ่าเราเสีย
นางผู้นี้ประทุษร้ายมิตร ไม่ควรจะอยู่ด้วย จึงควรรีบหนีไปเสียดีกว่า

โจรกล่าวถึงนางในตอนหลังอีกว่า

นางสามาเป็นผู้ประทุษร้ายมิตร ทรยศต่อบุรุษผู้ซื่อตรง มาภักดีต่อเรา(โจร)ผู้ไม่ยั่งยืน
ต่อไปภายหน้านางจะต้องทำอย่างนี้กับเราอีก
หญิงอย่างนั้นเราไม่ปรารถนาสมาคมด้วย


พระศาสดาตรัสเรื่องนี้จบแล้ว ตรัสว่า โจรในครั้งนั้น คือ พระตถาคตเอง


:b51: :b51: :b53: :b51: :b51:


คติธรรม

โจรโพธิสัตว์เบื่อหน่ายนางสามาเพราะมีใจรวนเรใจร้าย
วางแผนฆ่าบุรุษผู้ภักดีต่อนาง เช่นเดียวกับคนที่ทรยศต่อมิตร คนเช่นนี้ผู้อื่นย่อมไม่ไว้วางใจ
แม้แต่มิตรก็ทรยศได้ ถ้าหากทำการอย่างหนึ่งก็คงแสร้างทำเพื่อผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้น
พอสิ้นเรื่องผลประโยชน์ก็คงสิ้นเยื่อใยกัน


:b44: :b41: :b41: :b44:

คติด้านพุทธจริยา


พระพุทธองค์ตรัสสรุปว่า โจรในครั้งนั้น คือ พระตถาคตเอง
แสดงถึงพระทัยที่บริสุทธิ์สะอาด ซื่อตรง ไม่ทรงปิดบังอำพรางเรื่องใด
ทรงเล่าทั้งความดี-ความไม่ดีของพระองค์ในอดีต
แม้กระทั่งเคยเป็นโจรก็ทรงเล่า ทรงเล่าทั้งส่วนที่ผิดพลาดและถูกต้อง
กระนั้นจะทำให้เราเคารพสักการะพระองค์น้อยลงก็หาไม่
กลับยิ่งเพิ่มพูนบูชา เพราะพระองค์ไม่ทรงมีความลับ เปรียบกับทรงแบพระหัตถ์หมดสิ้น


การที่ผู้มีบารมีสูงยิ่งอย่างพระพุทธเจ้าเคยเป็นโจรนั้น
ให้กำลังใจแก่เราอย่างมาก สอนให้เราไม่หมดหวังในชีวิตในการตั้งต้นใหม่
รู้ักตัดตอนในการคบคน คือ แม้เขาจะเคยไม่ดีมาบ้าง แต่ถ้าบัดนี้เขาเลิกการกระทำนั้นแล้ว
เขาประพฤติตนเป็นคนดีแล้วก็ต้องให้เกียรติและเคารพนับถือเขาได้
คนทุกคนต้องเคยทำผิดมามากบ้าง น้อยบ้าง


รูปภาพ


เช่น โจรองคุลิมาล เคยฆ่าคนมานับตั้งมากมายแต่กลับใจบวช
พระเจ้าปเสนทิราชาก็แสดงประสงค์เป็นอุปฐากตลอดชีวิต

เช่นเดียวกับถ้าใครตกหลุมโคลน เปรอะเปื้อนโคลน เรารังเกียจว่าเขาสกปรก
แต่ต่อมาเมื่อเขาได้ชำระล้างแล้วจนสะอาด
ถ้าใครยังนึกถึงความสกปรกของเขาที่ตกหลุมโคลนและยังรังเกียจเขาอยู่
ก็เรียกว่า เป็นคนไม่รู้จักตัดตอน เป็นคนเขลา


:b42: :b41: :b41: :b42:


สรุปและคัดลอกบางส่วนจากนิตยสารศุภมิตร.
ปีที่ ๕๑ ฉบับที่ ๕๕๘ เดือนกรกฏาคม-สิงหาคม ๒๕๔๙. (หน้า ๒๑- ๒๕)


:b48: ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนตไว้ ณ ที่นี้ :b48:



ดูกระทู้ที่ธรรมจักร 


//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=39879








Free TextEditor




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2554
1 comments
Last Update : 16 ตุลาคม 2554 7:59:09 น.
Counter : 774 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับข้อคิด ดี ๆ นะคะ ^^

 

โดย: aa-noo DCN 16 ตุลาคม 2554 14:06:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คุณหนูขาวมณี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คุณหนูขาวมณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.