|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
My career debut - IRAP Feb 2008
แน่ะ แน๊.. ไม่รู้มีใครแอบสังเกตกันบ้างหรือเปล่า ว่าหลังจากกลับจากเมืองไทยเมื่อกลางเดือนม.ค.แล้ว เราไม่ค่อยตอบกระทู้ ไม่ค่อยอัพบลอก ก้อยุ่งอยู่ค่า...
ที่ Chicago นี่พวก pathologist เค้ามีสมาคมกันชื่อว่า Chicago Pathology Society ค่ะ ทุกเดือนจะมี presentation ของ pathology resident ในแต่ละสถาบันในชิคาโก หนึ่งเดือนต่อหนึ่งที่ค่ะ ที่ UIC นี่จะเป็นเดือนก.พ.นะคะ presentation นี้ชื่อ Illinois Registry of Anatomic Pathology หรือที่เรียกกันว่า IRAP ค่ะ การเตรียมเคส IRAP นี่ใช้เวลากันเป็นเดือนๆค่ะ เพราะเคสที่จะมา present จะเป็น case ยากๆ หาดูกันได้ยากๆ ต้องทำ research พวก paper กันเยอะแล้วรวมสรุปทำเป็น presentation ซึ่งจะใช้เวลาพูดประมาณ 10 นาทีต่อเคส และจะมีประมาณ 7 เคสในแต่ละครั้งค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็น resident ปี 2 หรือปี 3 ที่ทำกัน ปี 4 ไม่ค่อยทำเพราะมันใช้เวลาเยอะ ส่วนปี 1 ก็ความรู้ยังจำกัดอยู่นะคะ
ตัวเราได้เคสที่น่าสนใจตั้งกะเดือนมิ.ย.ค่ะ ดีใจมากๆ เพราะเป็นเคสที่เรา gross เองเพราะฉะนั้นก็จะรู้ทุกแง่ทุกมุมของเคส ความจริงเราเริ่มทำ presentation นี้ตั้งกะเดือนก.ย.แล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ค่ะ เพิ่งทำได้ใกล้เคียงสมบูรณ์หลังจากกลับจากเมืองไทย แต่ก็ต้องซ้อมพูด พูด พูด..เพราะมันเป็นงานใหญ่มาก เรียกว่าเป็น career debut ของเรซิเดนท์ที่นี่เลยทีเดียว ใครที่ทำได้ดีๆคนจำได้ เค้าก็เสนองาน(job offer) กันเลยก็มีค่ะ ใครทำไม่ดีก็ขายขี้หน้าไม่เฉพาะตัวเองเท่านั้น เสียชื่อสถาบันด้วย เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ปกติจะมี lecture ตอนเช้าทุกวัน ช่วงเดือนนี้ก็มีแต่พวกเราซ้อม present กันค่ะ
เราน่ะกลัวมาก..ก็แค่ present ภาษาไทยก็ยากแล้ว นี่ต้องทำเป็นภาษาอังกฤษแล้วแบบว่าพลาดไม่ได้ เพราะมันเสียหายไปถึงสถาบันไงคะ วันพฤหัสที่เป็นวันซ้อมวันสุดท้ายเสียงเรายังสั่น เนื้อหายังไม่ flow เลย อ.ก็บอกว่าต้องซ้อมให้มากๆนะ เสาร์อาทิตย์จะอ่านหนังสือก็อ่านไม่ได้อ่ะ ไม่มีกระใจก็นั่งอ่านทวนเนื้อหาทั้งหมดเตรียมตอบคำถาม กับซ้อมไป..ไม่รู้กี่รอบนะ
และแล้ว Big Monday (เค้าเรียกกันงี้นะเพราะ present วันจันทร์) ก็มาถึง เราตื่นเต้นมาก เตรียมสูทอย่างดี โชคร้ายเล็กน้อยวันนั้นงานยุ่ง แต่ก็ไปถึงก่อนเวลา มีเวลานั่งเมาท์กับเพื่อนๆหน่อย เคสเราเป็นเคสที่ 3 ค่ะ อยู่ตรงกลางพอดี(มี 7 เคส) วันนั้นตื่นเต้นมาก แบบว่า ตอนพักเที่ยงทำอะไรไม่ได้เลย เลยต้องนั่งสมาธิ ความจริงอยากเดินจงกรมแต่กลัวคนเค้าหาว่าบ้าเอา
เวลา present ก็มาถึง พวกเราอุตส่าห์พยายาม set up computer ให้เป็นแบบ presenter view คือเราสามารถอ่านโน้ตของเราได้ตอน present โดยที่มันไม่โชว์ขึ้นจอใหญ่ ปรากฏว่า มัน set ไม่ได้ล่ะ เราก็เตรียมโพยเผื่อตื่นเต้นจนลืมจะได้อ่านได้ เพื่อนๆไม่มีใครเอาโพยไปเลย เราเลย..เอาละวาไม่เอาโพยขึ้นไปก็ได้ เรียกว่า present กันจากความทรงจำละกัน โชคร้ายกว่านั้นคือ ปกติ Dr.Pins จะเป็น moderator ในงานนี้ วันนั้น Dr.Pins ไม่มา..เสียหายค่ะ ก้อหลายเคสเป็นเคสที่ Dr. Pins รู้ ท่านแบบว่าฉลาดมากๆรู้ไปหมดแล้วก็ชอบตอบคำถามเป็นชีวิตจิตใจ เพราะฉะนั้นบางทีเจอคำถามจากใน floor ก็ได้ Dr. Pins เนี่ยแหละช่วยตอบคำถาม ท่านไม่อยู่ใครจะช่วยเด็กๆล่ะเนี่ย >_<
ช่วงกลางตอนที่ให้เค้าทาย diagnosis เรามีรูปแมวของเราโพสต์ขึ้นไปด้วย เลยได้เสียงฮือฮาเล็กน้อย..”เอ่อ..นี่แมวของดิฉันค่ะ” “ชื่อ Schwarz ภาษาเยอรมันแปลว่าดำ” ได้ยินเสียงหัวเราะ และมีรอยยิ้ม..เราก็ relax ขึ้นเป็นกอง presentation ของเราผ่านไปด้วยดี Dr. Aliya Hussain (เป็นคนเขียน chapter lung ใน Robbin’s – standard textbook of pathology ที่ใช้กันทั่วโลกรวมทั้งเมืองไทยด้วย) ชมด้วยว่า “very impressive” Dr. Krauz เจ้าพ่อ soft tissue tumor ก็ยิ้มพร้อมผงกหน้า approved เรางี้แทบกรี๊ด present เสร็จ Dr.Hussain ก็มาคุยกับพวกเรา บอกว่า present กันได้ดีมาก เคสก็น่าสนใจ หลัง present ก็มีหลายๆคนมาขอจับมือแสดงความยินดี เราก็ได้รับคำชมเยอะมากว่า present ได้ดีเค้าชอบกันมาก
ดีใจอ่ะ..เพราะเคสเรานี่เป็นเคสที่ rare มากๆ คือ incidence แค่ 0.5 – 2 case per million เท่านั้น อ.ยังบอกเลยว่าดูไว้ซะเพราะชั่วชีวิตนี้อาจจะไม่ได้เห็นเคสนี้อีกแล้ว ใน literature ก็มีแค่ 7 เคสเท่านั้นทั่วโลก เราเป็นเคสที่ 8 ซึ่งหลังจากนี้เราคงต้องเขียน case report แล้วล่ะค่ะ
ใครสนใจอยากดูเคสที่เรา present download ได้ *ที่นี่*ะคะ
วันนี้ก็ยังมีคนมาแสดงความยินดีกับเรา เค้า surprised กันมากแหละก็ตอนซ้อมเราดูประหม่ามาก วันจริงดูไม่ตื่นเต้นเลย ฮ่า ฮ่า มีวิชาพระพุทธเจ้าก็ดีงี้แหละ ภูมิใจค่ะ ไม่เสียชื่อคนไทยล่ะนะ อีกอย่าง เราต้องทำ handout แจกให้คนที่มาร่วมประชุม handout ของเราใช้เป็นตัวอย่างให้เพื่อนคนอื่นๆทำตามนะคะ อิ อิ..งานนี้เกิดอย่างเต็มภาคภูมิ ไม่เสียชื่อหมอไทยค่ะ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
16 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 12:26:22 น. |
Counter : 888 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สะเทื้อน 27 กุมภาพันธ์ 2551 12:18:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้อม IP: 74.185.165.26 27 กุมภาพันธ์ 2551 13:21:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: s.o.s 27 กุมภาพันธ์ 2551 13:21:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซัน (Cobie ) 27 กุมภาพันธ์ 2551 20:46:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: samelaa (samelaa ) 28 กุมภาพันธ์ 2551 21:36:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวใหม 4 มีนาคม 2551 1:01:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cottony 6 มีนาคม 2551 15:46:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้ำ IP: 124.120.120.127 3 เมษายน 2551 21:16:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณนิด (auttaya ) 20 ธันวาคม 2551 18:38:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Los Angeles United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่มีสิ่งใดหลีกพ้นแห่งกฎของธรรมชาตินี้ไปได้
พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบมนุษย์กับดอกบัว4ประเภท (บัวสี่เหล่า)คือ 1.ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู) 2.ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู) 3.ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ) 4.ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก (ปทปรมะ)
ฉันกำลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะเป็น"บัวพ้นน้ำ" นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเป็น lotus2b
มโนปฺพพงคมา ธมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจประเสริฐที่สุด สำเร็จแล้วแต่ใจ
|
|
|
|
|
|
|
ชอบตอนที่ปุ้มบอกว่า ... ก่อน present ตื่นเต้นมาก
ก็เลยมานั่งสมาธิ ... เป็นการสงบจิตสงบใจ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้ดีที่สุดเลย
ไม่เสียชื่อคนไทย ไม่เสียชื่อชาวพุทธ ศิษย์พระพทธเจ้าครับ
ป.ล. ลองโหลดไฟล์ไปดูแล้ว ไม่รู้เรื่องเลย หวาดเสียวอีกต่างหาก
แต่ ... เจ้า Schwarz นี่ มีตาที่สวยมากนะครับ