# 9 : บินสู่ท้องฟ้ากว้างอีกครั้ง .....เจ้าเค้าโมงตัวเล็ก
หนูจะทำไดเหมือนฝึกไหมนะ ?

หลังจากเหตุการณ์นั้นพายุยังคงใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมตอนกลางวันกับนอนในตะกร้าช่วงกลางคืน ทุกอย่างเป็นไปได้ดีโดยเฉพาะพายุที่เรียนรู้วิธีโฉบลงมากินเหยื่อจากคีมคีบอาหารที่ฉันถือไว้เวลาหิวจัดๆ เพียงอย่างเดียวที่ฉันยังไม่ได้ทำให้เจ้าพายุ คือการฝึกฝนให้เค้ารู้จักและเรียนรู้วิธีการจับเหยื่อเป็นๆ ซึ่งเมื่อฉันทำไม่ได้ก็ต้องพยายามหาผู้อื่นที่พอจะสอนพายุได้ จากการที่ได้พูดคุยกับคุณหมอสัตว์แพทย์ที่หน่วยบำรุงสัตว์สวนสัตว์เชียงใหม่พบว่าถ้าต้องการให้ทางสวนสัตว์ช่วยดูแล ฉันต้องบริจาคพายุให้สวนสัตว์ไปเลย ซึ่งประเด็นนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับฉันแน่นอน แม้ว่าคงจะแอบเสียใจเล็กๆ ถ้าต้องมอบให้ทางสวนสัตว์จริงๆ แต่ว่านั่นเท่ากับเป็นการเพิ่มภาระให้ทางสวนสัตว์ที่มีทั้งนกและสัตว์อื่นๆ ดูแลรักษาและฟื้นฟูมากมายอยู่แล้ว ทางออกคือฉันอาจติดต่อให้เจ้าหน้าที่ฝึกนกของสวนสัตว์ฯ ช่วยสอนเป็นการส่วนตัวนอกเวลาราชการได้ คุณหมอยังแนะนำว่าเจ้าของควรจะเป็นผู้ฝึกเองเพราะนกจะคุ้นเคยมากกว่าการให้คนแปลกหน้าสอน

ในช่วงเวลาที่ฉันลังเลที่จะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย พายุเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการที่ได้ออกสู่โลกกว้างยังคงมีอยู่ทุกวัน เพราะพายุพยายามที่จะบินออกทางประตูที่มีมุ้งลวดกั้นไว้ โดยเฉพาะเวลาเย็นๆ หลังจากนอนกลางวันเต็มที่ และท้องเต็มไปด้วยอาหารมื้อเย็น พายุจะบินกระแทกมุ้งลวดดังตึงๆ บางทีใช้กรงเล็บเกาะมุ้งลวดได้บางครั้งก็พลาดร่วงลงพื้นห้อง พายุจะสอดส่ายสายตามองดูความเคลื่อนไหวนอกบ้านเสมอๆ มีอยู่วันหนึ่งฉันเห็นเจ้าหนูเขม้นมองไปที่ต้นไม้หน้าบ้านเขม็ง แม้ว่าจะเอียงหัวไปมาแต่สายตาจ้องเป๋งจนฉันสังเกตได้ เมื่อหันไปดูที่ต้นไม้อย่างละเอียดถึงเห็นว่าบนต้นไม้มีงูเขียวตัวขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือโตๆกำลังเลื้อยพันกิ่งไม้อยู่ เป็นการพิสูจน์ให้ฉันเห็นชัดๆว่า นกเค้าแมวมีสายตาดีมากจริงๆ เมื่อฉันเปิดประตูให้แมวออกไปข้างนอกพายุจะมองตามเสมอๆ ฉันรู้ว่าเค้ากำลังจำและหาโอกาสจึงต้องคอยระวังเวลาปิดเปิดประตู เมื่อได้เวลาเข้าตะกร้าพายุจะบินหนีไปรอบห้อง ไม่ยอมให้ฉันจับตัวได้ง่ายๆ จนต้องใช้วิธีคลุมผ้าลงบนหัวพายุเสียก่อนถึงจะเอาตัวลงตะกร้าได้ เมื่ออยู่ในตะกร้าพายุยังคงพยายามตะเกียจตะกายเปิดฝาตะกร้าจะออกมาให้ได้ ฉันจึงต้องตรวจให้แน่ใจว่าฝาตะกร้าปิดล๊อคเรียบร้อย สิ่งเหล่านี้รบกวนจิตใจฉันเหมือนกันเพราะรู้ว่าถึงเวลาแล้วพายุควรได้รับโอกาสให้บินอีกครั้ง การฝึกฝนที่ทำกันมาหลายอาทิตย์จะสำเร็จหรือไม่ แม้ว่าจะกังวลใจแต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจลองปล่อยพายุให้บินนอกบ้านอีกครั้งโดยรอให้พายุหิวจัดๆ และยังไม่ได้กินอะไร

เหมือนเช่นเคยพอนกล่าเหยื่ออย่างพายุบินออกไปก็ถูกต้อนรับอย่างเซ็งแซ่จากเหล่านกและกระแตตัวเล็กบนต้นไม้อย่างไม่เป็นมิตรเช่นเดิม ฉันเห็นพายุทำตัวพองๆ เหมือนเบ่งกล้ามให้ดูตัวใหญ่ขึ้น หัวที่หมุนได้เกือบ360 องศามีประโยชน์ตรงนี้เอง เพราะพายุไม่ต้องขยับตัวหันหน้าหันหลังแค่หมุนหัวไปมาก็มองเห็นรอบทิศทาง ดูแล้วเหมือนปืนใหญ่บนรถถังที่หมุนได้รอบคันยังไงยังงั้น แถมยังส่งเสียงร้องแจ๊กๆดังขึ้นกว่าปกติ สัญชาติญาณการป้องกันตัวเองได้ถูกนำมาใช้ ....เป็นโดยไม่มีใครสอน ส่วนเสียงที่ร้องเรียกฉันหรือร้องหิวข้าวจะเป็นเสียงร้องอีกแบบที่แยกได้ชัดเจน ด้านล่างฉันเตรียมเอาตะกร้าฝึกที่เคยใช้เป็นคอนให้พายุเกาะเวลากินอาหารออกมาในที่โล่งให้พายุเห็นชัดๆ พยายามส่งเสียงเรียกให้พายุบินลงมาเกาะ พายุมองเห็นฉันและตะกร้าฝึกเหมือนกันจึงบินลงมาเกาะที่กิ่งไม้ต่ำลงมา พร้อมทั้งชะโงกหน้าลงมามองเอียงคอซ้ายทีขวาทีแต่ไม่ยอมบินลงมาโฉบเอาเหยื่อซักที แต่พอฉันยกถ้วยพลาสติกใส่อาหารขึ้นมาเท่านั้นแหละ พายุบินโฉบลงบนตักฉันอย่างรวดเร็วจนฉันตกใจตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่าจะเร็วอย่างนี้ ยังจำได้ถึงกระแสลมจากการกระพือปีกของพายุที่ปะทะหน้าได้จนทุกวันนี้ ตอนนั้นค่อนข้างฉุกละหุกเพราะฉันรีบหยิบผ้าขนหนูคลุมเจ้าหนูไว้ก่อนเพราะกลัวจะบินขึ้นไปบนต้นไม้อีกก่อนจะได้กินอิ่ม ส่วนพายุร้องลั่นๆเพราะตกใจที่กำลังจะกินอาหารแต่ต้องมาถูกจับลงตะกร้า สุดท้ายวันนั้นพายุกินอาหารเย็นในตะกร้า ส่วนฉันดีใจที่การฝึกประสบความสำเร็จ ทำให้พายุบินลงมากินอาหารจากฉันได้

วันต่อมาหลังจากให้อาหารมื้อเช้าแล้วฉันปล่อยพายุบินไปเกาะคอนบนต้นไม้ใหญ่แถวบ้านอย่างอิสระ ถ้ารำคาญนกอื่นๆหนักเข้าก็บินหนีไปเกาะต้นอื่นๆ เสียที ฝูงนกต่างๆ จะบินตามกันไปเป็นพรวน ดังนั้นฉันจะรู้ว่าพายุเกาะอยู่ตรงไหนเพราะพายุจะส่งเสียงเรียกหาแม่ (ซึ่งฉันเหมาเอาว่าเป็นฉัน) ตลอดเวลา แถมด้วยเสียงนกๆ เหล่านั้นที่ระดมกันตะเบ็งเสียงให้แซ่ด การบินของพายุจะบินวนเกาะกิ่งไม้ต้นนั้นทีต้นนี้ทีรอบๆ บ้านในระยะประมาณ 50 เมตร เพราะแถวบ้านของฉันมีต้นไม้สูงๆ มากมายจนร่มครึ้ม ทำให้ฉันพอจะได้ยินเสียงร้องของเค้าตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ฉันจะส่งเสียงเรียกกลับไปเป็นระยะๆ ให้เค้าได้ยินเสียงของฉันเหมือนกันด้วยคิดว่าเค้าจะได้อุ่นใจขึ้นว่าฉันไม่ได้หายไปไหน ปกติระหว่างวันถ้าอยู่ในห้องพายุจะได้กินอาหารเม็ดสำหรับนกเอี้ยงบ้างเล็กน้อยเมื่อร้องหิว แต่เมื่อออกไปอยู่ข้างนอกแบบนั้นจะไม่ได้กินอะไรเลยจนกว่าจะถึงมื้อเย็น ดูเหมือนพายุจะรู้เวลาดีเหมือนกัน พอสักประมาณ 5 โมงเย็นจะเริ่มบินมาเกาะต้นไม้หน้าบ้านและดูเหมือนพายุจะจำได้ว่าเกิดอะไรกับตัวเองเมื่อวานเย็นจึงไม่ยอมบินลงมาเกาะนิ่งๆ จะรีบลงมาจิกเอาเหยื่อคำใหญ่จากปลายคีมที่คีบอาหารอยู่แล้วรีบบินหนีขึ้นไปอีก เรียกยังไงก็ไม่ลงมาทั้งๆที่เพิ่งกินไปได้แค่คำเดียว สุดท้ายต้องปล่อยให้นอนบนต้นไม้คืนนั้น




Create Date : 08 ตุลาคม 2552
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2559 3:34:54 น.
Counter : 726 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blackie rabbit
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ตุลาคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31