# 5 : โบยบินสู่โลกกว้าง....นกเค้าโมงตัวเล็ก
ดูแลตัวเองครั้งแรก
แล้ววันสำคัญทั้งของฉันและพายุก็มาถึง เมื่อฉันตัดสินใจทดลองเปิดฝาตะกร้ากว้างเต็มที่ในเย็นวันหนึ่ง พายุกำลังนอนเล่นอยู่ในตะกร้าอย่างสบายใจหันมามองฉันด้วยตาที่กลมโต ฉันเอามือลูบเบาๆที่ตัวของพายุซึ่งตอนนี้แทบไม่เหลือลักษณะของลูกนกตัวเล็กๆอีกต่อไปแล้ว ขนอ่อนหลุดไปเกือบหมด บริเวณรอบตาเริ่มเห็นสีขาวมากขึ้น ขนด้านหลังมีลวดลายชัดเจน เป็นมัน อ่อนนุ่มมือมาก พอฉันดึงมือออกมาพายุก็กระโดดขึ้นมาเกาะขอบตะกร้าทันที นิ่งอยู่อึดใจเหมือนให้กำลังใจตนเองก่อนที่จะโผบินขึ้นสู่หลังคาโรงรถ แล้วเหตุการณ์ที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น.....พายุบินสู่ภายนอกเร็วไป เวลาประมาณ 5 โมงเย็นยังไม่ค่ำพอที่จะให้นกหากินกลางวันกลับเข้ารัง ดังนั้นลูกนกเค้าโมงตัวนี้จึงถูกรับน้องด้วยเสียงไล่ที่พร้อมใจกันส่งเสียงจนดังเซ็งแซ่ไปหมด ดูเหมือนนกทุกตัวแถวนั้นต่างมารุมส่งเสียงไล่ ไม่ว่าจะเป็นนกเอี้ยงฝูงใหญ่ นกหัวจุกที่มีก้นสีแดงๆ 3-4 ตัว นกตัวเล็กๆ สีเหลืองอ่อนๆ แม้แต่เจ้ากระแตตัวเล็กๆ ก็มาส่งเสียงแจ๊กๆ ไล่พายุของฉันด้วย เหมือนกับเกิดสงครามนกยังไงยังงั้นเลยคะ ขนาดตัวฉันเองยังตกใจแล้วเจ้าลูกนกเค้าโมงที่เคยอยู่ในที่เงียบๆ จะไม่ตกใจยังไงไหว หนูเลยยืนนิ่งอย่างมึนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงไม่เข้าว่าทำไมสัตว์อื่นๆถึงแสดงอาการก้าวร้าวต่อตนเองแบบนี้ เมื่อเห็นพายุยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น นกหัวจุกใจกล้าบางตัวจึงบินโฉบเข้ามาใกล้อย่างหยั่งเชิงว่านกเค้าแมวตัวนี้จะมีพิษสงหรือไม่และเริ่มกล้ามากขึ้นบางตัวบินเฉี่ยวโดนหัวเจ้าพายุก็มี





ตอนนั้นฉันอยากบินได้ใจจะขาดอยากบินขึ้นไปช่วยไล่พวกนกเหล่านั้น อยากไปอยู่ใกล้ๆ ให้กำลังใจพายุน้อย แต่เท่าที่ทำได้คือการยืนดูอยู่ข้างล่างอย่างเอาใจช่วยอยากบอกพายุให้เข้าใจว่าที่สัตว์เหล่านั้นแสดงอาการก้าวร้าวเพราะเค้ากลัวพายุ พายุเป็นนกล่าเหยื่อ พายุเป็นนกที่มีอำนาจมีกำลังที่สามารถจับลูกนกตัวเล็กๆของพวกเค้ามาเป็นอาหารได้ เค้าถึงต้องรวมตัวกันขับไล่พายุให้ออกไปไกลๆ จากแหล่งที่อาศัยของเค้า แล้วสัญชาตญาณการป้องกันตัวเองของพายุเริ่มทำงาน พายุเริ่มส่งเสียงร้องตอบโต้บ้างยิ่งถ้ามีนกตัวไหนบินเข้ามาใกล้เค้าจะยิ่งร้องดังลั่นๆ ทำขนพองขึ้นเพื่อให้ดูตัวใหญ่ ขยับย้ำเท้าไปมา แต่นกพวกนั้นคงเริ่มรู้ว่าพายุเป็นเพียงลูกนกเค้าโมงที่ยังไม่มีพิษสงจึงไม่ลดราการส่งเสียงระรานลง สุดท้ายพายุต้องบินหนีขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านขึ้นไปเกาะกิ่งไม้ที่มีใบเป็นพุ่มหนาเพื่อไม่ให้นกตัวอื่นบินมารังแกได้ง่ายๆ

ครั้งนี้เป็นการบินสู่โลกกว้างที่น่าตระหนกตกใจครั้งแรกของพายุที่เจอแบบนี้เมื่อขึ้นไปเกาะกิ่งไม้สูงขนาดตัวของพายุยิ่งดูเล็กกว่าที่เห็นมากเปรียบเทียบกับนกหัวจุกแล้วดูเหมือนจะย่อมกว่าด้วยซ้ำ ลูกนกตัวเล็กๆที่เกาะอยู่เดียวดายไม่มีผู้ใหญ่คอยให้ความปกป้องคุ้มครองเมื่อมีภัย ต้องเรียนรู้การเอาตัวเองให้รอดเพียงลำพังไม่มีใครสอน เริ่มร้องเรียกหาผู้ที่จะให้ความอบอุ่น ให้ความปลอดภัย ฉันพยายามเรียกให้พายุบินกลับลงมาข้างล่างแต่ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะพายุยังอยากอยู่กับต้นไม้ใบไม้ตามสัญชาตญาณเดิมของเค้ามากกว่า คืนนั้นพายุอยู่บนต้นไม้ทั้งคืนท่ามกลางพายุฝนที่ตกอย่างหนัก ฉันไม่รู้ว่าเค้าหลบฝนอยู่ตรงไหนและจะได้นอนหลับเหมือนอยู่ในรังตะกร้าที่อบอุ่นหรือไม่ บางครั้งฉันตื่นมากลางดึกยังได้ยินเสียงร้องของพายุบนต้นไม้ต้นเดิม ความมืดข้างนอกทำให้ฉันมองไม่เห็นตัวนอกจากเสียงกระพือปีกบินไปมา แม้ว่าจะเรียกยังไงพายุก็ไม่ยอมลงมาหาฉันในคืนนั้น

เช้าวันใหม่ ฉันรีบตื่นออกมาดูพายุ จัดเตรียมอาหารสำหรับนกหวังจะให้เป็นเครื่องล่อให้พายุบินลงมากินอาหาร รู้สึกกังวลทั้งเรื่องความหิว และเรื่องฝนตกเมื่อคืนห่วงว่านกจะไม่สบาย โดยลืมคิดไปว่านี่เป็นธรรมชาติของนกยังไงก็ต้องเปียกฝนอยู่แล้วไม่น่าจะเป็นอะไร พายุยังส่งเสียงเรียกอยู่บนต้นไม้ตอนนี้เสียงเปลี่ยนเป็นร้องแบบหิวและต้องการให้ฉันเอาอาหารขึ้นไปป้อน พอฉันเรียกพร้อมกับเคาะชามใส่เนื้อ เค้าก็จะก้มลงมามองเหมือนสงสัยว่าทำไมฉันไม่เอาอาหารมาป้อนเสียที พอเรียกมากๆ ก็บินลงมาเกาะกิ่งไม้ต่ำๆ แต่ต่ำอย่างไงก็ยังสูงเกินไปสำหรับคนที่บินไม่ได้ เกือบเที่ยงแล้วพายุยังไม่ยอมลงมาทั้งๆที่หิวข้าวหิวน้ำ แดดช่วงใกล้เที่ยงทั้งแรงทั้งร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่ยังพอมีลมพัดใบไม้ไหว พัดเอาขนบางๆ ให้ปลิวพลิ้ว ฟองฟู เมื่อยหนักเข้าก็เกาะคอนนอนเล่นซะงั้น คืออาการย่อขาทั้งสองข้างลงทำให้ลำตัวติดกับกิ่งไม้เหมือนกำลังนอนเล่นในตะกร้าอย่างสบายใจ แต่แล้วจู่ๆ นกที่หน้าตาเหมือนเจ้าพายุเพียงแต่ดูตัวใหญ่กว่าบินมาจากไหน ฉันเองไม่ทันสังเกต บินเข้ามาเกาะประชิดตัวพายุ แถมยังขยับซ้ายทีขวาทีมองพายุ ก่อนจะร้องเสียงดังหนึ่งครั้งแล้วบินจากไปทันที

ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าทำยังไงถึงจะให้พายุลงมาจากต้นไม้ได้ ฉันเดินรอบบ้านมองหาอุปกรณ์ที่จะเอาพายุลงจากต้นไม้ จนเจอไม้ไผ่ลำยาวๆ ที่คิดว่าพอจะสอยเอาเจ้านกเค้าโมงลงมาได้ เอากระเช้าผลไม้เก่าที่ทิ้งอยู่ในครัวมาผูกกับปลายไม้ไผ่ให้แน่น เหมือนเป็นกระเช้าช่วยชีวิตผู้ประสบภัยในที่สูงยังไงยังงั้น ความคิดของฉันคือเอาเนื้อใส่ลงไปในกระเช้าแล้วค่อยๆ ยื่นไม้ไผ่ขึ้นไปใกล้ๆ ตัวนก ถ้านกได้กลิ่นอาหารก็จะบินเข้ามาในกระเช้าเพื่อกินอาหาร ฉันก็จะสามารถเอานกลงมาได้ แผนการเหมือนจะดีแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะพายุบินไปเกาะกิ่งไม้สูงขึ้นไปฉันเอื้อมจนสุดแขนแต่ยังไม่ถึงอยู่ดี ยืนบนเก้าอี้ก็แล้ว ปีนขึ้นไปบนรั้วบ้านก็แล้วยังไงก็ไม่ถึง แถมแสงแดดที่แรงจัดเมื่อมองย้อนแสงขึ้นไปหน้าพาลจะมืดได้ สุดท้ายผู้ช่วยหนุ่มคนหนึ่งต้องปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วค่อยๆ ยื่นกระเช้าไม้ไผ่ที่ค่อนข้างหนักเข้าไปใกล้ๆจุดที่พายุเกาะอยู่ มันสุดปลายไม้พอดี ได้ผลพายุสามารถจิกกินอาหารที่พาดอยู่บนกระเช้าได้แต่ไม่ยอมกระโดดขึ้นมาเกาะกระเช้า พอเขี่ยที่ตัวแรงๆ พายุก็บินหนีไปเกาะกิ่งไม้กิ่งอื่นซะงั้น ทุลักทุเลกันอยู่พักใหญ่ๆ กว่าจะทำให้พายุเกาะกระเช้าได้ จากนั้นต้องค่อยเอาลงมาอย่างเบามือ เพราะเดี๋ยวตกใจจะบินไปเสียอีก เมื่อลงมาต่ำจนฉันเอื้อมถึงก็ต้องรีบคว้าตัวไว้มั่น เจ้าพายุเมื่อถูกจับก็พยายามดิ้นให้หลุดจากอุ้งมือของฉันร้องแก๊กๆ ดังลั่น ทำให้ฉันต้องรีบอุ้มเข้าบ้านก่อนที่จะหลุดมือบินออกไปอีก

คงจะด้วยความหิวและหนื่อยหลังจากผจญภัยนอกบ้านมา 1คืน ดูเหมือนพายุจะหิวมากฉันป้อนอาหารให้แทบไม่ทันเพราะเค้าจะร้องเสียงแสบแก้วหูเร่งให้ฉันรีบป้อนเร็วๆ ยื่นเนื้อให้เท่าไหร่ก็เขมือบหายลงไปในลำคออย่างรวดเร็วไม่ค่อยๆ ฉีกกินอย่างทุกครั้ง หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้วคงไม่ต้องบอกใช่ไหมคะว่าพายุจะทำอะไรต่อไป....หลับคะ เจ้าพายุยืนหลับเกือบทันทีที่กินอิ่ม เวลานกเค้าแมวหลับนี่น่ารักมากเลย เพราะเปลือกตาสีชมพูด้านล่างจะค่อยๆเลื่อนขึ้นมาปิดลูกตาเอาไว้ ซึ่งต่างจากของคนที่เปลือกตาบนจะเลื่อนจากบนลงมาล่าง อ้อนกมีขนตาด้วยนะคะ เป็นขนเส้นสั้นๆ น่ารักเชียว ปกตินี่เค้าจะยืนหลับคะ แต่มีบ่อยๆ เหมือนกันที่นอนราบไปกับพื้น สงสัยยืนนานๆคงจะเมื่อย เห็นได้ชัดว่าพายุง่วงมากๆ เพราะปกติถ้าเราทำเสียงก๊อกแก๊กนิดเดียวเค้าจะลืมตาทันทีแต่วันนั้น เค้าจะแค่ขยับหัวฟังเสียงนิดหน่อยหรืออย่างมากก็ลืมตามองแค่ข้างเดียวแล้วก็ปิดกลับเกือบจะทันทีเหมือนกัน เรื่องการลืมตาข้างเดียวนี่เห็นครั้งแรกฉันตกใจเลยคะ เพราะเค้าใช้ตาข้างเดียวมองโน่นมองนี่อยู่นานจนคิดเลอะเทอะไปใหญ่ว่าเจ็บตาหรือปล่าว เพราะบ่อยครั้งที่พายุชอบยกเท้าเอากรงเล็บขึ้นมาเกาหัวเกาหน้า เกาทีขนตรงนั้นก็จะฟูชี้โด่ชี้เด่ เวลาเกาก็จะทำซะแรงเชียวอาจพลาดไปข่วนลูกตาได้ จนสุดท้ายต้องแกล้งให้เค้าตกใจนะคะถึงลืมตาสองข้างได้ นกก็รู้จักขี้เกียจเป็นเหมือนกันแฮะ









Create Date : 07 กันยายน 2552
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2559 13:22:12 น.
Counter : 1272 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blackie rabbit
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



กันยายน 2552

 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
11
12
14
15
16
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30