Bloggang.com : blackie rabbit - วัดสวยในคืนลอยกระทงเชียงใหม่

วัดสวยในคืนลอยกระทงเชียงใหม่

เดินชมวัดในคืนยี่เป็งเชียงใหม่ที่ไร้เสียงประทัดยักษ์

สวัสดีค่ะทุกคน ลอยกระทงปีนี้ได้มีโอกาสออกไปเที่ยววัดในเมืองเชียงใหม่มา 2 แห่ง มีรูปบรรยากาศสวยๆ มาฝากทุกคนค่ะ
สำหรับคนที่อยู่เชียงใหม่อย่างฉัน ปีที่ผ่านๆมา คืนลอยกระทงคือคืนที่อยู่บ้านจุดผางประทีบรอบบ้านเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามประเพณีล้านนา หากแต่ปีนี้การจุดผางประทีบยังเสมือนการน้อมถวายสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดชผู้สถิตยังทิพย์วิมานบนฟ้า สาเหตุที่ไม่ยอมออกไปสัมผัสบรรยากาศวันลอยกระทง เพราะเกรงกลัวเสียงปะทัดยักษ์ที่นับวันจะดังขึ้นทุกปี รวมถึงหวาดเสียวกับพลุและตะไลไฟที่มักพุ่งเข้าหาคนจากการเล่นด้วยความคะนองหรือเล่นไม่เป็นก็แล้วแต่ ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะอยู่บ้านคอยดูว่าจะมีโคมลอยตกบนหลังคาบ้านหรือไม่มากกว่า

ก็เมื่อปีนี้ทุกอย่างล้วนเป็นใจ ฝนที่ตกหนักมาก่อนหน้านั้น 2-3 วันหยุดสนิท อากาศเย็นแผ่วพอให้ผิวสัมผัสได้ เสียงของปะทัดยักษ์แทบจะหายไปจากเมืองเชียงใหม่ ท้องฟ้ามีแต่แสงสว่างนวลของ Super Full Moon ที่ว่ากันว่าเป็นพระจันทร์ที่โคจรมาใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 68 ปี ไม่มีแสงสีเหลืองสีแดงของพลุที่ถูกจุดขึ้นบนฟ้าแข่งกับแสงจันทร์ โคมลอยยังมีลอยอ้อยอิ่งเป็นสายไม่มาก .....จะรออะไรล่ะ ออกไปซึมซับกับบรรยากาศโรแมนติกที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีแบบนี้อีกเพราะบอกได้เลยว่าตั้งแต่อยู่เชียงใหม่มาเกือบ 40 ปี ยังไม่เคยมีวันลอยกระทงปีไหนที่เงียบเท่าปีนี้มาก่อน

วัดพันเตา

วัดแรกคือวัดพันเตาหรือวัดปันเต้า (พันเท่า)เป็นวัดที่รู้สึกว่าอยากจะมาเที่ยวชมในวันลอยกระทงมาหลายปีแล้ว เนื่องจากได้เห็นภาพจากอันน่าตื่นตาในความสวยงามของแสงไฟจากผางประทีปนับพันๆที่ถูกจุดขึ้นเป็นพุทธบูชาในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองที่ตากล้องทั้งหลายได้ถ่ายไว้ .. ดังนั้นออกจากบ้านก็ตรงดิ่งมายังวัดนี้ทันที วัดพันเตาตั้งอยู่บนถนนพระปกเกล้าไม่ไกลจากสี่แยกกลางเมืองและถนนคนเดินท่าแพเท่าไหร่ ที่นี่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ที่บรรดาช่างภาพทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ รวมถึงนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันอย่างเนืองแน่นเพื่อรอชมพิธีจุดผางประทีบถวายเป็นพุทธบูชาในคืนยี่เป็งอันงดงาม

หน้าวัดคึกคักมากค่ะ ถนนแคบแต่รถเยอะแถมพื้นที่ถนนทั้ง 2 ฝั่งยังมีรถจักรยานยนต์จอดเรียงแถวตลอดแนว นักท่องเที่ยวเดินทั้งบนฟุตบาทและบนผิวถนนทำรถค่อนข้างติดขัดพอสมควร ผ่านประตูวัดเข้าไปนักท่องเที่ยวเยอะมาก เหมือน กล้องถ่ายรูปมีทุกประเภทไม่ว่าจะมือโปร หรือมือสมัครเล่น ใครไม่มีก็มือถือ

นักท่องเที่ยวและคนเชียงใหม่ร่วมจุดประทีปเพื่อเป็นพุทธบูชา

ด้านหน้าของวิหารไม้สักทั้งหลัง เดิมเป็นหอคำหลวงของเจ้ามโหตรประเทศ เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ ในราชวงค์กาวิละ เหนือประตูทางเข้าวิหารประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปนกยูงอันเป็นสัญญลักษณ์ของเจ้านายชั้นสูงฝ่ายเหนือ ที่งดงามอ่อนช้อย

นักท่องเที่ยวต่างยกกล้องขึ้นถ่ายภาพมหาเจดีย์ชเวดากองจำลอง โดยมี supper full moon 2559 เป็นฉากหลัง

1ใน 4 วันสำคัญที่วัดพันเตาจัดพิธีถวายผางประทีปเพื่อเป็นพุทธบูชาอันได้แก่วันสำคัญทางศาสนา 3 วัน คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันประเพณีลอยกระทง โดยเหล่าสามเณรจะจุดผางประทีปและนั่งเจริญสมาธิที่ลานธรรมใต้ต้นศรีมหาโพธฺิ์และแม่น้ำคงคาจำลอง

โคมล้านนาขนาดสูง 5 เมตรที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามจำนวน 3 โคมเพื่อถวายความอาลัยแด่ ธ ผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

วัดต่อมา ชื่อวัดเจดีย์หลวงเป็นวัดที่อยู่ติดกับวัดพันเตาแต่ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่วัดพันเตาล้นหลามไปด้วยผู้คนนับพันเบียดเสียดแน่นวัด แต่วัดเจดีย์หลวงกลับมีนักท่องเที่ยวที่แวะเข้าไปชมความงามของวัดในยามค่ำคืนเพียงบางตา แต่ฉันเองกลับชอบแบบนี้มากกว่าเพราะรู้สึกได้ถึงความสงบและความศักดิ์สิทธิ์ในอาณาเขตของศาสนสถานอย่างแท้จริง วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ มีสถานะเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ ความสำคัญของวัดในสมัยก่อนคือเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรล้านนา

บันไดนาคคู่สีทองเปล่งประกายยามค่ำคืนที่มีท่อนลำตัวและหางทอดยาวไปจรดกันเหนือซุ้มประตูทางเข้าวิหาร มีพระพุทธรูปปางห้ามญาติชื่อ พระอัฎฐารสเป็นองค์พระประธานอยู่ภายในวิหาร

หออินทขิล ศาลหลักเมืองเชียงใหม่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัดเจดีย์หลวง เป็นที่ตั้งของเสาอินทขิลหรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่ ทุกปีชาวเชียงใหม่จะจัดพิธีบูชาเสาอินทขิลขึ้นในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนเพื่อให้บ้านเมืองอยู่ดีกินดี สงบสุข

ความสวยงามของพระธาตูเจดีย์หลวงภายในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ในบรรยากาศเงียบสงบ องค์พระธาตุเมื่อกระทบกับแสงไฟทำให้กลายเป็นสีทองงามอร่ามไปทั้งองค์

บัวบูชาที่ทางวัดจัดไว้สำหรับผู้เข้าชมวัดได้ถวายสักการะองค์พระเจดีย์สีสรรสวยงาม

บรรยากาศบริเวณด้านหลังวิหารอันสวยงามซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากการได้มาชมตอนกลางวันเช่นทุกครั้ง

กลับถึงบ้านประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ เริ่มจุดผางประทีบสำหรับพุทธบูชาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จรัชกาลที่ 9 และถือโอกาสลาด้วยภาพแสงเทียนในผางประทีบอันน้อยนะคะ