# 3 : ลูกนกเค้าโมงกับโลกนอกตะกร้า
เริ่มเรียนรู้โลกนอกตะกร้า
ครบหนึ่งสัปดาห์ พายุดูเติบโตมากขึ้นขนอ่อนสีขาวอมเทาบริเวณลำตัวหลุดออกไปเกือบหมด คงเหลือแต่ส่วนหัวต่อมาถึงรอบคอที่ยังคงมีขนอ่อนปกคลุมอยู่เยอะ แซมด้วยขนจริงสีน้ำตาลชี้โด่ชี้เด่ออกมา บริเวณลำตัวเปลี่ยนเป็นชุดขนจริงเกือบหมดทั้งตัวแล้ว ฉันสังเกตเห็นคิ้วสีขาวๆ บริเวณหัวดวงตาที่กลมโตของพายุได้ชัดเจนมากขึ้น หนวดบริเวณปากเริ่มยาวออกมาให้เห็น พอเอาไปชั่งน้ำหนักปรากฏว่าเพิ่มขึ้น เป็น 85-90 กรัม เพิ่มขึ้น 10 กรัมจากการชั่งครั้งก่อนโดยประมาณ ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อก็มีการเปลี่ยนแปลงโดยจะกินมากมื้อเช้าและเย็น มื้อระหว่างวันนี่จะกินนิดกินหน่อยเท่านั้น นอกจากนั้นเมื่อท้องอิ่มเริ่มไม่ยอมนอนล่ะ ต่างจากช่วงแรกที่กินอิ่มแล้วจะมุดเข้าไปนอนในโปงผ้าทันที ฉันหมายถึงผ้าปูที่นอนในตะกร้าจะทำเป็นโพรงให้เค้ามุดตัวเข้าไปนอนกบดานเงียบ ตอนนี้จะชอบกระโดดขึ้นมายืนบนกองผ้าทำหัวโยกไปโยกมา หันมองไปทางโน้นทางนี้ที พยายามมองออกมานอกตะกร้าว่ามีอะไรบ้าง บางทีก็หมุนคอเอาหน้ามาอยู่ด้านหลังซะงั้น บางทีก็ทำคอยืดๆ หดๆ




พัฒนาการอีกอย่างที่เฝ้าสังเกตคือ อาทิตย์นี้ พายุน้อยเริ่มออกกำลังปีกมากขึ้น มีการเหยียดปีกออกเหมือนคนเราบิดขี้เกียจที่ต้องเหยียดแขนขาออก การกระพือปีกเริ่มเร็วและแรงขึ้น รู้สึกได้ถึงแรงลมที่เกิดขึ้น ปีกที่เหยียดยาวทำให้เห็นว่าประกอบไปด้วยขนนุ่มๆ แต่ละก้านเรียงตัวซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบอยู่หลายอัน ฉันอยากลองนับดูนะว่ามีกี่ก้าน แต่เจ้าตัวไม่ยอมซักที พอจับกางปีกปุ๊บก็หดปีกกลับทันที

บางครั้งฉันก็จะช้อนเอาพายุออกมาเดินเล่นนอกตะกร้า เจ้าหนูน้อยดูชอบใจที่ได้ออกจากตะกร้า ก็จะเดินบ้าง กระโดดบ้าง บางทีกระโดดขึ้นมาบนตักที่ฉันนั่งขัดสมาธิอยู่ใกล้ๆ มันเป็นความรู้สึกประทับใจนะ บอกไม่ถูกรู้แต่ว่ามีความสุขที่ได้เฝ้ามอง การที่เอาเค้าออกมาเดินเล่นนี่ทำให้ได้ฝึกกำลังขาของนกให้แข็งแรง ได้หัดใช้กรงเล็บยึดจับพื้นผิว กิริยาที่น่ารักของพายุเวลาเดินนอกจากเดินตรงไปข้างหน้าเหมือนปกติแล้วยังมีการเดินออกด้านข้าง โดยวิธีก้าว-ชิด-ก้าว คือการก้าวขาออกด้านข้างแล้วลากขาอีกข้างชิด แต่ด้วยที่ตัวเล็กขาสั้นเมื่อก้าวขาเร็วๆ จึงดูเดินกระดุ๊กๆ แล้วก็ชอบเดินแบบนี้บ่อยๆ เข้าใจเอาเองว่าเพราะจะได้สะดวกเวลาเกาะกิ่งไม้หรือพื้นที่แคบๆ

แต่ปัญหาใหญ่เมื่อปล่อยพายุออกนอกตะกร้าคือเรื่องของเสียที่เค้าถ่ายออกมา เพราะเราจะไม่สามารถห้ามหรือจัดการให้นกขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางเหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นๆ แต่ก็ไม่แน่นะอาจมีคนอื่นมีวิธีหัดได้แต่ฉันยังทำไม่ได้ จึงต้องค่อยตามเช็ดสิ่งขับถ่ายตามพื้น โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ขอบอกว่านกนี่ปล่อยของเสียบ่อยมากๆ แต่ฉันก็มีวิธีสังเกต คือถ้านกเบ่งกล้ามเมื่อไหร่นะ เตรียมกระดาษทิชชูได้เลย อาการเบ่งกล้ามเป็นอย่างไรก็นึกถึงพวกเราในห้องน้ำตอนเช้าๆ ก็แล้วกัน ทำไงนกก็ทำงั้นแหละ ตัวนกก็จะพองขึ้นแล้วก็...อึดออกมา....ตัวฟีบลงตามปกติ เรื่องของเสียนกกินเนื้อนี่ เหม็นนะ เหม็นมากๆ ออกฉุนจัด ยิ่งฉันเลี้ยงในตะกร้าที่พื้นไม่โล่ง แถมมีทั้งเบาะผ้า ผ้าปูที่นอนเก่าๆ โอย มันทั้งเปื้อนทั้งเหม็นไปหมดเลย จากที่อ่านๆ มา เค้าบอกว่า ในธรรมชาติพ่อแม่นกจะคาบเอามูลลูกนกออกไปทิ้งนอกรัง จริงไม่จริงไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่เคยปีนขึ้นไปดูสักที เมื่อรับอาสาเป็นแม่บุญธรรม ก็เป็นหน้าที่เราจัดการ ต้องขยันเอาไปซัก เอาตะกร้าไปล้างน้ำบ่อยๆ เพราะการที่ได้ตากแดดก็จะช่วยเรื่องการฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย ทีนี้ฉันเลยเอากระดาษชำระ ปูทับบนเบาะอีกทีเพื่อให้เค้าถ่ายลงกระดาษแทนที่จะโดนเนื้อผ้าโดยตรง แต่ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย

อากาศร้อนก็มีผลกับนกเหมือนกัน เพราะวันไหนที่ร้อนจัดๆ โดยเฉพาะช่วงบ่าย พายุจะมุดออกมาจากรังผ้าที่สุมๆไว้ ปีนขึ้นมานอนบนกองผ้า อ้าปากหายใจหอบเร็วๆ ฉันต้องใช้ไซริงค์ดูดน้ำแล้วป้อนให้นกด้วยเพราะดูเหมือนเค้าจะหิวน้ำ เรื่องการป้อนน้ำให้นกนี่ค่อนข้างอันตราย เพราะถ้าเราป้อนจังหวะไม่ดี ฉีดน้ำเข้าปากมากไป นกสำลักน้ำตายเอาง่ายๆ ฉันกะให้หยดทีละหยดเลยถ้าเค้าอ้าปากเพราะคิดว่าเราจะป้อนอาหารก็จะหยดลงไป แต่ถ้าปิดปากก็จะให้หยดมุมๆ ปากให้น้ำไหลเข้าไปเอง ได้มั่งไม่ได้มั่งก็ยังดี ปกติในเนื้อที่เค้ากินก็จะมีปริมาณน้ำปนอยู่อย่างพอเพียงอยู่แล้ว(อ่านมาอีกนั่นแหละ) แต่อากาศร้อนๆ นกคงหิวน้ำ จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนที่นอนที่ดูท่าจะร้อนน่าดู โดยเอาผ้าปูที่นอนออกเหลือเพียงเบาะผ้า กับผ้าขนหนูที่ปิดอยู่บนตะกร้าเพื่อให้แสงผ่านเข้าไปน้อยที่สุดและอากาศถ่ายเทได้ดีมากขึ้น ผลคือเจ้าพายุนอนหลับได้ดีกว่าเดิม หรือถ้าตื่นก็จะนอนเล่นอยู่ในรัง ที่เรียกว่านอนเล่น คืออาการนอนพับขาราบไปกับที่นอน ทำตาปริบๆ ส่ายหัวดูโน่นดูนี่นอกรัง ถ้าฉันเปิดตะกร้าเข้าไปมองก็จะหันมาจ้องฉันตาแป๋ว เป็นนกที่สนใจสิ่งรอบตัวมากๆ แถมเริ่มหัดฉีกกระดาษทิชชูที่ปูรองเปื้อนจนขาดเป็นฝอยๆ ไปหมด บางครั้งก็เอาหน้าซุกเข้าไปกับที่นอน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลัว หลบแสงสว่าง หรือต้องการนอน บางทีก็ทำเสียงกรั๊กๆ สั้นๆ รัวๆ อยู่ในลำคอ




โลกกว้างอีกนิด...พายุออกนอกบ้าน

จากความตั้งใจตั้งแต่แรกว่า ฉันจะต้องอนุบาลลูกนกล่าเหยื่อตัวเล็กๆ นี่ให้รอดและสามารถอยู่ได้ในธรรมชาติ ด้วยคิดว่านกทุกชนิดเหมาะกับการโบยบินในท้องฟ้ากว้างมากกว่าบินในกรงนก หรือบินอยู่ในบ้าน ต่อให้มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็ตามย่อมสู้โบยบินอย่างมีอิสระเสรีในท้องฟ้าไม่ได้ เมื่อดูแลพายุได้ประมาณ 10 วัน ฉันเริ่มพาเจ้าตัวเล็กออกนอกบ้านในตอนเย็นๆ หรือพลบค่ำ รอให้แสงจากดวงอาทิตย์อ่อนลงสักนิด วันแรกฉันอุ้มพายุออกจากตะกร้าแล้ววางเค้าลงบนพื้นดินหน้าบ้าน เพื่อให้เค้าได้เห็น ได้ยินเสียงธรรมชาติที่แท้จริงที่เค้าจะต้องเจอเมื่อออกจากบ้านของฉันไป ช่วงแรกพายุยืนนิ่งและเงียบ แล้วจึงค่อยๆหมุนหัวไปทางซ้ายทีทางขวาที ฉันเคยดูสารคดีทางโทรทัศน์เกี่ยวกับนกเค้าแมวจึงรู้ว่า นอกจากดวงตาที่สามารถมองเห็นได้ดีมากในตอนกลางคืน นกเค้าแมวยังมีประสาทการรับรู้ด้านการฟังที่ดีเยี่ยม พายุของฉันของกำลังใช้มันทั้ง 2 อย่างทั้งดูและฟัง ความเคลื่อนไหวในยามใกล้ค่ำมีทั้งเสียงนกเอี้ยง นกหัวจุก นกเขา ที่ส่งเสียงคุยกันจ๊อกแจ๊ก จอแจก่อนแยกย้ายกันไปนอน เสียงรอบบ้านแทนที่ด้วยเสียงจิ้งหรีดเรไร ที่เริ่มกรีดเสียงร้องให้ระงม ซักพักพายุจึงเริ่มขยับเนื้อขยับตัวนิดหน่อยแต่ก็ยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น มันเหมือนเด็กเล็กๆที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ในโลกที่ไม่คุ้นเคยคนเดียว ดูโดดเดี่ยวเหลือเกิน สุดท้ายฉันซึ่งแอบดูอยู่ห่างๆ ต้องส่งเสียงเรียกให้เค้าได้ยินเสียง เจ้าพายุก็เดินตามเสียงมาทันทีและเริ่มมีเสียงจุ๊กจิ๊กๆ ออกมาจากลำคอ เมื่ออุ้มเข้าตะกร้าที่คุ้นเคยทีนี้เสียงเปลี่ยนเป็นร้องเร่งเร้าขอกินอาหารล่ะ เมื่ออิ่มท้องและฉันเอาผ้าขนหนูปิดตะกร้าก็เงียบเสียง......หลับแล้ว

วันต่อมาฉันลองให้เค้าเกาะกิ่งไม้ดูเลือกให้เกาะกิ่งต้นแก้วเพราะไม่สูงมาก พลาดพลั้งตกลงมาจะได้ไม่เจ็บตัวมาก ต้นแก้วกำลังออกดอกสีขาวสะพรั่งพอดี เมื่อมีนกตัวเล็กๆ เกาะยิ่งสร้างความสวยงามให้กับต้นแก้วมากขึ้น กิ่งต้นแก้วไม่ใหญ่มากนักพอพายุขยับตัวกิ่งไม้ก็ไหวยวบยาบ ลูกนกที่เพิ่งหัดเกาะกิ่งไม้เป็นครั้งแรกไม่ทันระวังตัวก็เสียการทรงตัว ฉันเลยได้เห็นนกเค้าแมวเล่นยิมนาสติกประเภทบาร์ เพราะพายุหมุน 360 องศารอบกิ่งไม้ โดยที่นิ้วเท้าทั้ง 8 นิ้วจับกิ่งไม้ไว้แน่นไม่หลุดร่วงลงพื้นอย่างที่กลัวแต่แรก แต่พอยืนทรงตัวได้คราวนี้ยืนนิ่งเลย เหมือนกลัวๆ แต่ก็ไม่มีเสียงร้อง ส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก ด๊อกแด็ก ฉันทิ้งเค้าไว้ให้ชมเชยกับบรรยากาศธรรมชาติตามลำพังกว่าครึ่งชั่วโมง เวลาทุ่มกว่าๆ ฉันออกไปดูเค้าอีกครั้งก็ยังเกาะกิ่งไม้นิ่งอยู่อย่างนั้น ทดลองจับไปวางบนพื้นดิน คราวนี้พายุเริ่มก้าวเดินสลับกระโดดช่วงสั้นๆ เมื่อกระโดดก็จะกระพือปีกไปด้วย ลองนึกถึงลูกไก่ตัวใหญ่ๆหน่อยเหมือนกันเลยค่ะ ต่อไปคงบินได้ ฉันเชื่อในสัญชาตญาณที่เค้ามีในตัวแต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าเค้าจะรู้จักดูแลตัวเองไหม จะกินอะไร จะรู้จักจับเหยื่อกินเองได้หรือไม่ ยิ่งเวลาส่งเสียงเรียกแล้วเค้าเดินมาตามเสียงอย่างเร็ว แอบซุกอยู่กับขาเรานี่สะท้อนเข้าไปถึงหัวใจเลยนะ...ลูกนกหลงรังเอ้ย....เมื่อพาเข้าที่นอนก็ซุกตัวเงียบอยู่กับกองผ้า วันนี้ดูจะเป็นวันที่เหนื่อยเหลือเกินสำหรับนกตัวเล็กๆ .......ช่างน่าสงสาร





Create Date : 24 สิงหาคม 2552
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2559 13:19:11 น.
Counter : 3397 Pageviews.

3 comments
  
ซึ้งอ่ะ..
โดย: กิมจิ IP: 125.27.4.75 วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:34:43 น.
  
น่ารักครับ ผมก็ชอบนกเหมือนกัน :D เลี้ยงดีๆละกันครับ เค้าอยากไปก็ให้เค้าไปนะ
โดย: วิน IP: 115.87.95.103 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:4:01:41 น.
  
สวัสดีคะคุณวิน
ขอบคุณที่แวะมาอ่านเรื่องของพายุค่ะ

พายุมีนกเค้าจุดตัวใหญ่บินมาชวนให้ออกไปสู่โลกกว้าง
หลังจากนั้นไม่นานคะ

ลองติดตามตอนที่4-10 นะคะ
โดย: แมวเหนือ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:07:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blackie rabbit
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สิงหาคม 2552

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31