***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

มึนค่ะ

ทิ้งบ้านไปนาน วันนี้เข้ามาอีกที หยากไย่ผงฝุ่นเพียบเลยค่ะ ดูโทรม ๆ ยังไงพิกล ค่อยยังชั่วที่ไม่ค่อยมีแขกมาเยี่ยมบ้านเหมือนคนอื่นเขา

...............

ครำเคร่งอยุ้กับการเตรียมตัวพิมพ์หนังสือของตัวเอง มานานหลายเดือน นับตั้งแต่เริ่มตัดสินใจว่าจะเขียนเรื่องนี้แหละ เพื่อลงทุนพิมพ์เอง เพราะคู่แข่งแนวนี้น่าจะน้อย

ทำไงได้คะ ส่งงานให้สำนักพิมพ์พิจารณาก็ช้า ครั้นจะพิมพ์งานที่ตัวเองมีอยู่แล้ว ก็เกรงว่าจะกินแกลบเพราะหนังสือขายไม่ออก เลยต้องหาเรื่องที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขามาเขียน

เบ็ดเสร็จหาข้อมูล จากเมื่อแรกกะว่าแค่สนใจรายละเอียดเฉย ๆ อ่านไปอ่านมา มันมีข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเราก็หมกมุ่นกับมันเป็นเดือนๆ จนรุ้สึกว่า เอ๊ะ! นี่เสียเวลากับเรื่องนี้ โดยไม่มีแก่ใจคิดทำอย่างอื่นเลย น่าจะหาทางเอามาใช้ประโยชน์นะ

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เริ่มไหม่ คราวนี้ อ่านไปเก็บรายละเอียดแบบจริงจัง หลายแห่งหลายที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเอามาแยกแยะออกเป็นประเด็น ๆ แล้วเอามายำรวมกันอีกครั้ง เพื่อจะได้หนังสือออกมาหนึ่งเล่มให้ได้

อาจเพราะทำงานช้าด้วย แถมเนื้อหาที่ไปค้นคว้าข้อมูล ก็เป็นภาษาอังกฤษเสียเป็นส่วนใหญ่ ความรู้ด้านนี้ก็มีแค่หางอึ่ง กว่าจะแกะออกมาได้ บางคำใช้เวลาเป็นวันก็ยังไม่รู้ความหมายที่แท่จริง ต้องข้ามไป หรือไม่ก็ดูบริบทแล้วก็เดาเอา แต่ก็ยังรู้สึกขัด ๆ

มันช้าตรงนี้ด้วยแหละ (ปลอบใจตัวเอง)

เพราะเราหมกหม่นกับมันมาเกิอบสองเดือน กว่าจะตัดสินใจว่า เอามาเขียนเป็นหนังสือขายดีกว่า ขืนอยู่ไปอย่างนี้ เงินก้อนเท่าขี้ปะติ๋วต้องหมดสักวัน เพราะมีแต่จ่ายออก นาน ๆ จะเข้าสักที

แล้วกว่าต้นฉบับจะเสร็จ ก็อีกเกือบสองเดือน กระแสเริ่มแผ่วแล้ว เอาน่า ไม่เป็นไร แผ่วยังไง ก็ไม่จางหายแน่นอน (ปลอบใจตัวเองเป็นครั้งที่สอง)

ลองจัดหน้าเองก่อน เพราะอยากประหยัด ว้า..ไม่ได้เรื่อง ติดต่อโรงพิมพ์ โรงพิมพ์ก็ให้เราจัดหน้าเองให้เรียบร้อย แล้วส่งเป็นไฟล์ PDF เข้าไป ถ้าให้ทางเขาจัดให้ เสียเพิ่มอีกหลายหมื่น(โคตะระแพง) แตถ้าเราหาคนจัดหน้าเอง ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะไม่มี เพราะเขาแถมการออกแบบปกให้ฟรี นี่โรงพิมพ์แรก

โอเค หาคนจัดหน้าเอง พอดีแถวบ้าน มี Freelance อยู่ ตอนแรกไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะเห็นเขาอยู่บ้านทั้งผัวทั้งเมีย ก็น่าจะทำงานลักษณะนี้แหละ คือ ถ้าไม่เขียนหนังสือ ก็ต้องอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับหนังสือ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พอเข้าไปคุยเลยเข้าทางเลย เพราะเขารับจัดหน้าหนังสืออยู่จริงๆ

แต่พอถามราคา เขากดเครื่องคิดเลขฉับๆ แล้วบอกราคาอย่างว่องไว เรายังไม่ตอบอะไร แต่พูดเป็นเชิงคุยว่า ตอนแรกว่าจะจัดหน้าเอง แต่ดูท่าจะไม่ได้เรื่อง...

พูดแค่นี้แหละ พี่ท่าน...ไม่ใช่สิ น้องท่านเหมือนจะไม่พอใจขึ้นมาทันที พูดเป็นเชิงประชด (นี่เพิ่งมาคิดได้ภายหลัง) ว่า ถ้าจัดเองได้ก็จะประหยัด แล้วท่านก็พูดแนะนำอย่างโน้นอย่างนี้ เราก็ฟังรุ้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง เพราะอย่างที่บอกกำลังมึน

บลา บลา จบแล้ว เขาก็ทำท่าเหมือนจะบอกว่าเราว่า อะ จบเรื่องแล้ว เชิญกลับไปได้ เราก็เลยถามว่า อ้าว! แล้วไม่รับจัดเหรอ เขาบอกว่า ไม่รับ เราเลยถามว่า จะดูไหม หมายถึงเรื่องที่เราเขียนน่ะนะ เขาก็ตอบว่า เอาไว้ดูตอนเป็นเล่มดีกว่า

เราก็เดินออกมาจากบ้านเขาอย่างงงๆ ตกลงจะจ้างให้เขาจัดหน้าให้ ไหง เราต้องกลับมาจัดเองอีก ก็เราจัดไม่ได้เรื่อง เขาทำท่าเหมือนกับว่า คิดจะจัดหน้าเอง เก่งนัก ก็เชิญไปจัดเองแล้วกัน

เราก็กลับมาจัดหน้าเองอีกครั้ง คราวนี้ สมองยิ่งล้ากว่าเก่า เครียดมาก เพราะจัดยังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะมัวศึกษาต้องใช้เวลาไม่น้อย หนังสือก็ยิ่งต้องออกช้าไปเรื่อยๆ

ตัดสินใจ กลับไปหาเจ้าเดิม เพราะอยู่ใกล้น่าจะสะดวกที่สุด จะไปเจ้าอื่นที่อยู่ไกลๆ ทำไม

เขาก็ทำท่ายิ้มๆ แล้วก็พูดเป็นทำนองว่า คนเขียนจะมาจัดหน้าหนังสือเองได้ไง มันต้องให้มืออาชีพเขาทำสิ ประมาณนีแหละ

เราก็นึกในใจว่า ทำไมจะจัดไม่ได้ ไว้มีเวลาศึกษาก่อนเถอะ เห็นบางคนเขียนเอง จัดหน้าเองส่งโรงพิมพ์ ยังทำได้เลย แต่หนนี้ ต้องง้อเขาก่อน
ก็ส่งไฟล์ต้นฉบับให้ตั้งแต่ตอนบ่าย แล้วก็พูดกับเขาว่า เนี่ยเป็นหนังสือตามกระแส สายส่งเขาบอกว่าต้องรีบหน่อย

เขาบอกว่าคงใช้เวลาสองสามวัน ถ้าของเราเข้าเดียวนะ แต่ถ้ามีคนอื่นมาจ้างอีก ก็ต้องเฉลี่ยๆ กันไป พูดแปลกๆ มียังงี้ด้วย

บ่ายอีกวัน กำลังคิดจะไปดูว่า ทำถึงไหนแล้วเจอหน้าพอดี ก็เลยถามว่า ทำหรือยัง เขาบอกว่า ยัง โอ้แม่เจ้า ช่างไม่เห็นใจคนไส้แห้งเลยเนอะ เห็นเราอยากให้งานเสร็จเร็ว ก็ทำใจเย็นเสียงั้น

เขาบอกใหม่ว่า คงจะใช้เวลาสัก 2 อาทิตย์ เราก็อึ้ง พูดออกไปว่า นานเนาะ เสียงตอบออกมาทันทีว่า ให้คนอื่นทำก็ได้นี่ จะได้เร็ว เรามีความรู้สึกว่า เขาคงคิดว่าเราต้องง้อเขากระมัง เราเลยร้องว่า อะไรเนี่ย ก็ไม่รู้ว่าจะนานขนาดนี้ แค่พูดเฉย ๆ เขาก็หัวเราะพูดแก้เกี้ยวว่า เกรงใจไม่อยากให้รอนาน

โอ้โฮ นี่ถ้าไม่ได้ดิวกันเรื่องงาน คงไม่รู้นิสัย ปกติ คิดว่าก็พอโอเคนะ เคยมีน้ำใจให้เราติดรถออกไปข้างนอก แม้จะไม่เคยเจอหน้าพูดคุยกันเวลาปกติ เพราะต่างคน่ต่างเป็นคนเก็บตัว ไม่สุงสิงใครด้วยกันทั้งคู่ แต่เขายังมีคู่ชีวิตได้ระบายบ่นว่า เวลามีเรื่องคับข้องใจ แต่เรานี่สิ เราอยู่คนเดียว เราจะไประบายกับใคร นอกจากบ่นอยู่คนเดียว

พอเราเดินกลับมาบ้านก็นึกได้ว่า เมื่อวานเขาบอก 2-3 วันนี่นา เลยเดินไปถามใหม่ เขาบอกว่า นั่นน่ะเป็นระยะเวลาของการทำบทแรกไปให้ดูต่างหาก ก็แล้วทำไมไม่พูดให้ชัดเสียแต่แรก คนไม่มีประสบการณ์ด้านการพิมพ์หนังสือเองจะรู้ไหมเนี่ย

หลังจากถามเมื่อตอนกลางวัน พอตอนค่ำ ท่านก็ได้ฤกษ์ลงมือทำ แล้วก็มีปัญหาอีก เพราะเรา Save งานจากเครื่องเราไปเปิดเครื่องเขาไม่ได้ เพราะสเปคเครื่องเขาต่ำกว่า เราต้อง Save as ให้ใหม่เป็น word 97 มีปัญหาอีก ไม่รู้อะไรเหมือนกัน เพราะเราก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจ คอมพ์ของคนจัดหน้ากับคนเขียนไม่เหมือนกัน (มั้ง)

คราวนี้ ให้เรา Save ให้ใหม่ เป็น file PDF ปรากฏว่า งานมัน Save ไปไม่หมด คือ เราไม่คุ้นกับการ PDF จริง ๆ

อาจเป็นเพราะเขาทำเสียความรู้สึกมาแต่ต้น เราเลยไม่ชอบใจเมื่อเขาพูดเหมือนจะสอนเราว่า ต้องเตรียมต้นฉบับให้เรียบร้อย เพื่องานจะได้เร็ว ชิชะ ทำมาสอน "ตัวกู ของกู" เริ่มมาเยือน จนต้องพยายามเตือนตัวเอง เรานึกฉุน เพราะเหตุว่า เขาก็ไม่ได้กระตือรือร้นกับเราแต่แรกแล้ว ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้

แถมพอตอนอีกวัน เราเอาแฟลชไดรฟ์ที่ Save ต้นฉบับใหม่ไปส่ง ยายเมียซึ่งเด็กกว่าเราหลายปี ทำเหมือนไม่อยากคุย ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เป็นฝ่ายชวนเราคุย เราพูดอะไรไปก็เงียบ เออ ไม่คุยก็ไม่คุย ดีเหมือนกัน ไม่ชอบคุยกับใครอยู่แล้ว ใครมาชวนคุย เราจะกลัวเขาเสียน้ำใจก็คุยด้วยเท่านั้นเอง

เฮ้อ แค่ไม่กี่วัน ยังรู้สึกแย่ถึงขนาดนี้ หมดงานนี้ ถ้าหัดจัดหน้าเองไม่ได้ คงต้องหาเจ้าใหม่ ถ้าได้พิมพ์หนังสืออีก (ยังหวังว่าจะมีเล่มที่สอง)

นี่ยังบ่นไม่หมดเลยนะเนี่ย มึนกับตัวเอง ถึงเวลานี้ ไม่รีบร้อนแล้ว หนังสือเสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น พิมพ์ไม่มาก เพราะงบจำกัด คงไม่เจ็บตัวเท่าไหร่ แต่ก็ขอตั้งความหวังว่า หนังสือเล่มแรกที่ลงทุนพิมพ์เอง จะทำให้พอมีทุนต่อยอดพิมพ์ได้อีก และได้อีก ได้อีก....จนพออยู่ได้ตามอัตภาพ

นี่ทุ่มหมดตัวแล้ว แถมยังต้องเอาทองไปจำนำอีก จะขายไปเลยก็เกรงว่าจะไม่มีปัญญาซื้อใหม่ เหมือนรถ...ขายไปแล้ว ยังไม่มีปัญญาซื้อใหม่จนบัดนี้

ว่าแต่...เมื่อไหร่จะจัดหน้าเสร็จก็ไม่รู้ เพราะเอางานมาตรวจก็มีที่แก้อีกจม ท่านเล่นย้ายภาพที่วางให้เข้ากับเนื้อหาซะเละตุ้มเป๊ะ เซ็งเป็ดจริงๆ




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2552
2 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2552 19:32:53 น.
Counter : 683 Pageviews.

 

เป็นนักเขียนนี่ลำบากไม่ใช่เล่นเลยนะคะเนี่ย
คนเราก็มีหลากหลายยังงี้แหละค่ะ เค้าไม่ได้ลำบากขัดสน ก็อาจไม่เข้าใจความลำบากของเรา
ถ้ามีเวลาก็ฝึกจัดเองให้เก่งเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องง้อใคร
อีกหน่อยอาจจะจัดได้ดีกว่าเค้าซะอีกก็ได้นะคะ แล้วรับจัดเองซะเลย อิอิ
สู้ๆค่ะ

เป็นเล่มแล้วเอามาให้ดูบ้างนะค้า

 

โดย: Emotion-P 18 พฤศจิกายน 2552 20:07:13 น.  

 


หวัดดีจ้าแวะมาทักทายยามค่ำจ้า ขอให้นอนหลับฝันดีนะ




 

โดย: friendlygang 18 พฤศจิกายน 2552 23:42:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.