"ในวรรณคดีที่แต่งเป็นเรื่องอื้อฉาว มักจะย้ำเอ่ยคำว่าลาว หรือกาวต่ำ ต้อยเอาไว้
นี่แหละผู้ดี ซึ่งมีทาสคอยรับใช้ ยุคสมัย ทาสสิ้นหมดไป เพื่อนไทยเสมอหน้ากัน
โอละเน้อ...นวลเอย"
รื้อฟื้นฟังเพลง ขวานทองของไทย ครูไพบูลย์ บุตรขัน เขียนให้ คำรณ สัมบุณณานนท์ ขับร้อง ไว้กว่าห้าสิบปีที่แล้ว (หาฟังได้ใน ยูทูบ)
มิใช่ปลุกระดมแบ่งแยก เพียงแต่เตือนใจการมองอะไรผิดๆ ของคนชั้นกลาง (ส่วนหนึ่ง) ที่มักมองคนอีสาน คนเหนือ คนชนบท ผิดๆ
การเลือกทางการเมือง เป็นการแสดง ออกถึงความต้องการทางชนชั้น ไม่ใช่เรื่องว่า ใครโง่ ใครฉลาดกว่าใคร เข้าใจให้ถูก แล้วจะได้พิจารณาปัญหาตรงกับความเป็นจริง
"พ.ศ.2443 ประกาศกระทรวงมหาด ไทย ลงวันที่ 23 มกราคม ร.ศ.119 ให้เปลี่ยนนามมณฑลอีกครั้ง มณฑลฝ่ายเหนือ เป็นมณฑลอุดร มณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ (อุบล) เป็นมณฑลอีสาน..."
นั่นคือครั้งแรกที่คำว่า อีสาน ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ และหมายถึง บาง กอกเป็นศูนย์กลางจักรวาล ส่วนที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบางกอก ย่อมเป็น (ทิศ) อีสาน
ช่วงปี 2443 - 2444 เป็นช่วงเวลาของการกระชับอำนาจตามระบอบสมบูรณสิทธิ์ สร้างความขัดแย้งระหว่างศูนย์อำนาจบางกอกกับอำนาจท้องถิ่น ผลติด ตามมาคือการก่อ กบฏเงี้ยว ในภาคเหนือ และ กบฏผีบุญ ในภาคอีสาน
คนที่กล้าต่อสู้ กล้าใฝ่หาอิสระ ย่อมมิใช่คนโง่
ในการศึก ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตน เพียงแต่ ฝ่าย "กำปั้นใหญ่" กว่า เป็นฝ่ายชนะ
ต่อมาในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปก ครอง พ.ศ.2475 จนมาถึงสงครามโลกครั้งที่สอง อีสานคือฐานที่มั่นใหญ่สุดของเสรีไทย ถึงขั้นมีสนามบินลับที่ ภูพาน
นักการเมืองคนสำคัญของอีสาน เป็นแกนนำเสรีไทยที่แข็งขัน ตั้งกองกำลังติดอาวุธเตรียมต้านญี่ปุ่น ก่อนจะถูกกวาดล้าง สังหารหมู่ 4 รัฐมนตรี และกวาดจับเข้าคุก กระทั่งปิดฉากลงที่ประหารชีวิต ครอง จันดาวงษ์ แกนนำเสรีไทยสกลนคร ในปี 2504
ไม่กี่ปีต่อมา 7 สิงหาคม 2508 เสียง ปืนแตกที่บ้านนาบัว อ.เรณู นครพนม ยุคสงครามปลดแอก ที่ยืดเยื้อไปจนปี 2525 ระหว่างนั้น ราวสองทศวรรษ คนอีสาน จำนวนไม่น้อย เข้าสู่การเรียนรู้ทางการเมืองหลากหลาย
เว้นวรรคมายี่สิบปี การเลือกตั้งปี 2544 คนอีสานคือฐานกำลังหลักของนโยบายการเมืองที่ก่อร่างบนรากฐานชนชั้นรากหญ้า
และเมื่อการต่อสู้เข้มข้นถึงขั้นต้องต้านรัฐประหาร คนอีสานใส่เสื้อแดงแจ้งชัด สากครกที่เคยใช้ตำบักหุ่ง กลายเป็นอาวุธเขวี้ยงใส่เฮลิคอปเตอร์ (ที่มาโปรยแก๊สน้ำตา ) หวดนึ่งข้าวเหนียวปลิวว่อนบนถนนราชดำเนิน และถนนราชประ สงค์ หนังสติ๊กที่เคยใช้ล่ากิ้งก่ากะปอม กลายเป็นอาวุธยิงสู้กับเอ็มสิบหก สไนเปอร์ ในฐานะ "ผู้ก่อการร้าย"
ประวัติศาสตร์การร่วมขับเคลื่อนทาง การเมืองของคนอีสาน อันค่อนข้างต่อเนื่องในช่วงเวลาร้อยปีเศษ นั้นห่างไกลกับคำว่า "โง่" อย่างสิ้นเชิง
แท้จริงคือการใช้สิทธิเสรีภาพ อย่าง ผู้ที่มีศิวิไลซ์ทางการเมือง
การเมืองในอุดมคติเคยเกิดที่อีสานมาแล้วหลายยุค การชนะเลือกตั้งที่แทบจะปลอดการซื้อเสียง ยุคปี 2500 ยุคปี 2518 และเมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 ประชาชนช่วยกันจ่ายเงินเอง ในการลงขันช่วย ผู้สมัครหาเสียง นี่คือตำนานเสียงสวรรค์
พวกเขาเพียงต้องการมีส่วนร่วมทาง การเมือง เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์มา กระจายสู่คนชั้นล่างอย่างเป็นธรรม
"มันหมดสมัยแล้วเอยเพื่อนไทยฟังข้า ยุคก่อนนั้นเหยียดชั้นต่ำช้า ถือศักดินากันจนเกินไป"
หน้า 6
ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
คุณวัฒน์ วรรยางกูร
สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ