"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
ล้วงวิธีเลี้ยงลูกแบบฉบับกวีรุ่นใหญ่ “จิระนันท์ พิตรปรีชา”

 

จิระนันท์ พิตรปรีชา นักคิด นักเขียน นักแปล และคุณแม่ลูกสอง

       หากพูดถึง “จิระนันท์ พิตรปรีชา” นับเป็นผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทยมาก เพราะเธอเป็นทั้งนักต่อสู้ทางอุดมการณ์ในยุค 14 ตุลาฯ นักคิด นักเขียน ซึ่งมีลีลาการเล่าเรื่องอันชวนติดตาม และนอกจากจะเขียนบทกวีอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังเขียนบทความ สารคดี แปลบทภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องด้วย

ไม่แปลกที่ชื่อของเธอจะเป็นที่รู้จักไปทั่ว และกลายเป็นผู้หญิงแถวหน้าทั้งในแวดวงการเมืองในอดีตและแวดวงวรรณกรรมในปัจจุบัน
       
       นอกเหนือจากบทบาทในข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญ และไม่ค่อยเห็นเธอพูดออกสื่อ นั่นก็คือ บทบาทความเป็น “แม่” ของลูกชายทั้ง 2 คน (แทนไท และ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล)

และวันนี้เป็นโอกาสอันดีของทีมงาน Life & Family ที่ได้พูดคุยกับเธอถึงเรื่องดังกล่าวนี้ โดยเธอเปิดใจว่า เธอเป็นแม่ที่ค่อนข้างให้สิทธิ และเสรีภาพกับลูก เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนต้องการ ดังนั้น การเข้าไปบงการชีวิตลูก ไม่ใช่วิถีสำหรับคนเป็นแม่อย่างเธอ
       
       “เลี้ยงลูกแบบจิระนันท์ เราเปิดเสรีสุดๆ เพราะเด็กทุกคนล้วนต้องการสิทธิ เสรีภาพ ช่องว่าง และพื้นที่ว่าง ดังนั้น บ้านเราจะไม่ชี้นิ้วบงการ ขีดเส้น กำหนดลิขิตชะตาชีวิตลูก เพราะจากการที่เราเคยเป็นกบฏสังคมมาตลอด เรารู้ว่า มันไม่มีประโยชน์ที่จะไปบังคับลูกว่าต้องเข้าโรงเรียนนั้น โรงเรียนนี้ ต้องเรียนเปียโน บัลเล่ต์ หรือโตขึ้นจะต้องไปประกวดนั่นโน่นนี่ แต่เราจะทำหน้าที่สังเกตพฤติกรรมของลูกมากกว่า”
       
       “อย่างครั้งหนึ่งเคยดูหนังกับลูกชายคนเล็กเรื่อง Back to the Future ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราก็ดูไม่ทันว่ามันพูดอะไรกัน แต่เจ้าแทนกลับมาอธิบายเป็นฉากๆ เลยว่า เครื่องย้อนเวลามันมีหลักการทำงานอย่างไร จุดตรงนั้น ทำให้เริ่มค้นพบศักยภาพในตัวลูก และพยายามส่งเสริม

เช่น ลองให้ไปสอบเข้าโครงการ พสวท.ดู ซึ่งเป็นโครงการสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะเราคิดว่า เราไม่ใช่แค่แม่ แต่เราเป็นครูของลูกด้วย” กวีซีไรต์แม่ลูกสองเล่า
       
       เมื่อถามต่อไปว่า เป็นแม่ที่ดุไหม เธอบอกว่า ไม่ดุเลย แต่ถ้าเรื่องไหนผิดก็ต้องว่าไปตามผิด จะไม่ตามใจลูกจนเกินไป
       
       “เราไม่ใช่แม่ที่พูดกับลูกว่า คุณลูกขา อย่าทำแบบนั้นนะคะ มันไม่น่ารักเลย (ทำเสียงแอ๊บแบ๊ว) มันไม่ใช่วิถีของเรา แต่หลักๆ แล้วจะเลี้ยงลูกแบบเพื่อนมากกว่า มีอะไรคุยกัน แม่รับฟังเต็มที่ อย่างเวลาเขาเจอเพื่อนติดยา มีคดีขายตัวที่โรงเรียน หรือถูกไล่ออก

ซึ่งปกติเด็กไข่ในหินจะไม่มีวันปริปากบอกสิ่งเหล่านี้กับพ่อแม่หรอก เพราะถ้าบอกไป แม่ก็จะร้องกรี๊ด อุ้ยตายแล้วลูก ทำไมลูกต้องไปเจอเพื่อนแบบนั้น เลิกคบไปสักทีนะลูก แต่สำหรับคนเป็นแม่อย่างจิระนันท์ เรารับฟังได้หมด เพราะอยากทำให้ลูกไว้ใจเรา เวลามีอะไรจะได้เล่าให้เราฟัง ไม่ใช่ไปคุยกับเพื่อน หรือคนอื่นที่เราก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใจได้หรือไม่”
       
       แม้จะเป็นถึงกวีซีไรต์ และมีผลงานในแวดวงวรรณกรรมมากมาย จนหลายคนให้ฉายาว่าเป็นนักเขียน และนักแปลตัวแม่ แต่เธอก็ไม่เคยคาดหวังให้ลูกต้องเดินเส้นทางเดียวกับเธอ เพราะนั่นเท่ากับเพิ่มความกดดัน และความบอบช้ำให้ลูก นี่คือ สิ่งที่เธอให้ความสำคัญ และเชื่อมั่นมาโดยตลอด
       
       “ลูกชายทั้งสองคนถูกแรงกดดัน และความคาดหวังรอบด้านมาก เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์เลยที่เราจะไปคาดคั้นให้ลูกอ่านหนังสือ เพื่อจะได้ฉลาด มันยิ่งจะทำให้โง่ และเกิดการต่อต้าน พวกครู หรือผู้ใหญ่ในกระทรวงก็เหมือนกัน ชอบคาดคั้น หรือใช้มาตรฐานตัดสินเด็ก

ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เช่น พูด ร.เรือไม่ชัด ก็ไปดุเด็กว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า ขอถามกลับหน่อยว่า แล้วคนเหนือ คนอีสานเขามีไหม ร.เรือ ที่พูดไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่กำลังจะบอกผู้ใหญ่ทั้งหลายว่า อย่าไปตัดสินเด็กแบบนั้น”

แทนไท และวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่จี๊ด

       “เห็นผลได้ชัดๆ เลยจากลูกชายทั้ง 2 คน เมื่อก่อนเกลียดหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ การมีพ่อแม่เป็นนักเขียนทำให้ถูกจับไปเปรียบเทียบตลอด จนเขาไม่ยอมแตะหนังสืออีกเลย ซึ่งตอนนั้นเราก็ให้เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น ไม่อ่านหนังสือเหรอลูก ดีเลย ไม่ต้องอ่าน อยากอ่านการ์ตูนไหม ซื้อให้หมดเลย ทั้งๆ ที่ในหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นสมัยนั้น มันจะมีแต่ เฟี้ยว เคว้ง ควับ อ่านภาษาไทยเป็นอยู่ 3 คำ อ่านจนอายุไม่ใช่น้อยๆ จนอายุ 12-13 ปีแล้วที่เขาไม่ยอมหยิบหนังสืออย่างอื่นมาอ่านเลย เพราะถูกสังคมกดดันด้วยความรักและคาดหวัง”
       
       เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เธอทำได้ในฐานะแม่ในตอนนั้น คือ การทำให้ลูกกลับมารู้สึกดีกับหนังสือ โดยเริ่มง่ายๆ จากการจัดบ้านให้เป็นเหมือนห้องสมุด หรือร้านหนังสือรองรับไว้โดยไม่มีการบังคับ เพื่อให้ลูกได้หยิบหนังสือที่ชอบขึ้นมาอ่านด้วยตัวเอง
       
       “เราไม่ใช้วิธีบังคับให้อ่าน แต่ค่อยๆ สร้างบรรยากาศการอ่านให้เขา อย่างเจ้าแทน สนใจวิทยาศาสตร์ ดูทีวีเห็นกระดูกไดโนเสาร์ อยากรู้เขาเรียกว่าอะไร บอกลองดูในหนังสือนี่สิ มีชาร์ตให้ดูด้วยนะ เจ้าสิงห์มาถามเรื่องนักปรัชญาตะวันตก เราก็บอกเอาเล่มนี้ไปอ่านเอง แต่เป็นภาษาอังกฤษนะ ในที่สุดเขาก็ต้องซมซานกลับมาหาหนังสือจนได้”
       
       “ดังนั้น การอ่านต้องเกิดจากความรักความชอบใจ พ่อแม่แต่ละคนต้องออกแบบให้ลูกตัวเองว่า ทำอย่างไรลูกถึงจะอ่านหนังสือบ้าง เพราะการอ่านเป็นวิธีกำจัดความโง่ แต่อย่าไปโง่เสียเองด้วยการไปเที่ยวบีบบังคับลูก มันต้องมีเทคนิค อย่างเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังทุกคืน

เชื่อว่า หลายๆ บ้านทำกันอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อย่าไปคาดหวังลูกมากเกินไป เพราะเคล็ดลับของการเป็นพ่อแม่ ก็คือ เราจะมีความสุขที่สุดเมื่อเห็นลูกมีความสุข และทำอะไรได้ดีโดยที่เราไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอคาดหวังนะ จะผิดหวังตลอด” คุณแม่นักเขียน และนักแปลเผย
       
       ถึงวันนี้ ตลอดการทำหน้าที่ผู้สร้างในฐานะแม่ เธอมีความคาดหวังเหมือนกับพ่อแม่ทั่วไปที่อยากเห็นลูกๆ เติบโตเป็นคนดี มีหน้าที่การงาน และทำในสิ่งที่รัก และวันนี้ การได้เห็นลูกเติบโต และยืนอยู่ ณ จุดยืนที่เขามีความสุข นับเป็นความภูมิใจสำหรับแม่อย่างเธอมาก
       
       "ในฐานะแม่คนหนึ่ง ลูกจะต้องเติบโตอย่างไม่บอบช้ำ เขาจะเป็นอะไรก็ได้ตามที่เขาอยากจะเป็น จะไปเป็นนักกีฬายังได้เลย หรือจะไปเป็นอะไรที่ไม่ต้องอ่านหนังสือตลอดชีวิต ถ้าคิดว่าดีแล้วก็เอาเลย ไม่เคยห้าม

แต่วันหนึ่งพอได้เห็นเขาเลี้ยวกลับเข้ามาบนเส้นทางเขียนหนังสือ เราก็อดดีใจไม่ได้ เพราะเราเป็นคนปูทางไว้ให้พวกเขาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องหนังสือที่จัดเป็นชั้นหนังสือ หรือห้องสมุดไว้ในบ้าน หรือการทำตัวเป็นแบบอย่างนักอ่านที่ดีให้ลูกได้เห็นเป็นตัวอย่างมาตลอด” คุณแม่ท่านนี้ เผย
       
       ท้ายนี้ เธอสะกิดใจถึงพ่อแม่ และผู้ใหญ่ในสังคมไทยไว้อย่างน่าสนใจ ว่า การเปรียบเทียบเด็ก คือ การสร้างความรู้สึกด้อยให้เกิดขึ้นในชีวิตของเด็ก ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายต่อการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กอย่างมาก ทั้งสร้างแรงกดดันให้เด็ก พยายามทำตนเป็นหนึ่งในทุกด้าน และยังคงส่งผลในทางตรงกันข้าม

ซึ่งแทนที่เด็กจะรู้สึกว่าตัวเขาดีเด่น มีความสามารถ แต่กลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และไม่มีค่าในสายตาผู้อื่น โอกาสที่จะหักเหชีวิตไปในทางที่ไม่ดีย่อมเกิดได้สูง
       
       “ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใหญ่ บางเรื่อง บางคำพูดมันทำร้ายจิตใจเด็กอย่างแสนสาหัสมาก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องระวังที่อยากจะขอร้องเลย ก็คือ ห้ามนำลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

เช่น ลูกดูพี่คนนั้นสิเขาเรียบร้อยจังเลย ทำไมลูกนั่งไม่นิ่งเลย หรือลูกดูพี่เขาเป็นตัวอย่างสิ ต่อไปหนูจะต้องเรียนเก่งเหมือนพี่เขานะ ซึ่งคำพูดเปรียบเทียบเหล่านี้ ห้ามเด็ดขาดเลยนะ เพราะถึงอย่างไร เขาก็เป็นเขา เป็นตัวของเขา ทำดีเราก็ชม ทำไม่ดีก็ต้องบอก ต้องเตือน” กวีซีไรต์แม่ลูกสองทิ้งท้าย

ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
Life & Family

สวัสดิ์สิริศนิวารค่ะ




Create Date : 21 เมษายน 2555
Last Update : 21 เมษายน 2555 13:42:50 น. 0 comments
Counter : 3064 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.