"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
ไชยทัต เป็นวรรณคดีนิทานเรื่องหนึ่งในจำนวน ๑๔ เรื่องที่เป็นที่นิยมกันมากในสมัยอยุธยาตอนปลาย



ไชยทัต เป็นวรรณคดีนิทานเรื่องหนึ่งในจำนวน ๑๔ เรื่องที่เป็นที่นิยมกันมากในสมัยอยุธยาตอนปลาย โดยมากมักจะนำมาเล่นเป็นละครนอก, ละครหุ่นหลวง หรือแม้กระทั่งนำมาเป็นกลอนสวด เพื่อสวดอ่านตามวัดต่างๆ ของภาคกลางในสมัยก่อน

รวมทั้งยังนำมาเป็นการแสดงในงานมหรสพสมโภชต่าง ๆ เช่น งานสมโภชพระพุทธบาท ดังมีหลักฐานปรากฏในวรรณคดีสมัยอยุธยา เรื่องปุณโณวาทคำฉันท์ของพระมหานาค วัดท่าทราย ที่ได้พรรณนาถึงการแสดงละครหุ่นหลวงไว้ดังนี้


ฝ่ายหุ่นก็ตั้งโห่ ..............ศัพทส้าวกระโหมโครม
ชูเชิดพระโคโดม ...........ทวิพราหมณรณรงค์
เริ่มเรื่องพระไชยทัต .......จรเสด็จพนาพง
ลอบล้อมมฤคยง ...........อสุรท้าวกุเวรแปลงฯ

ตอนที่นิยมนำมาเล่นกันมาก ในการแสดงละครนอกและละครหุ่นหลวงคือ ตอนไชยทัตต้องคุณนอกจากนี้ เรื่องไชยทัตก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงสมัยกรุงธนบุรีและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น


เนื้อเรื่อง

พระไชยทัตเป็นโอรสของท้าวโกมลกับนางแก้วจิตรา ผู้ครองเมืองพรหมกุศนคร เมื่อตอนเกิดมาก็มีศรวิเศษและม้าคู่บุญบารมีเกิดตามมาด้วย

ต่อมาไชยทัตก็ได้อภิเษกกับนางสุพรรณทลิกา ซึ่งเป็นธิดากษัตริย์ที่ท้าวโกมลได้เลือกไว้ให้

วันหนึ่งไชยทัตพานางสุพรรณทลิกาขี่ม้าชมอุทยาน พญายักษ์กระเวน ออกหาอาหารในป่า เห็นมนุษย์ก็คิดจับกิน จึงแปลงเป็นกวางทองมาล่อให้ไชยทัตออกตาม จนพลัดกับเหล่าทหารเสนา

ยักษ์กุเวรกลับคืนร่างเดิมแล้วไล่จับกิน พระไชยทัตหลบหนีเข้าไปซ่อนในโพรงไม้ด้วยความช่วยเหลือของรุกขเทวดา ยักษ์กุเวรครั้นหาไม่พบจึงจับม้ากินแล้วกลับไป

กล่าวถึงพระดาบส เก็บกุมารีน้อยได้จากผลมะเดื่อใหญ่ จึงนำมาเลี้ยงดูจนโตแล้วตั้งชื่อว่า นางอุทุมพร นางอยู่คอยปรนนิบัติอุปัฏฐากพระฤๅษี จนกระทั่งวันหนึ่งพญายักษ์คนธรรพ์ครองเมืองอินทปัทม์ ผ่านมาเห็นนางก็ชอบใจ

จึงได้มาสู่ขอกับพระฤๅษีแต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากพระฤๅษีได้ดูดวงชะตาแล้วนางอุทุมพรต้องเป็นชายาของกษัตริย์ไชยทัตเท่านั้น

จนกระทั่งพระไชยทัตรอนแรมมาในป่ามาถึงอาศรมพระฤๅษี ได้พบกับนางอุทุมพรแล้วได้นางเป็นชายา พระฤๅษีจึงทำพิธีวิวาห์ให้ ยักษ์คนธรรพ์ยังไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ จึงแปลงเป็นพระไชยทัตเข้ามาสวมรอยหานาง ขณะที่พระไชยทัตตัวจริงออกหาผลไม้ในป่า

พระฤๅษีเสกมนต์ขัดขวางไว้ได้ทัน พญายักษ์จึงบันดาลให้หมอกคลุมไปทั่วแล้วอุ้มนางเหาะหนีไป พระไชยทัตจึงแผลงศรวิเศษเป็นตาข่ายเพชรกั้นไว้ พญายักษ์สู้ไม่ได้จึงต้องเหาะหนีไป

พระไชยทัตได้ติดตามไปจนพบกระดูกม้า ซึ่งถูกยักษ์กระเวนจับกิน จึงเก็บมาให้พระดาบสชุบชีวิตให้ใหม่ และมีฤทธิ์มากกว่าเดิมเหาะเหินเดินอากาศได้

พระไชยทัตจึงอำลาพระฤๅษีแล้วพานางอุทุมพรกลับเมือง พระฤๅษีได้มอบของวิเศษเป็นน้ำมันชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นมอบติดตัวไป ระหว่างแวะพักหลับนอนกลางทาง ม้าวิเศษถูกพญายักษ์คนธรรพ์ลักไป

พระไชยทัตออกติดตามม้า จึงพลัดพรากจากนางอุทุมพร ระหว่างทางนางยักษ์วาสันซึ่งเป็นมเหสีของยักษ์กระเวน ออกมาเที่ยวป่าเห็นนางอุทุมพรกระเซอะกระเซิงจึงไม่คิดจับกิน กลับจับนางไปเป็นสาวใช้ซึ่งขณะนั้นนางกำลังตั้งครรภ์อยู่

พระไชยทัตออกติดตามม้ากลับมาไม่พบนางอุทุมพรจึงออกติดตาม พบยักษ์คนธรรพ์นอนสิ้นชีวิตอยู่ในป่า จึงใช้น้ำมันชุบขึ้นมา พญายักษ์ซาบซึ้งบุญคุณจึงยอมถวายตัวเป็นทาสรับใช้

แล้วเล่าความจริงให้ฟังว่า ตนขี่ม้าเหาะข้ามเมืองของท้าวสนตรา ถูกยักษ์สนตราฆ่าตายแล้วแย่งเอาม้าไป แล้วทั้งสองจึงพากันออกติดตามไปจนถึงเมืองของท้าวสนตรา

พญายักษ์คนธรรพ์ออกอุบายชักนำ ให้พระไชยทัตลอบเข้าหานางวรจันทร์ซึ่งเป็นธิดาของยักษ์สนตรา จนได้นางเป็นชายา ความล่วงรู้ไปถึงท้าวสนตราก็โกรธกริ้วยิ่งนัก

สั่งให้สุนธรน้องชายของนางวรจันทร์ไปตาม ก็แพ้พระไชยทัตกลับมา ท้าวสนตราจึงให้วาทีขุนยักษ์ นำไพร่พลล้อมจับพระไชยทัตขังไว้ในกรงเหล็ก รวมกับม้าของพระองค์

พญายักษ์คนธรรพ์ลอบเข้ามาฆ่าพลทหารยักษ์ แล้วทำลายกรงเหล็กช่วยพระไชยทัตออกมาได้สำเร็จ พระไชยทัตต่อสู้กับยักษ์สนตราจนสามารถแผลงศรไปฆ่ายักษ์สนตราได้สำเร็จ

แล้วจึงอภิเษกให้ยักษ์สุนธร ซึ่งเป็นน้องชายของนางวรจันทร์ครองเมืองต่อไป พร้อมทั้งฝากนางวรจันทร์ไว้ ส่วนพระองค์พร้อมทั้งยักษ์คนธรรพ์และม้าก็ออกติดตามนางอุทุมพรต่อไป

ระหว่างทางก็พบกับยักษ์กระเวนนอนตายอยู่กลางป่า จึงชุบชีวิตให้ฟื้นแล้วไต่ถามได้ความว่า นางวาสันส่งนางอุทุมพรไปอยู่ที่สวนขวา พญาครุฑเอานางกลับไปยังวิมานฉิมพลี ฝ่ายพญาครุฑก็ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ เพราะนางอธิษฐานขอให้เป็นกระเทย

ไชยทัตจึงได้ออกติดตามแล้วฆ่าพญาครุฑเสีย

จากนั้นทั้งหมดก็พากันกลับเมืองพรหมกุศ ไชยทัตก็ฝากนางไว้กับพระมารดาและนางสุพรรณทลิกา ส่วนตนจะกลับไปรับนางวรจันทร์กลับมา

นางสุพรรณทลิกามีจิตริษยานางอุทุมพร จึงกระทำทารุณนางต่าง ๆ นา ๆ ใช้ให้ทำงานหนัก แล้วส่งไปอยู่กับตายายที่สวนขวา ครั้นทางอุทุมพรคลอดโอรส ก็สั่งให้นางกำนัลจับไปใส่หีบทิ้งน้ำ

พร้อมทั้งกล่าวหาว่านางอุทุมพรคบชู้ พระฤๅษีซึ่งเป็นบิดาของนางอุทุมพรทราบด้วยญาณ จึงมารับพระกุมารไปเลี้ยงตั้งชื่อให้ว่าไชยสุริวงศ์

พระไชยทัตเมื่อกลับมาถึงเมืองพร้อมกับนางวรจันทร์ และพระโอรสชื่อทรงภานุต แล้วพากันเข้าเฝ้าพระชนนี นางแก้วจิตราเมินหมางกับนางอุทุมพร นางอุทุมพรก็เข้าเฝ้าแล้วเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด

นางแก้วจิตราจึงให้ตามนางสุพรรณทลิกามาซักถาม นางสุพรรณทลิกาไม่ยอมรับ กลับเข้าตบตีนางอุทุมพร พระไชยทัตกริ้วจึงให้ลงโทษนางสุพรรณทลิกา

นางสุพรรณคีรีซึ่งเป็นมารดาของนางสุพรรณทลิกา จึงให้หลวงชีสัทธามาทำเสน่ห์ถึง ๒ ครั้ง พระไชยทัตต้องคุณจนคลุ้มคลั่ง แต่นางแก้วจิตราเข้าแก้ได้ โดยให้วาทีขุนยักษ์เรียกรูปรอยที่หลวงชีสัทธาทำไว้มาทำลาย

นางสุพรรณทลิกาไม่เห็นพระไชยทัตมาหาจึงทำพิธีอีก วาทีขุนยักษ์จึงเข้าแก้ไข โดยให้ยักษ์คนธรรพ์ไปห้ามรถพระอาทิตย์ไว้ ไม่ให้ขึ้นสู่ขอบฟ้าก่อนพระไชยทัตฟื้น เพราะพระไชยทัตคือองค์นารายณ์อวตารมา และให้เก็บใบจักรนารายณ์มาเป็นยาแก้

เมื่อพระไชยทัตอาการเป็นปกติแล้ว ยักษ์คนธรรพ์ก็รับอาสาไปจับหลวงชีสัทธา พร้อมทั้งสมุนคือ เณรชัย และ เณรพร โดยมีการแปลงเป็นสัตว์ต่าง ๆ ไล่จับกันจนได้ตัว

นางสุพรรณทลิกาไม่ยอมรับในเรื่องทำเสน่ห์ กลับกล่าวหานางอุทุมพรโดยมีพยานปรักปรำ นางอุทุมพรจึงขอพิสูจน์ความดีด้วยการลุยไฟเทวดาจึงพรมน้ำทิพย์รักษาไว้เพราะนางบริสุทธิ์

ส่วนนางสุพรรณทลิกาถูกไฟลวกจนปวดแสบปวดร้อน เมื่อความจริงปรากฏ ไชยทัตจึงให้ประหารชีวิตนางสุพรรณทลิกา หลวงชีสัทธา เณร และตายาย ที่บังคับนางอุทุมพรทำงานหนัก

แต่นางอุทุมพรขอชีวิตไว้เนื่องจากนางสุพรรณทลิกาตั้งครรภ์ จึงถูกลดโทษเพียงแค่เนรเทศออกจากเมืองไป เนื้อความตามต้นฉบับตัวเขียนจบลงเพียงเท่านี้


ขอขอบคุณวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


โสรวารสิริสวัสดิ์ โสมนัสสวัสดิ์สิรินะคะ


Book Blog



Create Date : 21 มกราคม 2555
Last Update : 21 มกราคม 2555 15:11:30 น. 0 comments
Counter : 7439 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.