บันทึกชีวิต จากบอมเบย์ บีบี 2 .. ตอนที่ 6 ..
บันทึกนี้ เป็นแค่เพียงกล่องความทรงจำขนาดเล็กของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ บอมเบย์ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยรู้จัก แต่หลายคนอาจจะไม่เคยสัมผัสชีวิตและความรู้สึกของคนๆนี้ ทุกเรื่องราวที่ร้อยเรียงออกมาเป็นตัวอักษรนั้น
กลั่นออกมาจากความรู้สึกและเป็นสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตจริง
ช่วงชีวิตหนึ่งของคนนั้นสุดแสนจะสั้น แต่มีหลากหลายเรื่องราวที่เข้ามา
เพียงเวลาหนึ่งวันอาจจะเจอกับเหตุการณ์หลายสิ่งหลายอย่าง จนไม่อาจบันทึกได้ด้วยสมอง
การเขียนไดอารี่เป็นวิธีหนึ่งที่จะบันทึกความทรงจำได้เป็นอย่างดี หากวันใดย้อนกลับมาอ่าน คุณอาจจะมีรอยยิ้ม
หรืออาจมีน้ำตาเพื่อรำลึกถึงรอยอดีตเหล่านั้นก็เป็นได้
ตอนที่ 6 บันทึกเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2550
เมื่องานศพของพ่อเสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง
ลูกๆต่างก็ลาแม่กลับไปทำหน้าที่ของแต่ละคนดังเดิม
โดยพวกเรานัดพบกันเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่ออีกครั้งในช่วงฤดูร้อนของปีหน้า
วันนี้ฉันเฝ้าเดินตามแม่แทบจะทุกก้าวย่าง เพราะความที่กลัวท่านจะเหงา
เพราะลูกๆกำลังกลับไปพร้อมๆกันในวันเดียว รวมถึงตัวฉันที่ต้องกลับกรุงเทพในคืนนี้
แต่ยังดีที่มีพี่สาวอีก 2 คน อาสาอยู่กับแม่ก่อนสักพัก
เพราะช่วงนี้ถือเป็นเวลาที่เราต้องระวังรักษาจิตใจท่านให้กลับมาปกติ
ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักเท่าใดก็ตาม
เพราะฉันเชื่อว่า คนที่ใช้เวลาร่วมกันมานาน
หากมีคนหนึ่งคนใดจากไป ย่อมเป็นภาระที่จิตใจของอีกคนต้องแบกรับความเจ็บปวดทรมาน
แม่จะเก็บรูปพ่อทุกรูปไว้ในลิ้นชักในห้องนอน
ท่านจะไม่นำมาวางข้างนอกดังเก่า
ฉันคิดว่าแม่คงคิดถึงพ่อมาก หากเห็นรูปเหล่านั้น
ทุกครั้งที่แม่พูดถึงพ่อ ท่านจะยิ้มพร้อมทั้งน้ำตา
จนฉันไม่อยากจะเห็นความรู้สึกเหล่านี้อีกต่อไป
ทันทีที่เครื่องบินวิ่งออกจากรันเวย์ของจังหวัดอุบลราชธานี
ฉันเอียงหน้าออกทางหน้าต่างเพื่อสัมผัสความมืดในยามค่ำคืน
และแสงไฟที่ระยิบระยับของบ้านเกิด
ความรู้สึกของการไปครานี้ ราวกับว่าเป็นการเดินทางที่ไกลแสนไกล
ฉันสับสนเพราะคิดถึงแม่ ฉันมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเพื่อดูแลพ่อ
แต่วันนี้ ฉันกำลังกลับกรุงเทพ พร้อมกับซากฟันและผ้าปิดหน้าศพของท่าน
ชีวิตช่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
จนบางครั้งฉันคิดว่าทุกอย่างคือเรื่องจริงหรือแค่ฝันไป
ฉันเฝ้านึกถึงประโยคของเพลงที่ร้องอยู่เป็นประจำ
"เพราะชีวิตคือชีวิต
เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง
หัวเราะหรือหวั่นไหว
เกิดขึ้นได้ทุกวัน
อยู่ที่เรียนรู้
อยู่ที่ยอมรับมัน
ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มี
ไม่ใช่สิ่งที่ฝันและทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
ชีวิตคนเรา เหมือนทุกคำในเพลงนี้จริง ๆ......
เมื่อมาถึงบ้านที่กรุงเทพฯ
ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่า แทบทุกซอกมุม จะมีรูปพ่อวางตั้งอยู่
ฉันไม่เคยใส่ใจหรือเห็นความสำคัญกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้เลย
แต่ทำไมวันนี้กลับเดินรอบบ้านเพื่อดูรูปเหล่านั้น และเห็นว่ามันมีค่านักหนา
เวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ฉันกลับเห็นรูปภาพเหล่านี้เป็นสิ่งธรรมดา
ฉันไม่เคยแม้แต่ปัดฝุ่นทำความสะอาด
แต่วันนี้จะมีประโยชน์อะไรกับการที่จะเอาใจใส่ในสิ่งที่เคยมองข้าม
รูปเหล่านี้ก็อยู่ที่เดิม ก็คือรูปเดิม ๆ แต่ทำไมความรู้สึกกลับไม่เหมือนเก่าอย่างที่เคยเป็น
เวลาไม่สามารถย้อนกลับมา
ฉันก็ไม่อาจกลับไปทำอะไรดี ๆ หรือทำในสิ่งที่พ่อเคยต้องการได้เช่นกัน
ฉันเก็บรูปพ่อมาดูที่เตียงนอน พร้อมทั้งนำผ้าโสร่งที่ท่านใส่ประจำมาใส่นอนในค่ำคืนนี้
พ่อคงจะอยู่ใกล้ตัวฉันที่สุด ในค่ำคืนที่ฉันอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่
ในค่ำคืนที่อยู่เดียวดายในกรุงเทพมหานคร
cursor
Create Date : 03 ธันวาคม 2550 |
|
32 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2550 6:36:52 น. |
Counter : 789 Pageviews. |
|
|
|
เพราะเพื่อนอีกคนก็ไปไม่มีวันกลับ..
เรียนด้วยกันสนุกสนาน...
แต่วันนี้เขาจากไปโดยไมมีวันกลับ...
คุณหยุ่ยยุ้ย สบายดีนะคะ...