บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

รักเอย(29)...ถ้าคิดจะรัก 1 - จากไปเพราะรัก








แด่ผู้ที่จากไป ด้วยอาลัยจากผู้ที่เหลืออยู่
ที่ระลึกแด่ผู้เป็นที่รัก...
พิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ)
วัดโสมนัสวรวิหาร กรุงเทพ
ชาตะ 24 กันยายน 2523
มรณะ 24 มิถุนายน 2548

จากแม่


"...ลูกสาวแม่ …เป็นความผิดของแม่รึเปล่า ที่ทำให้หนูไม่เคยพบคำว่า "ผิดหวัง"ก็เพราะความรัก...ที่ทุกคนมีให้หนู ป้าเตียบเคยบอกแม่ว่า บางครั้ง แม่ควรฝึกให้หนูรู้จักคำว่า ผิดหวังเสียบ้าง แต่แม่รักหนู...ดาวกับเดือนแม่ยังจะหาให้ได้เลยลูก...ถ้าหนูต้องการ

หนูรู้ไหม พิรศลัย...แปลว่าอะไร แปลว่า "สิ่งมีค่าจากสวรรค์" เพราะตอนที่แม่ยังไม่รู้ตัวว่าท้อง แม่ฝันว่า แม่ไปพบผู้หญิงคนนึง..เธอพาแม่เดินเล่นไปรอบๆ สถานที่นั้นสวยงามมาก มีบึงน้ำสีใสสะอาด มีดวงจันทร์เย็นตา ผู้หญิงคนนั้นก็สวยมาก สวยมากจริงๆ แม่มองหน้าเธอ แล้วตอนนั้นในใจแม่ก็คิดคำหนึ่งขึ้นมา คำนั้นคือคำว่า "นางฟ้า" และวินาทีนั้น เธอยื่นดวงแก้วใสสีสุกใส มาใส่มือแม่ เธอยิ้ม...และพูดว่า "เรา" จากนั้นแม่รู้สึกเย็นท้องน้อย เหมือนการตกจากที่สูง

จากนั้นแม่ก็ท้องหนู...เคยมีหมอดูหลายคนบอกว่า หนูจะอายุไม่ยืน เพราะมาจากที่สูงเกินไป แต่แม่ไม่เชื่อ...แม่รู้แต่ว่า ถ้าหนูเป็นคนดี ความดีจะรักษาตัวหนู"

"สุดท้าย ลูกสาวแม่ก็จากไปจริงๆ แม่ไม่มีน้ำตาเลยจ้ะลูก...แม่ไม่ร้องไห้ต่อหน้าหนูเลยจ้ะ
ไม่ใช่แม่ไม่รักหนูนะลูก แต่แม่เชื่อว่า หนูจากแม่ไป เพื่อจะกลับไปอยู่ในภพภูมิเดิมที่หนูจากมา
อย่างสงบ..สุขตลอดกาล แล้ววันหนึ่ง แม่คงจะได้ไปพบหนู ลูกสาวคนสวย ที่แม่ภูมิใจเสมอ...
และแม่ยอมรับ ในการตัดสินใจของหนู รวมทั้งครั้งสุดท้ายนี้ด้วย...แม่ยอมรับ

รักที่สุด...ราตรีสวัสดิ์จ้ะ ลูกรัก คนสวยที่สุดของแม่

……………………………………………………………………
"แด่สตรีที่มีรัก...เป็นสรณะแห่งชีวิต"

จากใจผู้ชายคนหนึ่ง
"...ตอนนั้นรุ่นพี่ตึกวิทย์ลือกันมากว่า มีน้องใหม่ ม.4 ศิลป์-ฝรั่งเศสคนนึงสวยสุดๆ ตามไปดูซักหน่อย ผู้หญิงคนนั้นคือ พิม...ครั้งแรกที่พบพิม ประทับใจมาก แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องสวย จำได้ใช่ไหมว่า...ข้างสนามบาส 5 โมงเย็น....พิมเล่นพนันโกงตังค์บุ๊งไปเกือบสามร้อย แทบจะไม่มีเงินกลับบ้าน

ต่อมาเราก็เป็นเพื่อนกัน...(และภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนสนิท กับนางนพมาศปีนั้น เพราะเธอเกาะแขนตลอดตอนลอยกระทง---ยืดไปหลายวัน)"

"บุ๊งจำทุกคำที่พิมพูดได้นะ วันที่เราติดฝน-รถติดสุดๆ-ปีที่แล้ว กับเพลง"เสียงที่เธอนั้นไม่ได้ยิน"

วันนั้นบุ๊งบอกพิมว่า "รัก" พิมทำหน้าตลกๆ และบอกบุ๊งว่า เพื่อนกัน มารักกันไม่ได้หรอก...เดี๋ยวจะเสียเพื่อนซะเปล่าๆ คบกันมาเกือบสิบปีแล้วบุ๊งบอกว่า เสียเพื่อนก็เจ๋งสิ จะได้แฟนมาแทนไง พิมหัวเราะ หลังจากนั้นมา ทุกอย่างในชีวิตเราก็สดใส บุ๊งรักพิมคนที่......ชอบทำหน้าตลกๆ ตอนเจออะไรแปลกๆ...ชอบแล่บลิ้นให้บุ๊งแล้วทำหน้านิ่งๆ เหมือนไม่ได้ทำอะไรทำให้บุ๊งหลุดหัวเราะ...ชอบเอาชีวิตไปคิดตลกๆ

...ว่าไหมว่า...ชีวิตของเราสองคนมีอะไรให้จำกันเยอะแยะเลยเนอะก็มันตั้งเกือบ สิบปีแล้วนี่จำตอนที่บุ๊งเข้าปี 1 ม.รังสิต แล้วต้องมาหาพิมที่เตรียมทุกห้าโมงเย็นได้ไหม ที่พิมเรียกบุ๊งว่า ตีนผีตอนนั้น เกือบได้เป็นผีทั้งตัวก้อหลายหน

ส่วนบุ๊งจะไม่ลืมคนสวยของบุ๊ง นางฟ้าน้อยๆของบุ๊งเจ้าหญิงขี้งอนชอบกระทืบเท้าเร่าๆของบุ๊งที่รักของบุ๊ง ทุกๆอย่างของพิมอยู่ในใจบุ๊ง พิมรู้ไหมว่าที่พิมบอกว่า เหงาๆๆๆๆๆๆ ตอนนี้ บุ๊งเหงาที่สุด เพราะดาวดวงนั้นในใจบุ๊ง...จากไป

แล้วพิมรู้ไหมว่า ที่พิมว่า กลัวบุ๊งมีคนอื่น พิมรู้มั้ย...ผู้ชายคนนี้...ตื่นขึ้นมากลางดึก เพื่อที่จะหอมแก้มบางๆของภรรยา กอดเธอ และสัญญากับตัวเองว่า จะถนุถนอมเธอเท่าชีวิต

แต่วันนี้เธอกลับจากไป...พิมรู้ไหมว่า...วันแต่งงาน...ที่เรารับพระราชทานน้ำสังข์แล้วพิมร้องไห้
พิมรู้ไหมว่า...บุ๊งร้องไห้ยิ่งกว่า..ว่าผู้หญิงที่บุ๊งเฝ้าคอยจะปกป้องมาหลายปี ในที่สุด ..เราก็ได้รักกัน...ตลอดไป

พิมรู้ไหมว่า...ที่โทรมาแล้วร้องไห้...บุ๊งไม่ได้โกรธพิม แต่บุ๊งเจ็บใจตัวเองว่าทำไม...บุ๊งไม่เอาไหนเลยทำให้พิมเอาแต่ร้องไห้ บุ๊งเจ็บใจ และพยายามจะให้พิมมากที่สุดแต่สิ่งที่พิมต้องการ...เวลา...

บุ๊งก้อพยายามให้...แต่คงไม่พอ...บุ๊งไม่นึกเลยว่า...จะเสียเพื่อน-แฟน-ภรรยาที่ดี ไปในเวลาเดียวกันบุ๊งสาบานว่าจะไม่รักใครอีก จะไม่แต่งงานอีก บ้านเรา...บุ๊งจะกลับไปอยู่..ดูแลทุกอย่างให้เหมือนพิมยังอยู่กับบุ๊ง บุ๊งรักพิม บุ๊งมีพิมอยู่ในใจ บุ๊งไม่ลืมบุ๊งมีพิมอยู่ตลอดเวลาในใจ

พิมคือของขวัญแสนงาม ที่กาลเวลามอบให้ในเวลาที่เหมาะที่สุดและจากไปด้วยกาลเวลานำพาจากไปแด่ความทรงจำอันงดงามที่สุด...เท่าที่บุ๊งจะมีได้

โปรดลงโทษฉัน
วันนี้ฉันทำเธอร้องไห้

คงรู้สึกผิดหวัง กับสิ่งที่ตัวฉันได้ทำไป ไม่อาจรู้เลย

ฉันทำให้คนที่รักฉันต้องเสียใจ และมันไม่มีโอกาสย้อนคืน สิ่งใดก็ตามที่ทำเอาไว้

ช่วยมาทำร้ายฉันมันให้แรงอีกหน่อย ช่วยมาทำร้ายให้ฉันต้องจำที่เธอเสียใจ ให้แรงขึ้นอีกซ้ำอีกเอาไว้ที่ตรงข้างใน

ช่วยโปรด ช่วยมาทำร้าย...ทำให้แรงอีก ทำให้แรงอีก ยังไม่พอใจช่วยทำฉันแรงอีก
ให้เจ็บมันคงดีกว่าต้องจำ...เรื่องนั้น...

แด่นางฟ้าของบุ๊ง
ภรรยาผู้เดียวในชีวิตของบุ๊ง
รักพิมที่สุดในดวงใจ...นิรันดร
"


…………………………………………………………….

"ความรักเหมือนโรคา
บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล
อุปสรรคใดๆ

ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกพิขังไว้
มีแต่จะแล่นไป
บ่ยอมอยู่ ณ.ที่ขัง"

(มัทนพาธา ~ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6)

พิมเล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในมหาวิทยาลัย ประกอบวิชาสุนทรียศาสตร์ โดยรับบท มัทนพาธา เพราะเพื่อนทั้งห้อง ไม่มีใครจำได้หรอก คำฉงคำฉันท์ แต่เธอจำได้ เล่นไป พูดฉันท์ไป ร้องไห้ไปเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกจริงๆจังๆๆว่าเพื่อนใหม่คนนี้จะต้องมีอะไรในใจอยู่ลึกๆ และเธอคงเป็นดาราได้

แล้วก็จริง...เธอเหมือนเพลงประจำตัวของเธอ (พวกเราชอบหาเพลงประจำตัวให้เพื่อนๆ เอาไว้เม้าธ์กันเล่นๆ) เพลง เหงา ซาร่า มาลากุล - เราเรียกพิมว่า ซาร่า เลว

กลอนบทนี้อยู่หน้าสุดของไดอารี่ของพิม...ที่ยกให้พวกเรา ที่มีชื่อบล็อคและรหัสผ่านของExteen จึงนำบางส่วนในทั้งหมดของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้รู้จักรักและจบลงด้วยความรักเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้บ้าง และหากมีประโยชน์ใดๆบ้าง ขออุทิศให้แก่พิม ได้พบความสงบณ.สัมปรายภพเทอญ

ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง
จากคณาจารย์ พี่ น้อง ผองเพื่อน
ภาควิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม และภาควิชาอื่นๆ
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ทุกคนรักเธอ...รักมากจริงๆ


……………………………………………………………..

ไดอารี่...มหาสมุทรน้ำตา"

...จะว่ายังงัยก้อแล้วแต่...ฉันทนไม่ไหวแล้ว การอยู่ด้วยกัน..มันไม่ใช่แค่รัก รู้มั้ยมันต้องเข้าใจ เข้าใจกัน รักน่ะรัก รักนะ แต่มันไม่ได้น่ะ

ฉันร้องไห้หามัน มันบอกว่าร้องทำไม เป็นโรคจิตเหรอ ฉันเหงาจัง ตอนรอมันกลับบ้าน ทำไมมันเหมือนตอนที่ฉันรอพ่อกลับบ้านเลยนะ ฉันมองเห็นเด็กผู้หญิงจากกระจกสะท้อนมา...เด็กคนเดิมยังรออยู่ รอ รอ รอ ทนไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย"
(หน้านี้มีแต่คราบน้ำตา)

"เพิ่งจะได้รู้ ที่แท้เราก็เพียงรักกัน แต่ความรักเท่านั้น ไม่พอ และไม่ง่ายดาย ก็เพิ่งจะรู้ว่ารักที่ไม่เคยเข้าใจ จะอย่างไรรักนั้นก็คงจบในไม่นาน และอาจจะต้องเสียใจ ไม่อาจจะไปด้วยกัน เพราะเธอและฉันที่ไม่มีคำว่า เหมือนเดิม (เพลงแอม เสาวลักษณ์-อยู่ในบันทึก)"

"เหงาจัง จะโทรก็ไม่กล้า...กลัวเหมือนดาวหลงฟ้า ที่นางเอกโทร.ๆๆๆๆๆๆๆๆๆทั้งวันแต่โชคดี ที่พระเอกมันคุยแฮะ ไม่ยักกะบอกว่าไม่ต้องโทรบ่อยหรอก ก็เดิมๆนะแหละ เดี๋ยวตอนเย็นก็เจอกันนะ แต่อยากโทร.นี่ อยากโทร"

"ที่ทำงานโคตรเหงาเลย อยู่หน้าห้องเอ็มดีคนเดียว กินข้าวก็ใส่กล่องมากินคนเดียว คิดถึงอีนก อีบี อีจอยจัง เมาธ์แตกใต้คณะ เหงาจัง เหงาจัง"

จดหมายฉบับสุดท้าย..ใต้กล้องแป้งบนโต๊ะในห้องที่เธอหลับนิรันดร์ "ถึงเพื่อนที่วิเศษที่สุด เท่าที่โลกโหดร้ายมอบให้ จนโลกไม่ร้ายเกินไป"

"22 มิถุนายน 2548
อีบี อีจอย อีนก อี...เพื่อนรักทุกคน ...ฉันขอโทษที่คืนนี้ ฉันเพื่อนแกจะเดินทางไกลโดยไม่ต้องเลี้ยงส่ง ฉันกลัวเหมือนกันนะแก กลัวจริงๆ แต่นึกถึงเวลาที่เหงาแม้กระทั่งจะรายรอบไปด้วยคน คน คน แต่ก็เหงาฉันอยากนอนหลับยาวๆมากกว่า

และแล้ววันนี้...ฉันก็ทำอีก ขอโทษที่ผิดสัญญาแต่ครั้งนี้สุดท้ายแล้วจริงๆนะ แกรู้มั้ย บางทีที่ต้องนั่งรออยู่ที่บ้านคนเดียว ได้ยินเสียงรถก็ใจเต้น ตึกตักๆ วิ่งมาหน้าบ้าน แต่พอไม่ใช่มัน ใจเหี่ยวเลยโทรหา...มันก็บอกเดี๋ยวกลับ เดี๋ยวกลับ เสียงเพลงดังเลย ไม่เหมือนเดิม ฉันรู้ว่ามันเครียดเรื่องบริษัท เรื่องฉัน มันคงคิดว่าเลือกผิดคนแล้วมั้ง

ฉันร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันบอกว่า ถ้าอยู่กับมันแล้วไม่แฮปปี้ จะคิดใหม่ก้ได้นะ เล่นง่ายนะ

กรรมของผู้หญิงนะแกนะ มันเป็นคนแรก และคนเดียวเท่านั้นนะแกนะ แกรู้นี่นา ฉันมีมันเป็นคนแรกและเป็นคนสุดท้ายในชีวิต ไม่เอาอีกแล้วนะ พอแล้วนะแกนะ อยากเจอพวกแกจังเลย

ไปดูหนังเรื่องเฉิ่มมาล่ะ ดูคนเดียวด้วยล่ะ หนังโคตรดีเลย ตอนจบฉันร้องไห้ลั่นโรงเลย คนหาตัวกันชิบหายเลยฉันอยากมีความรักดีๆ สะอาดๆเหมือนในหนังบ้างนะ เบาะข้างๆว่างเปล่า อยู่ไหนนะ ไม่กล้าโทรหา

แต่พอแล้วล่ะมั้ง เกมส์โอเวอร์พอแล้วๆๆๆๆๆ

ทุกอย่างของฉันให้ยกกลับไปที่บ้านป้าเตียบ เผาเลยก้อได้ พวกทอง เครื่องประดับให้แม่ไว้แต่เมื่อวาน จดหมายถึงแม่อยู้ข้างใต้กำมะหยี่แดงก้นกล่อง แกแกะหาให้แม่อ่านด้วย ถ้าไม่ถือ...อะไรๆในกล่องยกให้พวกแกนะ เอาไปเหอะ เป็นที่ระลึก ระทึกตามใจแก ช่วยใส่ชุดไทยสีครีมวัน"รดน้ำ"แต่งงานให้ด้วย ตอน"รดน้ำ"ศพ ฉันวางในกล่องใต้เตียง ก้มหาใต้เตียงก้อเห็น รียูสนะเนี่ย

ลาแล้วนะ ลาแล้ว ฉันเหงา บอกบุ๊งด้วย วาสนาหมดกันเพียงแค่นี้ มีคนอื่นได้เลย จบแล้วอโหสิให้ทุกคนนะ ทุกเรื่อง และขออโหสิด้วยนะทุกคน ชาติหน้าขอให้ได้เป็นเพื่อนกับพวกแกอีกนะ

โลกนี้ไม่มีที่พอสำหรับคนโง่อย่างฉัน

พิม……

โทรศัพท์ครั้งสุดท้ายกับเรา 20 มิ.ย.48
"พิม - แก...ฉันฝากแกดูแลแม่ด้วยนะ
เรา - ทำไมแกจะไปไหนยะ
พิม - เปล่า...แต่แวะมาบ้างนะ เลยมาหาฉันด้วยนะ เหงาจังแก
เรา - ผัวล่ะ
พิม - มันบอกโทรหาน้อยๆหน่อย ทำงานไม่มีสมาธิ
(เงียบ) แก...คิดถึงพวกแกจัง
เรา - เฮ่ย เป็นไรป่ะเนี่ย บุ๊งมันรักแกจะตาย แต่มันเอาใจไม่เก่งนี่หว่า

พิม - บางทีคุยๆ ทะเลาะๆกัน แล้วฉันร้องไห้ มันบอกปวดหัวไมเกรน อย่าทำเครียดมากกว่าเดิม
...ฉันอยากเจอพวกแกจังเลย

เรา - ไว้วันเสาร์ดิ อีบี อีจอยด้วยเอาป่ะล่ะ กลับจากออกทริปพอดีเลย อาทิตย์ไปสวนกัน
พิม - ดีๆๆๆๆๆๆ อยากเจอๆๆๆๆๆ"

...23 มิ.ย. 48
บุ๊งโกรธเรื่องที่พิมโทรหากว่า 50 มิสคอลล์ เพราะกลับบ้านผิดเวลา ด้วยว่าออกไปดูสวนของลูกค้าแถวพระราม 3 พอรับสายก็ร้องไห้ โฮๆๆ ให้กลับบ้านซักที กลัวๆๆ จนครั้งสุดท้าย 23.20น.อยู่บนทางด่วน รับครั้งสุดท้ายบอกว่า จะถึงแล้ว ไม่ต้องโทร.แล้ว เดี๋ยวรถคว่ำ พิมเงียบไป
ร้องไห้กระซิกๆ

24.00 น.เรากำลังอ่านหนังสือจะนอนแล้ว อีบีเพื่อนที่เตรียมฯ ของพิมโทร.มาบอกว่า พิมเข้าโรงพยาบาลให้แวะรับอีนก ที่ปากทางกม. 7 ด้วย ส่วนบีกับจอย อยู่กับบุ๊งที่โรงพยาบาลแล้ว พิมเข้าโรงพยาบาลด้วย "อาการเดิม"

24 มิ.ย. 2548
02.00น. เสียชีวิตอย่างสงบ ห้องไอซียู เสียเลือดจากการกรีดข้อมือ และกินยานอนหลับเกินขนาด หัวใจอ่อนแรง และเสียชีวิตในที่สุด

จดหมายถึงแม่
"...หนูโง่นะแม่ ที่รักไม่เป็น หนูรักแม่ หนูรักแม่ แต่หนูทนไม่ได้แล้ว ไม่ไหว หนูปวดหัว หนูต้องเป็นบ้าแน่เลยแม่ ถ้าบุ๊งมีคนอื่นจริงๆ หนูจากเป็นไม่เอาน่ะแม่ จากตายดีกว่า"

จดหมายถึงบุ๊ง
"...อโหสิให้ด้วย ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง ไม่ใช่ความผิดของบุ๊ง บุ๊งเป็นคนดีที่สุดในใจพิมรักบุ๊งนะ รักที่สุด ไม่รักจะแต่งงานด้วยเหรอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะพิม พิมผิด พิมน่ารำคาญ ไม่มีพิมแล้ว ไม่ต้องรำคาญ ไม่ต้องปวดหัวแล้วนะลืมพิมไปเลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บุ๊งไม่เคยรู้จักพิมเลย ลืม ลืม ลืม รักใครก้อรักได้เลย ไม่มีพิม ไม่มีพิม บอกตัวเองไว้นะ ไม่มีพิม ทำบุญด้วยกันมาแค่นี้

ลืมซะ
ไม่มีพิมทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคตของบุ๊ง
แผ่นสุดท้ายแปะโพสต์อิทบนกระจก
"การกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้า กระทำลงไปทั้งที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ และด้ว
ยความสมัครใจของข้าพเจ้าไม่มีผู้ใดบังคับให้กระทำและกระทำด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง

เสียชีวิตขณะอายุ 24 ปี กับ 9เดือนเต็มพอดี (เกิดวันที่ 24 เสียวันที่ 24)

ขอให้พิมเป็นคนสุดท้ายที่ต้องตายด้วยความรัก
ถ้าพวกเราเฉลียวใจซักนิด ว่า ทีพิมบ่นว่า เหงา ๆๆๆๆๆๆ อยู่เสมอนั้น มีนัยแฝงอยู่
เราคงพาพิมไปหาหมอทัน เราคงให้บุ๊งเคลียร์กับพิม

บุ้งร้องไห้เสียใจ กอดแขน หอมแก้ม หอมมือพิมตลออดตอนรดน้ำศพ พอจะบรรจุโลง
บุ๊งร้องไห้ ไม่ยอมให้บรรจุโลง กอดร่างพิมไว้แน่น นานกว่าสองชั่วโมง หลวงลุง พระผู้ใหญ่ในวัด ขอบิณฑบาตรให้พิม ได้บรรจุโลงตามประเพณี ในวันเผา บุ๊งบวชหน้าไฟ มีกำหนด 1 เดือน
ทุกคนรู้ว่าบุ๊งรักพิม แต่ทุกคนก็เสียใจที่บุ๊งไม่รู้จัก ดูแลรักษาคนที่รักบุ๊งที่สุดในโลก
ทุกอย่างสายไปแล้ว ไม่มีพิมอีกต่อไป ช้าเกินไป

"...ครั้งแรกที่เห็นพิมประทับใจมาก ที่โรงเรียนใครๆก้อพูดถึงว่าน่ารัก สวย พอรู้จักก้อเริ่มรัก รัก พิมไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนคนนี้รัก รัก รัก รักพิม รักที่สุด"

"...บุ๊งผิดเองที่ตอนนั้นไม่ดูแลพิม บุ๊งทำงานเหนื่อย-เครียด เวลาพิมโทรมาก็ดีใจนะ แต่บางทีโมโหถ้ามันเกินพอดี แล้วพิมก็ร้องไห้ กลับค่ำหน่อย ดึกหน่อยก็งอน ก็ร้องไห้ ง้อกันทุกคืน บางทีก็โมโห บุ๊งผิดเอง บุ๊งเพิ่งรู้ว่า บุ๊งได้เสียคนที่รักบุ๊งที่สุด อย่างไม่มีทางกลับมา บุ๊งรักพิม ไม่เคยลืมพิม"


ขอบคุณแทนพิม ที่พิมได้เพื่อนดีๆหลายคน เราเองเมื่ออ่านรีพลายของเพื่อนๆพิมที่นี่ ทุกคนน่ารัก และสดใส พิมคงมีความสุขมากทุกคนรีบๆทำอะไรๆไว้นะคะ ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป เหมือนที่เกิดขึ้นกับพิม


"เวลากูรักใคร...กูรักด้วยหัวใจ กูไม่เคยต้องคิด ว่าจะต้องทำอะไร ยังงัย กูมีหัวใจไว้รัก ถ้ามึงรักใคร แต่มึงดันใช้สมองเหมือนเล่นเกมส์นินเทนโด มึงไม่ได้รักหรอก นั่นมันเกมส์ชัดๆ"

(วาทะพิม~เวลาเย็นย่ำโพล้เพล้ ใต้ตึกคณะสังคมศาสตร์ โต๊ะกบฏท่องเที่ยว
ธันวาคม 2546)

คิดถึงพิม...

เรื่องราวจริงของผู้หญิงซึ่งได้จากไปเพราะคำว่ารัก คัดบางตอนมาจากจากไดอารี่
exteen Blog

..............................................................
อย่ารักเลยนะ เพราะรักนั้นทำให้เป็นคนหัวใจพิการ จะยืนอยู่คนเดียวก็ยืนไม่ได้ ต้องเอน ต้องซบ ต้องเกาะ ต้องผูกพัน หัวใจจะไม่มีอิสระ ลมหายใจเข้าออกมีแต่เขาเขาเขา เธอเธอเธอ

อย่ารักเลยนะ เพราะรักนั้นคือยาพิษที่หอมหวาน ที่ต่างก็ป้อนให้แก่กันและกันดื่มด่ำ ยิ้มทุรนทุรายตายอย่างไม่รู้ตัว พิษของมันร้ายเหลือ ทำให้เราตายอย่างเจ็บปวดโดยไม่รู้ว่ามันทำ

ใช่แล้ว....ความรักก็คือการฆ่ากันด้วยเกสรดอกไม้และหยาดน้ำผึ้ง จึงยากที่หนุ่มสาวคู่ใดจะเอาชนะผ่านได้ เพราะมันช่างหวานชื่นหัวใจเสียนี่กระไร มันจึงเจ็บปวดสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกรัก ใช่แล้ว...เจ็บปวดอย่างสุดแสนด้วยความเสียดาย นี่แหละพิษที่ทั้งหอมทั้งหวานของมัน

อย่ารักเลยนะ เพราะทุกสิ่งย่อมมีแต่ความพลัดพราก กี่ล้านชีวิตที่ต้องเสียน้ำตาให้แก่การจาก ไม่ตายพรุ่งนี้ ก็มะรืนนี้ ไม่มะรืนนี้ ก็วันต่อไป ไม่มีใครหรอกที่จะอยู่ด้วยกันตลอดจนวาระสุดท้าย ตัดรักเสียแต่วันนี้ ความผูกพันยังคงมีน้อยไม่ยุ่งเกินไป

คัดบางตอนจากบทความเผารักให้สิ้นซาก




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 18:17:47 น.
Counter : 1762 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.