อย่าตายเพื่อผู้ชายคนเดียว
ขึ้นต้นเรื่องแบบนี้ หลายๆท่านคงเดาได้ไม่ยากนักว่าต้องเป็นเรื่องความรักชัวร์ๆ
เล่าเลยแล้วกันค่ะ
คือมีลูกค้าคนหนึ่งมาดูดวงกับกระติ๊บน้อย เธอเป็นแพทย์ค่ะ เป็นคุณหมอที่เพิ่งเรียนจบรับปริญญาได้ไม่นานนัก ครั้งแรกเธอมาเป็นเพื่อนให้กับรุ่นพี่ที่มาดูดวงกับกระติ๊บน้อย ครั้งนั้นเธอนั่งฟังเฉยๆไม่ได้มาดูแต่อย่างไร แต่ก็ขอเบอร์ติดต่อไว้บอกว่าเผื่อเพื่อนๆอยากดูจะได้ให้เบอร์พี่ไป ก็ขอบคุณน้องเขาไป เวลาก็ผ่านไปเป็นปี เธอโทรมาหาดูขอดูไพ่กับกระติ๊บน้อย ก็นัดเจอกัน พอเห็นแล้วอดตกใจไม่ได้ เธอผอมจนน่ากลัว ตาคล้ำทีเดียว ก็คิดๆเอาว่าน่าจะเป็นเรื่องความรัก เพราะอายุขนาดนี้โดยมากเรื่องความรักที่จะทำให้สภาพเป็นแบบนี้ได้
พอดูไพ่ก็ขึ้นชัดเจนว่าเธอมีปัญหาความรักจริงๆ ซึ่งก็บอกตรงๆว่า
"น้องตัดใจเถอะ เพราะว่าไพ่มันขึ้นว่าเขานั้นปั่นหัวน้องอยู่นะคะ"
น้องคนนี้ก็บอกว่า "แต่เขาก็ทำท่าจริงจังกับหนูอยู่บ้าง"
เลยถามว่าเขาทำอย่างนี้ใช่ไหม " พอน้องทำท่าจะเลิกเขาก็มาตาม พอน้องจะจริงจังเขาหนี เป็นอย่างนี้ตลอดใช่ไหม"
น้องคนนี้ก็ตอบว่าใช่ ก็เลยบอกว่า "พี่แนะนำได้แค่ว่า เขาไม่คบน้องหรอกค่ะ ตัดใจหาใหม่นะคะ น้องยังเด็ก อายุไม่เกิน30หาใหม่สบาย"
"แต่หนูรักเขาค่ะพี่" "เข้าใจค่ะ แต่ว่าประเด็นมันอยู่ที่ว่า เขาไม่ได้รักน้องนะคะตรงนี้สำคัญกว่า"
น้องคนนี้ก็อึ้งๆไป กระติ๊บน้อยดันพูดซะตรง ไม่ช่วยปลอบใจอะไรเลย จบการดูไพ่วันนี้โดยการบอกว่าตัดใจไปเถอะอย่าเสียเวลากับคนที่เขาไม่รักน้องเลย น้องคนนี้จากไปแบบหงอยๆ นึกรู้เหมือนกันค่ะ ว่าน้องเขาคิดว่าเผื่อมาดูไพ่แล้วมันขึ้นบ้างว่าวันหนึ่งผู้ชายจะจริงจังกับน้องเขา
ผ่านมาอีกสองวันโทรมาหา เสียงคล้ายๆเจ้าศักดิ์ตอนจะฆ่าตัวตายโทรมาแบบไม่รู้จะคุยอะไร น้องเขานิ่งๆ อึ้งๆ กว่าจะพูดหลุดมาได้สักประโยค
กระติ๊บน้อยก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งเธอร้องไห้มาตามสายปานว่าจะขาดใจตาย เสียงร้องไห้ชวนหดหู่ใจมากค่ะ ก็ฟังน้องร้องไห้ไป สักพัก น้องเขาก็พูดแบบลอยๆขึ้นมาเบาๆว่า
"ถ้าหนูตายไปเขาจะเป็นไงบ้างนะ"
ฟังแล้วนึกรู้ว่าจะทำอะไร ก็เลยถามไปว่า "น้องคิดว่าน้องฆ่าตัวตายไปแล้วเขาจะรู้สึกสำนึกผิดที่ทำให้น้องฆ่าตัวตายเหรอคะ"
เงียบแสดงว่าคิดแบบนี้จริงๆใช่ไหมคะ?
แล้วเลยพูดต่อไปเลยว่า พี่บอกให้เลย ถ้าน้องคิดว่า เขาจะรู้สึกผิดไปจนตายนั่นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกค่ะ อย่างดีเขาคงไปงานศพน้อง แล้วบอกว่าน่าสงสารจังที่คิดสั้นแบบนี้ แล้ววันสองวันเขาก็ไปคบกับสาวๆรอบตัวเขาต่อไปอีก เขาไม่มีเวลามารู้สึกผิดอะไรกับเรื่องของน้องหรอก ถ้าเขารักน้องเขาก็ไม่ทำให้เสียใจแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
แล้วน้องหนูก็กลับมาคร่ำครวญต่อว่า หนูรักเขาค่ะพี่ หนูอยากทำอะไรให้เขาทราบว่าหนูรักเขามาก และอยากให้เขาเสียดายหนู
ด้วยการฆ่าตัวตายเหรอคะ? พี่พูดตรงๆนะ การที่คนเราจะฆ่าตัวตายเพื่อประชดผู้ชาย หากคิดว่าทำแบบนี้แล้วผู้ชายคนนั้นจะเสียใจเสียดายที่น้องไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว คิดผิดนะคะ ผู้ชายเขาไม่เสียใจหรอก
คนที่เสียใจที่สุดถ้าน้องตายคือใครรู้ไหม ? พ่อแม่ ของน้องไง คิดถึงพ่อแม่บ้างไหมคะ เขาจะเป็นยังไง พ่อแม่หมดเงินเลี้ยงดูไปเท่าไหร่ มันน่าเสียดายที่เลี้ยงลูกคนนี้มา แล้วลูกสาวมาตายตัวตายด้วยเรื่องนี้ เหมือนเลี้ยงมาแล้วเสียเปล่าความคิดซักนิดเท่าฝุ่นในหัวแม่เท้ายังไม่มีไปตายให้คนที่ไม่ได้รักตัวเองก็ได้ด้วย
น้องเขานิ่งไปนิด แล้วพูดเสียงเขียวขึ้นว่า เกินไปแล้วนะพี่ด่าหนูเหรอ?
อ้าวโมโห เหรอคะ งั้นใช้ได้ ยังมีพลังชีวิตอยู่
น้องคนนี้งงๆ ก็ถามว่า อะไรนะคะ พลังอะไร
กระติ๊บน้อย เลยพูดกับน้องเขาว่า ถ้าด่าแล้วไม่โกรธ ยังคงซึมเศร้าอยู่นี่จะน่ากลัว ด่าแล้วโกรธ นี่ยังคงพอกระตุ้นได้บ้างค่ะ เลยพูดต่อไปว่า
"คิดดูนะคะ ตอนนี้ยังร้องไห้ทุกวันว่าเขาไม่รัก ถ้าพยายามทุกอย่างเพื่อได้มา หากแต่งงานแล้วคุ้มเหรอ"
น้องคนนี้นิ่งไปพักหนึ่ง แล้วก็ บอกว่า "เขาไม่รักหนูจริงๆเหรอคะ"
"จริงค่ะ พี่ไม่โกหกหรอกค่ะ มันไม่สนุกหรอกค่ะ ที่จะมาบอกให้ใครเสียใจแบบนี้ แต่พี่ไม่อยากให้น้องเสียเวลากับผู้ชายที่เขาเห็นเราเป็นของเล่นปั่นหัวไปวันๆ"
แล้วดูได้ไหมคะ ว่าเขาจะแต่งงาน หรือว่าเจอคนที่เขารักจริงๆเมื่อไหร่
ก็เลยตอบว่า " เขาดวงเพลย์บอยอีกนานค่ะกว่าจะแต่งงาน อย่าไปคอยเลย"
"พี่หนูอยากให้เขาเสียดายที่ไม่เลือกหนูวันนี้"
" งั้นน้องก็ต้องก้าวหน้าในชีวิตให้เขาเห็นซิคะ มีเรื่องทางโลกที่น่าประทับใจ เช่นการงานดี เงินเยอะ สวยรวย เลือกได้ ก็ว่ากันไป ทำชีวิตให้มีคุณค่าซิคะ อย่ามาตายเพราะผุ้ชายที่เขาไม่รักน้องหน่อยเลย ยิ่งน้องตายเป็นศพๆหนึ่งขึ้นมา เขาเห็นศพน้องก็วิ่งหนีแล้วยิ่งไม่เอาใหญ่เลย"
"พี่ทำไมพูดจาแบบนี้คะ เขาจะมารังเกียจหนูอะไรขนาดนี้"
อ้าวพี่พูดเรื่องจริงนะคะ ศพคนนะคะ คิดดูซิคนปกติไม่มีใครต้องการหรอก พระท่านสอนว่า คนตายแล้วร่างกายก็เหมือนท่อนไม้ท่อนหนึ่งที่ไม่มีคนต้องการ เอาอย่างงี้ดีกว่า สมมุติกันใหม่ว่า ในทางกลับกันถ้าผู้ชายคนนี้เกิดตายขึ้นมา น้องเห็นเขาเป็นศพจะยังรักเขาอยู่ไหม จะเอาศพเขามาบ้านไหม เขาตายเป็นศพแล้ว
หนูรักเขาแต่ไม่เอาศพกลับมาค่ะ
ทำไมล่ะ ทีเขาเป็นๆอยากได้ตัวเขา ขอไล่ต้อนหมอหน่อยนะคะ 555
ก็เขาตายแล้วนี่พี่ หนูเป็นหมอหนูรู้ว่า สักพัก ของเหลวในร่างกายก็หลั่งออกมาจากรูทวาร เดี๋ยวก็เน่าแล้วในไม่กี่วัน นอกเสียจากเราทำการรักษาศพ ไว้อย่างอาจารย์ใหญ่ที่หนูเคยศึกษาร่างท่าน
แล้วจะเก็บไว้ไหม
เก็บทำไมคะ
อ้าวก็ไหนว่ารักไงคะ
"คือ....หนูรักค่ะ แต่เขาตายแล้วนะคะพี่ หนูจะเก็บศพเขาทำไม"
"ตกลงว่ารังเกียจตอนเขาเป็นศพ จริงไหม?"
"โอ๊ยพี่มาไล่ตอนอะไรหนูคะเนี่ย"
เปล่าค่ะ พี่ไม่ได้ไล่ตอน พี่ต้องการให้น้องดูคำตอบของตัวเองค่ะ น้องตอบเองหมดแล้วนะ ดูคำตอบตัวเองว่าตัวเองรังเกียจเขาไหม ตอนเขาเป็นศพ มันก็อารมณ์แบบเดียวกันกับเขาเห็นน้องเป็นศพนั่นแหละ
พี่พูดซะขนาดนี้ หนูหายรักเขาไปเยอะเลย
ดีแล้วค่ะ ที่พูดมานี่คือจะบอกว่า ตายไปก็ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ อยู่ดูโลกไปก่อน นี่เป็นคนแรกที่รักก็ภูมิคุ้มกันน้อย ต่อไปก็แกร่งเองแหละค่ะ
หมายความว่า ดวงหนูต้องอกหักอีกเหรอคะ โอ๊ยทำไมดวงซวยแบบนี้ ชีวิตมีอะไรดีไหมเนี่ย
คราวนี้ร้องโอดครวญเรื่องนี้แทน ฟังจากเสียงแล้วอาการดีขึ้น คงไม่ฆ่าตัวตายแล้วล่ะค่ะ น้องคนนี้ก็โทรมาคุยเรื่อยๆพักหนึ่งค่ะ พออาการดีขึ้นมีรักใหม่ก็หายไปล่ะค่ะ นานๆทีจะติดต่อสักครั้ง เช่นปีใหม่
โดยส่วนตัวแล้วอยากบอกว่า ใครที่อกหัก ก็อย่าไปตายให้เขาเลยค่ะ ไม่มีใครรัก พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงก็ยังรักคุณนะคะ คิดกว้างๆยาวๆ รักตัวเองให้มากๆ อย่าประชดชีวิตโดยการไปตายให้คนที่เขาไม่รักคุณนะคะ
Create Date : 15 ตุลาคม 2556 |
|
9 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2556 21:18:15 น. |
Counter : 1607 Pageviews. |
|
|
|
อ่านไปอ่านมา ติดลมซะงั้น