BlogGang.com : : กระติ๊บน้อย : ศาสตร์ไหนแจ๋วกว่ากัน(ต่อ)

ศาสตร์ไหนแจ๋วกว่ากัน(ต่อ)

ถึงตรงนี้ทุกคนก็ต้องเริ่มคิดว่ากระติ๊บน้อยจะเอาอะไรไปสอนเขาใช่ไหมคะ?

ในวันรุ่งขึ้นไม่ได้ไปสอนหรอกค่ะ กระติ๊บน้อยต้องเข้าไปนั่งที่โรงแรมน่ะค่ะซึ่งลืมซะสนิทเลย ก็เลยไม่ไปที่งานการกุศล

ก็นึกๆเหมือนกันแหละค่ะว่าเขาต้องคิดว่ากระติ๊บน้อยหนีหน้าเขาแน่ๆคงคิดว่าโม้อย่างนั้นไม่มีอะไรมาตอบเขา

ในวันถัดมากกระติ๊บน้อยก็ไปงานการกุศลที่สมาคมจัดเหมือนเดิม ก็ไม่คิดว่าจะเจอเขาอีกนะคะ เพราะว่าหมอดูโดยทั่วไปก็วิ่งมาที่นี่บ้าง ไปร้านประจำที่ตนเองอยู่บ้าง คือวิ่งรอกกันไปหลายๆที่ในกรณีที่ยังไม่มีลูกค้าขาประจำเยอะๆนะคะ และตัวผู้ชายคนนี้เพิ่งเริ่มเรียนดวงไทย มางานนี้เขาก็มาเพื่อหัดดูดวงแบบออกสนามจริง ก็คงต้องทั้งหาประสบการณ์และหาลูกค้าไปด้วย ก็คิดเอาเองว่าเขาคงไม่ได้มาที่งานนี้ทุกวันแน่

พอหมอดูคนนี้เห็นกระติ๊บน้อยมาถึงในงาน ก็เดินตรงมาเลยค่ะ กระติ๊บน้อยคิดในใจว่าต้องต่อว่าเราแน่ๆที่ไม่มาตามนัด แต่เขาก็ไม่ได้พูดว่าอะไรเลยค่ะ

ประเด็นที่เปิดเรื่องคือ เขาพุ่งตรงมาสอบถามเกี่ยวกับศาสตร์ชั้นสูงของไพ่ยิปซีที่เขาสงสัยเลยล่ะค่ะ และไม่มีทีท่าการดูถูกเหมือนวันที่เจอกันครั้งแรก ซึ่งก็ไม่ทราบด้วยเหตุใดเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะกระติ๊บน้อยพูดในเรื่องที่เขาไม่ทราบ หรือไม่ก็เพราะเขาไปถามอาจารย์ของเขาแล้วอาจารย์ไม่ทราบหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้

เขาก็มาพุดดีๆด้วยว่า “ผมสงสัยมากเลยเรื่องต้นไม้ที่คุณพุดเมื่อวันก่อน”

“อ๋อ ต้นไม้แห่งชีวิตค่ะ”

“นั่นแหละ มันสำคัญยังไง”

กระติ๊บน้อยบอกบอกตรงๆเลยว่า “คืออย่างนี้นะคะ ตัวดิฉันเองก็เพิ่งเริ่มศึกษา ยังไม่พบผู้ที่รู้จริงๆมาสอนได้เลย ก็อาศัยอ่านคลำๆมันไปเรื่อยๆ”

“แล้วคุณรู้เรื่องนี้มาจากไหน?”

“ก็จากตำราต่างประเทศไง” “ไพ่ยิปซีนี่เป็นของต่างประเทศนะ ไม่ใช่ศาสตร์ของบ้านเราถ้าคุณไปดูหนังสือไพ่ยิปซีต่างประเทศเกือบทุกเล่มจะมีกล่าวอ้างไม่มากก็น้อย คุณก็ลองไปที่ร้านหนังสือต่างประเทศนะ เขามีขายแล้วคุณก็ลองๆหามาอ่านดู”

“แต่ผมอยากให้คุณแนะนำผม”

“นี่คุณ ชั้นบอกคุณแล้วว่า ชั้นเพิ่งเริ่มศึกษา ยังสอนใครไม่ได้เรื่องนี้หรอก ยังไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ ”

“ไม่ใช่ว่าคุณจะหวงวิชา หวงหนังสือเก็บไว้อ่านคนเดียวเหรอ”

คือตอนนี้เริ่มปรี๊ดเล็กน้อยถึงปานกลางอีกแล้วค่ะ คือตาคนนี้คงคิดว่า กระติ๊บน้อยมีตำราไพ่ยิปซีโบราณอันล้ำค่าตกทอดมา(จากไหนก็ไม่รู้)แล้วไม่ยอมแบ่งปันความรู้อันนี้ให้ใครมั้ง

“นี่คุณ ชั้นพูดตรงๆเลยนะ แล้วไอ้ที่คุณมาพูดปาวๆอยู่นี่ ออกลักษณะเหน็บแนมชั้นอยู่แบบนี้แล้วคิดเหรอว่าถ้าชั้นรู้จริงแล้วชั้นจะสอนให้คุณ บอกให้เลยนะ ถ้าชั้นรู้จริงๆ ชั้นก็ไม่สอนให้กับคุณแน่ คนที่จะมาเรียนกับชั้นต้องมีลักษณะที่อ่อนน้อมถ่อมตนหน่อย ไม่ใช่เที่ยวดูถูกวิชาคนอื่นไปทั่วแบบนี้แล้วพออยากเรียนวิชาของเขายังมาพูดจาแดกดันแบบนี้อีก”

พูดไปแล้วก็สบายใจค่ะ ไม่ได้สนใจว่าเขาจะโกรธหรือเปล่าด้วย แต่ว่าผู้ชายคนนี้ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ด้วยว่า เขากำลังขอวิชาจากคนที่เขาเพิ่งดูถูกไปเมื่อวันก่อน เขาก็เลยนิ่งไป

กระติ๊บน้อยเลยคิดว่า จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คือหลังจากนั้นเขาก็ไม่มายุ่งวุ่นวายกับกระติ๊บน้อยอีก พอเจอกันเขาก็มองๆแล้วก็ไม่พูดอะไร

แต่เรื่องวิชาการอะไรที่เกี่ยวกับโหราศาสตร์นี่เป็นอะไรที่เขาหวงกันมากนะคะ ทะเลาะกันวุ่นวายเลยก็มีเกี่ยวกับเรื่องตรงนี้ บางคนเวลารู้อะไรใหม่ๆแล้วอุบเงียบก็มี บางครั้งบางคนมีหนังสือแล้วก็หวงทำให้ทะเลาะกันก็มี

ไม่ต้องอะไรมากหรอกค่ะ ยกตัวอย่างของกระติ๊บน้อยเองนี่แหละ

หลังจากที่ไปงานการกุศลบ่อยๆ แต่พอลูกค้าอยู่ตัวก็ไม่ได้ไปอีก ก็เริ่มมีคนติดต่อมาดูไพ่บ้าง มาเรียนการดูไพ่ยิปซีบ้างคือบางครั้งลูกค้าก็แค่อยากเอาไว้ดูตัดสินใจคร่าวๆ ไม่ต้องใช้ขั้นสูงมากก็ได้ค่ะ

กระติ๊บน้อยก็เลยเขียนตำราขึ้นมาเล่มหนึ่ง ก็เขียนจากประสบการณ์ตัวเอง ซึ่งพื้นฐานนั้นก็อาจจะคล้ายๆกันแต่ว่าความหมายการแปลอาจจะต่างกันออกไปเพราะว่า เราเอาจากประสบการณ์ตัวเอง ซึ่งก็ซีร็อกให้เวลาใครมาเรียนไพ่ยิปซีกับกระติ๊บน้อย

คือจะมีหมอดูด้วยกันมาเรียนก็เยอะค่ะ ส่วนมากก็มาเรียนเรื่องวิธีการอ่านไพ่ เพราะพื้นฐานเขาได้กันอยู่แล้วก็มาเก็บทริคจากเราไป

วันหนึ่งมีผู้หญิงคนนึงได้รับการแนะนำให้มาเรียนการดูไพ่ยิปซีกับกระติ๊บน้อย คือผู้หญิงคนนี้เป็นหมอดูอยู่แล้วนะคะ ดูเลข7ตัวแต่เพื่อนๆบอกว่าควรดูไพ่ยิปซีด้วยจะดีกว่าเพราะว่าเด็กๆนักศึกษาชอบ ก็เลยมาเรียน กระติ๊บน้อยก็ซีร็อกตำราให้ไป

พอเรียนจบไปซักเดือนสองเดือนก็โทรมาบ่นมากมายให้ฟังว่าทะเลาะกับหมอดูคนหนึ่งในช่วงที่ไปเรียนอย่างอื่นเพิ่มเติม

ผู้หญิงคนนี้เล่าว่าระหว่างคอยครูก็หยิบตำราที่กระติ๊บน้อยซีร็อกให้ไปมาอ่านทบทวนฆ่าเวลา ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาถามว่าอ่านอะไร เธอก็ตอบว่าตำราไพ่ยิปซี เขาก็ถามไปถามมาว่าตำรามาจากไหน? ใครสอน? เธอก็ตอบไป ผู้ชายคนนี้ก็บอกว่าไม่รู้จักกระติ๊บน้อย

แต่ว่าเขาสองคนก็นั่งคุยสาวความกันไปมา จนกระทั่งผู้ชายคนนี้รู้ว่ากระติ๊บน้อยเป็นใคร ผู้หญิงคนนี้เล่าว่า ผู้ชายคนนั้นบอกว่า

“ อ๋อ หมอดูคนที่มีลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง”

เธอเล่าว่า เขาพูดกันมากเกี่ยวกับกระติ๊บน้อยว่าเวลามีงานการกุศลนั้นกระติ๊บน้อยจะเป็นหมอดูที่มีลูกค้ามากที่สุด !!

แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ มีหมอดูหลายคนได้ตั๋วมากกว่ากระติ๊บน้อยเยอะแยะ แต่ที่เขาคิดว่าลูกค้ามากที่สุด เพราะว่าลูกค้ามุงกันมากค่ะ ส่วนใหญ่นะคะ เด็กๆนักศึกษาเวลามาดูไพ่ก็ชวนเพื่อนๆมาด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เด็กๆมามุงกันเป็นกลุ่มใหญ่ก็เลยมองเหมือนว่าคนมาดูไพ่ด้วยเยอะ แต่จริงๆไม่ใช่แบบนั้น555

มาต่อประเด็นที่เขาทะเลาะกันค่ะ

คือผู้ชายคนนั้นพอบอกว่า “ อ๋อ หมอดูคนที่มีลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง” งั้นขอตำราไปซีร็อกหน่อยได้ไหม"

ผู้หญิงคนนี้เกิดความคิดอะไรไม่ทราบดันบอกว่าไม่ให้

ผู้ชายคนนั้นก็เลยทำท่าแบบเหมือนจะแย่งเอาจากมือ ผู้หญิงคนนี้ตกใจเลยยิ่งหวงหนักไปกว่าเดิม ผู้ชายก็แย่งกระชากเอาจากมือ ตำราแทบขาด ทั้งสองคนทะเลาะเถียงกันวุ่นวาย เป็นเรื่องเป็นราว ผู้ชายก็เลยขู่อาฆาต ผู้หญิงกลัวก็เลยไม่กล้าไปเรียนที่นั่นอีก แล้วก็ท้ายที่สุดก็โทรมาฟ้องกระติ๊บน้อยว่ามีคนจะแย่งตำรา แล้วต่อท้าย ว่าถ้ามีคนชื่อนี้มาติดต่อเรียนไพ่ยิปซีอย่าสอนนะ

กระติ๊บน้อยก็ไม่เข้าใจจะหวงไปทำไมเรื่องตำรา ให้เขาซีร็อกไปก็จบ นี่กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต

ที่พูดอย่างนี้เพราะว่าไม่ใช่ว่าทุกคนอ่านแล้วจะget เหมือนกันหมดทุกคนนะคะ เคยมีคนมาถามว่ากระติ๊บน้อยอ่านตำราอะไรบ้าง ก็บอกรายชื่อไป เขาก็ไปซื้อมาอ่านแล้วบอกว่าไม่เข้าใจเนื้อหา งง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดามากที่อ่านแล้วเราจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจในตำราเล่มนั้นก็ได้ แต่ละคนจะgetตำราต่างกันออกไป

กระติ๊บน้อยก็เป็นเหมือนกันค่ะบางคนอ่านตำราเล่มนี้บอกว่าดีมาก ชวนให้อ่านแต่พอกระติ๊บน้อยอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ ซึ่งก็มีแบบนี้กันบ่อยๆ

ส่วนเรื่องนี้เอามาเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เพื่อนก็ให้ขอสันนิฐานที่น่าสนใจว่า

“ นี่เธอว่าผู้ชายคนนั้นที่ลูกศิษย์เธอเล่าน่ะ อยากได้ตำราจนน่ากลัวไปหรือเปล่าถึงขนาดขู่อาฆาตเลยน่ะ”

“แล้วรู้เปล่าชั้นคิดอะไรอย่างนึง?”

“อะไร?”

“อาจจะเป็นผู้ชายคนนั้นก็ได้นะ”

“คนไหน?”

“ก็คนที่อยากเรียนเรียนเรื่องต้นไม้อะไรกับเธอไง”

เออนะ เพื่อนก็ช่างคิดเอามาผสมกันจนได้ 555

Create Date : 25 ตุลาคม 2553

Last Update : 7 กรกฎาคม 2555 21:49:07 น.

7 comments

Counter : 1338 Pageviews.

โดย: สาวชนบท

วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:15:22:16 น.

ให้แบกกระถางธูปคลานเข้ามาแบบวัดเส้าหลิน แล้วค่อยรับเป็นศิษย์สิครับ

โดย: oddy.freebird

วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:16:04:00 น.

เอาอย่างนั้นเลยเหรอคะคุณoddy

โดย: กระติ๊บน้อย

วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:20:45:23 น.

หนังสือเล่มเดียวกัน ก็ใช่ว่าจะเข้าใจเหมือนกัน

ถ้าคนปรับความเ้ข้าใจกันได้ก็คงดี

โดย: jejeeppe

วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:35:50 น.

มันก็น่าจะใช่อ่ะนะ ใครจะไปรู้อ่ะเนาะ โลกมันก็กลมด้วยอ่ะสิ

ว่าแต่เพื่อนคุณกระติ๊บน้อยคิดแบบเดียวกันกับเราเลยอ่ะ

ตอนที่เราอ่านถึงตอนที่แย่งเอกสารในมือน้องคนนั้น อยู่ ๆ ก็นึกถึงคนที่อยากเรียนกะกระติ๊บน้อยทันทีเลยอ่ะค่ะ

เราว่านะ อีตาคนนั้นคงอยากจะเป็นลูกศิษย์ลูกหากับกระติ๊บน้อยนั่นแหล่ะแต่ว่าไอ้ทิฐิมันค้ำคออยู่ เพราะเคยไปดูถูกกระติ๊บน้อยเอาไว้ (เยอะ) อิอิอิ

โดย: เด็กน้อยตัวแสบ

วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:10:47:37 น.

ว่าแต่ คับบาล่าห์ นี่ พี่กระติ๊บน้อย สอนกระผมมั่งได้ไหมฤาขอรับ

(เจียมเนื้อเจียมตัวสุดฤทธิ์)

โดย: เดวา IP: 118.172.129.9 วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:0:28:00 น.

ต้องบอกว่าตัวเองยังไม่ค่อยคล่องค่ะ ต้องรออีกพักนึงค่ะ กำลังทำความเข้าใจอยู่ เรื่องคับบาล่าห์นี้เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจยากสำหรับผู้หัดเรียนต้องคนแม่นเนื้อหาจริงๆ

แต่ถ้ากระติ๊บน้อยคล่องแล้วคงเปิดสอนน่ะค่ะ

โดย: กระติ๊บน้อย

วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:16:10:13 น.