วันที่แปด (7 Jun 08)

วันนี้ตื่นมาแต่เช้า เพื่อจัดกระเป๋า เพราะต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 11.30 เพื่อให้ไปขึ้นเครื่องที่ Biarritz Airport คราวนี้เราใช้บริการของสายการบิน Ryan Air ซึ่งเป็นสายการบินโลว์แฟร์เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าสัญชาติอะไร รู้แต่ว่า ตอนที่มีปัญหาในการจอง เราต้องโทรไปที่ Call Center ในไอร์แลนด์ และโทรติดยากมาก

เอาตั๋วมาดูเพื่อความแน่ใจ ตายละหว่า เค้าให้ขนของไปได้แค่ 15 กิโลเอง เราสองคนมาจากเมืองไทย น้ำหนักกระเป๋าก็ล่อไป 35 กิโลแล้ว แถมตอนนี้มีอาหารและของฝากอีกเพียบ ตูจะจัดกระเป๋ายังไงดี  เราเองตอนแรกกะมั่วนิ่ม ไปตายเอาดาบหน้า ไว้ค่อยจัดที่สนามบิน ถ้าเค้าไม่ให้ หรือจ่ายเงินค่าน้ำหนักไป เพราะการจัดกระเป๋าให้มันได้ 15 กิโลนะ ยากมากเลย ฉันไม่ได้ไปภูเก็ตนะ จะได้ให้ขนกันแค่นี้ แต่ปรึกษากับคุณ Herve แล้ว คุณ Herve บอกว่า อย่าเสี่ยงดีกว่า คนยุโรปนะไม่ใจดีเหมือนคนไทย ไม่มีคำว่าหยวน

สุดท้ายเราก็ต้องจัดกระเป๋าให้ได้ 15 กิโล ส่วนของที่เกินมาก็ต้องขอยืมกระเป๋าของแม่คุณ H มาใช้เพื่อเป็น Carry on เนื่องจากเราทั้งคู่ ไม่ได้เอา Carry On มาเลย เพราะขี้เกียจ มีกระเป๋าหลายใบ กลัวไม่สะดวกในการเดินทาง กว่าจะจัดกระเป๋าลงตัวก็เกือบสิบเอ็ดโมง

คุณแม่ทำแซนวิชให้เราไปกินระหว่างทางด้วย (เพราะเค้ากลัวว่า เราจะหิว หิหิหิ ถึงตัวเล็กก็กินจุงะ)

พอเรามาถึง เราก็รีบไปเช็คอิน พร้อมทั้งลุ้นว่า น้ำหนักกระเป๋าของเราจะมีปัญหามั๊ย สุดท้ายเราจัดได้กระเป๋า 2 ใบ คือ 15.5 กิโล และ 17.5 กิโล โชคดีที่เจ้าหน้าที่อนุโลมให้ สายการบิน Ryan Air จัดว่าบริการดี และค่อนข้างตรงเวลา เจ้าหน้าที่บอกว่า สายการบินเค้านะ เครื่องตรงเวลา กว่าสายการบินราคาแพงอย่าง Luftansa หรือ Air France ซะอีก แถมมีโม้ในแมกกาซีนบนเครื่องว่า ผลสำรวจ สายการบินเค้าได้รับความไว้วางใจและความนิยมจากผู้โดยสาร อีกทั้งบริการก็ดีกว่าสายการบินหลัก ๆ ของยุโรป จริง ๆ เราก็ไม่เถียงเรื่องบริการนะ แต่ไอ้เรื่องจำกัดน้ำหนักกระเป๋าแค่ 15 กิโลนี่สิ มันทรมานมาก เพราะไม่รู้จะจัดยังไง นี่ยังดีนะ ว่าเป็นหน้าร้อน เสื้อผ้าไม่หนักเท่าไหร่ ถ้าเป็นหน้าหนาวนะไม่อยากคิด 

เครื่องบินของ Ryan Air พาเรามาถึงเมือง Frankfurt ที่สนามบิน Hann ซึ่งอยู่ห่างจาก Frankfurt Aiport ไปประมาณ 1 1/2 ชม. โดยรถบัส หลังจากที่เราได้กระเป๋าเรียบร้อย เราก็รีบเดินหาป้ายที่บอกว่ามี รถ Shuttle Bus ของบริษัท Bohr เพื่อเดินทางต่อไปยัง Frankfurt Airport เพราะเราต้องไปต่อสายการบิน Lufthansa เพื่อเดินทางไปเอเธนส์

พอไปถึงเคาน์เตอร์ จ่ายค่ารถไปคนละ 12.5 ยูโร เจ้าหน้าที่บอกให้รออีก 15 นาที ก็จะมีรถรอบ 15.45 น. มาพอดี เรามีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยหลายคน เพราะรถคันนี้ นอกจากจะจอดที่สนามบินแล้ว ยังไปส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟใจกลางเมือง Frankfurt อีกด้วย

พอเรามาถึง รีบเช็คอิน แล้วเข้าไปในเกท เพราะจุดหมายของเราคือ เล้าจ์น ของสายการบิน Lufthansa ที่ให้บริการสมาชิก ROP Gold ด้วย เราต้องรออยู่ที่สนามบินประมาณ 4 ชั่วโมง กว่าเที่ยวบินไปเอเธนส์จะออก เราก็เลยไปกินข้าว อาบน้ำ อ่านหนังสือ เขียนโปสการ์ด เล่นอินเตอร์เน็ท ฆ่าเวลา

ต้องขอชมว่า เล้าจ์น ที่สนามบิน frankfurt ดีมาก ๆ มีอาหารให้เลือกหลายอย่าง อาหารว่าง อาหารหลัก ผลไม้ เค้ก ขนมปัง พร้อมด้วยเครื่องดื่มต่าง ๆ รวมถึง เหล้า เบียร์ และไวน์ เราสองคนกินกันจนพุงกาง คุณ H ก็ขอตัวไปต่อเน็ทเพื่อทำงาน ในขณะที่เราไปเดินเล่น

ในที่สุดเครื่องบินของเราก็ออกเดินทางเมื่อเวลา 21.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น และมาถึงเมืองเอเธนส์ ก็เป็นเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ แล้ว

พอมาถึงเพื่อนมารอรับอยู่แล้ว แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่บ้านเพื่อนที่เราจะมาขออาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่เราอยู่ที่กรีซ

นี่เป็นวิวจากบ้านที่เราไปพัก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาประมาณ 30 นาที  (แต่ถ้านั่ง Tramp ก็ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากสถานี Syntagma)


วันที่เก้า (8 Jun 08)

ตื่นเช้ามาเพราะแดดแยงตา ไม่สามารถนอนต่อไปได้ แสงแดดที่กรีซนี่แรงมาก แค่สิบโมงเช้าแต่เหมือนกับเที่ยงวันบ้านเรา ตั้งแต่ไปเที่ยวมา ถ้าไม่นับรวมทะเลทรายซาฮาราในแอฟริกา ที่นี่ก็เป็นที่ที่แดดแผดเผาได้ใจสุด ๆ ปัญหาคือ Sun Block ไม่มี คงต้องหาเอาแถวนี้ เพราะถ้าขืนไม่ทาอะไรเลย คุณ H คงกลับเมืองไทยเป็นไก่ย่าง ส่วนเราคงเป็นอีดำ ในเรื่องข้าวนอกนาแน่นอน

คนที่นี่ enjoy กับฤดูร้อนมาก อย่าให้เห็นเชียวว่าที่ไหนเล่นน้ำได้ พวกแม่เจ้าประคุณ พ่อเจ้าประคุณทั้งหลาย ถอดเสื้อผ้า เหลือแต่ชุดว่ายน้ำ ลงไปดำผุดำว่ายกันอย่างร่าเริงบันเทิงใจ เราเองตอนแรกก็อยากลง แต่น้ำมันเย็น ทำใจไม่ได้ ก็เลยได้แต่นั่งดู สาว ๆ ชาวกรีกเล่นน้ำกัน

วันนี้เพื่อนพาขับรถไปนอกเมืองเพื่อกินอาหารแบบบาลข่าน ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะเป็น การทำอาหารของคนในแถบบาลข่าน ซึ่งได้แก่ ประเทศกรีซ บัลแกเรีย โรมาเนีย เซอร์เบียร์ แถบนั้น อาหารก็เป็นประเภทย่าง ๆ เช่น เนื้อย่าง หมูย่าง ไก่ย่าง แกะย่าง อาหารทุกอย่างจะหมักเครื่องเทศจนหอม และที่ขาดไม่ได้ก็คือ กรีกสลัด ซึ่งก็คือสลัดผักแล้วมีเฟตต้าชีสอยู่ด้านบนอย่างในรูป

เพื่อนสั่ง กระเพาะแกะย่างมาให้คุณ H ชิม เราแค่ได้กลิ่น ก็เกือบตาย กลิ่นแรงมาก ไม่ชิน เพราะปรกติก็ไม่กินแกะ หรืออะไรที่มีกลิ่นอยู่แล้ว พอเจออาหารจานนี้ก็เลยได้แต่สงบจิตสงบใจ กินหมูย่าง และทำใจไม่ให้นึกถึงมันดีกว่า

กินอาหารเสร็จ กลับไปนอนพักที่บ้าน ตอนแรกว่าจะไม่นอน แต่อากาศมันร้อนมาก แดดก็เปรี้ยง จนแทบไม่อยากทำอะไร สุดท้ายผล่อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็พระอาทิตย์เกือบตกดินแล้ว เราก็เลยไปเดินเล่นที่ทะเล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านที่เราพัก

แถบนี้เท่าที่สังเกต คงเป็นแถบคนมีฐานะ หรือเป็นแถบตากอากาศ เพราะจะมีร้านอาหารอยู่ทั้งสองข้างทาง และริมทะเล บรรยากาศก็ดีมาก ๆ ถ้าเทียบกับเมืองไทย คงเหมือนชายทะเลหัวหิน แถมมีส่วนที่ไว้จอดเรือด้วย

พอตกดึก ซักสี่ทุ่ม เพื่อนก็พาไปท่องราตรี เค้าบอกว่าเป็นผับที่ดังมาก ๆ ในเอเธนส์ ต้องมีการจองโต๊ะล่วงหน้าทั้ง ๆ ที่เป็นคืนวันอาทิตย์ พอเราไปถึง ก็อยากจะหัวเราะ เพราะร้านที่เราไปนะชื่อว่า Poseidonio คุณ Herve หัวเราะแถมแซวว่า เรามาเที่ยวแถวถนนรัชดา เพื่อนงง จนเราต้องอธิบายว่า โพไซดอนที่เมืองไทยนะ ไม่ใช่ผับนะ แต่เป็นสถานที่อื่น แทน

พอเราเข้าไปภายในร้าน จะมีเวทีใหญ่ ตรงกลาง และมีการจัดวางโต๊ะไว้ ลักษณะผังร้านเหมือน โรงเบียร์ตะวันแดง พอซักประมาณเที่ยงคืน ก็จะมีนักร้อง ค่อย ๆ ทยอย หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาร้องเพลงให้แขกฟั
สาว ๆ ที่มาเที่ยวกัน เค้าก็จะแต่งตัวเพื่อมาประชันกันเต็มที่ บางคนใส่ชุดราตรียังมีเลย

และถ้าใครที่ถูกใจนักร้อง ทางร้านเค้าก็จะมีดอกไม้มาขายเป็นถาด ๆ สนนราคาที่ถาดละ 40 ยูโร โดยมีน้อง ๆ หน้าตาจิ้มลิ้มใส่เสื้อดสายเดี่ยวสีชมพูเดินขายดอกไม้ ภายในร้าน พอแขกซื้อดอกไม้แล้ว น้อง ๆ เหล่านี้เค้าก็จะเอาดอกไม้ไปปาใส่นักร้อง

พอซักประมาณ ตีหนึ่งครึ่ง ตีสอง ก็ได้เวลานักร้องใหญ่ ออกโรง ทราบมาว่า นักร้องคนนี้ดังมาก เรานะไม่รู้จักหรอก แต่แค่เห็นหน้านักร้อง หัวใจก็กระชุ่มกระชวยน่าดู เสียดายไม่มีรูปหน้าตรงมาอวดสาว ๆ ชาว BP
ดอกไม้เต็มเวทีเลย เดือดร้อน เจ้าหน้าที่ต้องมาคอยกวาดเป็นระยะ ๆ

พอซักตีสอง ตีสาม เริ่มเมาได้ที่ สาว ๆ ก็เริ่มเต้นกันบนเก้าอี้ หรือบางคนก็เต้นกันบนโต๊ะเลยก็มี

จริงๆ ผับเค้าก็เปิดไปจนถึงเช้า แต่เนื่อง จากพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปยังเมืองตากอากาศ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเอเธนส์ พวกเราก็เลยกลับบ้านตอนประมาณตีสาม

เฮ้อ ป้าสู้ไม่ไหว ขอไปพักดีกว่า ........

Create Date : 06 มีนาคม 2557
Last Update : 6 มีนาคม 2557 9:34:06 น.		0 comments
Counter : 1270 Pageviews.
Share Tweet