นักเขียนนามปากกา "จันทร์ทอแสง" เขียนนิยายแนว 20+ ทั้งโลกสวยและโลกไม่สวย

 
มกราคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 มกราคม 2559
 

[ขอรักเธอให้สุดใจ] 1 : เด็กฝึกงาน



ขอบคุณภาพจากเรื่อง เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษค่ะ


ตอนที่1

เด็กฝึกงาน



มทิรา หญิงสาวหุ่นดีท่าทางมั่นใจผลักประตูกระจกเข้ามาในบริษัทผลิตเครื่องดื่มยี่ห้อดังที่เธอทำงานอยู่ ก่อนตรงไปห้องหนึ่งซึ่งมีข้อความติดอยู่หน้ากระจกว่า “ฝ่ายการตลาดส่วนวิเคราะห์แผนงาน”

“สวัสดีค่ะพี่เปิ้ล” หญิงสาวเอ่ยทักคนที่นั่งอยู่ในห้อง

หญิงสาวร่างเล็กผมสั้น ท่าทางทะมัดทะแมงละสายตาจากโน้ตบุ๊กที่เปิดหน้าเว็บไซต์บันเทิงแห่งหนึ่งแล้วทักทายลูกน้อง “อ้าวมินท์ สวัสดีจ้ะ”

“ข้อมูลของฝ่ายสถิติที่พี่เปิ้ลให้มิ้นท์ไปแยกข้อมูล มิ้นท์ทำเสร็จแล้วนะคะ พี่เปิ้ลจะดูเลยหรือเปล่า”

“เสร็จแล้วเหรอ เร็วดีจัง พี่เพิ่งให้งานไปเมื่อสองวันเอง แต่เดี๋ยวก่อนก็ได้นะ ตอนนี้ยังไม่เข้างานเลย” หัวหน้าบอก ทำให้มทิราที่กำลังจะยื่นแฟ้มงานให้ต้องชะงักมือ

“ไม่ต้องรีบหรอกมินท์ เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง กินอะไรก่อนมั้ย พี่ซื้อขนมมาด้วย กินสิ” เปิ้ลชวน

“ไม่เป็นไรค่ะ มิ้นท์กินมาเรียบร้อยแล้ว งานนี้มินท์วางไว้ที่โต๊ะพี่เปิ้ลแล้วกันนะคะ” มทิราบอกแล้ววางแฟ้มที่มุมโต๊ะ ขณะที่เปิ้ลพยักหน้ารับและหันไปสนใจข่าวดาราเลิกกันในจอคอมต่อ

มทิราลอบถอนใจโดยไม่ให้หัวหน้าเห็นก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานพร้อมดึงแฟ้มในตะกร้ามาเปิดดู เป็นงานที่ค้างจากเมื่อวานซึ่งเธอตั้งใจจะทำให้เสร็จในวันนี้

เปิ้ลโผล่หน้าจากคอมมามองลูกน้องแล้วยิ้มให้กับความขยันแบบเกินร้อยของลูกน้อง มทิราเป็นคนตั้งใจทำงานและขยันมากจนน่าตกใจ เธอได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นถึงสามปีซ้อน หรือนับตั้งแต่เข้าทำงานครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน

ข้อดีของมทิราคือความตั้งใจและทุ่มเทให้กับงานแบบไม่มีบ่น ต่อให้ต้องทำงานคนเดียวขณะที่คนอื่นนั่งเล่น เธอก็ไม่เคยคิดด่าหรือว่า และข้อดีแบบสุดๆ ก็คือ เธอเป็นคนพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อด้วยความเต็มใจและไม่เคยมีใครได้ยินมทิรา เอาเพื่อนร่วมงานไปบ่นหรือนินทาเลย และนอกจากจะไม่บ่นแล้ว บางครั้งยังช่วยพูดแก้ต่างให้อีกต่างหาก ทำให้เธอเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในแผนกและทุกคนที่ได้ร่วมงานด้วย

แต่เมื่อมีข้อดีแล้วก็ย่อมมีข้อเสียเป็นธรรมดา ข้อเสียของเธอมีเพียงอย่างเดียวคือ ความเคร่งเครียดขณะทำงาน เธอไม่ยิ้มค่อยหรือพูดเล่นกับใครนัก ทำให้ดูเป็นคนไม่สนุกสนาน และดูเป็นผู้ใหญ่เกินโต บางครั้งเปิ้ลยังนึกเกรงใจลูกน้องคนนี้ และไม่ใช่แค่เปิ้ล หลายคนที่รู้จักก็ไม่กล้าพูดเล่นหรือล้อเล่นกับเธอ

แปดโมงยี่สิบนาที ประตูห้องทำงานก็เปิดอีกครั้งพร้อมด้วยพนักงานหญิงหุ่นดีท่าทางคล่องแคล่วไม่ผิดกับมทิราเดินเข้ามา

“สวัสดีค่ะพี่เปิ้ล มินท์” เธอทักพร้อมวางขของบนโต๊ะ

“ดีจ้ะส้มโอ หอบอะไรมาเยอะเลย” มทิราเอ่ยถาม

“ส้มโอจากที่บ้านจ้ะ หวานอมเปรี้ยวสดใหม่ไม่แพ้ลูกสาวเจ้าของสวนนะจ๊ะ” ส้มโอโฆษณาสุดฤทธิ์พร้อมแจกจ่ายผลไม้ที่ตนแสนภูมิใจ

“พ่อเล่าว่าตอนที่ส้มเกิด สวนของเราขายส้มโอได้เยอะที่สุดเท่าที่เคยขายมาเลยนะ พ่อก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะให้ลูกที่กำลังจะเกิดว่าส้มโอ” เธอเล่าประวัติชื่อตัวเอง

“จ้ะ ส้มบอกพี่แล้ว เอามากี่ทีก็บอกตลอด” เปิ้ลว่า ขณะที่ส้มโอยิ้มกว้าง

“แหมพี่เปิ้ล ให้ส้มพรีเซ็นต์ตัวเองหน่อยสิคะ แล้วชื่อพี่เปิ้ลล่ะคะ ที่บ้านขายแอปเปิ้ลหรือว่าแม่ชอบกินแอปเปิ้ลตอนท้องคะ”

“ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แม่พี่อยากให้ลูกชื่อฝรั่งก็เลยตั้งว่าเปิ้ล” หัวหน้างานตอบ เปิ้ลหัวเราะเสียงดัง มทิราแค่ยิ้มบางๆ

“มิ้นท์ล่ะ แม่ชอบกินเปปเปอร์มิ้นท์หรืออยากให้ลูกปากหอมเหมือนใบมิ้นท์”

“ไม่ใช่จ้ะ เพราะมิ้นท์มีพี่ชื่อหมอก แม่เลยตั้งชื่อว่ามิ้นท์ อีกอย่างคือมันคล้องกับชื่อจริงด้วย”

“มทิรา มิ้นท์ เข้าท่าๆ แม่มิ้นท์ช่างคิดจัง” ส้มโอชม

“ขอบใจจ้ะ” มทิรายิ้มก่อนหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ

ประตูห้องเปิดอีกครั้งในช่วงแปดโมงครึ่งพอดิบพอดีพร้อมด้วยชายร่างสูงโปร่ง หน้าตาดีเดินเข้ามา

“สวัสดีครับทุกคน” เขาเอ่ยทัก

“ดีจ้ะแม็ค รู้งานเหมือนกันนะเนี่ย มาถึงแปดโมงครึ่งพอดีเลย”

“ผมมาตั้งแต่แปดโมงนิดๆ แล้วครับ ก่อนส้มซะอีกแต่ผมแวะที่ห้องกาแฟก่อน”

“แหมๆ แก้ตัวเชียวนะ ส้มแค่แซวเล่นเอง นี่ๆ เรากำลังคุยถึงเรื่องที่มาของชื่อเล่นกันอยู่ ชื่อส้มมาจากส้มโอที่บ้าน พี่เปิ้ลมาจากแม่อยากตั้งชื่อลูกเป็นฝรั่ง มินท์มาจากชื่อจริงและตั้งให้คล้องกับพี่ชาย แล้วแม็คล่ะ มาจากอะไร”

“มาจากตอนที่แม่แพ้ท้อง แม่กินแม็คทุกวันน่ะสิ โดยเฉพาะเฟรนช์ฟรายส์ของแม็ค แม่ซื้อมากินวันละสองกล่องตลอดเลย พ่อซื้อมาทอดเองก็ไม่เอา จนพ่อต้องแอบไปทอดเองแล้วเอากล่องเฟรนช์ฟรายส์มาใส่ แม่กลับกินได้สบาย สรุปแล้วแม่บ้ายี่ห้อ พ่อเลยตั้งชื่อว่าแม็ค”

ส้มโอกับพี่เปิ้ลหัวเราะชอบใจเมื่อฟังจบ ขณะที่มทิราแค่ยิ้มๆ

“มีประวัติที่น่าสนใจมาก แต่เอ...รู้สึกว่าแม็คจะไม่ชอบกิน เฟรนช์ฟรายส์นี่ ความจริงน่าจะชอบนะ” ส้มโอสงสัย

“สงสัยคงจะเบื่อ” พี่เปิ้ลเดา

“ถูกพี่ มันฝรั่งผมก็ไม่กินนะ ไม่กินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว” แม็คบอก สองสาวหัวเราะพร้อมกันอีกครั้ง มทิรายังแค่ยิ้มเช่นเดิม


“เอาละๆ คุยเล่นมาเยอะแล้ว เรามาทำงานกันดีกว่า เลยมาสิบนาทีแล้ว นี่ มิ้นท์ส่งคอนเซปส์เครื่องดื่มตัวใหม่มาให้พี่แล้วนะ” เปิ้ลบอกพร้อมหยิบแฟ้มมาดู เมื่อนั้นเวลางานจึงเริ่มต้น





ประมาณสิบโมงกว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก็มาเยือนฝ่ายการตลาดพร้อมด้วยเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาใบหน้าละอ่อน

“ยุ่งกันอยู่ไหมเอ่ย”

“ไม่ค่ะพี่น้อง มีอะไรคะ” เปิ้ลถาม

“พี่เอาเด็กฝึกงานมาฝากจ้ะ ที่เคยแจ้งกับเปิ้ลไง จำได้ไหม” น้องทวน

“จำได้ค่ะ อ้าว มาวันนี้หรือคะ เปิ้ลคิดว่าอาทิตย์หน้าเสียอีก”

“วันนี้จ้ะ เปลี่ยนแผนนิดหน่อย เอ๊ะ พี่บอกเปิ้ลหรือยัง” น้องทำหน้านึกๆ

“ยังค่ะ”

“อ้าวเหรอ เอาเถอะ จะวันนี้หรืออาทิตย์หน้าก็เหมือนกันนั่นแหละ โทษทีนะ พี่งานเยอะน่ะ ทางมหาลัยเขาแจ้งเปลี่ยนมาช่วงปลายเดือน ช่วงนั้นพี่พักร้อนไป เลยมั่วๆ กันอยู่ เปิ้ลไม่ว่าพี่นะ”

“ไม่หรอกพี่ เข้ามาก่อนค่ะ” หัวหน้าฝ่ายการตลาดเชื้อเชิญแล้วยิ้มให้เด็กฝึกงานอย่างเป็นมิตร

“นี่น้องศุภรุจ น้องจะมาฝึกงานกับแผนกนี้เป็นเวลาสามเดือน ยังไง เดี๋ยวแนะนำตัวกันเลยนะ ถ้ามีอะไรก็ถามพี่เปิ้ลเขาได้ เขาเก๋าเกมและอยู่มานานแล้ว” น้องพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกจากห้อง

“แนะนำตัวหน่อยจ้ะ ประวัติของน้องพี่เอาไปไว้ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้” เปิ้ลบอก

“ผมชื่อศุภรุจครับ จะเรียกว่ารุจก็ได้ เรียนด้านการตลาดครับ”

“ทำไมถึงเลือกมาฝึกส่วนวิเคราะห์แผนงานล่ะ” หัวหน้าฝ่ายถาม

“เพราะผมเรียนเอกการตลาดมาโดยตรงครับและทางอาจารย์ที่ปรึกษาก็แนะนำให้ฝึกในส่วนวิเคราะห์แผนงานครับ” เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานมั่นใจ

“บุคลิกของน้องได้เลยนะแต่จะทำในตำแหน่งนี้ได้หรือเปล่า คงต้องมาฝึกกันอีกที เอาละ นั่งตรงไหนดี พี่ไม่ได้จัดอะไรไว้ให้เลย” เปิ้ลบอกแล้วหันซ้ายมองขวาก่อนเห็นโต๊ะกลางที่อยู่ติดกับโต๊ะของมทิราเรียบร้อยกว่าโต๊ะอื่นๆ จึงชี้มือบอก

“รุจนั่งตรงนั้นแล้วกัน นั่นพี่มิ้นท์ เป็นนักการตลาดที่เก่งมาก วิเคราะห์งานได้แตกละเอียดยิบ”

“พี่เปิ้ลชมเกินไปแล้วค่ะ” มทิราเอ่ยแต่ก็ก้มศีรษะรับ เธอยิ้มให้ศุภรุจแล้วเลื่อนตะกร้าแฟ้มกับกล่องขนาดบางส่วนไปไว้มุมหนึ่ง

“ส่วนนั่นพี่แม็คและพี่ส้มโอ ส่วนพี่เป็นหัวหน้าส่วนชื่อเปิ้ล ส่วนงานเราก็เล็กๆ แบบนี้แหละ” เปิ้ลบอกรวมๆ

“ยินดีที่ได้รู้จักพี่ๆ ทุกคนครับและหวังว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดีนะครับ”

“แน่นอนจ้ะ รุจนั่งใกล้ๆ พี่มิ้นท์รับรองว่าต้องเก่งแน่ๆ เพราะพี่มินท์เป็นคนเก่ง แต่ระวังไว้หน่อยนะ พี่เขาค่อนข้างบ้าพลังน่ะ” ส้มโอบอกแล้วหัวเราะ

“ดีครับ ผมอยากเรียนรู้งานให้ได้เยอะๆ” เขาเห็นดีเห็นงามด้วย

“นั่นไง ยังไม่ทันไรก็เข้าคู่กันแล้ว” ส้มพูดแบบเซ็งๆ แบบไม่จริงจัง ขณะที่เปิ้ลส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของลูกน้อง

ลูกน้องของเธอมีหลายประเภท ถือเป็นทีมงานที่มีส่วนผสมหลากหลายแต่ลงตัว หากให้ทุกคนจริงจังไปหมดเหมือนมทิรา บรรยากาศการทำงานคงเครียดน่าดู แต่ถ้าจะให้ทุกคนเล่นๆ สนุกครื้นเครงเหมือนส้มโอ การทำงานคงดูไม่น่าเชื่อถือกันพอดี

“ยังไงพี่ฝากมิ้นท์สอนน้องเขาไปพลางๆ ก่อนนะ แล้วช่วงบ่ายพี่จะหางานให้เขาเอง”

“ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคำ จากนั้นการคุยเล่นจึงสิ้นสุด แต่ละคนหันกลับไปทำงานของตนต่อ

ศุภรุจลอบมองการทำงานของแต่ละคนด้วยความสนใจและสังเกต เปิ้ลกำลังจดจ่อกับแฟ้มสองแฟ้มตรงหน้า เขาเห็นเธอขมวดคิ้วและหายใจเข้าหลายครั้งคลายไม่เข้าใจหรือขัดใจกับข้อมูลที่กำลังดู จากนั้นเขาก็หันไปสนใจแม็ค ที่กำลังลงข้อมูลบางอย่างใส่กระดาษเล่มหนาพร้อมกันนั้นก็กดเครื่องคิดมือเป็นระวิงควบคู่กันไปด้วย ขณะที่ส้มโอกำลังย้ายข้อมูลจากกระดาษไปสู่คอม สีหน้าเล่นๆ รอยยิ้มสดใส บัดนี้เปลี่ยนเป็นจริงจังและขรึมขึ้น ผิดไปเป็นคนละคนเลย

เขาหันมาสนใจคนข้างตัวบ้าง มทิรากำลัง่วนอยู่หน้าคอม เธอคลิกเม้าส์สลับพิมพ์ข้อความสั้นๆ ลงไป ชายหนุ่มเอนตัวเพื่อมองและเห็นตารางยาวเป็นแถวชวนให้ปวดหัว

“พี่ทำอะไรหรือครับ” เขาถามเสียงเบาแบบเกรงใจ

“ลงข้อมูลอยู่ค่ะ ข้อมูลอันนี้ฝ่ายสถิติและวิจัยไปเก็บข้อมูลมาให้ เราก็มีหน้าที่เก็บไว้และวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อทำแผนงานเสนอให้ฝ่ายการตลาดส่วนประชาสัมพันธ์และส่วนส่งเสริมการขาย” เธออธิบาย

“มีหลายส่วนจังนะครับ”

“ใช่ และทุกส่วนต้องทำงานประสานกันด้วยนะ ไม่งั้นงานจะช้า”

“แล้วทำไมไม่นั่งด้วยกันล่ะครับ นั่งแยกเป็นห้องใครห้องมันแบบนี้ จะทำงานประสานกันได้ยังไงครับ” เขาสงสัย

“ได้สิ ถึงเราจะแยกห้องเป็นส่วนๆ แต่ก็อยู่ใกล้ๆ กัน มีอะไรสงสัยก็เดินไปที่ห้องของส่วนงานนั้น จริงๆ เมื่อก่อนก็นั่งรวมกันนั่นแหละ แต่เสียงมันดังและไม่เป็นส่วนตัว หลายคนเลยเสนอให้กั้นห้อง ก็ดีนะ เป็นสัดส่วนดี”

“จริงด้วยครับ ทำงานเงียบๆ ทำให้เรามีสมาธิเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าเป็นข้อมูลตัวเลขยิ่งต้องใช้สมาธิมากๆ” ศุภรุจเห็นด้วย

“แล้วรุจชอบหรือเปล่า วันๆ ต้องมานั่งกรอกข้อมูลแบบนี้” มทิราถาม

“ไม่ถึงกับชอบแต่ผมทำได้ครับ เพราะข้อมูลพวกนี้ช่วยให้เราวางแผนได้ง่ายขึ้น ถึงไม่ชอบก็ต้องชอบครับ”

“ถูกต้อง ตอนนี้รุจนั่งไปก่อนนะ พี่กำลังติดพันกับข้อมูล เดี๋ยวช่วงบ่ายรุจก็จะมีงานทำแล้วละ” หญิงสาวตัดบท ศุภรุจพยักหน้าแล้วยิ้มเก้อ มทิรากลับไปทำงานต่อ ทำให้เขาต้องมองไปรอบห้องเพื่อสำรวจอีกครั้ง และเห็นนิตยสารหลายเล่มวางอยู่ เขาหยิบมาอ่านฆ่าเวลาไปพลางๆ



หลังเที่ยง ทีมงานส่วนวิเคราะห์แผนงานก็เริ่มว่างๆ กันบ้าง งานของแต่ละคนคืบหน้าไปมาก เปิ้ลมอบหมายให้มทิราเป็นคนสอนงานเด็กใหม่ เพราะศุภรุจนั่งใกล้เธอ และหัวหน้าเล็งเห็นแล้วว่าให้มทิราสอนดูจะได้เนื้อได้หนังมากกว่าส้มโอหรือแม็ค

“โต๊ะตัวนี้ใครนั่งหรือครับ” เด็กหนุ่มถาม

“ไม่มีจ้ะ เราใช้เป็นโต๊ะกลางวางของ ทั้งเอกสารทั้งของกินก็จะมาวางตรงนี้”

“ผมคิดว่าเป็นโต๊ะของพี่มิ้นท์ซะอีก”

“พี่ไม่เก่งถึงขนาดใช้โต๊ะทำงานสองตัวหรอก” เธอบอกเสียงเรียบๆ

“จริงๆ ก็เป็นโต๊ะส่วนขยายของพี่มิ้นท์เขานั่นแหละและที่เราเอาโต๊ะไปวางตรงนั้น เพราะถ้าวางใกล้โต๊ะคนอื่น มันคงรกและคงดูไม่ได้แน่ๆ พวกเราเลยเลือกตั้งตรงนั้นให้พี่มิ้นท์ให้วางของและดูแลโต๊ะ” ส้มโอบอก เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ มทิราไม่ได้พูดอะไร

“วันนี้รุจคงได้รู้ขอบข่ายของงานก่อน แล้วพรุ่งนี้พี่จะสอนกรอกข้อมูลลงคอม” มทิราเข้าเรื่องงานต่อ ทำให้ส้มโอต้องล่าถอยกลับไปที่โต๊ะตัวเอง

ศุภรุจค่อนข้างเกร็งขณะฟังหญิงสาวอธิบายงาน เสียงของเธอหวาน ไพเราะ น่าฟัง ผิดกับใบหน้าที่เรียบเฉย จนเขาไม่แน่ใจว่าเธอไม่พอใจที่ต้องสอนงานเขาหรือเปล่า แต่ดูจากท่าทางแล้ว คงไม่ใช่ เพราะถ้าไม่อยากสอนคงไม่บอกละเอียดยิบแบบนี้




กระทั่งหมดเวลางาน มทิราก็เก็บโต๊ะของเธออย่างเรียบร้อยและทำงานเกินเวลาไปเกือบสิบนาที ขณะที่เพื่อนร่วมงานเริ่มทยอยกันกลับ ศุภรุจทำตัวไม่ถูกว่าจะเดินออกจากห้องไปพร้อมคนอื่นหรือจะออกไปพร้อมพี่เลี้ยงของเขาดี ขณะที่กำลังตัดสินไม่ถูกอยู่นั้น แม็คก็เดินเข้ามาตบบ่าและชวนเขาออกไปพร้อมกัน เด็กหนุ่มพยักหน้ารับและเอ่ยลามทิราก่อนเดินออกไป

“ดูพี่มิ้นท์เขาเครียดๆ เวลาทำงานนะครับ” ศุภรุจเอ่ยระหว่างเดินออกจากอาคาร

“เขาก็เป็นแบบนี้แหละ รู้ป่ะเขาได้พนักงานดีเด่นถึงสามปีซ้อนเลยนะ แต่เขาแค่ตั้งใจไม่ได้เครียดอะไรหรอก”

“อายุเท่าไหร่หรือครับ ผมเห็นพี่เปิ้ลกับพี่ส้มโอดูจะเกรงใจพี่มิ้นท์พอสมควร”

“ยี่สิบห้าเท่าส้ม อ่อนว่าพี่ปีเดียว จริงๆ พี่ก็เกรงๆ มินท์เหมือนกันนะ เขาไม่ค่อยพูดเล่นกับใครนัก ดูตอนที่ส้มแซวสิ แป้ก ตลอดเพราะมิ้นท์ไม่เล่นด้วย” แม็คพูดแล้วหัวเราะขำเพื่อน

“ยี่สิบห้าหรือครับ แสดงว่าปีแรกที่พี่มิ้นท์เข้ามาก็ได้พนักงานดีเด่นเลยใช่ไหมครับ อายุยังน้อยอยู่เลย ผมคิดว่าจะสามสิบแล้วซะอีก”

“เฮ้ย!” แม็คร้องแล้วหัวเราะ “อย่าพูดให้มิ้นท์ได้ยินนะ ไม่งั้นโดนโกรธตาย หาว่าเขาหน้าแก่”

“ไม่ใช่ครับ จริงๆ แล้วพี่มิ้นท์หน้าเด็กกว่าอายุจริงด้วยซ้ำ แต่พี่มิ้นท์ไม่ค่อยยิ้มและวางตัวเป็นผู้ใหญ่มาก ทำให้ผมคิดว่าอายุเยอะแล้ว เลยไม่ค่อยพูดเล่นกับใคร”

“มิ้นท์เขาก็เป็นแบบนี้แหละ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปคุยเล่นได้ ขอความช่วยเหลือได้ เพื่อนร่วมงานทุกคนรักมิ้นท์กันทั้งนั้น” แม็คสรุปให้ ระหว่างนั้นคนที่เป็นหัวข้อสนทนาก็เดินออกจากห้อง เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ มีรอยยิ้มน้อยๆ แตะแต้มบนใบหน้า

ใครกันทำให้เธอยิ้มแบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นคนสำคัญ...ศุภรุจชักอย่างรู้

เขาชะลอฝีเท้าเพื่อให้มทิราเดินมาทัน และได้ยินเธอพูดนิดหน่อย

“มิ้นท์กำลังจะกลับแล้ว ปอจะกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวมิ้นท์ซื้อไปให้” เธอถามปลายทาง “โอเคจ้ะ แล้วเจอกันนะ” เธอบอกเสียงใสก่อนวางสายแล้วรีบตรงไปที่รถยนต์ส่วนตัว

“เวลาคุยกับแฟนละยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พออยู่กับเพื่อนร่วมงานทำเป็นขรึม แต่ก็อย่างว่า แฟนเขาไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน พอกลับมาก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา” แม็คบอกแล้วเลี่ยงไปอีกทาง ซึ่งรถของเขาจอดอยู่

“รุจจะกลับยังไง บ้านอยู่แถวไหน กลับกับพี่ไหม”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมรอเพื่อนที่อยู่แผนกอื่นก่อน”

“งั้นพี่กลับก่อน”

“ครับพี่แม็ค เจอกันพรุ่งนี้ครับ” เด็กหนุ่มลาแล้วยกมือไหว้ แม็คยกมือรับก่อนแยกกันตรงนั้น

ศุภรุจหันไปมองซองจอดที่รถของมทิราเคยอยู่ สีหน้าของเขาสลดลงและรู้สึกอิจฉาคนรักของมทิราที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ขนาดเขาเห็นแค่บางๆ ก็รู้แล้วว่าหากเธอยิ้มเต็มหน้า ต้องสวยและน่ามองมาก มทิราเป็นคนสวยหวาน รอยยิ้มของเธอก็หวานไม่แพ้ใบหน้า น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยได้เห็น

สักวัน...เขาจะทำให้เธอยิ้มแบบนั้นกับเขาให้ได้ ศุภรุจตั้งความหวัง


.......................................


เรื่องใหม่กำลังจะเป็นอีบุ๊กเร็วๆ นี้ค่ะ



Create Date : 19 มกราคม 2559
Last Update : 19 มกราคม 2559 21:44:19 น. 0 comments
Counter : 593 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นักเขียนสีเทา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]








ผลงานที่เว็บอีบุ๊กส์ :






. . . . . . . . . . . .


ผลงานทั้งหมดที่เว็บเมพ :



[Add นักเขียนสีเทา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com