DJ BOOBOO TALK 2 MAY 09 ขอบคุณที่มาเยี่ยม บล๊อคนี้เขียนยาวย๊าวยาว

สำหรับคนที่ใช้พวกเว็บเพลงพวก Imeem หรืออีกหลายแห่งคงเซ็งกันแบบเรามั่งแหละครับ ตอนนี้ พวกโค๊ดเพลงที่เราเอามาแปะไว้ที่บล๊อคหรือเว็บนี่ถ้าเป็นเพลงลิขสิทธิ์จะฟังไม่ได้หรือถูกลบ(ส่วนใหญ่จะถูกลบเค้าตามลบจากชื่อศิลปินในค่ายชื่อเพลง ชื่ออัลบั้ม อาจมีบางค่ายที่ไม่ได้มีคนเข้ามาตรวจสอบ หรือเพลงที่มีการเปลี่ยนชื่อไฟล์ ชื่อเพลง แล้วตรวจจับไม่พบ) ไปดูบล๊อคเก่าๆ เพลงมันโดนลบไปหมด เซ็งเป็ดเหมือนกัน

จริงๆ ก็ยังฟังได้แต่ต้องคลิกต่อเข้าไปฟังในเว็บของเค้า เท่านั้นเอง แต่ในโลกอินเตอร์เน็ทแล้วดูยุ่งยากไป หรือถ้าเอาแบบธุรกิจ เขาบอกว่า ถ้าคนเข้ามาในเว็บคุณ ภายใน 8 วิ แล้วไม่พบสิ่งที่ต้องการ เขาก็จะออกไปเลย (แม้แค่คลิกเพิ่มอีกทีเดียว)

ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงนี่ก็แล้วแต่มุมมองนะครับ อย่างปีก่อนค่ายเพลงยักษ์เมืองไทยก็ห้ามเอาเพลงมาติดที่บล๊อค อย่างพวกเว็บอย่าง Imeem หรือ Youtube นี่ตอนหลังพวกศิลปินก็จะมี Channel ของตัวเองในเว็บพวกนี้เลย เวลาเรา search เขามักจะแนะนำให้ไปตามช่องทางของเขา ก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวดี แต่มันก็จะมีให้ไม่เยอะ ไม่มันส์

ในยุคหลังๆ นี่ทางศิลปินและค่ายเพลงหันมาขายเพลงแบบ Digital Download พวกเว็บพวกนี้เลยทำตัวเป็นช่องทางจำหน่ายให้เขาไปเลย ได้เงินดีด้วย ไม่ต้องมาทำตัวเป็นเว็บใต้ดินมีแต่การแชร์ การโหลด แบบผิดกฎหมายต่อไป พอทำแบบนี้แล้วก็เลยต้องช่วยกวาดล้าง วิธีการต่างๆ ที่เค้าเห็นว่า มันไม่ได้ผลประโยชน์ ทางค่ายเพลงและศิลปินบางรายอาจจะคิดว่า พวกข้า จะได้ประโยชน์อะไรกัน จากการ แชร์ ของพวกเอ็ง วะ แล้วอย่างงี้ จะให้เราเอาโค๊ดมาแปะทำแป๊ะอะไรไม่ทราบ

อย่างที่บอกว่า มันแล้วแต่มุมมอง แต่ละคนไม่ต้องซีเรียด ทางพวกbloggerหรืออย่าง dj booboo ที่เน้นเขียนเรื่องเพลงก็คงกระทบ ถึงจะบอกว่า เราเอามาใช้แบบเพื่อการศึกษา หรือ ไม่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือช่วยเป็นการแนะนำ แต่ถ้าจะว่าตามกฎหมาย เขาจะบอกว่าผิด มันก็ผิดอยู่ดีครับ
ไม่ให้เราก็ไปหาที่ใหม่ ก็เท่านั้น อาจจะต้องมุดลงดินหน่อย ไม่ต้องไปซีเรียดกับมัน เรื่องเพลงอะไรนี่ก็ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยครับ อย่างอื่นก็ควรให้ความสำคัญกว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ บางคนถามว่าซื้อซีดีครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ตอบไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ มันนานมาก

แต่ที่ไม่ค่อยชอบคือมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานขยันมากเกินไปซะเหลือเกินในเรื่องลิขสิทธิ์เพลงพวกนี้ อ่านจากในพันทิปและบล๊อคแกงเจอหลายครั้งแล้วครับที่ว่า เปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ แล้วมีเจ้าหน้าที่มาจับหรือปรับ เพราะนำเพลงเผยแพร่ในที่สาธารณะ หรือพอเข้าไปดูที่เครื่องเสียงที่เปิดไป จ๊ะเอ๋ เจอแผ่น mp3 เข้า ก็เจอปรับหนักไปอีก หรือล่าสุดมีคนที่ทำพวกเครื่องเสียงแค่เปิดเพลงลองเสียงก็เจอแบบนี้เหมือนกัน ว่าตามตัวบทกฎหมายมันผิด แต่ไม่นึกว่าจะหน้าด้านไปจับกันเรื่องแบบนี้ ที่พวกแผ่นก๊อปแผ่นเถื่อนทั้งหนังซีดี เห็นวางกันเกลื่อน มีแบบ delivery เปลี่ยนแผ่นได้ เห็นเยอะจัง

เมื่อสัก 2 ปี ก่อน วง Radioheads จาก Oxford อังกฤษ ทำฮือฮา เมื่อหมดสัญญาจากค่ายเพลงแล้ว ทำเพลงขายเองทางอินเตอร์เน็ท น่าจะชื่อชุด In The Rainbow โดยให้คนเข้ามาดาวน์โหลด ที่ฮือฮาก็คือ ฟรี คือจะฟรีหรือจะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ให้กรอกตัวเลขเอง เล่นเอาเว็บล่มเพราะคนเข้าเยอะ ผลก็คือ ทางย่านอเมริกา จ่ายเยอะสุด เพราะอเมริกันชนกับการซื้อขายผ่านเน็ทดูเป็นเรื่องปกติ แต่ทางวงคงลืมคาดเดาว่าอินเตอร์เน็ทนี่มันไปได้ทั่วโลก ทางย่านเอเชีย โหลดเยอะแต่ไม่จ่ายซะเป็นส่วนใหญ่ คงหลายอย่าง ความไม่คุ้นเคย ความน่าเชื่อถือเรื่องระบบการจ่ายเงิน อย่างคนไทยถ้าเข้าไปดาวน์โหลดแต่ไม่มีบัตรเครดิตก็จ่ายให้เขาไม่ได้ หรือ ตั้งใจไม่จ่าย เป็นที่รู้กันว่าทางย่านเอเชีย จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ มีการโกงผ่านอินเตอร์เน็ทเยอพวกแฮ๊กเกอร์หรือทำไวรัสรุ่นใหม่ก็ย่านนี้จะเป็นส่วนใหญ่มากกว่าพวกฝรั่งซะอีก




Radioheads live in BKK เมื่อปี 1995 ตอนนั้นเพิ่งมีอัลบั้มแค่ชุดเดียว พอดังแล้วไม่ยอมมาเมืองไทยเลย ซ้าย Thom E York ร้องนำ กลาง Johny Greenwood กีตาร์ เท่ห์เชียวครับ ขวาเป็นมือกลอง ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว ขออภัย
ซึ่งนั่นคิดว่าเป็นวงใหญ่วงแรกครับ ที่ทำแบบนั้น ก่อนหน้านั้นก็มีศิลปินที่ออกงานแบบ Digital Download ทั้งฟรีและเก็บเงินมาแล้ว ตอนหลังก็เลยทำกันหมด บางรายไม่ออกเป็นอัลบั้มปกติแล้วครับ ออกเป็นเพลง ๆ ไป เลิกทำอัลบั้ม dj booboo ก็มีซื้อผ่านเว็บด้วยเหมือนกันครับ มีให้เลือกทั้งแบบ mp3 หรือจะเอาแบบ 320 kbps คือขนาดเท่าไฟล์ออดิโอแบบซีดี ก็แพงกว่านิดหน่อย จะเอาเป็นเพลงหรือเป็นชุดก็ได้ ทางของไทยก็มีแต่อาจไม่สะดวกเรื่องระบบการจ่ายเงินซื้อขายผ่านเว็บ ก็เห็นเน้นขายผ่านมือถือ หรือพวก ริงโทน อะไร ขายดีเหมือนกัน

ศิลปินบางรายก็ไม่ได้มาใส่ใจเรื่องการขายผลงานซะเท่าไหร่แล้วก็มีครับ อย่างวง Dragonforce (มาเล่นเมืองไทย 2 ครั้ง) เคยอ่านเจอเขาไปเล่นในเมืองที่เขาไม่เคยไปและไม่มีขายผลงานของวง แต่ปรากฎว่าตั๋วคอนเสิร์ทขายเกลี้ยง เพราะคนติดตามพวกเขาจากเน็ท ใช่ว่าจะมีแต่ผลเสีย อย่างพวกเพลง หมีแพนด้า ผีกาก้า พวกนี้ ดังจากเน็ท เหมือนกัน หรือคุณบิลลี่ โอแกน แกทำงานชุดใหม่แบบไม่มีค่าย ก็บอกให้คนเข้าไปดาวน์โหลดฟรีเลยครับ คือ ศิลปินบางท่านอาจจะคิดว่า ถ้าชอบยังไงก็ต้องซื้อแบบที่เป็นอัลบั้ม ที่มีแพคเกจจิง มีรูป หรือ คุณภาพซีดีที่ดีกว่า เก็บไว้อยู่ดี หรือ ไปเน้น ที่การออกงาน คอนเสิร์ท ซึ่งในต่างประเทศก็ตื่นตัวกันเยอะ มีการ reunion หรือรวมตัวกันออกทัวร์กันเยอะมากในช่วงหลายปีหลังนี้

แต่ศิลปินบางรายก็ยังกวดขันกับเรื่องพวกนี้ บางทีเราเห็นศิลปินแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ไปจับพวกแผ่นผี เพราะตัวเองอุตส่าห์ แต่งเพลงแทบตาย เพลงฮิต แต่ไม่ได้อะไร หรือบางคนก็ก๊อปปี้แทบตาย อย่างเห็นมีสองครั้งที่ทางศิลปินเกาหลี มาฟ้องร้อง นักร้องไทย ก๊อปปี้เขา ทั้งเพลง ท่าเต้น MV ทำให้คิดว่า ถ้าคุณจะมาเอาจริงกับเรา คุณก็ต้องเป็น ของจริง ด้วย

พูดพร่ำมาซะยืดยาวเลยครับบล๊อคนี้ พอสรุปได้ว่า เมื่อทางศิลปินหรือค่ายเพลงหันมาเน้นขายแบบ Digital Dowdload มากขึ้น เขาก็จะคุมเข้มมากขึ้น ไม่ให้เราเอาผลงานมาใช้พร่ำเพรื่อ ครับ



เพลง why can't we be friend ร้องแค่ประโยคเดียว ของวง The Warr จากยุค 70's (มีเพลงที่เหมือนเพลงสมปองน้องสมชายที่คนพอรู้จัก)ส่วนตัวชอบเพลงที่สองคัฟเวอร์โดย Smash Mouth จากยุค 90's อัลเตอร์เนทีฟ ฟังค์ มันส์กว่าครับ

Create Date : 02 พฤษภาคม 2552
Last Update : 2 พฤษภาคม 2552 1:37:27 น.		19 comments
Counter : 711 Pageviews.
Share Tweet