Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
น้ำฝนกลางใจ (๑๕)



ไร่ไม้หนาว
ขึ้น ๑๔ ค่ำ

พ่อกับแม่ที่รัก

พ่อกับแม่สบายดีหรือเปล่าค่ะ อย่าเพิ่งน้อยใจที่ช่วงนี้ฝนไม่ได้เขียนจดหมายไปหาบ่อย ๆ นะคะ เพราะที่ผ่านมาที่ไร่ค่อนข้างมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงจ้ะ ฝนยังสบายดี และอยู่รอดปลอดภัย

ฝนยังไม่ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อเดือนที่แล้วเอกศักดิ์กับฝนขึ้นไปเจอไร่ฝิ่นที่เขาแอบปลูกอีกฟากหนึ่งของแนวเขา และกลับลงมาแจ้งตำรวจ ปรากฏว่าตำรวจสามารถจับกุมคนปลูกได้เพียงสองคน ส่วนอีกคนที่เหลือดันหนีรอดมาได้ และคงแค้นมากเลยย้อนกลับมาวางเพลิงที่ไร่เรา โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต ส่วนมากแค่เป็นรอยไหม้จากสะเก็ดไฟเท่านั้น ฝนเองก็แค่เท้าพองนิดหน่อยตอนช่วยเขาดับไฟ แต่ตอนนี้วิ่งได้เป็นปรกติแล้วค่ะ และเมื่อสองอาทิตย์ก่อนตำรวจสามารถตามจับตัวคนร้ายได้แล้ว มันกำลังหนีข้ามชายแดนจะเข้าพม่า แต่ถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียก่อนเพราะเกิดต่อสู้กันขึ้น

ไฟไหม้คราวนี้ทำให้ไร่เราเสียหายค่อนข้างมาก เลยต้องเร่งปลูกไม้ผลกันใหม่เพื่อทดแทนที่เสียไป แต่พ่อเลี้ยงกัณฑ์และคุณกุสุมาเจ้าของไร่ข้าง ๆ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือในเรื่องผลผลิตไม้ผลที่เราไม่สามารถส่งได้ครบในปีนี้ และยังส่งคนงานมาช่วยปรับพื้นที่และลงต้นไม้ใหม่ ความมีน้ำใจและมิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ เลยค่ะโดยเฉพาะในป่าในดอยแบบนี้

นอกจากเรื่องเครียดแล้ว ฝนยังมีเรื่องเที่ยวเล่นสนุกมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังด้วยเหมือนกันค่ะ เมื่อวันก่อนเอกศักดิ์พาไปเที่ยวและค้างคืนในหมู่บ้านชาวปะกากะยอประมาณสี่ห้าคืน เดินทางเข้าไปลำบากมาก เพราะทางทั้งไกลและชัน พวกเราพากันไปขออาศัยนอนบ้านพ่อหลวง หมู่บ้านของเขาอยู่บนยอดดอย มองออกไปโดยรอบจะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน ยิ่งตอนนี้ข้าวที่ชาวเขาปลูกกำลังออกรวงสีเหลืองทองปลิวไสวไปทั้งหุบโดยเฉพาะช่วงแดดผีตากผ้าอ้อมเวลาพระอาทิตย์ตกดินเหมือนกับอยู่บนสวรรค์เลยค่ะ

ในหมู่บ้านมีโรงเรียนระดับชั้นประถม อนามัย และป่าช้าเป็นของตัวเอง เห็นมีแผงพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย แต่ได้ใช้ประโยชน์น้อยมาก เพราะชาวบ้านเขายังใช้เทียนหรือตะเกียงแทนไฟฟ้า หรือถ้าหุงหาอาหารก็ใช้ฟืนและไต้ และโดยมากเขาไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไร สำหรับน้ำที่ใช้มีประปาภูเขาต่อท่อมาถึงบ้าน น้ำทั้งแรงทั้งใสเย็น ส่วนเรื่องศาสนาผู้เฒ่าผู้แก่ที่นี่จะนับถือผี แต่เด็กรุ่นใหม่เริ่มหันมานับถือศาสนาคริสต์ตามที่มีหมอสอนศาสนามาเผยแพร่

เท่าที่เดินเล่นในหมู่บ้าน จะเห็นดอกกล้วยไม้แวนด้าแขวนไว้ตามชายคาบ้าน สีฟ้าของดอกขนาดใหญ่ตัดกับสีของท้องฟ้าสวยจับตา แล้วยังมีดอกเสี้ยนฝรั่งสีชมพูสวยหวานจับใจ บางบ้านเลี้ยงหมูบ้านตัวดำ ๆ เล็ก ๆ ปล่อยให้วิ่งไปวิ่งมารอบ ๆ น่ารักน่าชังดีแท้ มองเข้าไปในบ้านบางหลังเห็นเขาเก็บฝักข้าวโพดไว้เต็มบ้านเพื่อเอาไว้เลี้ยงสัตว์ ส่วนใต้ถุนเขาจะมีครกกระเดื่องสำหรับตำข้าว ฝนอาสาเหยียบตำดูบ้าง แต่ก็สู้แรงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ไม่ได้ เขาจะตำจนเปลือกร่อนและเอามาใส่กระด้งฟัดเปลือกออกอีกที ขอลองหัดฟัดข้าวดูบ้างแต่ก็ไม่ได้เรื่อง แกลบติดเต็มหัวเต็มหูเลย

เรื่องอาหารการกินเขากินกันง่าย ๆ ส่วนมากจะเป็นข้าวกับผักที่ปลูกกันเองหรือไม่ก็ของป่า ตอนเย็นที่ไปถึงยังได้กินยอดฟักทอง เพิ่งเคยได้กินที่นี่เอง
แล้วยังได้กินฝรั่งขี้นกด้วย เดี๋ยวนี้หาไม่เห็นแล้วในกรุงเทพ จำได้ว่าเคยกินตอนเด็ก ๆ มาได้กินที่นี่อีกทีดีใจจังจ้ะ

ถ้าคืนไหนชาวบ้านออกไปล่าหมูป่ามาได้ เขาจะแบ่งเนื้อกันกิน กับข้าวก็จะพิเศษขึ้นไปอีกนิด พ่อกับแม่เชื่อมั้ยค่ะว่าแม้แต่ไข่ที่เป็นอาหารพื้น ๆ ของเรา แต่ที่นี่เขาจะถือว่าเป็นของมีค่าและไม่นำมาทำอาหารเพราะอยากจะปล่อยให้มันฟักเป็นตัวไว้เลี้ยงแทน

ส่วนตอนกลางคืนที่นี่บรรยากาศมืดสนิทและเงียบเสียจนได้ยินเสียงหายใจตัวเองและคนนอนข้าง ๆ ชาวบ้านเขาจะกินข้าวอาบน้ำให้เสร็จก่อนพลบค่ำ เพราะพอมืดก็จะพากันเข้านอน แต่เด็ก ๆ จะจุดเทียนอ่านหนังสือก่อนนอน ฝนได้ยินน้อง ๆ ท่องหนังสือกันแล้วน่ารักจัง คิดถึงตอนตัวเองเป็นเด็ก แต่น้อง ๆ ที่นี่ขยันกว่าเยอะเลย เพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านสารพัด พอก่อนพระอาทิตย์ขึ้นพวกเขาจะลุกขึ้นเตรียมตัวหุงหาอาหาร ควันไฟและความร้อนจากเตาช่วยไล่ความหนาวเย็นของละอองหมอกที่ปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขาได้อย่างดี (แต่ก็ยังหนาวมากสำหรับฝนจ้ะ)

มาอยู่ที่นี่หลายวัน พวกเราพากันเดินเที่ยวขึ้น ๆ ลง ๆ เขาโน้นเขานี้สำรวจบริเวณไปทั่ว แต่เดินบนดอยนี่มันลำบากจัง ทั้งสูงทั้งชัน ยังสงสัยว่าชาวบ้านเขาเดินกันได้ยังไง นั่งมองแล้วภูเขาแถบนี้มีความลาดชันไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าองศา แถมพวกเขาไม่แค่เดินธรรมดาด้วยนะ ยังทำการเกษตรบนพื้นที่ชัน ๆ อย่างนั้นแหละ เคยถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพื้นที่ลาดชันเท่าไหร่ถึงจะขึ้นไปเพาะปลูกไม่ได้ พวกเขาบอกว่าถ้าเดินขึ้นไม่ไหวก็ไม่ทำ ก็จริงของเขาเนอะ ถ้าเป็นเราคงไม่ทำเลยเพราะแค่เดินก็ไม่รอดแล้ว เวลาฝนเดินลำตัวแถบขนานกับพื้นเลย กลัวกลิ้งตกเขาจ้ะ

ตอนเช้าวันหนึ่งเคยขอตามชาวบ้านเดินเข้าป่าลงไปยังลำธารตอนล่างเพื่อไปหาปลา ตอนแรกถามเขาว่าไกลมั้ย เขาบอกว่าไม่ไกล แต่ปรากฏว่าเดินตั้งเกือบครึ่งวันแล้วยังไม่ถึง หิวข้าวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย ทางก็ชัน ทากก็เยอะ แต่พอลงไปถึงแล้วค่อยยังชั่วหน่อย ภาพกระท่อมปลายนาขั้นบันไดสีเขียวสดเชิงเขาและลำธารน้ำเต็มตลิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้นึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ขากลับต้องอาศัยเอกศักดิ์ให้ช่วยลากขึ้นเขากลับมาด้วย ทั้งหมดแรงทั้งตาลายพลอยเห็นทางข้างหน้าเป็นทางออกอยู่เรื่อย วันรุ่งขึ้นชาวบ้านดันมาชวนอีกว่าจะลงไปลำธารกับเขาอีกมั้ย ฝนงี้ส่ายหน้าแทบไม่ทันเลยจ้ะ

ฝนขอให้น้องสาวที่นี่ช่วยทอชุดประจำเผ่าให้ด้วยค่ะ เป็นชุดยาวกรอมเท้าสีขาว มีลายน้อย ๆ ทอด้วยด้ายสลับสีตรงเอวและปลายผ้า ด้วยความเห่อเลยใส่ชุดนี้เดินฉุยฉายอยู่ในหมู่บ้านทั้งวัน เพิ่งได้ความรู้ใหม่ว่าชุดสีขาวเป็นชุดสำหรับหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน ส่วนชุดสีดำจะเป็นของหญิงที่มีครอบครัวแล้ว

กลับจากหมู่บ้านปะกากะยอคราวนี้ฝนได้รอยกัดแดง ๆ ของหมัดมาเป็นของที่ระลึกเต็มตัวเลย คันและเป็นแผลเป็นไปหลายวัน แต่ก็ไม่เข็ดหรอกนะคะ เมื่อเทียบกับบรรยากาศที่น่ารักน่าประทับใจและน้ำใจไมตรีของพวกเขา ถ้ามีโอกาสจะขอให้เอกศักดิ์พาไปเยี่ยมชาวบ้านอีกแน่ ๆ ค่ะ

พ่อแม่จ๋า ฝนมีอีกเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ ลูกสาวพ่อกับแม่กำลังมีความรักค่ะ ฝนเคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่รักใครอีก แต่แล้วก็แพ้ความดีของเขาค่ะ พ่อกับแม่โล่งใจหรือเปล่าเอ่ยที่ฝนมีทีท่าว่าจะขายออก ตอนนี้เกือบทุกคนในไร่ล้อใหญ่เลยว่าผู้จัดการไร่ของพ่อเลี้ยงเป็นน้ำฝนที่มาละลายน้ำแข็งบนยอดดอย เลยยิ่งต้องระวังตัวอยู่ห่าง ๆ เขาไว้ เดี๋ยวจะโดนล้อมากกว่านี้ แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ลูกสาวพ่อกับแม่จะไม่ประพฤติตัวให้พ่อกับแม่หนักใจ และเอกศักดิ์เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่หักหานน้ำใจฝน เพียงแต่บางครั้งเขาก็แอบกอดและหอมบ้างค่ะ

ดึกมากแล้ว ฝนคงต้องไปนอนก่อน ขอหอมพ่อกับแม่แรง ๆ ก่อนนอนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

รักและคิดถึงที่สุดเลย
น้ำฝน

ปล คิดถึงดุกดิกด้วยค่ะ ป่านนี้มันอ้วนขึ้นมากหรือเปล่าจ้ะ





Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 19:11:19 น. 0 comments
Counter : 240 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.