Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
น้ำฝนกลางใจ (๙)



ค่ำคืนสว่างไสวด้วยไฟหลากสีประดับอยู่ตามแนวไม้ประกอบกับเสียงเพลงบรรเลงที่ดังแว่วมาจากเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ภายในไร่กุสุมาทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงครึกครื้นน่ารื่นรมย์ ผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาร่วมอวยพรวันเกิดเจ้าของไร่หนุ่มล้วนเป็นเพื่อนสนิทและคนงานในไร่กุสุมาเอง เจ้าภาพของงานท่าทางร่าเริงและเป็นมิตรคอยเดินทักทายแขกไม่ได้หยุด แต่เมื่อเหลือบมองเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาคมคายอันประกอบด้วยดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสันและปากได้รูปที่เดินแตะแขนสตรีสาวร่างโปร่งระหงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์เข้ามาในงาน ทำให้กัณฑ์รีบเข้าไปต้อนรับเพื่อนสนิทและหญิงสาวสวยที่เขาเห็น

“นึกว่าเอ็งจะไม่มาเสียแล้ว”
เจ้าภาพทักชายหนุ่มตรงหน้าแต่สายตาไพล่ไปมองหญิงสาวข้างเอกศักดิ์

“ไม่ลืมหรอก รับปากไว้แล้วก็ต้องมา”
เอกศักดิ์ทักตอบอีกฝ่ายแต่ก็ไม่วายเขม่นสายตาที่มองคนข้างกายเขา

“น้ำฝนครับ นี่พ่อเลี้ยงกัณฑ์เจ้าของไร่กุสุมา”
เอกศักดิ์แนะนำคนตรงหน้าให้หญิงสาวรู้จัก พลางหันมาบอกกัณฑ์
“ผู้จัดการไร่ข้าเอง”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ น่าเสียดายที่ผมไม่รู้ว่าไร่ไม้หนาวมีผู้จัดการน่ารักอย่างนี้ ไม่งั้นผมหมั่นแวะไปเยี่ยมเอกศักดิ์มันบ่อย ๆ แล้ว”
กัณฑ์พิจารณาหญิงสาวตรงหน้า ผมยาวดำเป็นมันของหล่อนถูกรวบไว้ด้านหลังอย่างง่าย ๆ ใบหน้านวลที่ไม่ได้ตกแต่งนั้นชวนมอง โดยเฉพาะดวงตาโตหวานที่มีแววตาเป็นประกายสุกใสและรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรที่ประดับดวงหน้าเรียวอยู่ตลอดเวลา

“คงต้องถามเจ้าของไร่แล้วละค่ะ” น้ำฝนโบ้ยไปที่คนตัวโตข้างกาย

“พูดเหมือนกับเอ็งว่างอย่างนั้นแหละ ถึงเอ็งจะว่าง น้ำฝนเขาก็ไม่ว่าง งานที่ไร่ข้ายุ่งโว้ย ไม่มีใครว่างรับแขก”

กัณฑ์ได้แต่หัวเราะขำท่าทางของเพื่อนสนิท ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันเลือดขึ้นหน้าอย่างนี้มาก่อน

“หวงหรือวะ”
กัณฑ์กระซิบถามเพื่อน ขณะที่พาหญิงสาวไปนั่งเรียบร้อยและชวนกันมาหาเครื่องดื่มและอาหารให้หญิงสาว

“หวงมาก... เอ็งห้ามยุ่งกับน้ำฝนเด็ดขาด”

“ไหงเมื่อกี้ เอ็งแนะนำว่าเป็นผู้จัดการไร่ไม่ใช่เหรอ ไม่ได้บอกว่าเป็นคู่รักสักหน่อย แบบนี้ข้าก็ยังมีสิทธิ์โว้ย”

“แนะนำแบบนั้นได้ไง ยังไม่เคยบอกรักเขาเลย เดี๋ยวแม่ได้ออกฤทธิ์”

“อะไรวะ พ่อเลี้ยงเอกศักดิ์ที่สาว ๆ ประณามว่าไม่มีหัวใจ เย็นชา ไร้รัก ไม่ว่าสาวอื่น ๆ โดยเฉพาะน้องข้าจะเทียวไปเทียวมายังไงก็ไม่เคยสนใจ ทำไมคราวนี้น้ำแข็งละลายแล้วละวะ”

“ใครว่าใจข้าเป็นน้ำแข็ง ใจข้าเป็นน้ำฝนต่างหาก เขาเป็นคนเดียวที่ข้ารัก คิดถึงและห่วงหามานาน เมื่อคว้ากลับมาได้แล้วก็ต้องรักษาทะนุถนอมเป็นธรรมดา ถ้าเอ็งคิดจะจีบคงหมดหวังวะเพราะข้าไม่มีทางยอม”

“เฮ้อ! น่าเสียดาย แต่เขาก็น่ารักออกอย่างนั้น สงสัยข้าจะห้ามใจตัวเองลำบากวะ” กัณฑ์หัวเราะอย่างขบขันพลางขยับตัวให้ห่างอีกฝ่ายที่ตั้งท่าเตรียมจะอัดเขา

“พี่กัณฑ์... พ่อเลี้ยง...เล่นอะไรกันค่ะ ทำท่าเหมือนจะสู้กันเลย” กุสุมารีบเดินเข้ามาหาชายหนุ่มทั้งสองทันทีที่เห็นคนที่หล่อนรอคอย หญิงสาวอยู่ในชุดราตรีสั้นสีกุหลาบขับผิวให้ดูผ่องนวลยิ่งขึ้น

“แค่แหย่กันเล่นนิดหน่อย”
กัณฑ์หันมาอธิบายให้น้องสาวฟัง พร้อมหลิ่วตาให้เพื่อน

“พ่อเลี้ยงมาถึงนานแล้วหรือค่ะ สุไม่เห็นเลย ทานอะไรหรือยังค่ะเนี่ย”
กุสุมาตรงเข้ามาใกล้ชายหนุ่มพลางคล้องแขนเขาให้ออกเดินเคียงไปด้วยกัน

“เดี๋ยวสุตักอาหารให้นะคะ สุสั่งให้เขาเตรียมอาหารที่พ่อเลี้ยงชอบทั้งนั้นเลยค่ะ”

“น้อย ๆ หน่อยยายสุ ทีอาหารที่พี่ชอบมีไม่กี่อย่าง วันนี้วันเกิดพี่นะ”
กัณฑ์รีบดักคอน้องสาว

“แหม... พี่กัณฑ์ ของที่พี่ชอบ สุก็เตรียมให้นะคะ เพียงแต่สุเห็นว่านาน ๆ พ่อเลี้ยงถึงจะมาไร่เราสักครั้ง สุก็เลยเตรียมไว้มากหน่อย”
ดวงตาแสนหวานของหญิงสาวหันไปสบตาชายหนุ่มที่หล่อนยืนเคียง นาน ๆ หล่อนถึงจะได้ใกล้ชิดเขาสักครั้ง รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอารีอารอบของคนข้างกาย น่าเสียดายที่พยายามอย่างไรความสัมพันธ์ก็ไม่คืบหน้าอย่างที่ต้องการ

“เออ...ดี ถ้างั้นเอ็งไปเลือกอาหารกับยายสุละกัน เดี๋ยวข้าตักอาหารไปเผื่อคุณน้ำฝนเอง”
กัณฑ์ได้ทียักคิ้วให้เพื่อนฝากเป็นทีว่าคราวนี้ตาข้าทำคะแนนละวะ

“เฮ้ย... ไอ้กัณฑ์”

ไม่ทันที่เอกศักดิ์จะคว้าเพื่อนไว้ทัน พ่อเลี้ยงไร่กุสุมาก็เดินลิ่วตรงไปยังโต๊ะอาหารโดยที่ไม่สนใจทั้งเขาและน้องสาวตัวเอง เขาเองก็ไม่อยากผลักไสไล่ส่งสาวน้อยข้างกายแล้วรีบกลับไปหาน้ำฝนตามใจปรารถนา ด้วยเกรงว่าจะเป็นการเสียน้ำใจอีกฝ่าย

ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มกลับมานั่งก็พบว่ากัณฑ์นั่งคุยกับน้ำฝนอย่างสนิทสนม เขาถึงกับหมั่นไส้เพื่อนตัวดี แล้วก็เลยนึกพาลหญิงสาวไปด้วย

“อาหารไร่นี้ถูกปากมั้ยคุณ”
เอกศักดิ์หันมาถามน้ำฝนหลังจากที่หญิงสาวอิ่มแล้ว แต่น้ำเสียงห้วนที่บอกความไม่พอใจและคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากัน ทำให้น้ำฝนแปลกใจ ไม่รู้ว่าเขาไปกินรังแตนมาจากไหน ขนาดมีสาวนั่งคอยเอาใจอยู่ข้าง ๆ ยังจะมาพาลฉันอีกนะนายนี่

“ถูกทั้งปากทั้งใจแหละค่ะ พ่อเลี้ยง”
น้ำฝนยิ้มหวานตาเป็นประกายตอบคำชายหนุ่ม แต่ตากลับมองไปที่กัณฑ์แทน นายหาเรื่องก่อนนะ จะรวนกลับให้น่าดูเลย เล่นกับใครไม่เล่น

“แต่ก็คงไม่เท่าพ่อเลี้ยงหรอกมั้งค่ะ เพราะเห็นว่าคุณกุสุมาเตรียมแต่อาหารโปรดของพ่อเลี้ยงทั้งนั้นเลย ใช่มั้ยค่ะคุณกัณฑ์”
น้ำฝนหันหน้าไปหาลูกคู่สนับสนุน ซึ่งฝ่ายนั้นก็รีบเออออห่อหมกตามทันที

“นั่นนะสิครับ ไอ้เอกศักดิ์มันชอบบอกว่า อะไร ๆ ที่นี่ก็น่ากินไปเสียหมด”
สายตาของกัณฑ์ฉายแววเจ้าเล่ห์บ่งความนัย ขณะที่มองไปยังน้องสาวประกอบคำพูด เอกศักดิ์ถึงกับอยากลุกขึ้นเตะไอ้เพื่อนเวรในฐานะโกหกทำคะแนนกับสาวข้างตัว

“พี่กัณฑ์เหลวไหลใหญ่แล้ว” กุสุมาเอ็ดพี่ชาย พลางเหลือบมองเอกศักดิ์ สังเกตเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เฝ้าวนเวียนมองแต่หญิงสาวอีกคนด้วยความรู้สึกเป็นกังวลห่วงหาแล้วก็อดสะท้อนในอกและเจ็บลึกในใจไม่ได้ หล่อนยังจะแอบรักแอบหวังในตัวพ่อเลี้ยงอยู่อีกหรือ ในเมื่อตอนนี้ในสายตาเขามีแต่น้ำฝน

เอกศักดิ์เห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่เขาเลยรีบตัดบทเสียก่อน
“ดึกแล้วเดี๋ยวข้าขอตัวกลับก่อนละกัน ขอตัวนะครับคุณกุสุมา พรุ่งนี้ผมต้องออกตรวจไร่แต่เช้าอีก ไปกันเถอะคุณ” ชายหนุ่มเอ่ยลาเจ้าภาพพร้อมกับหันมาชวนน้ำฝน

กัณฑ์กระซิบคุยกับเพื่อนหนุ่มเบา ๆ พอไม่ให้น้ำฝนได้ยินขณะเดินมาส่ง
“รีบกลับจริงนะเอ็ง”

“เออสิวะ... ใครจะปล่อยให้เอ็งนั่งจีบเขาเป็นนานสองนาน”

“อย่าเผลออีกเชียวนะเอ็ง ไม่งั้นอย่าหาว่าเพื่อนไม่เตือน ช้าแบบนายไม่ทันกินหรอกวะ”

แทนที่จะเห็นสองหนุ่มลาจากกันด้วยดี น้ำฝนกลับเห็นทั้งคู่ชูกำปั้นเข้าหากันแทนที่จะโบกมือลา สังเกตเห็นว่าพ่อเลี้ยงกัณฑ์ยังคงมีสีหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม แต่คนข้างตัวหล่อนนี่สิสงสัยจะหงุดหงิด หน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดยอมจา หญิงสาวก็ไม่คิดจะตอแยด้วย กลับนั่งผิวปากเป็นเพลงให้เขารำคาญเล่น นายไม่คุย ฉันก็ไม่คุยก็ได้

“อารมณ์ดีนักหรือคุณ”

คนหงุดหงิดยิ่งอารมณ์เสียหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจเขา มัวแต่นั่งผิวปากทอดอารมณ์ชมวิวมืด ๆ สองข้างทางอยู่ได้ ทีกับเขาไม่เห็นถามสักคำว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

“แน่ละ กินอิ่ม อาหารอร่อย คนคุยด้วยก็อัธยาศัยดี ไม่หน้าหงิกหน้างอเหมือนใครบางคน”

“รู้ด้วยหรือว่าผมอารมณ์ไม่ดี”
อารมณ์ชายหนุ่มเริ่มดีขึ้นนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสังเกตเห็น

“เปล่า...ฉันจะไปรู้ใจนายได้ยังไงละ”

คนตัวเล็กกว่าตอบปฏิเสธ พลางจะเปิดประตูลงจากรถเมื่อถึงไร่ แต่ก็กลับถูกอีกฝ่ายรั้งตัวดึงเข้าไปไว้ในอ้อมกอดเสียก่อน

“คุณจะรู้ใจผมบ้างไม่ได้เชียวหรือ ทำไมนะน้ำฝน ทำไมคุณถึงใจร้ายแบบนี้ ใคร ๆ ก็ว่าผมเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง แต่จริง ๆ แล้วคุณต่างหากที่เป็นน้ำแข็ง ไม่เคยสนใจใครเลย”

ชายหนุ่มตัดพ้อด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในอก ดวงตาคมฉายแววผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับ

“ฉันจะเป็นน้ำฝนหรือน้ำแข็งก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับใคร นายถือสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน”

น้ำฝนดิ้นขลุกขลักอยู่ในปราการแขนแข็งแรง พยายามจะผละให้หลุดจากคนถืออภิสิทธ์ในตัวหล่อน

“ทำไมจะไม่เกี่ยว คุณทำงานกับผมแล้วนะ” ชายหนุ่มไม่สามารถห้ามใจที่ร้อนระอุเหมือนเพลิงเผาได้อีกต่อไป เขาดึงหญิงสาวเข้ามาประทับแนบอก พลางโน้มหน้าลงค้นหาความหวานจากปากบางอย่างอ่อนโยนและโหยหาให้สมกับที่เขาเฝ้ารักเฝ้ารอ รอคนที่ฝังอยู่ในใจมาเนิ่นนาน รอที่จะได้พบพานใกล้ชิด และรอให้หล่อนรักเขา

น้ำฝนตกใจตัวแข็งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก น้ำตาของหญิงสาวก็ร่วงเผาะลงบนแก้มนวลที่ยังถูกเคลียคลอไม่ห่าง เอกศักดิ์ถึงกับได้สติเมื่อสัมผัสหยดน้ำบนร่องแก้ม เงยหน้าขึ้นมาทันที

“นายว่าฉันใจร้าย แต่นายต่างหากที่เป็นฝ่ายใจร้าย นายเป็นเจ้านายฉันก็จริง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าหัวใจของฉัน”

น้ำฝนพยายามทั้งผลักทั้งหยิกอีกฝ่ายให้คลายอ้อมแขน นึกปวดร้าวในใจที่โดนคนที่หล่อนไว้ใจรังแกจาบจ้วงโดยถือสิทธิ์ความเป็นเจ้านาย แต่ชายหนุ่มยังรั้งหญิงสาวเข้ามากอดแน่นอีกครั้งพลางเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา

“อย่าร้องเลยครับคนดี ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณ ทุกสิ่งที่ผมทำลงไป เพราะผมรักคุณ คุณไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่นะ”

ชายหนุ่มจ้องลึกลงไปในดวงตาของหญิงสาวที่บัดนี้พราวไปด้วยหยาดน้ำตาทำให้เขาอดสำนึกผิดในการกระทำอันอุกอาจใช้กำลังของตนเองไม่ได้

“ขอให้คุณรู้ไว้ว่าผมรักคุณ”

เอกศักดิ์ใช้มือเชยคางของคนตรงหน้าที่ก้มหน้างุดลงอีกครั้งให้เงยขึ้นมามองสบตาเขา

“ผมไม่เคยคิดใช้สิทธิ์นายจ้าง หรือความเป็นผู้ชายรังแกคุณเลย เพียงแต่อยากให้คุณรับรู้เท่านั้นว่าผมรักใคร”

“ขอให้คุณละทิฐิที่ตั้งเป็นกำแพงในใจ ลืมอดีตที่ปวดร้าวให้หมด แล้วเปิดใจเปิดโอกาสให้ผมบ้าง ผมขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจในรักที่ผมมีให้”

น้ำฝนนิ่งไปชั่วอึดใจ แต่เป็นช่วงเวลาที่ชายหนุ่มรู้สึกยาวนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์
“ฉันถือว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่าง และลูกสาวของเวลาก็คือความจริง ฉันขอให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินก็แล้วกัน”

น้ำฝนมองสบตาคนที่ยังคงประคองกอดหล่อนไว้ในอ้อมแขน ถ้าหล่อนไม่เคยโดนความรักทำร้ายมาก่อน
ไม่เคยเจ็บเจียนตายกับความหลอกลวง ไม่ซื่อสัตย์จริงใจของอดีตคนรัก หล่อนจะใจอ่อนยอมรับรักเขาเสียตั้งแต่วินาทีมั้ยนะ ผู้ชายที่ดีพร้อม และก็แสดงให้เห็นมาตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ชิดกันว่าเขาห่วงใยเอาใจใส่หล่อนแค่ไหน แต่บทเรียนรักครั้งก่อนสอนให้หญิงสาวเข้มแข็งและไม่หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ อีกแล้ว หล่อนกลัวว่าเวลาจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปแม้กระทั่งใจคน

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งชีวิตผมรู้ว่าผู้หญิงที่ผมรักและเฝ้ารอคือใคร ถ้าต้องรอเวลาอีกสักหน่อยเพื่อให้คุณพิสูจน์ความรักที่ผมมีให้ก็ได้เสมอ ผมจะรอจนกว่าคุณจะรักผม”

เอกศักดิ์ก้มลงประทับริมฝีปากที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างห่วงใยก่อนที่จะปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระ
“คุณก็คงเหมือนน้ำฝนบนฟ้า ที่โปรยสายบริสุทธิ์เย็นชื่นใจให้กับพื้นดินแห้งระแหง แต่ใครก็คงไปบังคับฝนฟ้าให้ตกไม่ได้ จนกว่าจะถึงเวลาของมันเอง”

“ผมจะรอวันนั้น”



Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 19:01:32 น. 0 comments
Counter : 194 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.