Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

น้ำฝนกลางใจ (๑๗)




ฟ้ามืดไปนานแล้วเมื่อน้ำฝนเดินกลับเข้าบ้านหลังจากเสร็จงานในไร่ แต่เมื่อเหลือบเห็นบิดามารดาของหล่อน และคุณวิรัชบิดาของเอกศักดิ์นั่งเล่นกันอยู่ในห้องรับแขก ทำให้น้ำฝนรีบขยี้ตาตัวเองเพราะนึกว่าตาฝาดไป

“น้ำฝน ดูสิครับว่าใครมาหา” เมื่อสิ้นเสียงบอกของเอกศักดิ์ หญิงสาวถึงกับร้องอุทานอย่างดีใจ พลางโผเข้าไปกอดคุณเมฆาและนัยนาให้สมกับความคิดถึง ก่อนที่จะหันไปไหว้คุณวิรัช

“พ่อ แม่ ลุงวิรัชมาได้ยังไงค่ะนี่ ไม่เห็นส่งข่าวให้ฝนรู้ล่วงหน้าเลย”
น้ำฝนตัดพ้อพลางหันไปค้อนชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหลังคล้ายกับโทษที่อีกฝ่ายไม่ยอมบอกให้หล่อนรู้ก่อนล่วงหน้า

“ก็พ่อสิจ๊ะ ใจร้อน ได้รับจดหมายฉบับสุดท้ายของฝนก็รีบแจ้นมาเลย” คุณนัยนาหันไปค้อนสามี นัยน์ตาสวยใสที่ลูกสาวถอดแบบมาได้ไม่ผิดเพี้ยนมีประกายสัพยอกชายชราข้างกาย

“บอกให้แม่รีบเก็บข้าวของขึ้นมาเยี่ยม แล้วเขาก็นัดกับคุณวิรัชให้ขึ้นมาเยี่ยมลูกชายซะทีเดียวพร้อมกัน
คุณนัยนายังเล่าให้ลูกสาวคนเดียวฟังถึงความใจร้อนของบิดา

“พอรู้ว่าฝนรักกับตาเอก พ่อเราเกิดหวงลูกสาวขึ้นมา ทีตอนที่คุณวิรัชออกปากเรื่องหนูกับตาเอก แม่เห็นเออออห่อหมกคิดวางแผนกันดิบดี ไม่มีว่าอะไร แต่พอเอาเข้าจริงกลับรีบวิ่งมากันท่าว่าที่ลูกเขยเชียว” มารดาหญิงสาวยังคงสาธยายความประพฤติของสามีอย่างเห็นขำ

“คุณก็ว่าไปเรื่อย ผมแค่คิดถึงอยากมาเยี่ยมลูกเท่านั้นเอง” คุณเมฆารีบกล่าวแก้ พลางหันไปมองหนุ่มสาวตรงหน้า

“ค้า... นาเห็นคุณแค่พกไม้ตะพดมาเยี่ยมลูกสาวด้วยเท่านั้นเอง ไม่รู้จะเอามาทำไม” คุณนัยนาว่าพลางหันไปค้อนคมให้สามี ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มหวาน

“มาป่ามาดอย ก็เอามาไว้ช่วยพยุงเดินขึ้น ๆ ลง ๆ เขา ใครว่าผมจะเอามาฟาดหัวตาเอกละ”
เอกศักดิ์ถึงกับอมยิ้มขัน ๆ ว่าที่พ่อตาแม่ยายที่เย้ากันไปมา พลางหันไปมองบิดาตน ก็เห็นฝ่ายนั้นนั่งเอกเขนกพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“ว่าไงละเจ้าเอก เรารังแกอะไรน้ำฝนหรือเปล่า” คุณวิรัชหันกลับมาถามลูกชายที่นั่งข้าง ๆ

“โธ่... ผมไม่เกเรแกล้งเขาเหมือนเด็ก ๆ แล้วละครับพ่อ” ชายหนุ่มตาเป็นประกายขณะมองหญิงสาวตรงหน้า

“ใครว่าคะลุงวิรัช ลูกชายลุงนะชอบแกล้งฝนจะตายไปค่ะ แล้วก็ชอบฉวยโอกาสเป็นที่สุด” น้ำฝนหันมานั่งคล้องแขนคุณวิรัชพลางยิ้มประจบก่อนกล่าวฟ้องอีกฝ่าย

“ถ้างั้น คงไม่ถึงกับให้พ่อหนูจัดการเพ่นกบาลลูกชายตัวดีของลุงแล้วละ เดี๋ยวลุงจะจัดการเองดีมั้ยลูก” คุณวิรัชหันมาถามหญิงสาวอย่างเอาจริงเอาจัง ทำให้น้ำฝนนึกขยาด รอยยิ้มอ่อนใสเมื่อครู่คลายลงทันที

“เออ...ก็ไม่ได้แกล้งอะไรหรอกค่ะ อืม...เขาแค่หอมกับกอดนะคะ อือ...ไม่ได้มีอะไรเกินเลยนะคะ ฝนพูดเล่นนะคะ” น้ำฝนรีบยื้อแขนอีกฝ่ายไว้พลางพูดแก้ เมื่อเห็นลุงวิรัชจะตรงเข้าไปหาลูกชาย

“คุณวิรัชอย่าตามใจน้ำฝนอีกคนเลยค่ะ แค่พ่อเขาคนเดียวก็ทำให้เหลิงจะแย่อยู่แล้ว ขืนคุณยังให้ท้ายอีกมีหวังยิ่งเอาแต่ใจตัวเอง แบบนี้อาอนุญาตให้ตาเอกปราบได้เต็มที่เลยจ้ะ” คุณนัยนาหันมายิ้มให้กับเอกศักดิ์ มองเห็นความรักความเอาใจใส่ในแววตาชายหนุ่มที่มองน้ำฝนแล้วก็นึกภูมิใจแทนลูกสาวตนเองที่ได้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นคู่

“ขอบคุณครับอานา รอไว้ให้ได้แต่งงานก่อนเถอะครับ” ชายหนุ่มหันไปมองน้ำฝนนัยน์ตาพราว นี่ถ้าอยู่กันตามลำพังคงอดใจขอกอดหล่อนไว้แนบอกอย่างแสนรักไม่ได้

“แฮ่ม...นี่อายังไม่ได้ยกลูกสาวให้เราเลยนะ” คุณเมฆาเอ่ยขัดขึ้นเบา ๆ

“อ้าว...ไหงว่ายังงี้ละวะเมฆ ก็ข้าขอน้ำฝนไว้ให้ลูกข้านานแล้ว จะมากลับคำกันได้ยังไงวะ” คุณวิรัชโวยวายเมื่อเห็นเพื่อนของตนทำท่าฮึดฮัดขึ้นมา

“ก็ลูกเอ็งจะปราบลูกข้า” บิดาของหญิงสาวรีบแย้ง

“ข้าว่ามีแต่เจ้าเอกจะตามใจน้ำฝน”

“ได้อย่างนั้นก็ดีสิวะ” คุณเมฆายังไม่ยอมแพ้เพื่อน

“เอ็งนะแหละหวงลูกสาว ยอมรับมาซะดีดี ทีข้ายังไม่หวงลูกชายเลยวะ” คุณวิรัชรีบพยักพเยิดไปยังลูกชาย

“แน่สิโว้ย ของข้านะลูกสาว จำเป็นต้องรักต้องถนอม ไม่เหมือนเอ็งหรอก มีลูกชาย จะหัวหกก้นขวิดยังไงก็ได้” คนหวงลูกสาวไม่ยอมลดราวาศอก

“ลูกเอ็งข้าก็รักเหมือนลูกข้า ถ้าเจ้าเอกมันไม่รักจริง ข้าก็ไม่ขอน้ำฝนให้มันเหมือนกัน” อีกฝ่ายยังไม่ยอมแพ้

“เออ...แต่ข้ายังไม่ไว้ใจ” คุณเมฆาขมวดคิ้วจ้องเอกศักดิ์

“ตามใจเอ็ง ถึงเอ็งไม่ให้ ข้าขอน้ำฝนกับคุณนาได้” คุณวิรัชเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เพื่อน

“หนอยแน่...คิดยุให้ผัวเมียเขาแตกกันหรือไงวะ”

“ใครว่า...เอ็งมันไม่มีเหตุผล ข้ารำคาญขี้เกียจคุยด้วย”

“ด่าข้าหรือวะ”

“เออ สิวะ”
เพื่อนทั้งสองยังคงโต้เถึยงกันไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ชายหนุ่มรู้แล้วว่าหญิงสาวคนรักของเขานั้นรั้นเหมือนใคร เอกศักดิ์นึกเลยไปถึงความดื้อและเจ้าทิฐิของน้ำฝน ขณะหันมาคุยกับหญิงสูงอายุแทน

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพาเที่ยวไร่นะครับ ช่วงนี้ดอกไม้กำลังสวยอิ่มน้ำได้ที่ ยิ่งดอกไฮเดรนเยีย และลิลลี่กำลังใหญ่ได้ขนาด กุหลาบก็หอมทั่วไร่แล้ว อานาคงชอบ”

“อาอยากขึ้นมาเที่ยวตั้งนานแล้วละจ้ะ แต่ติดที่พ่อน้ำฝนเขาไม่ค่อยว่าง เวลาอ่านจดหมายทีไรใจก็อยากตามขึ้นมาหามาชม”

“พ่อกับแม่และลุงวิรัชขึ้นมาเที่ยวได้กี่วันค่ะ” น้ำฝนเอ่ยถามผู้มาเยี่ยม

“สักอาทิตย์หนึ่งแหละลูก พ่อเขางานยุ่ง นี่ก็รีบสะสางงานก่อนขึ้นมาหาหนู” คุณนัยนาหันไปตอบลูกสาว

“ว้า...อยู่ได้แป๊ปเดียวเอง ยังไม่หายคิดถึงเลยค่ะ ถ้างั้นฝนขอตามกลับบ้านด้วยได้มั้ยค่ะ”

“เอ...ลุงว่า ถ้างั้นก็ลงไปทั้งคู่เลยแล้วกัน จะได้จัดงานแต่งงานเลย” บิดาชายหนุ่มคิดวางแผนล่วงหน้า

“อะไรนะคะ” น้ำฝนร้องออกมาอย่างตกใจมองคนกล่าวด้วยความคาดไม่ถึง

“ดีครับ ผมอยากจะแต่งซะตอนนี้ด้วยซ้ำไป ถ้าอาเมฆกับอานาไม่ว่าอะไร” เอกศักดิ์หันไปขอความเห็นจากพ่อแม่หญิงสาว

“เฮ่ย...ถึงพ่อกับแม่ไม่ว่า แต่ฉันว่า แล้วพ่อก็ยังไม่ยกฝนให้เขาใช่มั้ยค่ะพ่อขา” น้ำฝนหันมาอ้อนบิดาหล่อน รอยยิ้มประจบทั้งปากทั้งตาของลูกสาวทำให้ผู้เป็นพ่อถึงกับใจอ่อน

“ความจริงพ่อเคยรับปากวิรัชเขาไว้แล้ว แต่ถ้าลูกไม่แต่ง ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อจะไปขอลูกสาวบ้านอื่นมาให้ตาเอกแทน คงจะทันอยู่หรอก” คุณเมฆาแกล้งถอนใจอย่างหนัก พร้อมลูบศีรษะบุตรสาวไปมาอย่างเห็นใจ

“พ่อค่ะ... ทำอย่างนี้ได้ไง” หญิงสาวสะบัดหน้าอย่างแสนงอน หันไปค้อนเอกศักดิ์เมื่อเห็นเขารีบพยักหน้าสนับสนุนว่าที่พ่อตา พลางเดินหนีเข้าห้องไปเสียดื้อ ๆ ทำให้ทุกคนในที่นั้นหัวเราะขึ้นอย่างเอ็นดู

เมื่อน้ำฝนลับตาไปแล้ว คุณเมฆาหันกลับมาคุยกับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีเป็นจริงเป็นจังขึ้นกว่าเมื่อครู่

“ตาเอก น้ำฝนเป็นแก้วตาดวงใจของอา เมื่อเราจะรับน้ำฝนไปดูแล อาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าขอให้ลูกถนอมรักษาน้ำใจซึ่งกันและกัน”

“น้ำฝนเป็นแก้วกลางใจของผม” ชายหนุ่มกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่น “ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้น้ำฝนเสียใจ และสัญญาว่าจะดูแลน้ำฝนอย่างดีที่สุด อาเมฆไม่ต้องเป็นห่วงครับ”

“ขอบใจ” คุณเมฆาเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจในตัวคนที่มอบลูกสาวสุดที่รักให้ดูแล

“แบบนี้รีบหาฤกษ์หายามเถอะ เดี๋ยววันดีคืนดีพ่อเขาเกิดหวงลูกสาวขึ้นมาไม่ยอมให้แต่งอีกละก็ พ่อขี้เกียจไปขอลูกสาวบ้านอื่นแทนให้” คุณวิรัชกล่าวเร่งลูกชาย แต่ยังไม่วายหันมามองเพื่อนอย่างขำ ๆ

“เอ็งไม่มีลูกสาวบ้างก็ให้มันรู้ไป” คนมีลูกสาวยังไม่วายเขม่นอีกฝ่าย

“ข้ากำลังจะมีลูกสาวเร็ว ๆ นี้แหละวะ” คนกำลังจะได้ลูกสาวยิ้มอย่างเป็นต่อ

“เอาละค่ะ ไปทานข้าวกันก่อนเถอะนะคะ จะได้มีแรงมาทะเลากันต่อ” คุณนัยนารีบขัดขึ้นพลางส่ายหน้าเบา ๆ อย่างระอากับคนทั้งคู่ที่ไม่มีทีท่าจะลงให้กัน


*************************************************************************


ไร่กุหลาบหลากสีกำลังผลิดอกขนาดใหญ่อวดกลีบซ้อนสลับชั้นงดงามไปทั่วบริเวณ แสงแดดอบอุ่นยามเช้าช่วยไล่ละอองหมอกและหยาดน้ำค้างที่เกาะพราวตามกลีบและใบ สายลมเย็นระรื่นพัดโชยกลิ่นหอมหวานของกุหลาบนานาพันธุ์ทำให้บรรยากาศยามเช้าเพลินตาชื่นใจ เอกศักดิ์หันมาจับบ่าคนเดินเคียงให้หันมาเผชิญหน้าขณะเดินเล่นด้วยกันจนมาถึงกลางไร่กุหลาบ

“ผมรักคุณ” ประโยคที่หญิงสาวได้ยินเรียกความรู้สึกอ่อนหวานอิ่มเอมใจให้วิ่งเข้ามาจับใจอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่น้ำฝนก็แกล้งทำหูทวนลมไม่สนใจ

“คุณยังไม่เคยบอกรักผมเลย” กังวานเสียงชายหนุ่มตัดพ้อ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบ มองตอบเขาด้วยดวงตาใสซื่อเหมือนไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูดออกไป

“ต้องบอกด้วยเหรอ” น้ำฝนเอ่ยถามอย่างงง ๆ

“แค่พูดกับผมเพราะ ๆ สักคำก็ยังไม่เคย” ชายหนุ่มยังคงทวงถาม

“อยากได้ยินคำหวาน ๆ ก็ไปหาสาวอื่นเถอะ” หญิงสาวสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าคร้ามคมและแววตาพราวกรุ้มกริ่มกวนใจ

“เรื่องอะไร แค่คนเดียวผมก็แย่แล้วกว่าจะได้มาครอง” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้ม ๆ พลางกล่าวต่อ

“ไม่เป็นไร ถึงตอนนี้ไม่หวาน อีกหน่อยพอแต่งงาน ขี้คร้านจะหวานจับใจ” ชายหนุ่มจับคางมนของคนตรงหน้าให้หันมามองเขาอีกครั้ง

“คนบ้า” น้ำฝนพลอยพูดไม่ออก ไม่รู้จะว่าอีกฝ่ายอย่างไรดีให้สมกับที่ทำให้หล่อนได้อาย

ชายหนุ่มรั้งเอวหญิงสาวเข้ามาชิด พลางเสียบดอกกุหลาบสีขาวแซมเข้ากับกลุ่มผมยาวดำขลับที่มัดรวบไว้ด้านหลังอย่างง่าย ๆ

“คุณรู้ตัวมั้ยว่าน่ารัก” เอกศักดิ์ถามขณะพิจารณาใบหน้างามละมุนของน้ำฝน โดยเฉพาะดวงตาโตใสและรอยยิ้มแสนหวานที่ทำให้ทุกคนที่พบเห็นพลอยชื่นใจไปด้วย

“เพิ่งรู้ตอนนายบอกนี่แหละ”

“ถ้างั้นผมจะบอกทุกวัน” ชายหนุ่มกล่าวยิ้ม ๆ มองสีหน้าคนไม่รู้ไม่ชี้ตรงหน้า

“ฝนจะคอยฟังทุกวันนะคะพ่อเลี้ยงขา” น้ำฝนแกล้งกล่าวสัพยอกชายหนุ่ม ล้อเลียนที่โดนกล่าวหาว่าไม่เคยพูดเพราะ ๆ กับเขา พลางพยายามดันตัวให้ห่างจากอ้อมกอด แต่ก็ไม่เป็นผล

“อีกหน่อยถ้าไม่หวานแบบนี้ ผมจะปรับนะ”

“ใช่เรื่อง…”
ยังไม่ทันจะได้กล่าวต่อ ริมฝีปากชมพูอ่อนนุ่มก็ถูกรุกรานจากอีกฝ่ายเนิ่นนาน อ่อนหวาน

“ค่าปรับที่คุณพูดไม่หวาน ผมเลยต้องเรียกร้องเอาแทน” เอกศักดิ์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“คนบ้า…” ใบหน้าสากด้วยเคราเขียวก้มลงมาเคลียคลอผิวเนียนนุ่มตรงหน้าอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูดจบ พลางประทับริมฝีปากเข้ากับปากบางตรงหน้าที่กำลังจะเอ่ยว่าเขาอย่างนานแสนนาน จนใจหญิงสาวแทบจะหยุดเต้น
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มก็เห็นใบหน้าน้ำฝนเป็นสีแดงจัดยิ่งกว่ากุหลาบกลางไร่

“ว่าไงครับคนเก่ง กลายเป็นนางอายไปแล้ว”

“ฉัน...เอ๊ย...ฝน...ไม่ได้อาย อย่ามาแกล้งกันนะ เอะ... เดี๋ยวฟ้องพ่อกับลุงวิรัชนะ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนสรรพนามพลางกล่าวอย่างตะกุกตะกัก เมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายทำท่าจะก้มลงมาหาอีกครั้ง

“ผมไม่ได้แกล้ง หวานแบบนี้ใครจะอดใจไหว” เสียงชายหนุ่มเจือกระแสหัวเราะ เมื่อมองคนเก่งในอ้อมแขน

“คน...” น้ำฝนกำลังจะว่าออกมา แต่เมื่อนึกถึงรอยสัมผัสเมื่อครู่ หญิงสาวรีบชะงักหยุดทันที เปลี่ยนมาเป็นกำปั้นทุบเขาให้แทน

“โอ๊ย...นี่ถ้าแต่งงานกันแล้ว ขืนคุณทุบผมแบบนี้ ผมจะปรับยิ่งกว่านี้นะ” สายตาชายหนุ่มเผยความนัยเสียจนน้ำฝนอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ขณะที่อีกฝ่ายรัดหญิงสาวเข้ามาแนบอกอย่างทะนุถนอม

“คุณรู้มั้ยว่าผมดีใจแค่ไหนที่มีวันนี้”
ไม่รอคำตอบจากคนที่ซุกหน้าอยู่แนบอกกว้าง ชายหนุ่มก็กล่าวต่อ

“ผมสัญญาครับคนดี ว่าจะรักคุณตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ว่ากาลข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผมจะจริงใจ ซื่อสัตย์ และมั่นคงต่อคุณเสมอ”

“ขอบคุณค่ะ ฝนก็รักคุณค่ะ” หญิงสาวพึมพำตอบคนตรงหน้าเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ แต่แค่นั้นก็ทำให้เอกศักดิ์เต็มตื้นในหัวใจ ในที่สุดเขาก็ได้น้ำฝนมาอยู่ข้าง ๆ ให้เขาได้รัก ได้ถนอมสมกับที่เฝ้ารักเฝ้ารอมานาน น้ำฝนกลางใจของเขา


********************************************************************


อาทิตย์ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๕





 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
0 comments
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 19:15:05 น.
Counter : 771 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.