Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
น้ำฝนกลางใจ (๑)


ธราธร
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๕

*************************************



ลมหนาวพัดโชยระเรื่อยท่ามกลางบรรยากาศที่ชื้นจัดยามค่ำ ทำให้ร่างบางระหงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงยีนสีเข้มต้องห่อไหล่พลางเอามือกอดอกขณะยืนรอคนที่นัดหมายกันไว้ว่าจะมารับที่สถานีรถไฟ แสงโคมไฟสลัว ๆ ตามชานชาลา ไม่ได้ทำให้หญิงสาวอุ่นใจได้เลยว่าสถานีแห่งนี้ไม่เปลี่ยวจนเกินไป รอบ ๆ ตัวหล่อนว่างเปล่าจนน่าใจหายว่ามันเป็นสถานีร้างหรือไม่ ตัวอาคารที่พักผู้โดยสารอันมีสภาพชำรุดทรุดโทรม บ่งบอกถึงกาลเวลาที่มันผ่านมาเนิ่นนาน

น้ำฝนถึงกับส่ายศีรษะน้อย ๆ พลางถอนใจเมื่อคิดถึงอนาคต นี่หล่อนตัดสินใจผิดหรือเปล่านะที่ดั้นด้นมาทำงานในไร่ไม้ดอกบนยอดดอยสูงแห่งนี้ ป่านนี้พ่อกับแม่คงเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย เฮ้อ... อยู่ดีไม่ว่าดีแท้ ๆ แต่งานสมัยนี้ก็ใช่ว่าจะหาง่ายนี่นะ ในเมื่อมีงานที่น่าสนใจเสนอมาก็ต้องรีบคว้าไว้ก่อน ถึงมันจะไกลบ้านสักหน่อย แต่ก็ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉย ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นพ่อกับแม่คงกลุ้มใจมากกว่านี้ ขนาดหล่อนเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ท่านยังระอา

“นี่คุณ...ใจคอจะยืนกินลมชมวิวอีกนานมั้ย”

เสียงห้าวร้องทักมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวรีบหันขวับกลับไปมอง พลางเตรียมหาทางหนีทีไล่เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากล

“นี่ ฉันไม่ใช่นางสวาหะ จะได้ยืนอ้าปากกินลมแล้วมีลูกเป็นหนุมานนะ ว่าแต่คุณมารับฉันหรือเปล่า”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้าพยักหน้ารับคำขณะยืนดูหญิงสาวยืนเท้าเอวโต้ตอบแบบไม่ลดราวาศอก

“ถ้าพร้อมก็ไปกันได้แล้วละ”

เขาว่าพลางก้มลงคว้ากระเป๋าเดินทางของหล่อนเดินตัวปลิวจากไปทันที

“นี่คุณ คุ้น คุณ”

หญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบตามไปยื้อเขาไว้ก่อนที่ตานั่นจะเดินไปไกล

“คุณชื่ออะไรนะ นี่...ไม่แนะนำตัวเลย แล้วฉันจะรู้ได้ไงละว่าเป็นคนที่นัดกันไว้หรือเปล่า”

“อะไรกัน..แก่หลง ๆ ลืม ๆ จนจำเพื่อนเก่าไม่ได้แล้วหรือคุณนะ”

ชายหนุ่มหันหน้ามามองหญิงสาวตรง ๆ มีประกายผิดหวังในแววตาชั่วขณะ

“หา... อะไรนะ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไหนกัน”

หล่อนเน้นคำว่า เพื่อนแก่ เป็นพิเศษ หนอย... นายนี่ปากเสียตั้งแต่แรกเจอเลยนะ

“ฉันยังไม่ทันได้เห็นหน้าถนัด ๆ เลย จะไปรู้ได้ไงละ รู้แต่ชื่อคนที่จะมารับเท่านั้นแหละ”

“แต่ผมกลับจำได้ดีเพียงแค่เห็นคุณจากด้านหลัง”

“นายหมายความว่าไง จะหาว่าข้างหน้าข้างหลังฉันเหมือนกันเหรอ อีตาบ้า...”

น้ำฝนแยกเขี้ยวใส่คนตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้ กี่ปีหล่อนก็ไม่เคยเปลี่ยน

“ก็คงอย่างนั้นละ แล้วนึกออกหรือยังละ”

เขาพยายามกลั้นใจภาวนาให้หญิงสาวตรงหน้าจำเขาได้บ้าง

“ถ้าให้เห็นหน้าตั้งแต่แรกก็พอจำได้ละนะ นายเอกศักดิ์ ...”

ชายหนุ่มถึงกับเผลอยิ้มอย่างพอใจ ที่อย่างน้อยหล่อนก็พอจำเขาได้

“ไม่เจอกันตั้งนาน นายแก่ไปเยอะเลยนะ”

น้ำฝนเอียงหน้าเอียงตาสำรวจเพื่อน พลางกล่าวล้อ

“นี่แม่คุณ... เล่นเอาไปเปรียบกับสมัยตอนเรียนประถม มัธยมเลยหรือ”

ชายหนุ่มถึงกับบ่นพึม

“ก็แน่ละ ไม่เจอกันกี่ปีได้แล้วละ ตั้งแต่แยกย้ายกันเข้ามหาลัย ก็เกือบสิบปีแล้วนะ ไม่นึกว่าจะได้เจอนายอีก”

“แต่ผมนึกเสมอละว่าจะได้เจอคุณอีก และก็รออยู่”

เอกศักดิ์มองตอบดวงตาโตหวานตรงหน้าเนิ่นนานราวกับย้อนเห็นเหตุการณ์ในวัยเด็กของเขาและหล่อน

“เออ... แต่ฉันไม่เคยนึกเลย” ตอบพลางทำหน้าทำตาล้อเลียนอีกฝ่าย

“แล้วนายทำงานที่ไร่เหมือนกันเหรอ”

หญิงสาวนึกดีใจที่อย่างน้อยก็ยังเจอเพื่อนเก่าให้อุ่นใจได้บ้าง

“ใช่... แต่อย่าเพิ่งถามมากความเลย รีบไปกันก่อนเถอะ ระยะทางขึ้นดอยอีกไกลกว่าจะถึง”

ชายหนุ่มออกเดินนำไปที่รถไม่ยอมอธิบายรายละเอียดมากกว่านั้น น้ำฝนเองก็เลยไม่ทันได้ซักต่อ

รถขับเคลื่อนสี่ล้อแล่นผ่านตัวเมืองเพียงครู่ก็เริ่มวิ่งขึ้นเขาสูงชันที่วกไปวนมา และเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ครึ้ม ท้องฟ้าภายนอกมืดสนิท ประดับด้วยดาวสุกสว่างแข่งกับดาวบนดินระยิบระยับตามอาคารบ้านเรือนพื้นล่าง ไอเย็นที่พัดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่างทำให้หญิงสาวรู้สึกหนาวจับใจ คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หล่อนจะได้กลับไปเยี่ยมบ้าน อยู่ที่ไหนก็คงไม่อบอุ่นและสบายใจเท่าที่บ้านอีกแล้ว

“ผมว่าปิดกระจกดีกว่านะ อากาศเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวจะไม่สบาย”

เอกศักดิ์ชำเลืองมองหญิงสาวที่นั่งเหม่อมองข้างทางอย่างไม่พูดไม่จา

“ไม่หนาวหรอก แต่นายช่วยแวะจอดรถให้หน่อยสิ”

“อยากชมวิวหรือ ข้างหน้ามีจุดชมวิว อีกประมาณห้านาทีก็ถึง
คู่รักที่นี่ส่วนมากชอบมานั่งชมดาวบนดินด้วยกัน เราแวะบ้างก็ได้”

สายตาชายหนุ่มเป็นประกายแข่งกับแสงดาวบนฟ้า ยามหันมามองหญิงสาวที่นั่งทำหน้าพะอืดพะอมอยู่ข้างกาย

“ตอนนี้เราอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณหนึ่งพันเมตร มองลงไปก็จะเห็นตัวเมืองข้างล่างเกือบทั่ว ถ้าเป็นตอนกลางวันจะเห็นแม่น้ำสายหลักทอดตัวลดเลี้ยวผ่านเมือง สวยไปอีกแบบ”

เสียงชายหนุ่มแว่วผ่านโสตประสาทหญิงสาวโดยที่หล่อนไม่ได้ตั้งใจฟังนัก

พอถึงจุดชมวิวยังไม่ทันที่รถจะจอดสนิทดี น้ำฝนก็รีบเปิดประตูพุ่งออกไปยังพงหญ้าข้างทางพร้อมกับอาเจียนออกมาจนหมดแรง

“โธ่...คุณ เมารถก็ไม่บอก ผมจะได้หยุดรถให้ตั้งนานแล้ว”

เอกศักดิ์ได้แต่ตามมาลูบหลังไหล่ พลางส่งน้ำให้หญิงสาวล้างหน้าตาอย่างเป็นห่วง

“เมื่อก่อนฉันไม่เคยเมารถเลยนะ แสดงว่านายขับรถแย่มาก”

น้ำฝนกล่าวหาคนตรงหน้าที่ยังคอยประคองหล่อนอย่างฉุนจัด

“นี่คุณ โตป่านนี้แล้วยังพาลหาเรื่องเหมือนตอนเป็นเด็กไปได้”

เอกศักดิ์จูงหญิงสาวไปนั่งพักตรงโขดหินข้างทาง เพื่อให้หล่อนได้นั่งพักสัมผัสกับอากาศสดเย็นรอบ ๆ กาย

“ไม่ต้องกลัวเสียหน้าหรอกนะ ผมรู้ว่าคุณเก่ง แต่เขาชันขนาดนี้คุณจะอาเจียนบ้างสักครั้งสองครั้งใครจะไปกล้าว่าละ”

คนตัวโตกว่าเอ่ยเย้าอย่างนึกขันเมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำของอีกฝ่าย พลางนึกถึงเด็กสาวตัวน้อยสมัยเรียนที่ไม่ว่าจะเล่นอะไรด้วยกันแล้วหล่อนจะต้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ

“เอาเถอะฉันไม่ถือสานายหรอก นั่งพักเดี๋ยวก็ดีขึ้น ฉันกลัวนายขับรถเหนื่อยเกินไปนะ เลยหาเรื่องให้พัก ตรงนี้สวยมากเลยนะ”

หญิงสาวทำสีหน้าทวงบุญคุณกับฝ่ายตรงข้ามก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองดาวบนฟ้า

“เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตรงนี้สวยมาก”

ชายหนุ่มทอดสายตามองหญิงสาวเนิ่นนานก่อนที่จะแลเลยไปยังเบื้องบน

“ว้า... แย่จัง อยู่มาตั้งนานแล้วเพิ่งรู้สึก แสดงว่านายนี่ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์เลย”

น้ำฝนหันมายิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างล้อเลียน ประกายดาวในดวงตาหญิงสาวทำให้เอกศักดิ์ถึงกับเผลอมองราวกับจะประทับภาพตรงหน้าไว้ให้สมกับที่เฝ้าคอยมานาน นึกไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยในใจจะปรากฏกายอยู่ตรงหน้าจริง ๆ นี่ถ้าเขาไม่วางแผนหาทางให้หล่อนมาทำงานด้วย เขาคงต้องรออีกนานแค่ไหนกันนะกว่าจะทิ้งงานไร่ลงไปตามหาหัวใจของตัวเองได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขามัวแต่ให้เวลากับการเรียนที่ต่างประเทศและกลับมาทุ่มเทให้กับงานไร่ที่เขาเป็นผู้บุกเบิกขึ้นมากับมือจนลืมนึกถึงหัวใจตนเอง โชคยังเข้าข้างที่น้ำฝนยังไม่ได้แต่งงานและตัดสินใจมาทำงานกับเขาตามแรงยุจากทั้งพ่อเขาและพ่อหล่อนที่เป็นเพื่อนกันมานาน แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้หญิงสาวมีเจ้าของหัวใจแล้วหรือยัง ชายหนุ่มถึงกับเผลอถอนใจออกมาเบา ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“แซวแค่นี้ก็โกรธไม่พูดด้วยเลยเหรอ ทำเป็นขี้ใจน้อยไปได้ คราวหลังไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่คราวหน้าไม่แน่นะ”

หญิงสาวลุกขึ้นพลางสะบัดฝุ่นที่กางเกงก่อนจะเดินลอยหน้าลอยตากลับไปขึ้นรถ ไม่นึกอยากนั่งชมวิวนานกว่านี้เพราะเกรงว่าคนร่วมทางอาจจะลุกขึ้นเตะหล่อนด้วยความหมั่นไส้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รีบไปให้ถึงไร่เร็ว ๆ จะดีกว่า จะได้เจอเจ้าของไร่และเข้านอนเสียที หล่อนเริ่มรู้สึกเพลียอยากจะมุดเข้าใต้ผ้าห่มขึ้นมาทันที หนาว ๆ แบบนี้นอนสบายดีนักละ เอกศักดิ์มองดาวบนฟ้าเป็นครั้งสุดท้ายนึกขอบคุณพรหมลิขิตที่นำหล่อนเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปขึ้นรถ

เขาได้ยินเสียงหญิงสาวผิวปากอย่างไม่เป็นเพลงสักครู่แล้วก็เงียบไป ไม่นานนักศีรษะเล็ก ๆ ข้างตัวก็เอนไปเอนมาจนชายหนุ่มต้องเอียงศีรษะหล่อนให้ซบลงกับบ่าเขาอย่างนึกเอ็นดู ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปชีวิตเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อมีน้ำฝนมาอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ แต่ก็คงจะยุ่งไม่น้อยละ





Create Date : 27 พฤษภาคม 2549
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 18:46:58 น. 0 comments
Counter : 198 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธราธร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หากมิเริ่มเพียงก้าว
เจ้าตรองดู
ฤาหาญสู้
อุปสรรคอีกนับพัน
Friends' blogs
[Add ธราธร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.