Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
พฤษภาคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
4 พฤษภาคม 2552
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๘ .. O
All Blogs
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๑๑ ..ตอนอวสาน .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่.๙.๔ - ๑๐ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่.๙.๓ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๙.๒ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๙.๑ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๘ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๗ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๕-๖ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๓-๔ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๒-๓ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๑ .. O
O มหาภารตะยุทธ .. บทที่ ๘ .. O
เพลง .. Mantra Hare Krishna
พระนางกุณฑีแม่ของปาณฑพทั้ง ๕ ทรงอ้อนวอนพระกฤษณะให้หาทางระงับสงคราม ..
ช่วงเป็นทูตสันติภาพ
.
= บทที่๘ .. คำท้าทายของทุรโยธน์ =
กมลฉันท์ ๑๒
110100 - - - 110102
110102 - - - 110103
1 = ลหุ
0,2,3 = ครุ
O อภิเศกะฤกษ์มง- - - - คละองคะบุญญา
อภิมัณยุอุตตรา - - - คุณะค่าก็ควรกัน
O อภิเศกะสมรส - - - สหบทะผูกพัน
อภิรมยะสองขวัญ - - - รติพันธะวาบหวาม
O ขณะสันนิบาตปรา- - - - ศัยะวาทะติดตาม
ขณะนั้นพระกฤษณ์ถาม - - - นยะข้อจะควรไข
O ธรรมะบุตระปลีกองค์ - - - เพราะประสงค์จะจรไพร
ยุติเหตุและเลศใด - - - จะณรงคะชีพวาย
O ระยะกาละนานอยู่ - - - ทุขะรู้ก็รอบราย
ขณะกูณฑะโพลงผาย - - - ก็ระคาย ณ อกเขา
O จะอดูระใด, ปาณ- - - - ฑพะผ่านจะเพียงเบา
พละทุขะรุมเผา - - - อุระเคล้าและบีบเค้น
O หฤทัยก็ใฝ่ศาน- - - - ติประการะควรเป็น
ทุรกรรมะทำเข็ญ - - - ก็ละเว้นบ่คิดแค้น
O ทุขะโทมนัสปวง - - - ก็ทะลวงจะเข้าแทน-
สุขะโสมนัส, แสน- - - - ยะละแล่นระเริงหา
O ทุรโยธนะโฉดฉล - - - ดละกลสะกาพา-
หะประเล่หะมารยา - - - พจนารถะยั่วหยาม
O ริษยาระรุมอยู่ - - - นิระรู้จะห้ามปราม
ทุระเล่หะงอกงาม - - - นิระคร้ามจะข่มลง
O จะประมวละข้อคิด - - - สุจริตะธำรง
พละควรจะช่วยสง- - - - เคราะหะร่วมพระทรงชัย
O ฤจะควระหาทาง - - - ดละสร้างสงบใน-
จิตะผู้จะรู้ไพ- - - - บุลยาประดาสัน-
O ติพิภพะเอื้อตอน - - - สหกระสัมพัน-
ธะสนองคระลองนัน- - - - ทิวิมละสืบไว้
O ขณะนั้นพระ"พลราม" - - - สุตะความพินิศนัย
เฉพาะเหตุเภทภัย - - - เพราะยุธิษเฐียรทำ
O พระเสาะทุกขะใส่อง- - - - คะบ่ปลงสะกานำ-
อนุชาประดาสัม- - - - ผัสะยากลำบากเข็ญ
O วุฒิภาวะปวงเฒ่า - - - จิตะเคล้ากะลำเค็ญ
ระบุห้ามบ่ควรเห็น- - - - จะละเล่นสะกากัน
O นิระยั้งบ่ฟังความ - - - นิระคร้ามกะทุกข์ทัณฑ์
ก็เพราะมานะโมหัน- - - - ตะถวัลยะครอบองค์
O ผิวะช่วยณรงค์รบ - - - สหภพะจำนง
เพราะจะทวงบุรีสง- - - - เคราะหะคืนนะสมควร-
O ระบุทูตะเพื่อสัน- - - - ติประกันและเพื่อชวน
ธฤตราษฎระใคร่ครวญ - - - ปุระล้วนจะขอคืน
O สรรพะสิ่งและบรรดา - - - คุณะค่าบ่ควรยืน-
บทะข้อจะขอคืน- - - - กะณรงคะสงคราม
O ขณะพจนะปลดปล่อย - - - นยะถ้อยพระพลราม
พิเคราะห์ล้วนกระบวนความ - - - ฤจะห้ามหทัยสา-
O ตยะกีพิโรธเรื่อง - - - ดละเคืองก็เพียงคา-
รมะพลรามปรา- - - - ศัยะพลอยติเตียนธรรม
O กละภาษะนาฏเอ่ย - - - จะเยาะเย้ยและปรักปรำ
พฤติวัตรมนัสสัม- - - - มะกระทำมิสมควร
O ก็ไฉนนะไม่โทษ - - - ทุรโยธนะก่อกวน
ดละเล่หะชักชวน - - - ประจุกละคดโกง
O ยุติธรรมไฉนหนอ - - - นยะพอจะเชื่อมโยง
และวิภาษะเค้าโครง - - - สัทะธรรมะควรหรือ
O ก็อนาถนะพลราม - - - ผิวะคร้ามและร่วมมือ
กะประพฤติยึดถือ - - - ทุรชนะอื้อฉาว
O เพราะกระทำและย่ำเหยียบ- - - - พฤติเปรียบละครั้งคราว
ตละล้วนก็สามหาว - - - นยะกล่าวรึสมควร
O บทะเรื่อง ณ เบื้องก่อน - - - ผิวะย้อนและทบทวน
วรรษะครบประจบจวน - - - ปุระควรจะคืนเขา
O ก็ไฉนจะต้องวอน - - - เพราะนคระเคยเนา
ระบุสิทธิของเอา- - - - รสะปาณฑุราชันย์
O เพราะประจักษะว่าเกา- - - - รพะเหล่านะดึงดัน
เพราะยะโสและโมหัน- - - - ธะกระชั้นชำแรกใจ
O นิระรู้จะออมชอม - - - ทิฐิพร้อมก็ล้วนไพ-
บุลยากะสาไถ- - - - ยะนิสัยะครรลอง
O ทุรโยธนะหรือยั้ง - - - สติฟังและตรึกตรอง
นยะเหตุเภทผอง - - - เพราะผยองกระเหิมใจ
O ผิวะแดนและแคว้นถิ่น - - - หัสดินะกรุงไกร
ธฤตราษฎระคืนไท้ - - - ก็จะไม่ณรงค์รบ
O ผิวะไอศวรรย์ท่าน - - - จะประทานกะปาณฑพ
บุตระเขา ฤ เการพ - - - จะสงบและยินยอม
O ก็จะผ่านประยุทธี - - - กรณีเพราะออมชอม
ผิวะไม่ก็ย่อมพร้อม - - - จะณรงคะสงคราม
O ทรุบทะตรองตอบ - - - จิตะชอบกะใจความ
ธฤตราษฏระอ่อนตาม - - - กะประสงคะโอรส
O จิตะไท้ประดุจสรร- - - - คะจะปั้นจะกำหนด
ทุรโยธนะหว่านพจน์ - - - ระบุบท ธ ตามใจ
O ภิษม์โทรณาจาร- - - - ยะ ฤ ทานกระเหิมใน-
จิตะผู้เพราะรู้ไพ- - - - บุลยาอำนาจตน
O "กรรณะ"นั้นกระหายชื่อ - - - จะระบือกำแหงรณ
ชยะผองจะต้องปรน- - - - สุขะล้นฤดีเขา
O ทุรโยธนะโฉดชั่ว - - - ฤจะกลัวกะพวกเรา
มธุรสะเสพเอา - - - รสะแล้ว ฤ วางลง
O ผิวะทูตะส่งไป - - - จะพิจัยะจำนง
ระบุน้อมจะยอมองค์ - - - มิประสงคะต่อตี
O จะยะโสและโอหัง - - - ตริ-พลังจะราวี-
ฤจะด้อย-เพราะถ้อยที- - - - นะสมัครสมานฉันท์
O สหกรเถอะร่วมแรง - - - ระบุแจ้งตระเตรียมกัน
สหมิตรสนิทสรร- - - - คะพลังทะแกล้วพร้อม
O พิเคราะห์กรรมะเกื้อกูล - - - พระประยูระยินยอม-
ระบุทูตะผ่านน้อม - - - ธฤตราษฎระแจ้งความ
O ก็เพราะญาติสองฝั่ง - - - พระก็หวังจะห้ามปราม
จิตะเดียดและเหยียดหยาม - - - พฤติทรามปลาตสูญ
O จะกระไรก็จักชู - - - ธรรมะรู้จะจำรูญ
อุปการะเพิ่มพูน - - - สุขะมวลประชาชน
O ผิวะเมื่อกระทำการ - - - จะประสานหทัยคน
ขณะนั้นจะผันตน - - - อนุสนธิ์พยายาม
O ขณะพจนารถสิ้น - - - ระบุจินตะป้องปราม
ก็เสด็จะกลับคาม - - - ณ ทวารกาตน
O ระยะกาละล่วงผ่าน - - - ณ สถานก็มีคน
ทุรโยธนะโฉดฉล - - - อรชุนก็เฝ้ารอ
O ขณะองค์พระกฤษณ์นั้น - - - นิทระนันทินานพอ
ก็กระพริบพระเนตรทอ- - - - พิศะแรกปะอรชุน
O ก็เพราะญาติสองฝั่ง - - - จิตะหวังพระการุณ
พระจะช่วยอำนวยหนุน - - - รณะยุทธะชิงชัย
O ทุรโยธนะถึงก่อน - - - อุระร้อนก็นั่งใน-
ทิศะข้างพระร่างไท้ - - - หฤทัยะมาดหมาย
O อรชุนะมาหลัง - - - ก็ลุนั่งกะพื้นปลาย-
วรบาทะเพื่อสาย- - - - นัยนาจะแรกเห็น
O ก็กระนั้นพระกฤษณ์วา- - - - ทะประการะควรเป็น
เฉพาะตนนะยกเว้น - - - นิระช่วยอำนวยรบ
O เฉพาะสารถีรถ - - - ระบุบทะเจนจบ
รณะการณ์บ่สมทบ - - - จะประหัตประหารใคร
O ทัพะมวละล้วนหาญ - - - รณะการณะแกร่งไกร
จะประทานและมอบไป - - - ตริไฉนก็เลือกเอา
O อรชุนะเห็นก่อน - - - สิ-จะวอนอะไรเรา
ระบุเลือกเถอะก่อนเกา- - - - รพะเหล่าจะเลือกตาม
O อรชุนะใช้สิท- - - - ธิพระกฤษณะบ่งนาม
ทุรโยธนะห่อนขาม - - - ระบุทัพะเกริกไกร
อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑
00110 .110102
00112....110103
1 = ลหุ
0,2,3 = ครุ
O เสร็จการณะพระกฤษณ์ - - - นิรมิตะถ้อยไม-
ตรีเตือนสติไป - - - จะกระไรก็ญาติกัน
O เหี้ยมนั้นทุรโยธน์ - - - นิระโปรดจะแบ่งปัน
หมายเพียงจะประจัน - - - รณะยุทธะต่อตี
O สมใจอรชุน - - - สหะบุญะฤทธี
ด้วยองคะพระศรี- - - - กฤษณ์ผู้สมรรถพล
O แล้วทูตะจรัล - - - ดละสันติภาพบน-
การณ์ริษยะฉล - - - ปะทุผละเผาผลาญ
O จึงองค์ธฤตราษฎร์ - - - ธ ประกาศะอวยการ
ปรึกษาพิเคราะห์ศาน- - - - ติสนองเสนอมา
O แล้วทูตะประสาร - - - นยะดาละบรรดา
จิตมวละพฤฒา - - - กระอุร้อนบ่ผ่อนลง
O องค์ปาณฑุชาติ - - - ธฤตราษฎระร่วมองค์-
เจ้าหลวงบิตุรง- - - - คะสถานะราชันย์
O ไยเการพะครอง - - - ปุระผองบ่แบ่งปัน
ควรหรือจะถวัล- - - - ยะอำนาจะลำพัง
O อีกทั้งทุรโยธ- - - - นะก็โฉดสิเหลือชัง
ลวงปาณฑพะยัง- - - - ปุระครั้งพนันฉล
O แฝงเล่หะและโยง - - - ดละโกงสะกากล
ถ่วงบาศกะ, ผล - - - ชนะปล้นและริบเมือง
O ผองเการพะนั้น - - - อภินันทะนองเนือง
ส่วนปาณฑพะเปลือง - - - ชิวะอยู่กะยากเข็ญ
O โศกศัลยะจร - - - วนะซ่อนลุลำเค็ญ
ใครเล่านะจะเห็น - - - บทะยากลำบากเขา
O สิบสามวรรษะผ่าน - - - จะสนานก็แต่เกา-
รพมวละเฉลา - - - นิระเศร้า ฤ โศกศัลย์
O ครบสัญญะประพฤติ - - - จิตะยึดและผูกพัน
ครบสิทธิถวัล- - - - ยะอำนาจและอาชญา
O หากแม้นจะมิคืน - - - ปุระฝืนกะสัญญา
จงรอรณะกา- - - - รณะยุทธะเถิดหนอ
O ชีพเการพะวง- - - - ศะจะปลง ฤ มีพอ
ร้อยองคะจะขอ- - - - หัตะสิ้นชิวินสูญ
O จวบภีษมะตรัส - - - ระบุอรรถะเกื้อกูล
พากย์ทูตะนะพูน - - - นยะสัตยะถ้วนความ
O ด้วยสัตยะจะป้อง - - - ปุระผองและเขตคาม
จึงภีษมะปราม- - - - พจนัตถะยั่วเย้ย
O แล้วกรรณะกระเหิม - - - นยะเติมเพราะต่างเคย-
แข่งขันเพราะจะเชย- - - - ยุวะเทราปทีนวล
O เดียดฉันทะเพราะริษ- - - - ะยะจิตะครุ่นครวญ
พันธุ์พิษะกระสรวล - - - และกระเหี้ยนกระหือรณ
O ฝากทูตเถอะนะย้อน - - - และสะท้อนประโยคตน
จงปาณฑพะด้น - - - หัสดินขมาเขา
O เการพะจะโปรด - - - ระบุโทษะเพียงเบา
ปาณฑพะและเทรา- - - - ปทีเยาว์จะร่มเย็น
O ท่านภีษมะตรับ - - - กรรณะศัพท์บ่ควรเป็น
ขัดคำก็เพราะเห็น - - - อรชุนะชำนาญ-
O เชิงยุทธะและอา- - - - วุธะกล้าจะรำบาญ-
บดเสี้ยนและปหาร - - - อริลาญะชีพสูญ
O เจ้าหยิ่งและยะโส - - - นยะโอ่นะเพียบพูน
เกรงวาระอดูร - - - กะประยุทธจะหม่นหมอง
O จนท้าวธฤตราษฎร์ - - - ระบุภาษะปรองดอง
ฝากทูตะสนอง - - - พจนารถะสู่หลาน
O เชิญปาณฑพะเคลื่อน - - - ทะลุเถื่อนและถิ่นธาร
เยี่ยมลุงและสมาน - - - กุธะเคืองและขุ่นใจ
O ครั้งนั้นธรรมบุตร - - - บริสุทธิด้วยไม-
ตรีหลานก็พิจัย - - - พิเคราะห์เรื่อง ณ เบื้องหลัง
O ฝากทูตะแถลง - - - นยะแจ้งสดับฟัง
หลานเพียงเฉพาะหวัง - - - ปุระเก่าจะอาศัย
O ส่วนอื่น, ทุรโยธน์ - - - ผิวะโปรดก็เอาไป
หวังข้อระบุไว้ - - - จะเหมาะสมและเห็นตาม
O ล่วงกาละกระนั้น - - - นิระสัญญะตอบความ
เงียบงันระยะยาม - - - ขณะจิตะคิดครวญ
O เงียบนั้นดุจะว่า - - - คุณะค่าบ่เห็นควร-
เริ่มโทษะกระบวน - - - ดละส่วนผสานเสริม
O บดเบียดคุณะธรรม - - - ภพะต่ำก็ต่อเติม
พาฉละกระเหิม - - - และกระเหี้ยนกระหือรณ
O องค์กฤษณะนั้น - - - ก็จรัละบัดดล
หวังกล่อมทุพพล - - - พิเคราะห์ศัพทะกลับใจ
O แต่ล้วนคณะญาติ - - - กุรุชาติเกริกไกร
แล้วเหตุนะไฉน - - - จะพิฆาติล้างกัน
O เต็มสัญญะประพฤติ - - - บทะยึดและผูกพัน
ปาณฑพะจรัล - - - ณ พนัสะพงไพร
O สิ้นเหตุจะปั้น - - - บทะรั้นและดื้อไป
ด้วยโลกะจะไข - - - นยะศัพทะอื้ออึง
O ว่าสัตยะเกา- - - - รพะเขาบ่คำนึง
ล้วนฉละจะพึง - - - ระบุพากยะหยาบหยาม
O เลือดขัตติยะหรือ - - - บทะคือบ่ควรความ
ใครไหนล่ะจะห้าม - - - กิติศัพทะภินท์พัง
O ครั้งนั้นทุรโยธน์ - - - ก็อุโฆษะเสียงดัง
นิ้วเดียวปุระยัง- - - - ยุติหวังจะได้คืน
O ภูมิภาคหัสดิน - - - ปุระถิ่นนะหยัดยืน
รอปาณฑพะขืน - - - พละแกล้วและเข้าครอง
O โดยการรณะยุท- - - - ธะจะรุดก็เพื่อรอง-
รับบทะผยอง - - - อธิราชะหนึ่งเดียว
O อุกอาจะฉกรร- - - - จะผจัญะด้วยเรียว-
แหลมศรเถอะจะเกรียว - - - พละฆาตะชีพสูญ
O ห่อนหมายจะประนอม - - - นิระพร้อมจะเกื้อกูล
ต่อญาติประยูร - - - ทุรโยธนะตัดสิน
O องค์ภิษมะนั้น - - - ก็ผจัญะแก่จินต์
เการพะถวิล - - - จะประลองประยุทธี
O ทราบว่าอรชุน - - - ศระดุลยะภาพมี
เหนี่ยวคันธนุศรี - - - นิระที่จะต้านทาน
O เหิมนั้นทุรโยธน์ - - - จิตะโฉดเพราะสันดาน
คาบนั้นจะสมาน - - - จิตะร่วมก็ล้มเหลว
O ป่วยการะจะกล่าว - - - ระอุผ่าวก็ด้วยเปลว-
เพลิงริษยะเสว- - - - ะนะด้วยนิสัยพาล
O ป่วยการะจะกล่อม - - - ประจุพร้อมกะวิญญาณ
คือโทสะผสาน - - - ริษยาผะแผดเผา
O เหลือเพียงจะประลอง - - - เพราะผยองจะหมายเอา-
เมืองปาณฑพะเขา - - - กุธะพากยะหมิ่นหยาม
O แต่นี้สินะที่- - - - ปถวีจะต้องทราม
เลือดคนก็จะลาม - - - ภวะแทนอุทกไหล
O แต่นี้สรรพะเสียง - - - จะประเดียงประดังไกล
คน, อาวุธะไหว - - - รณะศัพทะอื้ออึง
จบบทที่ ๘
Create Date : 04 พฤษภาคม 2552
Last Update : 9 ธันวาคม 2559 13:19:11 น.
46 comments
Counter : 3085 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะ พี่กาย
พูมาเรียนรู้ลักษณะบังคับและการเขียน กมลฉันท์ ๑๒
บทประพันธ์แต่ละประเภท..มีหลากหลายจัง
เฉพาะฉันท์...มีหลายแบบนะคะ จำได้ไม่หมด
แค่ฉันท์แบบเดียวก็ยังเขียนไม่ได้เลยค่ะ
โดย:
พธู
วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:13:07 น.
กำลังม่วนกับฉันท์เลยนะคะ ..ยิ้ม..
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:45:10 น.
สวัสดีคร้า....พี่กาย .
แพมมาชื่นชมฉันท์ลักษณ์อันกอปด้วยความงดงาม
ของพี่กาย....คืนนี้นิทราหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์นะค่ะ
โดย: มัททะนะ (
mastana
) วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:01:12 น.
แล้ว อิราวัต -พัภรุวาหนะ ไปไหนคะ จึงกล่าวถึง อภิมัณยุ ซึ่งเป็นน้องเล็กสุด...
โดย: sirivinit (
sirivinit
) วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:37:47 น.
ขอคุยกับ คำถามคุณเม็ดขนุน...พอดีคอมเมนท์ที่บล็อกนั้นไม่ได้ค่ะ
..ไปไหนไม่ได้ คอมเมนต์ไม่ได้ค่ะ ตื่นแล้วมาลองดูใหม่ คิดถึงเพลง กฤษณโกวิน เลยไปฟัง ไปเจอคุณเม็ดขนุนถาม...
ชมพูทวีป....
เคยอ่านจากไหนจำไม่ได้ค่ะ... หมายถึงดินแดนอันร่มเย็น ทำมาค้าขายได้ดี คนโบราณเรียกประเทศอินเดีย ที่แต่ก่อนรวมถึงพื้นที่ของปากีสถาน-เนปาล-บังคลาเทศ เพราะมีรูปร่างคล้ายต้นหว้า...มี 16 แคว้น แบ่งชนชั้นเป็น 4 วรรณะ..กษัตริย์-พราหมณ์-แพศย์-ศูทร
กษัตริย์มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์เต็มแปดท้องพระคลังหลวง... มี
รัตนเจ็ดประการ จักรแก้ว ..ม้าแก้ว... ช้างแก้ว...
ขุนพลแก้ว.. ขุนคลังแก้ว.. รัตนกวี-กวีแก้ว(แบบพี่กายนี่แหละค่ะ) และนางแก้ว (หมายถึงมเหสี ดีเพียบพร้อม งดงาม-เบญจกัลยาณี) ทั้งหมดนี้ อยู่ในเมืองแก้ว...
จะตรงข้ามกับกาฬทวีป ที่อดอยากแร้นแค้น ยากไร้ขัดสน....
เปรียบชมพู... คืองามสดใสอุดมสมบูรณ์
กาฬ...ดำ หมองหม่น มืดมนอนธการ...
และคำว่าชมพูทวีป (Jambudvipa)
เหมือนพนมเทียน เคยเรียก ไม่แน่ใจว่าในศิวา-ราตรีหรือไม่ค่ะ...
และโสภาค สุวรรณ ในเรื่อง สิคีริยา...ศิขริน-เทวินตาเรียก ชมพูวิภา (พราหมณ์มาฆะผู้บิดา...)
คำว่าชมพูทวีป กลับไม่เป็นที่รู้จักในอินเดียนัก
จะรู้จัก คำว่า ภารตะมากกว่า
เพราะเป็นชื่อที่มาจาก...ท้าวภารตะ ปฐมวงศ์แห่งราชวงศ์ปาณฑปจากเรื่องมหาภารตะ
ที่เรากำลังติดตามอ่านฉันท์อย่างสนุกกันนี่แหละค่ะ
วิมีเพื่อนเป็นคนอินเดีย ชื่อ ศรีสัตยาเดียร์ลักษมีณา เธอไม่รู้จักคำว่า Jambudvipa อาจจะเพราะเป็นเด็กก็ได้ค่ะ
คุณเม็ดขนุน นึกว่าเราคุยกันนะคะ เผื่อท่านผู้อื่นทราบ จะได้มาร่วมวงคุยกับพวกเราด้วยค่ะ
ตั้งแต่วันเกิด คุณเม็ดขนุนหายไปเลยนะคะ...
โดย: sirivinit (
sirivinit
) วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:17:19 น.
รออ่านต่ออยู่เรื่อยๆ นะคะ
โดย:
เพรง.พเยีย
วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:5:46:59 น.
สวัสดีค่ะ พี่กาย
เช้านี้นกกลับมาระยองเร็ว
ออกมาแต่เช้ามืดค่ะ ก่อนตี 5 อีก
พี่กายกลับระยองเหมือนกันหรือเปล่า
หรือว่า ลาต่อ อยู่กรุงเทพฯ คะ
ตามมาอ่านงานพี่กายเช่นเดิมค่ะ
รออ่านเรื่อยๆ เช่นเดียวกับคุณนาง
งานของพี่กาย งดงามและมีคุณค่านะคะ
โดย: ดวงใจพ่อ (
Nok_Noah
) วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:06:21 น.
สวัสดีค่ะ คุณสดายุ....
กลับมาทำงานหรือยัง...คะ
รบกวนที่หลังไมค์ด้วย....นะคะ
ขอบคุณ...ค่ะ
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:22:59 น.
สวัสดีครับทุกๆคน....
น้องพู...
ในบรรดาประเภทของร้อยกรองไทยที่มี
กลอน...กาพย์...โคลง...ฉันท์...นั้น
ฉันท์เป็นประเภทที่มีฉันทลักษณ์หลากหลายที่สุด
พี่เดาว่าได้มาจากการเล่นจังหวะคำของคนโบราณ
ที่มีเวลาว่างมากจากช่วงรบทัพจับศึก
เราจึงจำฉันทลักษณ์ได้ยาก...นอกจากเฉพาะรูปแบบ
ที่เราเขียนกันบ่อยๆ...
อย่างพี่นี่จะจำได้แค่...
อินทรวิเชียร ๑๑(สักกะวัชระฉันท์)
วสันตดิลก ๑๔
สัททุลฯ ๑๙
อีทิสัง ๒๐
เท่านั้น
นอกนั้นต้องเปิดตำราอ้างอิง...
อัล....
ก็เวลาเขียนติดลม...มันก็ม่วนดีอยู่....
แต่เวลาทิ้งไปนานๆ...มันจะต้องเคาะสนิม
กันทุกครั้ง เขียนบรรยายเรื่องราวไม่ยากเท่าไร
แพม...
คำฉันท์ศัพท์ไม่คุ้นตามีมากอยู่...
หวังว่าน้องคงพออ่านได้นะ...
เรื่องราวยิ่งใหญ่ของอินเดีย...ค่อยๆอ่านกันนะ
พี่หลับฝันดีทุกคืน...ค่ะ
ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาไปเยี่ยมใคร....
ขออำภัยมา ณ ที่นี้ นะขอรับ
น้องวิ...
สงสัยตำราที่พี่อ้างอิง....จะไม่ละเอียดมากนัก
ในมหาภารตะยุทธนั้น มีเรื่องปลีกย่อยอีกมากมาย
ที่เขียนกันไม่หวาดไม่ไหว....
เพียงแต่พี่เอาแต่เฉพาะบุคคลที่มีความโดดเด่น
มากล่าวถึงเท่านั้น....
อภิมัณยุ....เป็นลูกชายของอรชุนกับพระนางสุภัทรา
ที่เป็นน้องสาวของพระกฤษณะ...และเป็นลูกชาย
ที่รบเก่งที่สุดของอรชุน....
ในเบื้องปลาย...เกิดกรณีการกลุ้มรุมสังหารขึ้น
กับเจ้าชายองค์นี้โดยกลุ่มบุคคลระดับแกนนำของ
ฝ่ายเการพ...การต่อสู้ที่ไม่เป็นธรรมนี้เมื่อทราบถึง
ฝ่ายปาณฑพ...ก็ทำให้บังเกิดความเปลี่ยนแปลง
อย่างใหญ่โตขึ้นมาในการสู้รบ...เรียกว่าเป็น
จุดเปลี่ยนก็ได้
การอ่านฉันท์อาจจะเข้าใจได้ยากสักหน่อยสำหรับ
คนที่ไม่คุ้นเคยกับศัพท์แสงที่ใช้....หากมีเวลาพี่
จะพากย์เป็นร้อยแก้วประกอบไว้ด้านล่างของแต่
ละตอนทุกบทไป....เท่าที่คำฉันท์บทนั้นๆเขียนถึง
คิดว่าจะเป็นประโยชน์มากขึ้น
ขอบคุณคำอธิบายเรื่อง ชมพูทวีป นะคะ
น้องเป็นคนรอบรู้จริงๆ...พี่ขอชื่นชม...หากคนไทยรัก
การอ่านแบบน้องวิ...เป็นส่วนใหญ่...เราจะพัฒนาชาติ
ได้ง่ายกว่านี้มากเลย...
โดย: สดายุ IP: 58.137.10.34 วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:24:33 น.
น้องนาง....
ค่ะ...พี่ก็เขียนติดต่อกันเป็นช่วงๆ...บางช่วง
ก็จะหายไปนานหน่อย...อย่างไรก็แล้วแต่..
ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายก่อนที่สงครามจะระเบิดขึ้น...
พี่ขอบคุณมากนะคะกับเพลง และรูปภาพประกอบ
ที่น้องส่งมาให้มากมาย....
สบายดีแล้วใช่ไหม ?
นก...
ค่ะ...พี่มาระยองแล้วค่ะ...ทำงานอีกสองวัน
ก็เข้ากรุงเทพเย็นพฤหัสอีก...ขับรถเป็นว่าเล่น
ทำไงได้คะ....ติดแสงสีเมืองกรุงแล้ว...อิๆๆ
สบายดีนะคะ....
พี่ปอป้า...
ครับ...ผมตอบหลังไมค์แล้วครับ
ยินดีครับ...พี่ส่งมาทางเมล์เลยนะครับ...
แล้วพอมีเวลาผมจะดูให้ครับ
ยินดีครับ....
โดย: สดายุ (
สดายุ...
) วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:04:12 น.
"อย่างพี่นี่จะจำได้แค่...
อินทรวิเชียร ๑๑(สักกะวัชระฉันท์)
วสันตดิลก ๑๔
สัททุลฯ ๑๙
อีทิสัง ๒๐
เท่านั้น
นอกนั้นต้องเปิดตำราอ้างอิง..."
...ผมเชื่อว่าท่านไม่ได้โกหกแน่...แต่ผมประหลาดใจครับ
แหะๆ
โดย: ศารทูล IP: 125.25.25.134 วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:38:18 น.
ศารทูล...
ประหลาดใจอะไรพ่อหนุ่ม
จะไปเสียเนื้อที่สมองจำไปทำไมกะฉันทลักษณ์
เข้า google > ฉันท์ > Enter อันแรกเลย
มีครบ...
อ้อ...ภุชงปยาตก็จำได้...อย่างอื่นไม่ค่อย
ได้เขียน
โดย:
สดายุ...
วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:22:20 น.
ขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณวิ
หลังวันเกิดก็ไปดูงานมาค่ะ (ไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนใครว่านะคะ แหะ แหะ)
โดย:
medkhanun
วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:43:38 น.
คืนนี้นอนไม่หลับอะพี่ เลยลุกมารื้ออ่านบล็อกเพื่อน ๆ ซะพรุน
มีวิธีแก้โรคนอนไม่หลับไหมคะ ไม่อยากทานยานอนหลับ เฮ้อ...
บ่น ๆ ๆ แล้วเดินออกไป
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:32:42 น.
สวัสดีค่ะคุณสดายุ
แม่เอื้องเข้าอ่านภารตยุทธ์คำฉันท์
เดี่ยวนี้อ่านได้คล่องและเข้าใจมากขึ้น
สบายดีนะคะ..ขอให้มีความสุขค่ะ
โดย: แม่เอื้อง IP: 118.172.50.241 วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:49:58 น.
เม็ดขนุน....
อ้อ..ไปดูงานมาจริงๆ..น่ะหรอกรึ...
ขอโทษนะคร้าบบบ...ที่กล่าวหาท่านอาจารย์ว่าไปเที่ยว
555
อัล...
ว่ากันว่า...การนอนไม่หลับเพราะประสาทมันตื่นตัว
แม้ร่างกายจะอ่อนเพลียสักแค่ไหนก็ตาม....
ประการนี้จะเห็นได้ว่า...ใจ นั้นสำคัญอยู่เหนือกาย
และบังคับกายได้...
จากประสบการณ์ของพี่เอง...
เวลาเรานั่งหลับตานนิ่งๆ...ใจมันจะวิ่งวุ่นวายไปมา
นึกเรื่องโน้นเรื่องนี้...พอสักพักเริ่มนิ่งลงก็จะง่วง
คนนั่งสมาธิจำนวนมาก...ตัวจะโค้งงอไปข้างหน้า
หลับไปในท่านั่ง...ไม่ได้อะไรอย่างที่คิดกันหรอก
เขาต้องการให้จิตรำงับสงบ...เท่านั้น...ส่วนสมาธิ
จะเกิดก็ต่อเมื่อฝึกจนไม่ง่วงแล้วนั่นแหละ
แปลว่าหากบังคับจิตให้อยู่นิ่งๆ...มันจะคิดอะไรก็
ตามเมื่อรู้ตัวก็ให้กลับมานิ่งๆใหม่...ทีนี้จะนิ่งด้วยอะไร ?
เขาก็กำหนดให้จดจ่อที่ลมหายใจเข้าออกไง...เพราะ
มันเกิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อผูกจิตไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จะได้ลืมเรื่องอื่นๆไป...พอมันนิ่งสักพักก็จะง่วง....และ
หลับได้...
ใครขี้เกียจนั่ง...ก็ใช้วิธีนอนเลย
จับที่ลมหายใจไปเรื่อยๆ...มันพล่านออกไปเมื่อไร
พอรู้ตัวก็เอาใหม่...อย่าไปเคร่งเครียด...
หากเข้าใจธรรมชาติของจิตก็จะควบคุมจัดการไม่ยาก
โดย: พี่ (
สดายุ...
) วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:56:02 น.
สวัสดีครับแม่เอื้อง....
โรงเรียนใกล้เปิดแล้วสิครับ....
หรือคุณครูบางคนอาจต้องไปจัดการเรื่องราว
ในโรงเรียนแล้วก็มี....
อากาศค่อนข้างร้อน....
ดูแลสุขภาพครับแม่เอื้อง
โดย:
สดายุ...
วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:00:56 น.
คืนนี้อัลจะลองนอนกำหนดลมหายใจเข้าออกตามที่พี่แนะนำ
ใจคนมันวิ่งไม่หยุดยังกะลิง... จับปูใส่กระด้งยังง่ายกว่า
แต่ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง คงแย่แหง ๆ
แล้วก็กะว่า คงใช้เวลาช่วงบล็อกปิดเอาไปทำสมาธิเพิ่มด้วย
ไว้ได้ผลยังไง จะมารายงานพี่ตอนบล็อกเปิดเน้อ...
(เอ้อ... รู้สึกละอายเหมือนกัน เวลามีปัญหาอะไรก็วิ่ง
มาขอคำปรึกษาพี่ทุกที ไม่รู้จะว่าไงดีแล้ว)
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:58:13 น.
สวัสดีค่ะพี่กายคนดี
ช่วงนี้ยุ่งมากมายเหรอค่ะต้องดูแลสุขภาพด้วยน้า
ส่งผ่านความคิดถึงห่วงใยในอักษรด้วยสองเพลานี้
ให้พี่ยา...มีความสุขตลอดเวลา.. นิทราหลับฝันดีค่ะ
โดย: มัททะนะ (
mastana
) วันที่: 8 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:03:12 น.
อัล...
ลองง่ายๆไปก่อน...อย่าไปอ่านทฤษฎีน้ำท่วมทุ่งมาก
เดี๋ยวจะงง....อิๆๆ...
ในทางศาสนาพุทธ...หลักการทำสมาธิภาวนามีถึง
40 วิธี...แต่พระพุทธองค์ใช้กำหนดลมหายใจ
เข้าออก...คือ อาณาปานสติ เป็นหลัก...
เข้าจว่าไม่มีโทษต่อผู้ปฏิบัติแต่อย่างใด...
แพม...
ขอบคุณนะคะ กับความปรารถนาดีที่มีให้กัน
แพมเองก็ดูแลสุขภาพนะคะ...
โดย: พี่ IP: 125.27.78.142 วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:20:23 น.
สวัสดีค่ะ พี่สดายุ
ดอกบัวมาอ่านงานพี่สดายุ งดงามมากค่ะ
แต่ดอกบัวจะต้องมาอ่านหลายๆรอบ
เพื่อทำความเข้าใจ ในเนื้อคำ ที่พี่สดายุเขียนให้มากๆ
บางคำดอกบัวก็ไม่เข้าใจเท่าไร
เพราะคำประมาณนี้ ดอกบัวรู้น้อยค่ะ
แต่ที่แน่ๆ ดอกบัว มาสวัสดีพี่สดายุ
ดอกบัวขอให้พี่สดายุ มีสุขภาพแข็งแรง มีแต่ความสุขค่ะ
โดย: ดอกบัว IP: 124.121.4.11 วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:09:34 น.
เมื่อ... ตอนนอนไม่หลับมา
ตอนจะนอนหลับก็ต้องมา
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ..อมยิ้ม..
คำฉันท์ยุคไฮเทค...
มหาภารตะยุทธ ยาวได้สุดยอดเลย
สามารถมาก ๆ ค่ะ... พี่กะไว้กี่บทจบ
หรือว่าเขียนไปเรื่อย ๆ แบบไม่มี
แพลนล่วงหน้าเนี่ย
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:37:26 น.
มาติดตามค่ะ
พี่คะ
พรุ่งนี้สัมภาษณ์เด็ก admissionแล้ว
ขำๆ กับคำถามที่ว่า ทำไมถึงเลือก ม.แม่ฟ้าหลวง
เกือบทุกคนจะตอบว่า เพราะสวย
เพลงประกอบนี้ อาจารย์ห้องข้างๆแอบกลัวด้วยค่ะ
เข้ามาเคาะถามว่าสวดอะไร เหอๆ
โดย:
medkhanun
วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:33:44 น.
ดอกบัว....
สวัสดีค่ะ...สบายดีนะคะ
อ้อ...มาอ่านฉันท์ก็อาจมีคำศัพท์เยอะหน่อย
เปิดพจนานุกรมออนไลน์...ในลิงค์ขวามือ
จะพอหาความหมายได้ไม่ยาก....
มหาภารตะยุทธเป็นวรรณกรรมเรื่องยาวที่สุด
ของอินเดีย...เป็นเหตุการณ์เมื่อ 4000 ปีที่แล้ว
การรบกันเองของเผ่าพันธ์อารยัน - aryan
อัล...
ไม่ได้กะไว้ว่าจะจบในกี่บท...
แต่เรื่องมันมาถึงตอนกำลังจะรบกัน...
เรื่องราวที่ดำเนินมาทั้งหมด...ล้วนประมวลมา
เพื่อจะมาสู่การรบกันที่ทุ่งกุรุเกษตร...ปัจจุบัน
ทุ่งนี้อยู่นอกกรุงนิวเดลฮี....
การรบครั้งนี้จะดำเนินไปเป็นเวลา 18 วัน
โดยมีกำลังรบฝ่ายเการพ 11 อักเษาหิณี
และฝ่ายปาณฑพ 7 อักเษาหิณี
โดยบางที่มาถือว่า 1 อักเษาหิณี ประกอบด้วย
กองรบช้าง 21,780 เชือก
รถรบ 21,870 คัน
กองรบม้า 65,610 ตัว
ทหารราบ 109,350 คน
คนทั้งหมดประมาณ 4-5 ล้านคนล้วนตายเกือบ
ทั้งหมด....
เรื่องมาถึงก่อนการรบแล้ว...
คงจบได้ไม่ยาก....หากไม่ขี้เกียจซะก่อน...555
เม็ดขนุน....
เพลงนี้เป็นเพลงสรรเสริญพระกฤษณะ...ซึ่งเป็น
นารายณ์อวตารปางที่ 8 เหมือนที่พระรามเป็นนารายณ์
ปางที่เท่าไรจำไม่ได้....ฟังแล้วน่ากลัวเหรอ...
เอ...แปลก
ครูข้างห้องขวัญอ่อนจริง...
พระกฤษณะมีพระบิดาเป็นพี่ชายของพระนางกุณฑี
ที่เป็นพระมารดาของพี่น้องปาณฑพ
มีพี่ชายคือ...พระพลราม
มีน้องสาวคือ...พระนางสุภัทรา
มีญาติคือ...สาตยกี...ผู้เป็นศิษย์อรชุนและรอดตาย
จากสงคราม 18 วัน
พระกฤษณะครองกรุงทวารกา หรือ ทวาราวดี
อยู่ในราชวงศ์ยาฑพ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:27:14 น.
คุณสดายุค่ะ
ดิฉันขอเพลง ลาวสวยรวย กับ
เพลง มยุราภิรมย์ด้วยนะค่ะ
ช่วยส่งให้ที่
too_pooh.g@hotmail.com
ขอขอบพระคุณมากจริงๆ ค่ะ
ถ้าสังให้
โดย: ตู่ IP: 113.53.168.143 วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:44:58 น.
สวัสดีค่ะ พี่กาย
เป็นคำฉันท์ที่ยาวจริงๆ นะคะ
คงเพราะเรื่องราวมหาภารตะยุทธ
ที่มีเรื่องราวการรบ 18 วันที่น่าสนใจ
แบบนี้พิมพ์รวมเล่ม เป็นงานที่ทรงคุณค่าค่ะ
พูไปหาอ่านเรื่องราวต่างๆ ตามเวบ
ไปเห็นภาพพระกฤษณะกับพระนางราธาค่ะ
เลยเก็บมาฝากพี่กายนะคะ
พระกฤษณะกับพระนางราธา สาวกผู้ภักดีต่อพระกฤษณะ
พระนางราธาหรือราธิกา
โดย:
พธู
วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:38:18 น.
สวัสดีค่ะ คุณสดายุ...
พี่ไม่สบายเสียหลายวัน เลยไม่ได้เข้าบล๊อก..
คุณสดายุ สบายดี...นะคะ
วันนี้พี่กลับเข้าบล๊อก พร้อมกับอัพอินเดียต่อ
ถึงเมืองพาราณสีแล้วค่ะ ถ้าสนใจ เชิญที่บ้านพี่..นะคะ
สำหรับเรื่องกลอนนั้น พี่ได้ส่งมาให้คุณสดายุ
ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว คิดว่าน่าจะได้รับแล้ว..นะคะ
ก็ต้องขอบคุณในความกรุณาด้วย...ค่ะ
ขอให้มีความสุข สนุกสนานกับชีวิตและการทำงาน..นะคะ
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:34:09 น.
งั้นก็อย่าขี้เกียจไปก่อนล่ะพี่...
เอาใจช่วยให้เขียนจนจบเน้อ
อัลจะได้อ่านจากที่นี่ ไม่ต้อง
ไปซื้อหนังสือมาเป็นเล่ม ๆ
ประหยัดเงินดี (งกสุดฤทธิ์ค่ะ)
ราตรีสวัสดิ์นะคะ ..ยิ้มกว้าง..
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:56:50 น.
วุ่นวายเรื่องเตรียมงานแต่งงานเลยไม่ได้แวะมาอ่านนาน
สาบยดีนะคะพี่?
ยิ้ม..
โดย: Jean IP: 88.109.192.199 วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:09:33 น.
คุณตู่...
ผมมี file mp3 แต่เพลง ลาวสวยรวย
ทั้งของกอไผ่ และ คุณพระช่วย
แต่ไม่มี มยุราภิรมย์ครับ....
แล้วจะส่งไปให้วันที่เนตดีนะครับ....วันนี้เนตไม่ดี
น้องพู....
ขอบคุณค่ะ....สองรูปนี้พี่มีแล้วค่ะ....
เขียนฉันท์ยาวๆ....ท้าทายตัวเองไงคะ
เขียนเรื่องของพราหมณ์ให้ชาวพุทธอ่านก่อน
รวมทั้งเตรียมไว้เขียน....เรื่องพระสมณะโคดม
ปิดท้ายบล็อคฉันท์....ให้ครูภาษาไทยมาอ่านกัน
พี่ปอป้า....
ผมสบายดี...ไม่ค่อยเจ็บไข้กับใครเขา....อาจเพราะ
มีคนคอยให้ศีลให้พรกันมากมายลับหลัง....เลยหัวแข็งครับ
ครับ....แล้วผมจะแวะไปนะครับ....
เรื่องกลอนได้รับแล้วครับ
แต่ยังไม่มีเวลาดูให้เลย....
อาจช้าหน่อย...ต้องขออภัยด้วยครับ...มีเรื่องต้องจัดการเยอะ
โดย: สดายุ IP: 125.27.76.70 วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:02:32 น.
อัล...
ก็คงเขียนไปเรื่อยๆ...คงจบได้ภายในปีนี้
น้องก็มาอ่านดูนะ
บางครั้งก็มีเรื่องอื่นมาคั่นจังหวะทำให้ยืดยื้อ
อย่างไรเสียคำฉันท์ก็เขียนง่ายกว่าโคลง
เป็นไหนๆ...
จีนา....
พี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ....
หวังว่าจีนา..และ...เขาคนนั้นจะครองคู่กัน
อย่างมีความสุขตลอดไป....
ขอบคุณนะคะที่มาบอก
แม้จะเป็นคนหลังๆก็ตาม
ยิ้ม....
โดย: พี่ IP: 125.27.76.70 วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:12:40 น.
สวัสดีค่ะ
มีความสุขกับวันพฤหัสฯ ที่อากาศเย็นสบาย...นะคะ
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:28:21 น.
สวัสดีครับพี่ปอป้า...
วันนี้ที่ระยองฝนตกหนักทั้งวัน....
จนเนตล่มเข้าไม่ได้เลย....
รูปนี้ผมมีแล้วครับ
ขอบคุณที่เอามาให้ครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 14 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:39:59 น.
สวัสดีค่ะ พี่กาย
อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑...พูไม่เคยรู้จักค่ะ
ดีจังเลย มีฉันทลักษณ์มาให้เรียนรู้อีกแล้ว
ไว้จะลอง ฉันท์ ดูสักบทนะคะ
โดย:
พธู
วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:13:21 น.
สวัสดีค่ะ คุณสดายุ...
คุณสดายุ พูดถึงเรื่องพระพุทธรูป
พี่เลยนำมาฝาก ไม่แน่ใจว่าเคยเห็นหรือยัง
ภาพบนซ้ายมือ เป็นปางปฐมเทศนา
สร้างด้วยหินทรายจากชูนาร์ สมัยคุปตะ
น่าเสียดายที่ถูกพวกมุสลิม ทำลายพระนาสิกและพระหัตถ์เสียหายไปบางส่วน
ส่งเข้าประกวดงานประติมากรรมโลกหลายครั้ง
ได้รับรางวัลชนะเลิศมาตลอด จนยูเนสโก บอกว่าไม่ต้องส่งมาอีกแล้ว..
ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑ์สารนารถ
ของจริงสวยงามมากค่ะ แต่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
พี่ไปทีไร ต้องไปยืนชมเป็นเวลานาน ๆ ทุกครั้ง...
ส่วนภาพเล็ก ถัดลงมา ได้มาจากลูกชายค่ะ
ไม่ทราบว่าเค้าไปเอามาจากไหน
และภาพใหญ่ เป็นโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในอินเดีย
ปัจจุบันก็ประดิษฐาน อยู่ที่สารนารถเหมือนกันค่ะ
พี่ชอบพุทธศิลป์แนวนี้..ค่ะ
ที่บ้านเรา นอกจาพระพุทธชินราชแล้ว
ก็เห็นแต่ พระศรีศากยมุนี ที่วัดสุทัศน์ อีกองค์ที่งาม..ค่ะ
มีความสุขกับวันทำงาน...นะคะ
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:35:05 น.
น้องพู....
ค่ะ...ฉันท์นี้เขียนไม่ยากเท่าไร
ลองดู...ตามฉันทลักษณ์ที่ทำผังไว้ให้
หากลองควรลองสัก 5-6 บทพอเป็นเรื่องเป็นราว
พี่ปอป้า....
ขอบคุณมากครับกับรูปองค์พระสวยๆ
ผมชอบศิลปะอินเดีย...ชอบที่มีรายละเอียดมากมาย
ไม่ว่ารูปปั้น หรือ รูปวาด...
พี่ลองดูรูปในมหาภารตยุทธ ตอนที่ ๑ ดูสิครับ
วาด อรชุน กับพระกฤษณะ เป่าสังข์ ได้ละเอียดละออ
ปานภาพถ่าย...สีสันสวยงาม
แปลกมากที่อีกวัฒนธรรมใหญ่ที่อยู่รอบบ้าน
คือ จีน...ผมกลับไม่ชอบเลย...ไม่ว่ารูปวาดลายเส้น
หรือศิลปกรรม ปฏิมากรรม...พี่ลองนึกถึงระเบียง
ที่มีลายเป็นเส้นเหลี่ยมๆขดซ้อนแบบก้นหอย...
หาความงามไม่ได้เลยทีเดียว....
อ่านเรื่องมุสลิมทำลายพระพุทธรูปแล้ว...ต้องข่มใจ
มากทีเดียว...ไม่นานที่ผ่านมาพวกตาลีบันใน
อาฟกานิสสถานมันระเบิดพระพุทธรูปขนาดใหญ่
ที่แกะสลักเข้าไปในภูเขาทิ้งก็อีกเรื่องหนึ่ง...
เป็นอีกเรื่องที่ศาสนาที่ริษยาลัทธินี้กระทำ
หยาบหยามต่อความเชื่ออื่น....
ก่อนจะถูกฝรั่งหัวแดงหิ้วหมูเข้าไปไล่จนต้องระเห็ดไป
อยู่ถ้ำ...
ยินดีที่พี่แวะมา..เอาความรู้ต่างๆมาเผยแพร่ด้วย
ขอบคุณครับ
โดย: สดายุ... IP: 125.27.76.9 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:53:22 น.
พี่ไปดูมหาภารตยุทธตอนที่ ๑ มาแล้ว...ค่ะ
งามจริง ๆ อย่างที่คุณสดายุ ว่าเลย...ค่ะ
พี่เองก็ชอบศิลปะทางอินเดียเหมือนกัน
สำหรับความเห็นของพี่นะคะ พี่ว่าศิลปะจีนไม่เป็นธรรมชาติค่ะ...
ช่วงที่พวกตาลีบัน ระเบิดพระพุทธรูปนั้น รู้สึกสลดใจมากเลยค่ะ
พี่ว่าไม่มีศาสนาไหนจะใจกว้างเท่าศาสนาพุทธของเราหรอก..นะคะ
ขอบคุณที่สร้างสรรผลงานที่มีประโยชน์มากมาย
ให้พี่และผู้อื่นได้รับความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง
ขอให้คุณสดายุ โชคดี มีความสุข...นะคะ
...วันนี้ ราตรีสวัสดิ์ ค่ะ...
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:14:26 น.
สวัสดีคะคุณพี่...
ไม่ได้เข้ามานาน เข้ามาแล้วอย่าง งง
ตกกะใจเพลงอย่างแรงงงงง
พี่สบายดีนะ...
โดย:
บุปผาลีลาวดี
วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:05:35 น.
สวัสดีครับพี่ปอป้า....
ครับ...ศิลปะอินเดีย...งาม
สำหรับคนที่เสพงานศิลป์เป็นอาหารใจ
จะมีอะไรจะสุขใจเท่าการพินิจ
รูปเงา..สีสัน...และลายเส้น...เป็นไม่มี
พูดเรื่องตาลีบันยังขำ...
มันว่าไม่เอารูปเคารพ...แต่แท่งหินดำ
กลางกรุงเมกกะ...เป็นรูปหรือนาม...
และมันเคารพกันไหม ?
หากสมมุติว่า ยิว ยิงขีปนาวุธ ถล่มหินดำนั่น
มันจะรู้สึกอย่างไร...?
มูฮัมหมัด โอมาร์ ผู้นำตาลีบัน...มันยังเอาเสื้อคลุม
ที่ว่ากันว่าเป็นของศาสดามูฮัมหมัด...ตกทอดมา
มาโบกเรียกขวัญพวกเดียวกันบนรถถังรัสเซียที่ยึด
ได้เมื่อครั้งเข้าครอบครองอำนาจรัฐอาฟกัน อยู่เลย
บุปผาราตรี....
สวัสดีครับ....
ท่าทางจะขวัญอ่อนนะ....ตกใจง่าย
โน่นก็ตกใจ...นี่ก็ตกใจ
เพลงก็ตกใจ...กลอนก็ตกใจ...รูปก็ตกใจด้วยสิ
เฮ้อ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:20:08 น.
สวัสดีครับ คุณสดายุ
ผมเองสนใจในเรื่องมหาภารตะ อยู่บ้าง
วันนี้ลองsearch google เจอบล็อกนี้เข้า
เปิดมาหน้านี้แล้วได้ยินเพลงนี้
บอกตรงๆครับ ชอบมาก
คืนก่อนเพิ่งอ่าน มหาภารตะในตอนที่กฤษณะร่ายภควัทคีตา วันนี้มาฟังเพลงนี้ ดีจริงๆครับ
จะเป็นไปได้มั้ยครับที่ผมจะขอเพลงนี้จากคุณสดายุ
ถ้าหากว่าได้และไม่เป็นการรบกวนเกินไปจะมีเพลงอื่นๆมาให้ด้วยก็ได้นะครับ
ที่E-mail thammathep@hotmail.com
ผมจะตามอ่านบทต่อๆไปของมหาภารตะจากบล็อกนี้นะครับ
ชอบมากครับ
ขอบคุณครับ
เทวา
โดย: ธรรมเทพ IP: 125.24.230.227 วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:21:17:49 น.
โอ๊ะ กลับมาหน้า..มหาภารตะยุทธ..แล้ว ดีค่ะดี ..ยิ้ม..
ส่วนที่นินทาไว้หน้าโน้น ยังไงเนี่ย ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
ให้เข้าไปดู ปรากฏว่า เปิดเข้าถนนฯ แล้วตาลาย เลือก
ไม่ถูกว่าจะเข้ากระทู้ไหน เห็นแต่ชื่ออาราม เลยเปิดแต่
หน้านั้น แล้วก็อ่านแต่ความเห็นที่ลงนาม..ราม ลิขิต..
ทำให้ไม่รู้ว่าพี่นินทาใคร ..อมยิ้ม..
จะว่าไปแล้วนะ ยังแปลกใจที่พี่เข้าไปอ่านตามถนนฯ
อยู่เลย ช่วงหลังไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดเข้าไป อีกอย่าง
ปกติอัลคุยกับเพื่อน ๆ แถวบล็อกแก๊งค์เสร็จ ก็หมด
เวลาเล่นแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เข้าไปอ่าน น่าจะเป็นช่วง
เดือนมีนาคม - เมษายน
วันนี้อัลหยุดพัก เอาเวลามาโม้แถวนี้ ประมาณว่า เพิ่ม
คอมเม้นต์ให้หน้ายาวขึ้นอีกหน่อย 555+
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:10:38:43 น.
คุณเทวา....
หวังว่าคงได้ฟังเพลงจากโค๊ดที่ส่งไปให้แล้ว
อัล.....
โทษทีที่ตอบช้า....
ต่อไปจะแช่หน้านี้...จนกว่าจะรบกัน
เรื่องที่เคยพูดไว้....พี่คิดว่าน้องรู้ว่าพี่หมายถึงใคร
แต่ช่างเหอะมันไม่น่าสนใจอะไร....
ใช่...ช่วงหลังไม่มีอะไรน่าสนใจ...
หามวยแม่เหล็กยากเหลือเกิน...ใน 100 คนมี
ไม่ถึงครึ่งคน ในสายตาพี่...ไม่มีแววเอาเสียเลย
ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร...มือดีรุ่นเก่าก็
หายหน้าไปหมด....ขาดสีสันไปเยอะในถนนนักเขียน
ทำให้งานกร่อย....
นานๆเห็นคุณรามเอางานมาลงสักครั้ง....
ท่าทางจะขาดแรงบันดาลใจ....
โดย:
สดายุ...
วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:22:27:04 น.
สวัสดีค่ะ พี่กาย
นกตามไปอ่านหน้านารีปราโมช
ถึงได้ทราบว่า พี่กลับไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว
ส่วนนกเอง คงปักหลักอยู่ระยองค่ะ
เพราะตระเตรียมจะปลูกบ้านในที่ที่ซื้อไว้
ลำพังตัวเอง มีเงินเพียงนิดเดียวค่ะ
ดีที่พ่อช่วย เลยพอจะปลูกบ้านหลังเล็กๆ ได้
แล้วก็มีน้องสาวมาอยู่ด้วย พอไม่ให้เหงา
ประมาณมีเพื่อนคุย มีเพื่อนคอยถกเถียงมั้งคะ
พี่กายสบายดีนะคะ คิดถึงค่ะ
โดย: ดวงใจพ่อ (
Nok_Noah
) วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:7:45:18 น.
สวัสดีครับท่านสดายุ...
ท่านจำกัดสิทธิ์การชมหมวด "การยุทธ์ใต้เงาจันทร์" เสียแล้วหรือครับ
โดย: ศารทูล IP: 118.172.154.125 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:20:57:48 น.
นก....
พี่สบายดี
ใช่...พี่ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพแล้ว....
เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับพี่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
โยกย้าย....
ชักเบื่อชีวิตลูกจ้าง...อิๆๆ
ศารทูล....
ที่จริงเปิดไว้นานแล้วยังไม่ได้เขียนต่อ
แต่ตอนนี้เอากลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว....
เข้าไปอ่านได้....แล้ว
โดย:
สดายุ...
วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:21:10:54 น.
หน้านี้อย่างยาว... นึกว่าจะโหลดไม่ขึ้นซะแล้ว
พี่กลับเข้ากรุงอย่างงี้ ก็สบายสิคะ... ลดเวลาการ
เดินทางเอาไปทำอะไรอย่างอื่นได้เยอะ อย่าง
ออกกำลังกายเพิ่ม เที่ยววัด ดูแลครอบครัว ฯลฯ
(ดีแล้วที่เปลี่ยนหน้าบล็อก อัลเก็บเศษหน้าแตก
แทบไม่ทัน ดันทักไปอย่างงั้น เฮ้อ... อายตัวเอง
นะเนี่ย ..เหงื่อตก.. ขนาดหนังสืออย่างว่า อัลยัง
ไม่เคยอ่านเลย...)
โดย:
ปลิวตามลม
วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:22:36:37 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สวัสดีค่ะ พี่กาย
พูมาเรียนรู้ลักษณะบังคับและการเขียน กมลฉันท์ ๑๒
บทประพันธ์แต่ละประเภท..มีหลากหลายจัง
เฉพาะฉันท์...มีหลายแบบนะคะ จำได้ไม่หมด
แค่ฉันท์แบบเดียวก็ยังเขียนไม่ได้เลยค่ะ