Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

ประชาธิปไตยแบบ"หน้าด้าน" ต้นเหตุบ้านเมืองวุ่นวาย

โดย นงนุช สิงหเดชะ




     เช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2551 คล้อยหลังจากพิธีรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เพียง 1 วัน ก็เกิดเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง เพราะอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นความรุนแรงมากที่สุดอันเกิดจากการฝ่ายเจ้าหน้าที่ ตำรวจในการสลายม็อบนับจากกลุ่มพันธมิตรชุมนุมมากว่า 100 วัน เนื่องจากมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บถึงขั้นขาขาดอย่างน้อยก็ 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน

     การใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่ ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา อาจถือว่าเป็นหลักสากลและเป็นสิทธิที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสามารถใช้ได้ แต่ปัญหาคือวิถีการยิงของตำรวจ เห็นได้ชัดว่าเป็นการยิงตรงไปลำตัวของกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ใช่การยิงในวิถีโค้งหรือให้พ้นจากตำแหน่งลำตัวของผู้ชุมนุม จึงอาจประเมินได้ว่าตำรวจมีจุดประสงค์ให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บนอกเหนือจาก การเพียงทำให้แสบเคืองตา

     นอกจากนี้จากการเปิดเผยของผู้ชุมนุมระบุว่า นอกจากแก๊สน้ำตาแล้ว ตำรวจยังได้ยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมด้วย ซึ่งก็ก่อให้เกิดคำถามว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะสถานการณ์ของผู้ชุมนุมในขณะนั้นไม่ได้อยู่ในสภาพมีอาวุธหรือก่อเหตุ รุนแรง หรือทำผิดกฎหมาย เนื่องจากการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบและไม่ได้มีการบุกรุกเข้าในบริเวณของอาคาร รัฐสภา

     บ้านเมืองเราอยู่ในความไม่สงบมานานนับจากการเลือกตั้งเมื่อ ธันวาคม 2550 ถามว่ามีสาเหตุมาจากฝ่ายพันธมิตร เป็นผู้ก่อเหตุฝ่ายเดียวหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ เพราะถึงอย่างไรตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง ขณะที่รัฐบาลก็เป็นฝ่ายจุดชนวนก่อให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับจากการเลือกนายสมัคร สุนทรเวช ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด ด้วยหวังว่าจะให้นายสมัครผู้มีฝีปากกล้า ด่าเก่ง เชี่ยวการเมือง ช่วยเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งผลก็ออกมาอย่างที่เห็นคือเหมือนขว้างบูมเมอแรงที่มันย้อนกลับมาซัดแสก หน้าตัวเอง

     นอกจากนี้องค์ประกอบปัจจัยอื่นๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ล้วนดำเนินไปในลักษณะท้าทาย จงใจคัดเลือกแต่บุคคลที่สังคมไม่ศรัทธา มาดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรีและสภา จุดมุ่งหมายคือต้องการท้าทายกระบวนการทางตุลาการและองค์กรอิสระทั้งหมด เช่น การเลือกนายชัย ชิดชอบ ซึ่งมีคดีที่ดินรถไฟบุรีรัมย์ติดตัวอยู่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร การแต่งตั้งนายไชยา สะสมทรัพย์ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่ง กลับมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์

     สรุปแล้ว พรรคพลังประชาชนนั่นเองที่ทำให้ประชาธิปไตยของไทยมีมลทินมาตั้งแต่ต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนออกมาแสดงความไม่พอใจ ไม่นับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเลือกปฏิบัติในหลายคดี เช่น กรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีการออกหมายจับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ทั้งที่คำพูดของนายสมเกียรติถือว่าเบาและไม่มีเจตนาเมื่อเทียบกับคำพูดและ เจตนาของนายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งรายของนายจักรภพนั้นตำรวจทำงานช้ามากทั้งที่หลักฐานทุกอย่างชัดเจน นี่เป็นสาเหตุหลักอันหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายพันธมิตรปักหลักชุมนุมอย่างเหนียว แน่น

หรือกรณีของกลุ่มคนรักอุดรทำร้ายร่างกายของฝ่ายพันธมิตรถึงขั้น สาหัส ก็มีความล่าช้าในการดำเนินการเมื่อเทียบกับกรณีกลุ่มพันธมิตรบุกเข้ายึด สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที (ที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายใคร)

     แกนนำ นปก. 8 คน (ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการได้รับประกันตัว) ที่บุกรุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และทำลายทรัพย์สินราชการ เมื่อ 22 กรกฎาคม 2550 ยังคงได้ดิบได้ดี คนหนึ่งได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร ส่วนหนึ่งออกรายการทีวีทางเอ็นบีทีถล่มฝ่ายพันธมิตรจนถึงทุกวันนี้ เรียกร้องให้มีการจับกุม 9 แกนนำกลุ่มพันธมิตรที่ถูกออกหมายจับในข้อหาร้ายแรงมากคือการเป็นกบฏ ซึ่งมีโทษร้ายแรงถึงขึ้นประหารชีวิต ซึ่งเป็นข้อหาที่เกินกว่าเหตุ

แต่อดีตแกนนำ นปก. 8 คน เหล่านี้คงลืมไปว่าตอนที่พวกเขาถูกตำรวจจับกุมนั้น พวกเขาโวยวายว่าเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย และพวกเขาก็ใช้ยุทธวิธีเดียวกับพันธมิตรคือใช้ม็อบเป็นโล่เพื่อไม่ให้ตำรวจ มาจับกุมตัวในตอนแรกเหมือนกัน

คนในพรรคพลังประชาชนชอบออกมาพูดเสมอว่า พันธมิตรไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองเพราะยึดทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับเรียกร้องให้แกนนำ 9 คน มอบตัว แต่พวกเขากลับละเว้นพูดถึงเจ้านายเก่าคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกศาลออกหมายจับถึง 5 ครั้งแล้วแต่ยังไม่มามอบตัว และพวกเขาก็ปกป้องเจ้านายเขาโดยอ้างว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม

     พวก "เสื้อแดง" ได้รับการส่งเสริมจากอำนาจรัฐในท้องถิ่น ให้ทำร้ายร่างกายฝ่าย "เสื้อเหลือง" จนทำให้ในขณะนี้คนต่างจังหวัดในอีสานบางแห่งไม่กล้าใส่เสื้อเหลืองเพราะกลัว ถูกพวกเสื้อแดงทำร้ายร่างกาย แม้ว่าเสื้อเหลืองนั้นบางครั้งจะไม่เกี่ยวกับพันธมิตร แต่ต้องการใส่เพื่อแสดงความจงรักภักดีในหลวง ในขณะที่ไม่เคยปรากฏข่าวว่าพวกเสื้อเหลืองเป็นฝ่ายไล่ทำร้ายพวกเสื้อแดงก่อน

แม้แต่โลโก้ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ก็ยังถูกคนในพรรคพลังประชาชนเปลี่ยนให้เป็น "สีแดง" เป็นการประกาศว่าสถานีแห่งนี้ต้องเป็นพวกของพรรคพลังประชาชน

     เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551 พรรคพลังประชาชน มีมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ศาลฎีกาเป็นผู้เสนอ และยังมีมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาความของศาลรัฐธรรมนูญที่ศาลรัฐ ธรรมนูญเป็นผู้เสนอ

ซึ่งเป็นการสะท้อนชัดว่าพรรคประชาชนแสดงตนเป็น ปฏิปักษ์กับศาลยุติธรรมอย่างเห็นได้ชัด แล้วอย่างนี้ใครกันแน่ที่ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม สะท้อนให้เห็นว่าประชาธิปไตยแบบพวกมากลากไป อยากทำอะไรก็ได้นั้นน่ากลัวขนาดไหน แบบนี้บ้านเมืองจะน่าอยู่ได้อย่างไร

     สรุปได้ง่ายนิดเดียวว่าบ้านเมืองที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้เพราะเรามักอ้าง ประชาธิปไตยกันแบบหน้าด้าน คืออ้างแต่ว่าได้รับเลือกเข้ามาด้วยเสียงข้างมาก แต่พฤติกรรมไส้ในสวนทางหลักและจิตวิญญาณของประชาธิปไตย


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนรายวัน 9 ตุลาคม 2551 หน้า 6

H O M E




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2551
1 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 14:41:28 น.
Counter : 672 Pageviews.

 

ไม่ได้บอกให้แยกประเทศนะครับอย่าเข้าใจผิด แต่แยกเขตกันบริหารดีกว่า แต่ละเขตจะได้ใช่นโยบายให้เหมาะกับคนกับวัฒนธรรม ภาษีเขตไหนหามาได้เท่าไหรก็จะได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละเขต ภาษีเข้าส่วนกลางแค่บางส่วน ใครจะประชานิยมก็เอาเงินตัวเองไปประชานิยมไม่ใช่เอาภาษีเขตอื่นเขาไปถลุง ใครจะอนุรักษ์นิยมก็ไปอีกทาง จะได้ไม่ต้องโทษว่าใครถ่วงความเจริญกัน จะได้เลือกทางเดินที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

หลายๆครั้งหลายคนที่ผมเจอเขาไม่ได้โง่ครับเขาบอกว่าเลือกเพราะแบ่งผลประโยชน์ให้ แล้วเขาก็ยอมรับและรู้ว่าโกง แต่เขามองว่าถ้าเลือกคนพวกนี้เข้ามาก็จะเอาเงินส่วนกลางมาทุ่มในพื้นที่เขา ส่วนที่อื่นช่างหัวมันสิ อย่าว่าเขาโง่ครับ ควรเรียกว่าเห็นแก่ตัว

 

โดย: ติ๊ก IP: 61.90.174.226 9 ตุลาคม 2551 17:57:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.