ตัวตนหนึ่งในสวนอักษร--หนอนตำราอันคร่ำครึ
|
|||
[ตำนานยางลบมหัศจรรย์] ชื่อเรื่องล้ำไหมล่ะเธอ... ย้อนไปเมื่อสัก ๓๐ ปีที่แล้ว หรือจะมากกว่านั้นก็ไม่ว่ากัน สำหรับคนที่มีประสบการณ์ร่วมดังที่จะเล่าต่อไปนี้ ในยุคที่นักเรียนตามชนบทมีวาสนาดีมาก เพราะเรามักจะได้รับแจกดินสอฟรี สมุดฟรี และเสื้อยืดกระทิงแดงให้ใช้ฟรี ดินสอไม้ที่ไส้มีคุณสมบัติทนทานต่อการเขียนกดแรงๆ และฝืดเหมือนเขียนด้วยถ่านไม้ รวมยางลบก้นดินสอก็มีคุณสมบัติแข็งขูดกระดาษอย่างวิเศษ สมุดพระราชทาน ที่หน้าปกเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัว เล่มใหญ่น่าจะเท่ากระดาษ F14 ในสมัยนี้ เวลายัดลงถุงยาม ความกว้างของหนังสือจะเต็มย่ามพอดี แต่ส่วนยาวจะเลยออกมาประมาณฝ่ามือ ส่งผลให้ขอบสมุดเยินเร็วเป็นพิเศษ แต่ก็รับได้เมื่อแลกกับข้อดีคือตัวสมุดมีพื้นที่เขียนจุใจมาก (สมัยนั้นนักเรียนนิยมใช้ถุงยามเป็นประเป๋านักเรียน และไม่ได้มีหนังสือเรียนกองท่วมหัวเหมือนสมัยนี้) แต่เรื่องที่จะชวนย้อนอดีตไม่ใช่ตำนานของของล้ำค่าสองอย่างนี้ แล้วก็ไม่ใช่เสื้อแจกยี่ห้อเครื่องดื่มชูกำลังซึ่งสวมใส่แล้วก็ไม่ได้มีแรงไล่ขวิดใคร ตำนานเครื่องเขียนที่จะชวนไปสัมผัสคือ ยางลบ ยางลบในสมัยนั้น ไม่รู้ว่าตามท้องตลาดมีขายกันกี่ชนิด กี่ยี่ห้อ แต่ที่สหกรณ์ของโรงเรียนมีขายชนิดเดียว ก้อนละ ๑ บาท แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งลบดินสอ ส่วนหนึ่งลบปากกาได้ ที่เล่ามานี้ ผู้เขียนไม่ค่อยได้ใช้หรอก แม่ไม่ให้เงินซื้อ เพราะพอซื้อมาใช้ไม่กี่วันแล้วก็หาย ครั้นยางลบที่ก้นดินสอกุด จะเพราะการใช้งานหรือทำหักหายไปก็แล้วแต่ หลังจากเอาฟันกัดให้โลหะที่ยึดยางลบบีบตัว เพื่อให้เนื้อยางลบส่วนที่เหลือปูดออกมา และใช้มันจนเหี้ยนไปแล้ว เราก็จะมีวิธีแก้ปัญหาการลบด้วยกัน ๓ วิธี เป็นวิธีที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ว่ากันอย่างนั้น... วิธีแรก ใช้นิ้วมือเรานี่แหละแตะน้ำลายหน่อยหนึ่งแล้วบรรจงถูไปบนส่วนที่ต้องลบ ตัวอักษรอันไม่น่าปรารถนาก็จะเลือนหายไปด้วยอานุภาพของน้ำลาย พร้อมกับเนื้อกระดาษบริเวณนั้นก็จะกร่อนหรือทะลุเป็นรูไปด้วย ต้องขยับไปเขียนต่อช่วงถัดไป วิธีที่สอง เอายางรัดถุงแกงรัดไว้ที่ก้นดินสอ หรือรัดไว้ที่นิ้วมือก็ตามใจ พอเขียนผิดใช้ยางนั่นแหละต่างยางลบ ก็พอประทังไปได้ วิธีสุดท้ายนี่แหละเด็ดสุด เราจะเฉือนเอาส่วนหัวของรองเท้าฟองน้ำ ซึ่งเป็นส่วนเดียวที่ยืนออกมา ไม่ได้รองรับเท้า (สมัยนั้นยี่ห้อที่ฮิตมากคือตราดาวเทียม) แล้วก็ปรับแต่งให้มีขนาดพอมือ ถึงเวลาก็ควักออกใช้ต่างยางลบ นัยว่ามีคุณสมบัติน่าอัศจรรย์กว่ายางลบสองชนิดที่เล่าไปก่อน อันที่จริงทั้งสามวิธีนี้ ไม่ได้ลบรอยดินสอได้จริงๆ แค่เกลื่อนให้รอยดินสอมันกระจายตัวออกไปเท่านั้นเอง แล้วเราก็จะได้รอยเปื้อนสีเทาบนพื้นที่บริเวณนั้นแทน เด็กบางคนออกแรงมากไม่รู้จักยั้งมือ เพราะฝึกฝนไม่ถึงขั้น กระดาษตรงนั้นก็จะป่นปี้ขาดเป็นรูไปเลย แล้วครูไม่ว่าอะไรหรือ... ครูเองก็รู้ว่านักเรียนของครูไม่มีเงินซื้อยางลบใช้ ยางลบก้อนเดียว เวียนใช้กันทั้งห้องก็มี เขียนระวังกันหน่อยนะคะ ลบทีก็เละที ครูอ่านยาก ท่านก็ได้แต่บอกเท่านั้น พอนักเรียนส่งงาน ก็ตรวจให้คะแนนไปตามปกติ เห็นเด็กสมัยนี้ใช้ข้าวของอย่างไม่เห็นคุณค่า ก็เลยเล่าเรื่องนี้ไว้เตือนใจ |
รวี_ตาวัน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |